How to แต่งหน้า

SUMMER LOOK

  Inspired by K'Due  

Smindstyle

(มีวิดีโอด้านล่างสุดน้า)

สวัสดีค่ะทุกคน ลุคแต่งหน้าวันนี้ มายได้รับแรงบัลดาลใจจากการแต่งหน้าของคุณดิว อริสรา เป็นลุคที่เข้ากับซัมเมอร์นี้สุดๆ บอกเลยว่าแต่งไปไหนก็เกิดแน่นอน เป็นการแต่งหน้าโทนส้มๆ สดใส ผิวดี และที่สำคัญมาพร้อมการเขียนคิ้วปัง ตั้งพุ่งมากเว่อ ครั้งนี้มีทั้งภาพวิธีการแต่งอย่างละเอียด และวิดีโอด้านล่างสุดเลยน้า

   BASE MAKEUP  

 Step 1:  ใช้ espoir face prime makeup booster ลงทั่วหน้า สำหรับตัวนี้ใช้มือลงคือโอสุดค่า

ตัวนี้คือ makeup base เนื้อครีมมูสๆเบาๆ เกลี่ยง่าย ที่ช่วยปรับให้ผิวสว่างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ (ไม่ดูเทาแน่นอน) และเพิ่มความฉ่ำวาวให้กับผิว แต่ไม่ทำให้หน้ามันกว่าเดิม ตัวนี้คนที่ผิวมัน แต่อยากได้ลุคที่ดูดิวอี้หน่อย น่าจะชอบค่ะ

  Step 2:   ลงรองพื้น Giorgio Armani luminous silk foundation No.3 พอประมาณ และใช้ฟองน้ำ beauty blender ช่วยในการเกลี่ยรองพื้น (การใช้ฟองน้ำจะช่วยให้ finish ผิวดูเป็นผิวมากขึ้น และช่วยประหยัดเวลาไปด้วย)

รองพื้นตัวนี้เป็นรองพื้นตัวดังและฮิตตลอดการ ให้งานผิวที่ดูเป็นผิวอยู่ ดูสวยสุขภาพดี รองพื้นเนื้อครีม ที่ไม่ข้นเกินไป เกลี่ยง่ายมากๆ ปกปิดปานกลาง รอยสิวที่ชัดๆและใต้ตาคล้ำไม่สามารถปกปิดได้ ส่วนเรื่องความติดทนมายคิดว่าขึ้นอยู่กับผิวหน้าของคน โดยส่วนตัวเป็นคนผิวแห้ง รองพื้นค่อนข้างจะติดทนอยู่ทั้งวัน อาจมีหลุดบ้างเล็กน้อย โดยที่ไม่ได้เติมแป้งระหว่างวันเลย สำหรับคนผิวมัน ควรเซตด้วยแป้งที่ควบคุมความมัน เพื่อช่วยให้รองพื้นอยู่ได้นานขึ้น

  Step 3:   ใช้ Clear Nose acne care solution concealer no.101 ปกปิดเป็นบริเวณกว้างกว่าสิวและรอยสิว และใช้ฟองน้ำ beauty blender เบลนบริเวณขอบๆเพื่อให้กลืนไปกับผิว โดยไม่ให้ฟองน้ำไปโดนบริเวณสิวและรอยสิว (ถ้าไม่เข้าใจ ดูในวิดีโอด้านล่างสุดได้จ้า) วิธีนี้จะทำให้ปกปิดสิวและรอยสิวได้ดีมากขึ้น

เป็นคอนซีลเลอร์สำหรับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ โดยส่วนตัวรู้สึกว่าเวลาใช้แล้วเป็นมิตรกับสิว (อนุมานเอาเอง 555) เนื้อคอนซีลเลอร์เป็นเนื้อครีมเข้มข้นมาก ใช้ปริมาณน้อยก็สามารถปกปิดทั้งสิวเป็นรอยสิวได้เป็นอย่างดี เกลี่ยง่าย เฉดสีเป็นโทนเหลือง ซึ่งเข้ากับผิวได้ดีส่วนตัวคือชอบ เพราะใช้แล้วสิวที่เป็นอยู่ไม่อักเสบเพิ่มมากขึ้นและสิวไม่ขึ้นเพิ่ม

  Step 4:   ใช้ Mayelline instant age rewind concealer สี light pale ลงบริเวณใต้ตาและจุดที่ไฮไลท์ บริเวณสันจมูก คาง และกลางหน้าผาก และใช้ฟองน้ำ beauty blender ในการเกลี่ยคอนซีลเลอร์ ช่วยให้เบลนได้ง่ายขึ้น

คอนซีลเลอร์ตัวนี้ เนื้อค่อนข้างเหลวแต่ไม่มาก มาในรูปแบบของหัวฟองน้ำ ซึ่งช่วยให้ใช้ได้ง่ายขึ้น เป็นคอนซีลเลอร์ที่ช่วยในการปกปิดใต้ตาได้ดีมาก ใต้ตามายก็ค่อนข้างจะคล้ำพอสมควร แต่คอนซีลเลอร์ตัวนี้คือเอาอยู่ เป็นดูเป็นผิว บางเบา ไม่ตกล่อง ไม่ดูหนาและโปะเลยจ้า ในคลิปนี้มายใช้ลงบริเวณจุดไฮไลท์ต่างๆ ช่วยทำให้หน้าดูมีมิติมากขึ้นด้วย โดยส่วนตัวไม่ชอบนำมาคอนซีลสิว เพราะว่ารู้สึกว่าปกปิดได้ไม่ค่อยโอ ปกปิดไม่อยู่จ้า

  Step 5:   เซตด้วยแป้งฝุ่น Three translucent setting powder เบอร์ 01 ทั่วใบหน้า โดยมายจะเซตบริเวณใต้ตาก่อน และใช้แป้งปริมาณพอสมควร หลังจากนั้นก็ใช้พัฟที่มีแป้งเหลืออยู่เซตทั่วหน้า โดยที่ไม่ต้องแตะแป้งเพิ่ม ช่วยให้ผิวหน้าดูไม่แมทและแป้งเกินไป (แต่ถ้าเป็นคนผิวมัน ถ้าใช้แป้งตัวนี้ สามารถลงเต็มทั่วหน้าได้เลยจ้า)

แป้งฝุ่นตัวดังจากแบรนด์ Three เป็นแป้งที่เนื้อละเอียด เวลาทาแล้วหน้าไม่ดูแมทแห้ง ยังคงความเงาๆดูสุขภาพดีอยู่ เป็นแป้งตัวเลิฟที่ใช้มาตลอดหลายปีมานี้ และที่ชอบมากเลยคือแพกเกจของเค้าที่มีตาคายในการซับตัวเนื้อแป้ง ไม่เลอะเทอะ ใช้ง่าย มาพร้อมกับพัฟแสนจะนุ่ม ความติดทนก็อยู่ทั้งวัน แต่มีหลุดๆบ้างบริเวณจมูกจ้า  ทั้งนี้ทั้งนั้นความติดทนและการคุมมันของแป้ง ก็ขึ้นอยู่กับผิวหน้าและสภาพแวดล้อมที่เจอด้วยน้า

  COUTOUR  BRONZER  BLUSH  

  Step 6:   ลง Benefit hoola bronzer ในบริเวณตามในภาพ คือกรอบหน้าและข้างจมูกเพื่อทำการ contour ใบหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น

Benefit hoola bronzer ถึงแม้ว่าชื่อจะเป็นบรอนเซอร์ แต่เค้าเป็นเนื้อแมท สีเหมาะสำหรับการคอนทัวร์เป็นอย่างมาก เนื้อดีเกลี่ยง่าย ไม่เป็นก้อนและไม่แป้งๆเกินไป ให้เงาที่สวยและเป็นธรรมชาติ เป็นตัวดังและขายดีของแบรนด์ เป็นตัวที่ใช้บ่อยมากและชอบพกพาไปด้วย เพราะแพกเกจที่เบาและไม่ต้องระวังแตก 

  Step 7:   ลง Too faced sun bunny dark bronzer เหนือแนวคอนทัวร์ เพื่อเพิ่มมิติให้กับใบหน้าและลุครับซัมเมอร์นี้สุดๆ

บรอนเซอร์ตัวนี้ เนื้อสัมผัสดีมาก เนื้อสีดี  ปัดง่าย เป็นบรอนเซอร์ที่มีชิมเมอร์อยู่เยอะมาก แต่พอปัดออกมาแล้วได้ผิวที่ดูสวย ดูบ่มแดดมาก ไม่ดูเยอะเลย เวลาที่มายอยากแต่งหน้าลุคบ่มแดด บรอนเซอร์ตัวนี้จะเป็นตัวที่นึกถึงและนำมาใช้เสมอ 

  Step 8:   ลงตามด้วย Too faced luminous peach บริเวณพวงแก้มและสันจมูก เพิ่มความบ่มแดด น่ารักๆ 

บรัชออน เนื้อชิมเมอร์สีทอง ปัดแล้วได้ผิวที่ดูโกลว์ สวย เป็นบรัชโทนสีส้มที่ดีมาก เนื้อสัมผัสดีเหมือนบรอนเซอร์เลย และปัดง่าย เข้ากับทุกโทนสีผิวเลยด้วยน้า

  Step 9:   ลง Becca shimmering skin perfector pressed in champagne popบริเวณจุดไฮไลท์ต่างๆตามในภาพเลย 

ช่วยเพิ่มความปังในลุคช่วงซัมเมอร์นี้ เป็นไฮไลท์ที่ดีมาก ให้ผิวที่ดูโกลว์ เนื้อสัมผัสละเอียดมากๆ ทำให้เวลาลงไปบนผิวคือกลืนไปกับได้ดีมาก คือพุ่งมาก เห็นตั้งแต่ไกลเลย

  EYEBROW  

  Step 9:   ใช้แปรงปัดคิ้ว 1-2 ครั้งเพื่อปัดฝุ่นและเซตคิ้วให้เป็นทรงตั้ง หลังจากนั้นใช้ Maybelline brow precise fiber filter สี medium brow ปัดขนคิ้วให้ตั้งขึ้นตามแนวขนคิ้วที่เซตไว้ตอนแรก เพื่อทำให้ขนคิ้วตั้งขึ้น 

ที่เซตคิ้วตัวนี้คือขาดไม่ได้เลยสำหรับการทำคิ้วตั้งฟู เป็นไอเท็มที่ช่วยทำใหการเขียนคิ้วของมายง่ายและเร็วขึ้นมาก แค่ปัดคิ้วก็ได้ทรงสวยและดูหนาขึ้นนิดนึง เพราะเค้ามีไฟเบอร์ที่ช่วยเพื่อความหนาได้นิดหน่อย และช่วยจับเส้นขนคิ้วทำให้คิ้วของเรา้รียงเส้นได้สวยมากๆๆ ความตั้งของคิ้วไม่ได้ตั้งเหมือนปัดเสร็จใหม่ๆ แต่ระหว่างวันมีความดรอปลงเรื่อยๆ แต่ยังไงก็ดูสวยอยู่น้า

  Step 10:   เขียนคิ้วด้วย Anastasia beverly hills brow powder duo สี medium brown เน้นเขียนช่วงท้องคิ้วและปลายหางคิ้ว เขียนเป็นเส้นคิ้วตวัดขึ้นเพื่อเลียบแบบ เส้นขนคิ้ว จะได้ลุคที่ปังและเป็นธรรมชาติสุด

ที่เขียนคิ้ว Anastasia ถือว่าเป็นที่สุดเรื่องคิ้ว โดยส่วนตัวคือชอบนะ แต่ราคาก็แอบแรงนืดนึง ส่วนตีวนี้ brow powder duo มายว่าคุ้มค่า ราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ใช้ได้นานมากๆ ใช้มาตั้งหลายเดือน แต่เนื้อผลิตภัฑณ์ก็ยังไม่ลดลงเลย เพราะเนื้อนุุ่มลื่น สีชัด ทำให้เขียนง่าย มีสีให้เลือกเยอะและเป็นโทนสีที่ไม่ค่อยมีคนทำ 5555 เราเป็นคนที่ชอบโทนคิ้วที่มีสีเทาอยู่นิดๆ เพื่อให้ดูฝอเบาๆ ถ้าใครชอบโทนเดียวกัน แบรนด์นี้ถือว่าโอน้า

  EYES  

  Step 11:   ใช้พาเลท Pixi its judy time eye palette ในแต่งตาลุคนี้ ซึ่งมีขั้นตอนและภาพประกอบตามภาพด้านล่างนี้เลยจ้า

พาเลทนี้มีทั้งครบทุกเนื้อเลยทั้งแมท ซาติน และชิมเมอร์ เป็นพาเลทที่เนื้ออาแชโดว์ที่ดีมีคุณภาพ พิกเม้นสีดี เกลี่ยง่าย ราคาไม่แพง เป็นสีออกโทนส้มแดง มีสีที่ใช้ทำเป็น transition colour ได้ดี ร่วมเป็นถึงสีน้ำตาลเข้มที่นำมาเขียนเป็นไลเนอร์ได้อีกด้วย มายว่าพาเลทนี้คือโทนสีคล้ายกับ Tarte tartlette toasted แต่มาในราคาทีถูกกว่า

  Step 12:   ดัดขนตาด้วยที่ดัดขนตาของ surratt สามารถดัดขนตาได้ดีและช่วยทำให้ขนตายกงอนได้ดี ปัดขนตาด้วย Maybelline the hyper curl volum' express สูตร waterproof สี very black เพื่อเป็นการล็อกขนตาให้งอนและเรียงเส้นสวย 

มาสคาร่าของ Maybelline เป็นของถุกและดีจริงๆ มายใช้และสนใจอยู่หลายตัว แต่ตัสนี้ถือว่าเป็นมาสคาร่าในตำนาน ทั้งความดำสนิทและกันน้ำโคตร ปัดแล้วขนตาเรียงเส้นสวย เพิ่มความหนาได้คิดหน่อย ยกขนตามายได้เยอะ แต่ข้อเสียนึงคือไม่ได้ช่วยให้ขนตาดูยาวขึ้นก็เท่านั้น

  LIPS  

  Step 13:   ขั้นตอนสุดท้าย คือการทาปากด้วย eglips liveli lip matte no. LM002 โดยที่ทาเป็น ombre คือการทาไล่สีจากด้านในเข้มไล่มาอ่อนที่ขอบปาก ช่วยทำให้ลุคดูสนุกยิ่งขึ้น

ลิปสติกแบรนด์ดังจากเกาหลี เป็นลิปเนื้อน้ำ แมท ติดทนนานมาก ทาง่ายมากด้วย ทาแล้วเรียบเนียนไปกับปาก เนื้อไม่หนา ทำให้สบายปาก แต่ด้วยความที่นางแมทมากก่อนและหลังทาแล้วควรบำรุงริมฝีปากมากๆ เพราะอาจทำให้เกิดการลอกได้เลยจ้า ตัวนี้เคยทำลงใน swatch ของจีบันเข้าไปดูกันได้ มีอีกหลายสีเลยจ้า สวยๆทั้งนั้นเลย ขออีกนิดนึงลิปนี้เหมะมากสำหรับคนที่จะไปงานไม่อยากต้องเติมลิปบ่อยๆ ต้องไปกินไรงี้ คือติดทนจริงๆ อาจมีหลุดบ้างต้องใช้เวลานานพอสมควร

*** ถ้าดูจากภาพแล้วยังรู้สึกงงๆ ไม่เข้าใจ 

มี video ประกอบไปด้วยน่าจะช่วยได้เยอะ 555

ยังไงก็ไปดูกันได้เลย

ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาดูน้า

ฝากคอมเม้น กดหัวใจ เป็นกำลังใจให้ด้วยน้า

_________

vvvvvvvv

บั๊บ~ บาย~