♡ กู้ผิวหน้าให้กลับมาแข็งแรง!!! ♡

เมื่อพ.ค. เราไปเที่ยวญี่ปุ่นมา หลังกลับจากญี่ปุ่นรู้สึกหน้าแหกมาก สิวขึ้นผดขึ้น บวกกับเปลี่ยนสกินแคร์ไปลองใช้Guerlain ตัวAbeille Royale Youth Watery Oil !! เลยสันนิษฐานว่าแพ้ตัวนี้เพราะกลิ่นน้ำหอมแรงมาก พอหยุดใช้สิวก็เลิกขึ้น เลยเข้าสู่โหมดกู้ผิว กลับมาใช้ผลิตภัณฑ์ออแกนิคซะส่วนใหญ่ หลังจากกู้ผิวจนถึงตอนนี้ก็เกือบเดือน รู้สึกผิวแข็งแรงขึ้น รอยแดงรอยสิวลดลง เผื่อเพื่อนๆคนไหนกำลังเผชิญกับปัญหาเรื่องสิว ลองดูนะเผื่อเป็นแนวทางหรือไปสอยตาม ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ไทย อยากบอกว่าดีกว่าเค้าเตอร์แบรนด์หลายๆยี่ห้ออีกนะ :)​

About This Look!

อันนี้คือสภาพผิวจริง ที่ไม่ได้ผ่านแอ๊บ ปรับแต่งแสงหรือเบลอผิวแต่อย่างใด จะเห็นว่ารูป before มีสิวกำลังรอปะทุออกมาตรงช่วงแก้ม ส่วนรูปปัจจุบันคือเหลือแค่รอยนิดหน่อย..

​มาดูตัวช่วยของเรากันดีกว่า

เริ่มจากขั้นตอนการทำความสะอาดผิว เราจะใช้สลับกันระหว่าง Three (เนื้อบาล์ม)​ กับ Amira แล้วแต่ความขี้เกียจ เพราะของAmira ล้างแค่ตัวเดียวจบเลย ส่วนของThree ใช้เสร็จแล้วต้องล้างด้วยสบู่ ไม่งั้นหน้าจะเหนอะๆ.. สบู่เราใช้ของยี่ห้อRawganic Soap ตัวนี้เลิฟมาก เป็นสบู่ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี หลังล้างหน้าไม่รู้สึกแห้งตึงเลย ที่สำคัญเป็นของคนไทยราคาก็ไม่แพง  ใช้มา3ก้อนแล้วจ้า ไม่ดีจริงคงไม่ซื้อต่อ

** อีกหนึ่งเทคนิคที่ได้รู้ตอนไป workshop กับทรี คือ เอาบาล์มมานวดๆวนๆแล้วมาร์คทิ้งไว้ ช่วยบำรุงหน้าได้ด้วย **

หลังจากล้างหน้าก็ต่อด้วยโทนเนอร์ของ Thayers ตัวนี้ใช้มาเกือบปีแล้ว ใช้มาแบบงงๆ เหมือนจะเฉยๆแต่ก็ขาดไม่ได้55555 อีก2ตัวที่อยากแนะนำคือ เจลแต้มสิวของ DrDemis X Cinnamongal  กับ Tea Tree oil ของ The Body Shop ใช้คู่กันแล้วเริ่ดสุด สำหรับเรามันไม่ได้ช่วยให้สิวระเบิดออกมา หรือแบบใช้วันเดียวแล้วสิวยุบ แต่มันจะค่อยๆยุบและที่สำคัญคือทิ้งรอยสิวไว้น้อยมากๆ

มาต่อที่ขั้นตอนการบำรุง เริ่มจาก Acniclair Advanced Serumของ Fundamental Skin ตัวนี้ตัดสินใจซื้อเพราะเดินผ่านช้อปที่ ctw แล้วสะดุดตา เลยให้พนังงานช่วยแนะนำตัวที่ช่วยเรื่องสิวอุดตัน ตัวนี้พนง.แนะนำให้ใช้เป็นขั้นตอนแรกของการลงสกินแคร์

ต่อด้วย Saffron Waterของ Brisuthi ตัวนี้ใช้เป็นโทนเนอร์หรือน้ำตบก็ได้ เราใช้เป็นน้ำตบ ช่วยให้หน้าชุ่มชื้น กระจ่างใส ตัวนี้ถือเป็นสกินแคร์ที่เราขาดไม่ได้เลย อ่อนโยนมากๆ กลิ่นหอมแบบกลิ่นบริสุทธิ์(ตามชื่อแบรนด์55555)​

จากนั้นก็ตามด้วย Argan oil ของAmira เราใช้สูตร plus C ช่วยลดการอักเสบ ลดรอยดำรอยแดงจากสิว หลายคนกลัวว่าใช้ออยแล้วหน้าจะมันหรือผิวจะอุดตัน แต่สำหรับเราตัวนี้ไม่เลย ยิ่งถ้าวันไหนไม่ได้ทาจะรู้สึกหน้าชุ่มชื้นไม่พอ55555

อีก2ตัวในรูปนี้ ก็เป็นของ Brisuthi อีกเช่นกัน ยี่ห้อนี้ดีหลายอย่างมาก เป็นของไทยที่เทียบเท่าและดีกว่าเค้าเตอ​ร์แบรนด์​(รวมถึงราคาด้วย! )​

•  ขวดขาวคือ White Cypress เป็น whitening serum ช่วยลดรอยดำและรอยแดง รวมทั้งช่วยให้หน้ากระจ่างใส ตัวนี้เราแนะนำมากๆสำหรับคนที่กำลังหาเซรั่มที่ช่วยลดรอยสิว 
• ตัวขาวสุด นางเอกของเราเลยก็ว่าได้ Brazilian Balloon Vine ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ผิวเราแข็งแรงขึ้น ช่วยเสริมสร้าง​skin barriers ตัวนี้เห็นผลได้ชัดมาก ตัวนี้เราแนะนำให้น้องสาวใช้(หนูทดลอง ฮ่าๆๆๆ)​ เพราะตอนแรกน้องเราแพ้น้ำตอนไปอยู่ต่างประเทศ แล้วเราให้น้องเราใช้คู่กับตัวเซรั่มขวดขาว คือสิวหายไปเลย รอยแดงจากสิวก็ไม่มีแล้ว อาจมีสิวขึ้นบ้างประปรายเวลามีประจำเดือน ช่วยให้สิวหายไม่ต้องเสียเงินไปเลเซอร์​เลย แถมผิวยังแข็งแรงอีกต่างหาก

มาถึงตัวสุดท้ายของการบำรุงผิว "ครีมกันแดด" เริ่มจากด้านซ้ายของ Fundamental Skin ตัวนี้พึ่งเริ่มใช้ไม่นานแต่ก็ชอบมาก ทาเสร็จไม่ได้รู้สึกเหนียวเหนอะ ส่วนใหญ่จะใช้เวลารีบๆเพราะเป็นกันแดดที่มีเฉดสี เวลาใช้ให้ความรู้สึกเหมือนทา Perfecting Skin Tint ของ Glossier ใช้เสร็จตามด้วยแป้งฝุ่นก็รู้สึกผิวสวย

อีกตัวคือกันแดดของ D program ตัวนี้คงไม่ต้องพิมพ์เยอะเพราะตอนช่วงที่ค่าฝุ่น pm2.5เกินค่ามาตรฐาน หาซื้อที่วัตสันก็หมดตลอด กันแดดที่ช่วยปกป้องมลภาวะต่างๆ ใช้มาหลายขวดแล้วและยังไม่เปลี่ยนใจ

.
.
.

จบแล้วกับขั้นตอนการดูแลผิวหน้าของเรา เผื่อสาวๆคนไหนสนใจผลิตภัณฑ์​ตัวไหนก็ลองไปตำกันดูนะ มันดีจริงๆ

ปล.สกินแคร์ทุกตัวจ่ายเงินซื้อเองหมดเลย อาจจะเขียนจนดูอวย แต่ไม่มีใครจ้างรีวิวแน่นอนจ้า