Moscow รัสเซีย 4 วัน 3 คืน (ผู้หญิง) คนเดียวก็เที่ยวได้ !

32 9
คลอดแล้วจ้าาา
ทริป “รัสเซียคนเดียวต้องรอด !”
ทริปนี้เกิดจาก เราว่าง แต่ไม่มีใครว่างกับเรา ! เราเลยไปคนเดียว ~
ยาวหน่อยนะ แต่ตั้งใจเขียนสุดๆ  
ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวอ่านใต้รูปน้า ฝเขียนในนี้มันจะยาววไป

ทริปนี้ 4 วัน 3 คืน ชิวๆ
แต่... มือถือเด้งเตือนว่าเดินเกินวันละ 20,000 ก้าวทุกวัน ! 555 
ออกตัวก่อนเลยว่าตอนเราไป ไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรมากเลยจริงๆ
ตารางก็ไม่ได้แพลนจริงจังใดๆ แต่อยากมาแชร์ให้ดูกัน มาเราไปคนเดียวมา แล้วก็รอดกลับมาจริงๆ 555

Moscow อากาศในช่วงมิถุนา คือดีมากกก มันคือหน้าร้อนของที่นี่ 
อุณหภูมิอยู่ที่ 17-25 องศา
  เรียกว่าเป็นช่วงพีคของการไปเที่ยวยุโรปก็ว่าได้
คนก็เลยจะเยอะๆหน่อยทุกที่ที่ไป 

วันที่ 1  ( เดินสำรวจแถวที่พัก )

บินถึงสนามบิน Sheremetyevo International Moscow เวลา 12:00   แลกเงินก่อนเลย เราแลกใกล้ๆกับสถานีรถไฟเรทจะดีขึ้นเรื่อยๆ เดินทางไปที่พัก เราพักไม่ใกล้ไม่ไกลจาก Red Square มากนะ เดินประมาณ 15-20 นาทีถึง ซึ่งอากาศดี เดินทุกวัน ไม่มีปัญหา

  วิธีเดินทางออกจากสนามบิน 
>> แท็กซี่ , รสบัส , รถไฟ
โดยเราเลือกเดินทางโดยรถไฟ AeroExpress ราคา 500 Rub แล้วก็ต่อ ด้วย Metro อีกที ใครมาหลายคน แนะนำแท็กซี่นะ 
เร็วและจะถูกกว่า
**** แต่ Uber ที่นี่ไม่ทำงานแล้วนะจ้าาา เราต้องใช้ Application อื่น เราแนะนำ Gett ได้รถไวดี

  เนื่องจากเราไม่ได้ศึกษาใดๆ เลยหลงใน Metro อยู่ 2 ชั่วโมง !
 ใครเคยมาจะรู้ว่า Metro ที่นี่ เยอะมากก และงงมากกก และพนักงานไม่พูดภาษาอังกฤษจ้ะ ... ได้ครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันช่วยชีวิต ให้เราขึ้นรถไฟถูกสาย กราบแทบเท้า ??

“เพราะฉะนั้นแนะนำให้ทุกคนศึกษาวิธีการเดินทางโดย Metro มาให้ดีๆนะ โหลดMap เก็บไว้เลย” 

  เนื่องจากถึงที่พักเลทแล้ว
วันแรกเราเดินสำรวจแถวที่พัก 
หาของกิน แล้วแพลนเที่ยววันถัดไป


วันที่ 2 
( Red Square , Kremlin , Christ the Savior )

เราออกจากที่พักตอนเช้าเดินเท้าไป
 “ Red Square “
 หลายคนคงทราบว่า Red Square เป็นศูนย์รวมของสถานที่ท่องเที่ยวไว้หลายอย่าง
- St. Basil’s Cathedral
- The Kremlin
- สุสาน Lenin
- ห้าง Gum
- State Historical Museum
- Alexander Garden

เราใช้เวลาไปทั้งวันที่นี่ เดินชมนกชมไม้ ถ่ายรูปชิวๆ แต่ไม่ได้เข้าไปด้านในวัง เพราะคิวยาววมาก ยอมแพ้ทัวร์จีน ?

และด้วยความที่ไม่ได้ศึกษา เรานั่งเมโทรลงสถานี Kropotkinskaya ไป วิหาร Christ of the Savior แต่ขากลับเราเดินเล่นแล้วกลับมาโผล่ Red Square เฉยๆ คือ มันก็เดินกันถึงนะตัวเธอ แต่ก็มีใกล้แหละ ใครอยากเดินก็เดินจากนั่งรถไฟ ก็ตามสะดวกจ้า 
วิหาร Christ of The Savior 
เป็นวิหารสีขาว สวยมาก
มีสะพานทอดยาว เห็นวิวสวยๆของมอสโก
ที่นี่จะมีทัวร์ล่องเรือขาย ให้เราได้นั่งชมวิวบนแม่น้ำมอสโก
ซึ่งเราแพลนจะไปล่องเรือวันถัดไป
วันที่ 3 
( Sparrow Hill , Moscow University , Arbat Street , ล่องเรือ , Red Square กลางคืน )

เช้ามาเราเริ่มกันที่ Sparrow Hills เรานั่งแท็กซี่เนื่องจาก ขี้เกียจ 555 
แต่ใครจะนั่ง Metro ก็ได้ ลงสถานี Vorobyovy Gory 
แต่มันก็จะต้องเดินขึ้นเขาหน่อยๆ
Sparrow Hills คือสถานที่ที่สูงที่สุดในมอสโควนะค่ะ 
สามารถมองเห็นวิวเมืองได้ และยังเป็นที่ตั้งของ Moscow University ด้วย มันใหญ่โตมากกกก 
หลังจากถ่ายรูปหนำใจแล้วเราเรียกแท็กซี่ต่อเพื่อไป ” ถนน Arbat ” เก่า
ถนนนี้คือถนนที่ขายของฝากที่ใหญ่ที่สุด
ใครจะซื้อของฝากซื้อได้เลยที่นี่
เดินเสร็จเราไปล่องเรือกัน
เราไม่ได้ล่องเรือที่สะพานตรงวิหาร Christ of Savior นะค่ะ
เนื่องจากเราจองออนไลน์มากับอีกเจ้านึงซึ่งเป็นการล่องเรือ 2 ชั่วโมง
ท่าเรือค่อนข้างไกลพอสมควรนั่ง Metro จาก Arbat Street ประมาณ 30 นาที ละเดินต่อ 15 นาที แต่คุ้มจริงๆ
เราอยากแนะนำให้คนที่มาเที่ยวที่นี่ หาเวลาล่องเรือนะค่ะ
วิวสองฝั่งน้ำ สวยมากจริงๆ จะซื้อตั๋วแล้วก็ขึ้นตรงวิหารก็ได้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 400-500 Rub. มีให้เลือกแบบ 1 ชั่วโมงก็มีนะ
หลังจากล่องเรือเสร็จแล้ว เรากลับที่พัก พักผ่อน
แล้วเดินไป Red Square ในช่วงเย็น
เพราะอยากเห็นบรรยากาศ ตอนกลางคืน + ห้างกวม ที่วันแรกไม่ได้เข้าเพราะคนเยอะมาก
ในส่วนของตอนกลางคืนนั้น แตกต่างกับตอนเช้าพอสมควร การเปิดไฟต่างๆ ไปดูรูปเอานะ และแน่นอนจ้า ต้องไปโดนไอติมในห้างกวม ไอติมในตำนานของเรา
วันที่ 4 ( กลับ )
ไฟล์ทกลับเราเวลา 12:50 ออกจากโรงแรมหาของกินตอนเช้า ซึมซับบรรยากาศมอสโควครั้งสุดท้าย
แพลนเดินทางไปสนามบิน ด้วย Aero Express เหมือนเดิม แต่!!!!
ซึมซับบรรยากาศนานไปนิด เกือบตกเครื่อง ! หลังจากดูนาฬิกา ชั้นนั่งรถไฟไปไม่ทันแน่ๆ เลยเรียกแท็กซี่ แต่ก็แท็กซี่ก็ช้ามาก เรียกไม่ได้ เรียกก็ไม่ไป แถมไม่พูดภาษาอังกฤษ จนมีชาวบ้านแถวนั้น ภาษาอังกฤษๆงูๆปลาๆใส่เรา จะเป็นแทกซี่ไปส่งเรา 1,000 Rub
เราไม่มีเวลาแล้ว เอาก็เอา เสี่ยงไปกับเค้า ภาษาอังกฤษนางก็ไม่รู้เรื่อง
สรุป นางไม่เคยไปสนามบิน ! ขับหลง ! ระทึกมาก
จนเราต้องโทรไปหาสายการบิน โชคดีว่าสายการบินดีเลย์นิดหน่อย ไม่อย่างนั้นตกเครื่องแน่ๆจ้า
 ทั้งทริปเจอคนรัสเซียใจดีทั้งนั้น ต่อให้ภาษาอังกฤษไม่ได้แต่ก็พยายามพูด คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ที่เราทักถามทาง พูดภาษาอังกฤษกันได้เกือบหมดนะ

ทริปนี้ มีผู้ชายเข้ามาคุยนะจ้ะ สวยมากกก แต่ก็บอกไป ชั้นมีสามีแล้ว นางก็บ๊ายบายดีๆ เพราะฉะนั้นรัสเซียไม่น่ากลัวเลย 
เราดีใจมาก ที่ไปคนเดียว 
แล้วคิดว่าจะต้องไปซ้ำให้ได้ 
ใครมีคำถามสงสัยอะไร คอมเม้นกันมาได้เลย อยากสนับสนุนในออกไปเผชิญโลกกว้างจ้า ใครอยากได้ทริปที่ควรรู้ก่อนไปรัสเซียมั้ย ? เราจะทำแยกให้ เม้นมาเลยจ้า


JM Worachat

JM Worachat

An Ordinary girl who living an extraodinary life .

FULL PROFILE