เห่อ La Mer The Concentrate + รีวิวน้อง ๆ คนอื่นกรุบกริบ ๆ~
itosky 30 8
มาเห่อออออ สุดยอดของรางวัลแห่งปีค่า (ยังไม่ถึงครึ่งปีก็ยกตำแหน่งให้ไปเลยเหรอ ><) นั่นคือคุณน้อง La Mer The Concentrate คนดีคนนี้นี่เอง ต้องขอบคุณ Jeban และ La Mer มาก ๆ เลยนะคะที่ใจดีและยังส่งของรางวัลมารวดเร็วปานสายฟ้าแล่บ ตอนแรกยังนึกกังวลว่าจะไม่มีคนรับของให้เพราะต้องมาต่างจังหวัดสองสัปดาห์เลย แต่สุดท้ายก็ได้พกน้องมาด้วย เย้ ๆๆๆ แต่ก็ยังไม่ถึงเวลาจะได้เปิดใช้ ฮือ ๆๆๆ เพราะขวดเก่ายังไม่หมดสักที (มันมีความดีใจในความเสียดายปะปนกันไป ><) เรียกว่าพาน้องคนใหม่มารับลมชมวิวสวย ๆ อย่างเดียว 55
ตอนได้รับกล่องพัสดุดีใจมากเลยค่า ทุกอย่างคือพักมาเปิดกล่องก่อน 55 ทาง Jeban ห่อมาอย่างดี (ที่จริงบับเบิ้ลหนามากนะคะ แต่ในรูปไม่เห็นเพราะแกะออกแล้ว ><) กระดาษกันกระแทกก็สีเดียวกันกับฟอนท์บนขวดของ La Mer The Concentrate เลย คิดว่าจีบันต้องตั้งใจแน่ ๆ ประทับใจสุด แค่สีเข้ากันก็มีความสุขแล้วเหรอ >< เลยอดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายรูปเป็นที่ระทึกกก
ไหน ๆ ก็ได้จังหวะเหมาะเจาะ มาต่างจังหวัดรอบนี้จึงตั้งใจพกสกินแคร์ของลาแมร์มาใช้แบบเน้น ๆ เลยขอรีวิวสั้น ๆ ไว้ด้วยเลยนะคะ เผื่อใครสนใจตัวไหนจะได้เป็นแนวทางได้ค่า
La Mer The Treatment Lotion
น้องคนนี้เป็นน้ำตบที่ดีมากกกก คล้าย ๆ จะเป็นทั้งโทนเนอร์และน้ำตบไปจนถึงเซรั่มแบบบางเบาได้เลยนะคะสำหรับเรา เนื้อจะหนืด ๆ หน่อย แต่ทาปุ๊บซึมปั๊บ คือถ้าถึงจุดขี้เกียจขั้นสุดยอดแล้วก็จะใช้ตัวนี้นี่แหละลงอย่างเดียวไปเลยในตอนกลางวัน (ส่วนกลางคืนที่ความขี้เกียจระดับเดียวกันนี้ก็ The Concentrate โลดดด) ถ้าใครอยากเริ่มต้นลองใช้ลาแมร์แต่ยังไม่อยากลงทุนเยอะกับตัวมอยส์เจอไรเซอร์ เราแนะนำให้ลองตัวนี้ค่ะ เพราะราคาไม่สูงมาก และยังได้ฟีลสกินแคร์ของลาแมร์ทั้งกลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์และผลลัพธ์ที่ช่วยให้หน้าชุ่มชื้นแบบกำลังดี เราคิดว่าเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวเลย จะผิวแห้งผิวมันผิวผสมแบบไหนใช้ได้หมด เพราะน้องคนนี้ช่วยปรับสมดุลได้ดี ใครหน้ามันก็จะไม่มัน ใครหน้าแห้งก็จะไม่แห้ง งงมะ 55 ยิ่งใช้ก่อนแต่งหน้าจะดีมาก ลดขั้นตอนสกินแคร์ได้เลย ต้องลอง!
La Mer The Eye Concentrate
ใคร ๆ ก็ร่ำลือถึงน้องคนนี้ว่าช่วยเรื่องตาดำได้ขั้นเทพ แล้วแพนด้าอย่างเราจะพลาดได้ไง >< พอได้ลองใช้ก็ .. รู้สึกเย็นดี! เพราะว่าคุณน้องคนนี้มาพร้อมกับ applicator ตรงปลายเป็นโลหะเงินสำหรับนวดตา เราก็ได้ลองใช้ทั้งนวดและกดจุดตามวิธีที่แบรนด์แนะนำรู้สึกว่าสบายตามาก หอม ๆ เย็น ๆ เหมือนพาตาไปสปา 55 ส่วนผลลัพธ์เรารู้สึกว่าช่วยเรื่องแพนด้าได้ดีพอสมควรเลย แต่ต้องใช้ระยะเวลานานหน่อย เราลองใช้ประมาณเดือนนึงถึงจะเริ่มเห็นผล ผลที่ว่าก็คือสังเกตจากเวลาแต่งหน้าแล้วไม่โบกคอนซีลเลอร์ใต้ตาเลย ปกติต้องใช้คอนซีลเลอร์ของนาร์สถึงจะเอาอยู่ แต่นี่ใช้แค่คุชชั่นแบบเนื้อบาง ๆ ทั้งหน้ารวมถึงใต้ตา + แป้งฝุ่น ก็พอไหว ออกจากบ้านได้แบบเหมือนแค่สองวันที่ผ่านมานอนน้อยไปหน่อย ไม่ใช่แบบคนเป็นภูมิแพ้มาแต่กำเนิดดด แต่ทั้งนี้ก็ต้องพยายามนอนด้วยเด้อ ถ้าไม่นอนอายครีมอะไรก็ช่วยไม่ได้ เสียตังค์ฟรีนะจ๊ะ บอกตัวเอง ฮือ ๆ
La Mer The Moisturizing Matte Lotion
ปกติเราจะชอบใช้มอยส์เจอไรเซอร์ตัวซอฟท์ครีม เพราะเนื้อนุ่มดี และติดมาจากตอนอยู่เมืองหนาวที่ตัวนี้เอาอยู่ แต่พอกลับมาอยู่ไทยแล้วมันเหนอะหนะไปนิด เลยลองเปลี่ยนมาใช้แบบเนื้อแมตต์ โอ๊ย ดีมากกกก ชอบบบบ ชอบจนไม่ค่อยกล้าใช้เลย กลัวหมด รู้สึกว่าต้องใช้เปลืองกว่าแบบครีมและซอฟท์ครีมด้วย >< น้องคนนี้ช่วยคุมมันได้ดีโดยที่หน้าก็ไม่แห้ง ตื่นมาแล้วหน้าไม่มัน ผมไม่ติดหน้ามาเปื้อนครีมเปื้อนคราบน้ำลายให้เหม็นในตอนเช้า 55 ใช้ได้ทั้งกลางวันกลางคืนเลย ใครชอบเอาหน้าถูหมอน ไม่ชอบฟีลหน้าเหนอะ หรือวันที่ลงสกินแคร์มาแล้วแปดขั้นตอน หน้ารับความชุ่มชื้นกว่านี้ไม่ไหวแล้วววว แนะนำให้ลองน้องคนนี้ซีลปิดท้าย หน้าไม่เมือก หลับสบายยย เลิฟฟฟ
La Mer The Renewal Oil
สารภาพว่ายังไม่เคยใช้น้องคนนี้อย่างต่อเนื่องเลย เพราะยังไม่ได้ครอบครองไซส์จริง ก็กลัวหมดอีกตามเคย เลยเขียม ๆ ใช้เวลาที่มโนว่า เออ เหมือนหน้ายังชุ่มชื้นไม่พอ ยังเติมได้อีก 55 ชอบกลิ่นหอมของน้องด้วย บางทีก็เอาไปผสมหรือทับเจ้าตัวแมตต์ข้างบน วุ้ยยย วุ่นวายเนอะ ทำไมไม่ใช้ซอฟท์ครีมไปเลยยยย แต่บางทีเราก็ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว และบางทีมันก็สนุกดีที่ได้ลองใช้เนื้อสัมผัสแบบต่าง ๆ ในเวลาและวาระที่ต่างกันออกไป การใช้สกินแคร์ต้องสนุกและมีความสุขไปกับมันนะคะ เพราะว่าไม่งั้นจะขี้เกียจทา 55 อ้อ คุณน้องคนนี้เค้าเอาไปทาผมทาเล็บทาอะไรก็ได้นะคะ แต่ว่าด้วยค่าตัวคุณน้อง พี่ก็ขอใช้กับหน้าเท่านั้นค่า
La Mer The Concentrate
คุณน้องคนนี้คือดีงามพระรามเก้าสิบแปดดังที่รีวิวไปแล้วค่า ตอนนี้ได้แบบโฉมใหม่มารู้สึกว่ายังไม่ค่อยชินกับฝาหมุนใหม่เท่าไหร่ เพราะถ้าเป็นขวดเก่าจะหยิบขวดโดยจับตรงหัวจุกสีเขียวขึ้นมาเลย ออกแนวถึก ๆ หน่อย แต่โฉมใหม่นี่เป็นฝาเกลียวพริ้วสลวยสวยงามดูบอบบางน่าทะนุถนอมขึ้นเยอะ ต้องจับตรงฝาหมุนสีเงิน หยิบครั้งแรกเผลอจับตรงเกลียว เกือบทำหล่น หัวใจจะวาย 55
ก็หวังว่ารีวิวสั้น ๆ นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนบ้างนะคะ อาจไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรมาก รีวิวจากความรู้สึกที่ใช้จริงของคนบ้าสกินแคร์ค่า (แต่ช่วงนี้เริ่มถ่ายเทความบ้าไปยังน้ำหอมแทนแล้ว ฮือ ๆๆๆ ><)
ตอนได้รับกล่องพัสดุดีใจมากเลยค่า ทุกอย่างคือพักมาเปิดกล่องก่อน 55 ทาง Jeban ห่อมาอย่างดี (ที่จริงบับเบิ้ลหนามากนะคะ แต่ในรูปไม่เห็นเพราะแกะออกแล้ว ><) กระดาษกันกระแทกก็สีเดียวกันกับฟอนท์บนขวดของ La Mer The Concentrate เลย คิดว่าจีบันต้องตั้งใจแน่ ๆ ประทับใจสุด แค่สีเข้ากันก็มีความสุขแล้วเหรอ >< เลยอดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายรูปเป็นที่ระทึกกก
ไหน ๆ ก็ได้จังหวะเหมาะเจาะ มาต่างจังหวัดรอบนี้จึงตั้งใจพกสกินแคร์ของลาแมร์มาใช้แบบเน้น ๆ เลยขอรีวิวสั้น ๆ ไว้ด้วยเลยนะคะ เผื่อใครสนใจตัวไหนจะได้เป็นแนวทางได้ค่า
La Mer The Treatment Lotion
น้องคนนี้เป็นน้ำตบที่ดีมากกกก คล้าย ๆ จะเป็นทั้งโทนเนอร์และน้ำตบไปจนถึงเซรั่มแบบบางเบาได้เลยนะคะสำหรับเรา เนื้อจะหนืด ๆ หน่อย แต่ทาปุ๊บซึมปั๊บ คือถ้าถึงจุดขี้เกียจขั้นสุดยอดแล้วก็จะใช้ตัวนี้นี่แหละลงอย่างเดียวไปเลยในตอนกลางวัน (ส่วนกลางคืนที่ความขี้เกียจระดับเดียวกันนี้ก็ The Concentrate โลดดด) ถ้าใครอยากเริ่มต้นลองใช้ลาแมร์แต่ยังไม่อยากลงทุนเยอะกับตัวมอยส์เจอไรเซอร์ เราแนะนำให้ลองตัวนี้ค่ะ เพราะราคาไม่สูงมาก และยังได้ฟีลสกินแคร์ของลาแมร์ทั้งกลิ่นที่หอมเป็นเอกลักษณ์และผลลัพธ์ที่ช่วยให้หน้าชุ่มชื้นแบบกำลังดี เราคิดว่าเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวเลย จะผิวแห้งผิวมันผิวผสมแบบไหนใช้ได้หมด เพราะน้องคนนี้ช่วยปรับสมดุลได้ดี ใครหน้ามันก็จะไม่มัน ใครหน้าแห้งก็จะไม่แห้ง งงมะ 55 ยิ่งใช้ก่อนแต่งหน้าจะดีมาก ลดขั้นตอนสกินแคร์ได้เลย ต้องลอง!
La Mer The Eye Concentrate
ใคร ๆ ก็ร่ำลือถึงน้องคนนี้ว่าช่วยเรื่องตาดำได้ขั้นเทพ แล้วแพนด้าอย่างเราจะพลาดได้ไง >< พอได้ลองใช้ก็ .. รู้สึกเย็นดี! เพราะว่าคุณน้องคนนี้มาพร้อมกับ applicator ตรงปลายเป็นโลหะเงินสำหรับนวดตา เราก็ได้ลองใช้ทั้งนวดและกดจุดตามวิธีที่แบรนด์แนะนำรู้สึกว่าสบายตามาก หอม ๆ เย็น ๆ เหมือนพาตาไปสปา 55 ส่วนผลลัพธ์เรารู้สึกว่าช่วยเรื่องแพนด้าได้ดีพอสมควรเลย แต่ต้องใช้ระยะเวลานานหน่อย เราลองใช้ประมาณเดือนนึงถึงจะเริ่มเห็นผล ผลที่ว่าก็คือสังเกตจากเวลาแต่งหน้าแล้วไม่โบกคอนซีลเลอร์ใต้ตาเลย ปกติต้องใช้คอนซีลเลอร์ของนาร์สถึงจะเอาอยู่ แต่นี่ใช้แค่คุชชั่นแบบเนื้อบาง ๆ ทั้งหน้ารวมถึงใต้ตา + แป้งฝุ่น ก็พอไหว ออกจากบ้านได้แบบเหมือนแค่สองวันที่ผ่านมานอนน้อยไปหน่อย ไม่ใช่แบบคนเป็นภูมิแพ้มาแต่กำเนิดดด แต่ทั้งนี้ก็ต้องพยายามนอนด้วยเด้อ ถ้าไม่นอนอายครีมอะไรก็ช่วยไม่ได้ เสียตังค์ฟรีนะจ๊ะ บอกตัวเอง ฮือ ๆ
La Mer The Moisturizing Matte Lotion
ปกติเราจะชอบใช้มอยส์เจอไรเซอร์ตัวซอฟท์ครีม เพราะเนื้อนุ่มดี และติดมาจากตอนอยู่เมืองหนาวที่ตัวนี้เอาอยู่ แต่พอกลับมาอยู่ไทยแล้วมันเหนอะหนะไปนิด เลยลองเปลี่ยนมาใช้แบบเนื้อแมตต์ โอ๊ย ดีมากกกก ชอบบบบ ชอบจนไม่ค่อยกล้าใช้เลย กลัวหมด รู้สึกว่าต้องใช้เปลืองกว่าแบบครีมและซอฟท์ครีมด้วย >< น้องคนนี้ช่วยคุมมันได้ดีโดยที่หน้าก็ไม่แห้ง ตื่นมาแล้วหน้าไม่มัน ผมไม่ติดหน้ามาเปื้อนครีมเปื้อนคราบน้ำลายให้เหม็นในตอนเช้า 55 ใช้ได้ทั้งกลางวันกลางคืนเลย ใครชอบเอาหน้าถูหมอน ไม่ชอบฟีลหน้าเหนอะ หรือวันที่ลงสกินแคร์มาแล้วแปดขั้นตอน หน้ารับความชุ่มชื้นกว่านี้ไม่ไหวแล้วววว แนะนำให้ลองน้องคนนี้ซีลปิดท้าย หน้าไม่เมือก หลับสบายยย เลิฟฟฟ
La Mer The Renewal Oil
สารภาพว่ายังไม่เคยใช้น้องคนนี้อย่างต่อเนื่องเลย เพราะยังไม่ได้ครอบครองไซส์จริง ก็กลัวหมดอีกตามเคย เลยเขียม ๆ ใช้เวลาที่มโนว่า เออ เหมือนหน้ายังชุ่มชื้นไม่พอ ยังเติมได้อีก 55 ชอบกลิ่นหอมของน้องด้วย บางทีก็เอาไปผสมหรือทับเจ้าตัวแมตต์ข้างบน วุ้ยยย วุ่นวายเนอะ ทำไมไม่ใช้ซอฟท์ครีมไปเลยยยย แต่บางทีเราก็ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว และบางทีมันก็สนุกดีที่ได้ลองใช้เนื้อสัมผัสแบบต่าง ๆ ในเวลาและวาระที่ต่างกันออกไป การใช้สกินแคร์ต้องสนุกและมีความสุขไปกับมันนะคะ เพราะว่าไม่งั้นจะขี้เกียจทา 55 อ้อ คุณน้องคนนี้เค้าเอาไปทาผมทาเล็บทาอะไรก็ได้นะคะ แต่ว่าด้วยค่าตัวคุณน้อง พี่ก็ขอใช้กับหน้าเท่านั้นค่า
La Mer The Concentrate
คุณน้องคนนี้คือดีงามพระรามเก้าสิบแปดดังที่รีวิวไปแล้วค่า ตอนนี้ได้แบบโฉมใหม่มารู้สึกว่ายังไม่ค่อยชินกับฝาหมุนใหม่เท่าไหร่ เพราะถ้าเป็นขวดเก่าจะหยิบขวดโดยจับตรงหัวจุกสีเขียวขึ้นมาเลย ออกแนวถึก ๆ หน่อย แต่โฉมใหม่นี่เป็นฝาเกลียวพริ้วสลวยสวยงามดูบอบบางน่าทะนุถนอมขึ้นเยอะ ต้องจับตรงฝาหมุนสีเงิน หยิบครั้งแรกเผลอจับตรงเกลียว เกือบทำหล่น หัวใจจะวาย 55
ก็หวังว่ารีวิวสั้น ๆ นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนบ้างนะคะ อาจไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรมาก รีวิวจากความรู้สึกที่ใช้จริงของคนบ้าสกินแคร์ค่า (แต่ช่วงนี้เริ่มถ่ายเทความบ้าไปยังน้ำหอมแทนแล้ว ฮือ ๆๆๆ ><)