#สารคาเฟอีนในกาแฟแต่ละสายพันธุ์ แตกต่างกันอย่างไร? ที่สำคัญยังช่วยลดน้ำหนักได้อย่างน่าทึ่งด้วยน๊า.
สรณ์ปวีณ์ ยอดสุวรรณ์ 30 8
ปัจจุบันนี้การดื่มกาแฟ ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันใครหลายคนเลย จริงไหมคะ? บางคนมักนิยมดื่มกาแฟในตอนเช้า บางคนอาจดื่มเรื่อยๆ ระหว่างวัน เพราะ “คาเฟอีน” ในกาแฟนั้น ทำให้เรารู้สึกตื่นและสดชื่นมากขึ้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งแหล่งของคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟนั้น ก็คือ เมล็ดกาแฟ นี่แหละค่ะ
ชนิดและสายพันธุ์ของกาแฟ
สำหรับกาแฟพันธุ์อาราบิก้า เป็นกาแฟสายพันธุ์ที่มีกลิ่นหอม มีคุณภาพ ดื่มแล้วจะทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่มีปริมาณของคาเฟอีนต่ำ ส่วนกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า เป็นกาแฟที่นิยมนำมาผลิตเป็นกาแฟสำเร็จรูป โดยปกติแล้วจะผสมกับกาแฟอาราบิก้า ไม่ใช่โรบัสต่าเพียวๆ มีจุดเด่นตรงที่เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกนุ่มและชุ่มคอ ซึ่งสายพันธุ์โรบัสต้า จะมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่ากาแฟอาราบิก้าเป็น 2 เท่า ซึ่งตัว “คาเฟอีน” จัดเป็นสารอัลคาลอยด์ธรรมชาติ พบในเมล็ดกาแฟ ใบชา และเมล็ดโกโก้ มีลักษณะเป็นผงสีขาว และมีรสขม
การคั่ว
เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่นอกจากจะมีผลต่อปริมาณคาเฟอีนในเมล็ดกาแฟแล้ว ยังมีผลต่อรสชาติของกาแฟอีกด้วย เมื่อเมล็ดกาแฟผ่านการคั่ว จะออกมาเป็นระดับสีหลายสี ได้แก่ สีอ่อน สีอ่อนปานกลาง สีปานกลาง สีเข้มปานกลาง สีเข้มและเข้มมาก ซึ่งหากเมล็ดกาแฟผ่านการคั่วเป็นระยะเวลานาน จะสังเกตได้ว่าเมล็ดกาแฟจะมีสีเข้มขึ้น กว่าเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วอ่อนๆ แต่ปริมาณของคาเฟอีนจะสวนทางกัน ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจจะเข้าใจว่ากาแฟคั่วเข้มคาเฟอีนจะยิ่งสูง เป็นความเข้าใจที่ผิด กาแฟคั่วอ่อนคาเฟอีนจะสูง ส่วน กาแฟคั้วเข้มคาเฟอีนจะต่ำ สำหรับบุคคลทั่วไป คาเฟอีนขนาด 200 – 300 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย หากได้รับในขนาดสูงเกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ก็มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจล้มเหลว หัวใจวายหรือเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจได้
ส่วนเหตุผลที่ทำไมดื่มกาแฟแล้วรู้สึกตื่นตัว ก็เป็นเพราะ คาเฟอีนมีผลกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง กระตุ้นหัวใจให้เต้นเร็วขึ้น กระตุ้นกระเพาะอาหารให้หลั่งกรดออกมา เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร กาแฟจึงเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้หายง่วงได้เป็นอย่างดี
ติดตามสาระดีๆช่อง
@ying nakaแก้ไขข้อความเมื่อ 28 มิถุนายน เวลา 16:48 น.
ชนิดและสายพันธุ์ของกาแฟ
สำหรับกาแฟพันธุ์อาราบิก้า เป็นกาแฟสายพันธุ์ที่มีกลิ่นหอม มีคุณภาพ ดื่มแล้วจะทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่มีปริมาณของคาเฟอีนต่ำ ส่วนกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า เป็นกาแฟที่นิยมนำมาผลิตเป็นกาแฟสำเร็จรูป โดยปกติแล้วจะผสมกับกาแฟอาราบิก้า ไม่ใช่โรบัสต่าเพียวๆ มีจุดเด่นตรงที่เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกนุ่มและชุ่มคอ ซึ่งสายพันธุ์โรบัสต้า จะมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่ากาแฟอาราบิก้าเป็น 2 เท่า ซึ่งตัว “คาเฟอีน” จัดเป็นสารอัลคาลอยด์ธรรมชาติ พบในเมล็ดกาแฟ ใบชา และเมล็ดโกโก้ มีลักษณะเป็นผงสีขาว และมีรสขม
การคั่ว
เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่นอกจากจะมีผลต่อปริมาณคาเฟอีนในเมล็ดกาแฟแล้ว ยังมีผลต่อรสชาติของกาแฟอีกด้วย เมื่อเมล็ดกาแฟผ่านการคั่ว จะออกมาเป็นระดับสีหลายสี ได้แก่ สีอ่อน สีอ่อนปานกลาง สีปานกลาง สีเข้มปานกลาง สีเข้มและเข้มมาก ซึ่งหากเมล็ดกาแฟผ่านการคั่วเป็นระยะเวลานาน จะสังเกตได้ว่าเมล็ดกาแฟจะมีสีเข้มขึ้น กว่าเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วอ่อนๆ แต่ปริมาณของคาเฟอีนจะสวนทางกัน ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจจะเข้าใจว่ากาแฟคั่วเข้มคาเฟอีนจะยิ่งสูง เป็นความเข้าใจที่ผิด กาแฟคั่วอ่อนคาเฟอีนจะสูง ส่วน กาแฟคั้วเข้มคาเฟอีนจะต่ำ สำหรับบุคคลทั่วไป คาเฟอีนขนาด 200 – 300 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย หากได้รับในขนาดสูงเกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ก็มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจล้มเหลว หัวใจวายหรือเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจได้
ส่วนเหตุผลที่ทำไมดื่มกาแฟแล้วรู้สึกตื่นตัว ก็เป็นเพราะ คาเฟอีนมีผลกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง กระตุ้นหัวใจให้เต้นเร็วขึ้น กระตุ้นกระเพาะอาหารให้หลั่งกรดออกมา เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร กาแฟจึงเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้หายง่วงได้เป็นอย่างดี
ติดตามสาระดีๆช่อง
@ying nakaแก้ไขข้อความเมื่อ 28 มิถุนายน เวลา 16:48 น.