[ Review ] my skincare routine อัพเดตสกินแคร์ใช้ดี ไม่มีไม่ได้แล้ว

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้บิ๊วขอมาแนะนำสกินแคร์ที่บิ๊วกำลังอินในช่วงนี้ให้สาวๆทุกคนได้รู้จักกัน ซึ่งสกินแคร์ทุกตัวเป็นอะไรที่บิ๊วซื้อแล้วซื้ออีก ใช้ซ้ำเรื่อยๆจนมั่นใจว่าควรมีเป็นอย่างยิ่ง อ่ะ อย่ารอช้า มาดูกันเลยดีกว่าค่า

ซึ่งปีนี้บิ๊วอายุ 25 แล้ว ดังนั้นจึงค่อนข้างใส่ใจกับสกินแคร์มากขึ้นกว่าที่ผ่านๆมา โดยสภาพผิวของบิ๊วจะเป็นแบบผิวผสม มันช่วง T-zone และแห้งช่วงกรอบหน้า มีปัญหาสิวบ้างประปราย ส่วนใหญ่จะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ รูขุมขนกว้าง และมีจุดด่างดำ

| toner | - pixi skintreats glow tonic

โทนเนอร์ตัวนี้เค้าขึ้นชื่อมากๆในเรื่องของการลดสิวผด สิวอุดตัน ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยในการกระตุ้นการผลัดตัวของเซลล์ผิว และช่วยให้ผิวสะอาดใส จึงเหมาะมากๆสำหรับเป็นขั้นตอนแรกของการทาสกินแคร์

ลักษณะของเค้าจะเป็นน้ำเหลวๆ มีกลิ่นหอมสมุนไพร สีอมส้มใสๆ  บิ๊วจะใช้คู่กับสำลี ในการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าหลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมในการลงสกินแคร์ขั้นตอนอื่นๆ

ก็เช็ดให้ทั่วใบหน้าได้เลย แต่หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตาได้ด้วยน้า

| moisturizer | - Clinique id concentrate pores & uneven texture

เพื่อแก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ไม่สม่ำเสมอของบิ๊ว บิ๊วจึงเลือกสกินแคร์ที่ออกแบบมาเพื่อปัญหาผิวไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้างโดยเฉพาะ และเลือกใช้คู่กับเนื้อมอยเจอร์ไรเซอร์แบบเจลเพื่อให้ผิวของเราไม่เหนอะหนะจนเกินไป

ตัวนี้เนื้อจะเบาสบายผิวมาก ทาไปแปปเดียวซึมหายเหมือนไม่ได้ทาอะไรไปเลยค่า ตัวนี้บิ๊วใช้ทั้งก่อนแต่งหน้า และก่อนนอนเลยนะ

| serum | - estee lauder advanced night repair

เซรั่มฟื้นฟูผิวโทรมตัวเด็ดตัวดังที่สาวๆหลายคนน่าจะรู้จักกันดี ตัวนี้บิ๊วเริ่มใช้ตั้งแต่ช่วงที่หน้าแพ้ๆครั้งล่าสุด รู้สึกได้เลยว่าผิวกลับมาอิ่มฟูได้ไวขึ้นมากๆ และช่วยให้ผิวไม่แพ้ง่ายเหมือนก่อนหน้านี้อีกด้วย

เซรั่มเค้าจะหนืดๆนิดนึง และมีกลิ่นหอมแบบสมุนไพรสดชื่นมากๆ พอทาให้ซึมไปสักพักแล้ว จะรู้สึกเหมือนมีฟิล์มบางๆเคลือบผิวนิดหน่อย รู้สึกได้เลยว่าผิวฉ่ำขึ้นทันที

| serum | clarins double serum

เซรั่มอีกตัวที่ตีคู่กันมากับ estee lauder anr เลยก็ว่าได้ ในเมื่อเราเลือกไม่ได้ ก็คงต้องขอจัดทั้งคู่มาเลยแล้วกัน ตัวนี้เป็นเซรั่มที่เด่นในเรื่องของผิวแห้งเหี่ยว แก่ก่อนวัย จะช่วยให้ผิวอิ่มฟูได้ดีมากๆ ยิ่งใช้คู่กับ estee แล้วด้วย ยิ่งเสริมประสิทธิภาพกันดีสุดๆ

ตัวนี้หัวกดเค้าจะมีให้เลือกแบบปั๊มเล็ก หรือปั๊มใหญ่ได้ด้วย ส่วนตัวแล้วบิ๊วจะใช้แบบปั๊มใหญ่ปั๊มเดียวก็ทาได้ทั่วใบหน้าแล้ว เนื้อเค้าจะเป็นแบบน้ำมันๆ ทาแล้วก็จะมีความเหนอะผิวช่วงแรกๆ แต่พอซึมดีแล้ว ก็ไม่ได้เหนอะหนะผิวแต่อย่างใด ที่สำคัญคือกลิ่นหอมฟินมากๆเลยค่ะ

| cream | oxe’cure anti- melasma cream

มาถึงไอเท็มลดเลือนจุดด่างดำบนใบหน้ากันบ้าง ช่วงนี้บิ๊วอินกับ oxe’cure anti- melasma cream ตัวนี้มากๆ เพราะว่าเนื้อเค้าบางเบา ทาแล้วซึมเลย ไม่เหนอะหนะผิว หรือเป็นก้อนๆขุยๆ เห็นหลอดเล็กๆแบบนี้แต่ใช้ได้นานเลยนะ เพราะเราใช้แต้มเฉพาะจุดเท่านั้นเอง

เนื้อเค้าจะข้นๆนิดนึง สีออกเนื้อๆส้มๆ แต่พอเกลี่ยแล้วก็ซึมเค้าผิวเลย ไม่เหนอะหนะ

บิ๊วก็จะแต้มไปบริเวณที่มีรอยด่างดำทั้งหลายเลยค่ะ จะบอกว่าตั้งแต่ลองใช้มารู้สึกได้เลยว่าสิวขึ้นน้อยลง และรอยสิวจางไวขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญคือไม่รู้สึกแสบเวลาแต้มบริเวณหัวสิว หรือแบบทำให้สิวแบบแห้งๆแข็งๆด้วย คือตรงที่แต้มก็ยังมีความชุ่มชื้นอยู่ แต่สิวลดลง คือดีงามมากจริงๆ

| sleeping mask | - laneige time freeze firming sleeping mask

สลีปปิ้งมาส์กสูตรเข้มข้นที่เหมาะกับสาวๆที่กังวลเรื่องริ้วรอยก่อนวัย ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นสูงมากๆ เนื้อจะเป็นครีมๆสีขาว เนื้อจะหนักนิดๆ แต่เมื่อเกลี่ยไปแล้วก็ไม่เหนอะหนะผิวเช่นเดียวกัน มีกลิ่นหอมอ่อนๆสไตล์ลาเนจเลย ใช้แล้วก็เย็นๆผิวนิดๆ มีความเป็นฟิล์มเคลือบผิวบางๆ บิ๊วเลยจะใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการลงสกินแคร์นั่นเอง

บิ๊วจะใช้แค่ 1 ช้อนเท่านั้นต่อ 1 ครั้ง แล้วก็นวดๆวนให้ทั่วผิวหน้า ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่า

แค่นี้เองก็ได้งานผิวแบบสุขภาพดี กล้าซูมให้ดูกันขนาดนี้เลยนะ บิ๊วชอบผิวตัวเองช่วงนี้มากๆ แบบอิ่มน้ำ ฉ่ำมากๆ แต่งหน้าติดง่ายขึ้นมากๆ แถมรอยสิวที่ก่อนหน้านี้มีเยอะๆ ผิวแพ้ง่าย เป็นรอยแดงๆจ้ำๆก็เหลือแบบน้อยมากๆ แทบจะไม่มีให้รำคาญใจเลยค่ะ

หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนนะคะ

ส่วนวันนี้เราต้องขอตัวลากันไปก่อน ไว้มีอะไรเด็ดๆจะรีบมาแนะนำกันอีก ฝากติดตามด้วยนะ บ๊ายบายย ~~~