ลองให้มันรู้ไปเลย!! มหากาพย์แชมพูที่เกิดมาเพื่อติดสปริงให้ผมลีบแบน

34 10

               สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน กลับมาเจอกันอีกแล้วนะคะ ต้องขอเล่าก่อนเลยว่า พราวเพิ่งไปตัดผมสั้นมาค่ะ และด้วยความเป็นคนที่ผมแห้ง ชี้ฟู ไร้น้ำหนัก จัดทรงยาก ไม่มีวอลลุ่ม ผมก็มันเร็วเวอร์  บวกกับเป็นคนแพ้ง่ายมากกกกๆๆ ยี่ห้อไหนที่ใครว่าดีไปใช้ตามก็แพ้ หนังศีรษะลอกออกมาเป็นแผ่นๆเลย กว่าจะหาแชมพูที่เหมาะกับเรานั้นมันหายากมาก ฮือๆ ด้วยความที่อยากจะหาแชมพูที่เหมาะกับสภาพผมสักตัวนึง พราวจึงทำการ Search Google ว่ามีตัวไหนที่เรายังไม่เคยใช้และไปเดินดูว่ามีตัวไหนน่าสนใจบ้าง จนไปเจอกับ เจ้า 5 ตัวนี้ เลยคิดว่าไหนๆก็อยากรู้ว่าอันไหนดี อันไหนบ้ง ก็มาเขียนกระทู้ไปเลยดีกว่า เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย แต่ละตัวพราวจะทำการทดลองใช้ ตัวละ 1 สัปดาห์ค่ะ สระวันเว้นวัน (เคยสระทุกวันแล้วหนังศีรษะแห้งจนเป็นรังแคมาหลายรอบเว่อร์) อะนอกเรื่องมาสักพักละ ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่ามีตัวไหนกันบ้าง


มาเริ่มกันที่ตัวแรกก่อนเลย Syoss 0% Silicone Dry, Frizzy and Fragile Hair คุณคนนี้ เค้าเคลมว่าเป็น 0% Silicone
ภายนอก Packaging ของเค้า ก็เป็นขวดสีเขียวอมน้ำทะเล แชมพูเป็นขวดใสเหมือนเนื้อแชมพูของเค้า ส่วนครีมนวดเป็นขวดทึบค่ะ เนื้อแชมพูเป็นเนื้อใส ค่อนข้างเหลว ไม่มีสี กลิ่นสะอาดๆ ไม่แรงมาก (แอบมีความคล้ายแชมพูเด็กเหมือนกันนะ 5555) ครีมนวดเนื้อเป็นสีขาวข้น เนื้อนวลมากแอบดึ๋งๆเหมือนพุตดิ้ง ถ้าไม่บอกว่า 0% Silicone นี่คิดว่าใส่แน่ๆอะ เนื้อเนียนเกิ๊น


ความรู้สึกขณะใช้ ปริมาณฟองไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แต่ต้องสระประมาณ 3 รอบถึงจะรู้สึกว่าสะอาดจริงๆ พราวว่าแพคเกจของค้าใช้ยากนิดหน่อย และด้วยความที่ขวดของเค้าออกแบบมาแบบไม่มีหัวปั้ม ทำให้ต้องเปิดฝาเทขวด มือก็ลื่นอยู่แล้ว ทำให้เราทำขวดลื่นหลุดมือไปหลายรอบเลย 5555
ความรู้สึกหลังใช้ ไม่รู้สึกว่าผมนุ่มขึ้น แต่ผมมีน้ำหนักมากกว่าปกตินิดหน่อย ผมฟูน้อยกว่าปกติแต่ยังคงไม่เป็นทรงเหมือนเดิม ไม่รู้สึกว่าผมมีวอลลุ่มเพิ่มขึ้น ด้วยความที่กลิ่นแชมพูจางมากๆ และไม่ติดผมเลยสระไปไม่กี่ชั่วโมงก็ไม่ได้กลิ่นแล้ว ผมมันไวมาก สระยังไม่ถึงวัน ก็รู้สึกได้เลยว่าหัวเริ่มเหนียวและเริ่มเหม็นแล้ว  สรุปคือไม่เวิร์คกับเรา แต่ถ้าใครที่สระผมทุกวันอยู่แล้วก็ไม่น่ามีปัญหาค่ะ
ปล. สระไปครั้งแรก ผ่านไปไม่ถึงวัน สิวขึ้นบนหนังศีรษะ ซึ่งปกติไม่เป็น ไม่แน่ใจว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แพ้หรือเปล่า
ความคุ้มค่า 183 บาท / 500 ml ตก ml ละ 0.366 บาท ถือว่าราคาถูกมาก แต่ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ก็ถือว่ายังเฉยๆจ้า

-----------------------------------------------------------------

น้องคนต่อมานะคะ Me-In Volume & Shiny Premium Shampoo ขอสารภาพเลยว่า ไม่เคยรู้จักนางมาก่อนเลยยย แต่วันที่ไปหาซื้อแชมพูที่โลตัส ก็ได้ยินคนข้างๆเราหยิบคุณน้องคนนี้และพูดกับเพื่อนว่าอันนี้หอมติดผมดี ด้วยความสอดรู้สอดเห็นของเรา ได้ยินก็หันขวับเลย 55555 พอเห็นสโลแกนว่าสำหรับผมไร้น้ำหนัก จัดทรงยากเท่านั้นแหล่ะ หยิบแบบไม่ต้องคิดเลย ที่สำคัญ Made in Korea จ้า เป็นโรคเห็นของนอกไม่ได้เลยค่ะ มือไม้สั่นตลอด
น้องตัวเหลืองคนนี้ เค้าเคลมว่า No Paraben, No SLS, No Silicone + สมุนไพรเกาหลีกว่า 10 ชนิดค่า
ภายนอก Packaging ของเค้าก็ตามที่พราวเรียกเลยค่ะ สีเหลืองอร่าม เป็นขวดทึบ หัวปั้ม สะดวกต่อการใช้งาน
แชมพูเนื้อเป็นสีน้ำตาลใสๆค่อนข้างเหลวค่ะ กลิ่นนี่หอมทะลุขวดออกมาเลย เป็นกลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆผสมสมุนไพร
เนื้อครีมนวดเป็นสีขาวครีมไม่ข้นมาก กลิ่นหอมดอกไม้ม๊ากกก แต่แชมพูและครีมนวดกลิ่นไม่เหมือนกันซะทีเดียวนะคะ แต่หอมทั้งคู่จ้า


ความรู้สึกขณะใช้ ตอนกดหัวปั้มแชมพูออกมา น้ำตาจะไหลเลยค่ะ หอมมากกกกกก กลิ่นมันถูกจริตพราวมากก สระแค่ 2 รอบ ก็รู้สึกว่าสะอาดแล้ว ฟองก็ปริมาณปกติค่ะ ไม่มากไม่น้อย ล้างออกง่าย ส่วนครีมนวดก็หอมเตะจมูก ระหว่างใช้ครีมนวดก็รู้สึกว่าผมนุ่มลื่นดี
ความรู้สึกหลังใช้ เช็ดผมไปก็รู้สึกฟินไป กลิ่นหอมติดผมม๊ากกกก กอไก่ล้านตัวไปเลย หอมสมคำล่ำลือ หอมจนอยากจะเอามาอาบน้ำด้วยเลย ผมก็นิ่มขึ้น ฟูน้อยกว่าปกติ ดูมีวอลลุ่มเป็นทรงมากกว่าตัวที่แล้ว เลิฟตรงกลิ่นติดผมดีนี่แหละ ผ่านไป 2 วัน กลิ่นแชมพูยังติดผมอยู่เลยอะ ขนาดออกไปตากแดดตากลม กลิ่นก็ยังอยู่ ส่วนเรื่องความมัน เห็นได้ชัดเลยว่าผมมันช้าลงจริงๆ วันที่ 2 แล้วผมยังไม่ค่อยมันเลย เริ่ดๆ
ความคุ้มค่า  ตอนซื้อมาพราวได้มาในราคาขวดละ 189 บาท ปริมาณ 450 ml.  ทั้งแชมพูและครีมนวด ตก ml. ละ 0.42 บาท ไม่ถึง 50 สตางค์เลย ถือว่าถูกม๊ากกก

-----------------------------------------------------------------

น้องคนต่อมา พราวว่าหลายๆคนอาจจะเคยผ่านตากันมาบ้าง นั่นก็คืออออ Egg Planet สโลแกนของเค้าคือตอกไข่ใส่ผม ซึ่งน้องไข่เป็นแบรนด์ลูกของ Daeng gi meo ri นั่นเองค่ะ มีสกัดจากไข่แดงและโปรตีนเคราติน พร้อมด้วยน้ำผึ้ง กล้วย ฟักทอง เลมอน โอลีฟออยล์ และคามิเลียออยล์ ไม่มีมิเนเรลออยและสารแต่งสีจ้า
ภายนอก Packaging ขวดทึบสีเหลือง มีหน้าน้องไข่ยิ้มให่ด้วยความเป็นมิตร เป็นฝาแบบเปิดปิด (ใช้ยากอีกแล้ว ฮืออ)มีฟรอยปิดจุกอีกทีเพื่อกันแชมพูไหลออกมา เพราะตัวเนื้อแชมพูค่อนข้างเหลวมากกกก กลิ่นหอมออกแนวผลไม้+แอบมีกลิ่นไข่หน่อยๆ ส่วนครีมนวดเนื้อสีครีมข้นต่างจากแชมพูมากก แต่กลิ่นนี่ไม่ได้เลย กลิ่นเหมือนแว๊กซ์+กลิ่นคาวของไข่ ดมครั้งแรกนี่คือทำเผลอทำหน้าแหวะเลย นึกว่าจะหอมเหมือนแชมพู ไอเราก็สูดเข้าไปเต็มปอด 55555


ความรู้สึกขณะใช้ เปิดฝามาไม่ต้องบีบเลย เพราะน้องเค้าเหลวทำให้ไหลออกมาจากขวดมาแบบง่ายๆ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบ เพราะด้วยความที่เป็นฝาเปิดปิดแบบคว่ำหัว ทำให้เนื้อไหลออกมาหกเลอะเทอะ ตอนจะปิดฝาก็หกไปหมด เพราะน้องเค้าเหลวมากจริงๆ ฟองนุ่มละเอียดดี ล้างออกง่าย ส่วนครีมนวดข้นใช้ง่ายกว่าแชมพูมากค่ะ ระหว่างใช้ก็รู้สึกผมนุ่มลื่นดีแต่ไม่ชอบกลิ่นเอามากๆเลย กลัวกลิ่นจะติดผมมาก ไม่โอเคกับกลิ่นอย่างแรง
ความรู้สึกหลังใช้ ว่าด้วยเรื่องกลิ่นติดผม ถือแชมพูทำได้ดีค่ะ ถึงแม้ครีมนวดจะกลิ่นไม่โอเคเท่าไร  แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าครีมนวดกลิ่นหอมคงจะทำให้กลิ่นติดผมดีกว่านี้แน่ๆ หลังใช้ก็รู้สึกได้ชัดเลยว่าผมนุ่มและฟูน้อยลงมาก รู้สึกเบาหัวแบบผมมีน้ำหนัก งงไหม 55555 แถมผมยังมันช้าลงด้วย ความรู้สึกฟิลเดียวกับน้องตัวเหลือง Me-In เลย (น้องตัวเหลืองกลิ่นติดผมนานกว่าน้องไข่แต่กลิ่นไม่แรงเท่าน้องไข่)
ความคุ้มค่า พราวสอยมาตอนโปร 1 แถม 1 ราคา 490 บาท ตกขวดละ 245 บาท ปริมาณ 200 ml. เฉลี่ย ml. ละ 1.22บาทค่า ถือว่าค่อนข้างแพงนิดหน่อย ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่น

-----------------------------------------------------------------

มาต่อที่น้องตัวฟ้ากันเลยดีกว่า น้องคนนี้เป็นของแบรนด์ Schwarzkop ค่ะ แน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์นี้ น้องคนนี้พราว ทำการ Search Google และซื้อตามมาค่ะ อิอิ สูตรนี้เป็นสูตร Hydro Collagen เค้าเคลมว่าสูตรนี้เหมาะกับผมธรรมดาถึงผมแห้ง และน้องคนนี้มี SLS ค่า
ภายนอก Packaging ขวดแชมพูน้องคนนี้เป็นสีฟ้าใสเป็นปาแบบปิดเปิดอะเกนนนน เนื้อแชมพูค่อนข้างเหลว สีฟ้าอ่อนเกือบใส กลิ่นออกแนวสะอาดๆ คล้ายๆกับของไซออส ส่วนครีมนวดเป็นขวดทึบสีฟ้า เนื้อครีมนวดเป็นสีขาวข้น กลิ่นหอมจางๆ และคิดว่ากลิ่นน่าจะไม่ค่อยติดผม


ความรู้สึกขณะใช้ ฟิลตอนใช้คล้ายๆกับน้องไซออส รู้สึกว่าต้องสระถึง 3 รอบ ถึงจะรู้สึกว่าสะอาด ฟองน้อยล้างออกง่าย ครีมนวดแอบล้างออกยาก รู้สึกว่าใช้เวลาล้างนานกว่าแบรนด์อื่นที่เคยใช้ก่อนหน้านี้
ความรู้สึกหลังใช้  ผมไม่ได้นุ่มมากแต่ดูมีน้ำหนัก ส่วนตัวรู้สึกว่าผมจัดทรงยาก และผมร่วงเยอะมากกกกก  กลิ่นไม่ค่อยติดผมเท่าไร สระไปสักพักก็ไม่ค่อยได้กลิ่นแล้ว ผมไม่มันเร็วเท่าไรถือว่าปกติ แต่มันเร็วกว่าตัว Me-In และ Egg planet ค่ะ
ความคุ้มค่า พราวได้มาขวดละ 199 บาท ปริมาณ 400 ml ตก ml ละ 0.5 บาท ถือว่าถูกมาก แต่ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ ส่วนตัวยังรู้สึกเฉยๆค่ะ

-----------------------------------------------------------------

และแล้วก็มาถึงตัวสุดท้ายกันแล้วนะคะ เหนื่อยกันหรือยังคะทุกคน น้องคนสุดท้ายนั้นก็คือ Tsubaki สูตร Volume นั่นเองค่าาา น้องคนนี้ก็ตัวดังเหมือนกัน น้องตัวชมพูคนนี้เค้าเคลมว่ามีสารสกัดจากธรรมชาติ 5 ชนิด ได้แก่ เลมอนซีครัส, สารสกัดจากพฤกษา, โปรตีนถั่วเหลือง, รอยัลเจลลี่,   น้ำมันจากเมล็ดดอกซึบากิ
ภายนอก Packaging เป็นขวดทึบทั้งแชมพูและครีมนวด ตัวขวดไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไร แอบสับสนนิดหน่อย 555555 แต่จะแตกต่างกันที่หัวปั๊ม แชมพูจะเป็นหัวปั๊มสีขาว ส่วนครีมนวดเป็นสีชมพูค่ะ เนื้อแชมพูเหลวสีใส กลิ่นเป็นกลิ่นดอกไม้ผสมเลม่อนอ่อนๆ ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป อันนี้พราวว่าตัวแชมพูจะกลิ่นแรงกว่าครีมนวดนะ


ความรู้สึกขณะใช้ แชมพูหอมมากกก สระ 2 ครั้งก็รู้สึกสะอาดแล้ว ฟองค่อนข้างเยอะ แต่ล้างออกง่าย และใช้ก็ง่ายเพราะเค้ามีหัวปั๊มให้ กดใช้ได้เลยสะดวกมากก
ความรู้สึกหลังใช้   รู้สึกผมนุ่มมีน้ำหนักไม่ค่อยฟู ผมดูมีวอลลุ่มมากกว่าปกติ แต่รู้สึกว่าจัดทรงค่อนข้างยาก ผมเด้งง่าย กลิ่นหอมติดผมดีและผมมันช้ากว่าปกติ ในส่วนนี้ถือว่าผ่านค่า แต่พราวใช้แล้วผมร่วงพอๆกับ Schwarzkop
ความคุ้มค่า ราคาขวดละ 329 บาท ปริมาณ 450 ml ตก ml ละ 0.73 บาท

-------------------------------------------------------------------------------------------------

และนี่ก็คือสภาพผมของนุ้งเองค่าทุกคนนนน จากรูปจะเห็นได้ชัดเจนเลยนะคะ ว่าแบรนด์ไหนใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง

ตารางสรุปคะแนน

สรุปความชอบกันดีกว่าค่ะทุกคน 


 จากตารางก็จะเห็นได้เลยนะคะ ว่า 3 แบรนด์ที่พราวชอบที่สุด ก็คือน้องขวดเหลือง Me-In, น้องไข่ Egg Planet และ น้องขวดชมพู Tsubaki   ในเรื่องของผลลัพธ์แล้ว ส่วนตัวพราวชอบน้อง Me-In และ Egg Planet มากกว่าค่ะ แต่ถ้าว่าด้วยเรื่องของผลลัพธ์+ราคา ทำให้น้อง Me-In มงลง ได้ตำแหน่งชนะเลิศไปเลยค่า เพราะราคาถูกกว่า กลินครีมนวดดีกว่า แต่ได้ผลลัพธ์ออกมาพอๆกันเลย ถือว่าคุ้มค่ากว่ามากค่ะ มาแบบผิดคาดมากๆ ถ้ารู้ว่าดีขนาดนี้คงใช้ไปนานแล้วเนี่ย และด้วยความที่ชอบมาก พราวเลยเข้าไปหน้าเพจแบรนด์ Me-In ทำให้ได้รู้ว่า น้องเค้าเพิ่งได้รับรางวัล Cleo 2019 มาหมาดๆ เนี๊ยะ!! เป็นไงเราไม่ได้มโนว่ามันดีไปคนเดียวนะ 555555


สำหรับใครที่สนใจตัวไหนก็ลองไปหาใช้กันดูนะคะ หรือถ้าใครมีแบรนด์ไหนที่น่าสนใจอีกก็มาบอกต่อกันได้นะคะ พราวจะไปลองมั่ง อิอิ ปล. ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผมของแต่ละคนด้วยนะคะ และการทดสอบนี้ทำขึ้นด้วยความอยากรู้อยากลองของตัวเราเองล้วนๆ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับแบรนด์ไหนเลย สำหรับกระทู้นี้ขอจบลงเท่านี้ค่า เจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ บ้ายบายค่าาาา




Proudnapa

Proudnapa

PROUD พราว ไม่ใช่แพรววว
Line : Proud.proudnapa

FULL PROFILE