สวัสดีค่าา วันนี้จูนจะมารีวิวคุชั่นที่ทุกคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว

นั่นก็ครืออ Snowise Brightening Cushion จากแบรนด์ Sulwhasoo 

ซึ่งเป็นรางวัลที่จูนได้มีโอกาสไปร่วมงาน Jeban x Sulwhasoo 

ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกของจูนเลยค่ะ

ที่ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมดีๆแบบนี้ ทั้งได้เปิดประสบการณ์ ได้ความรู้เรื่องคุชชั่น

และได้เจอเพื่อนๆพี่ๆหลายคนที่มีความชอบและสนใจคล้ายๆกัน ทุกคนน่ารักมากๆ

เป็นกันเองสุดๆ ที่สำคัญทีมงานจีบันทุกคนดูตั้งใจกันเต็มที่

และคอยให้คำแนะนำตลอดเลย ขอบคุณจริงๆค่ะ

Snowise Brightening Cushion

อะไรคือความน่าสนใจของคุชชั่นใหม่ตัวนี้?

ในคุชชั่น Snowise Brightening Cushion ที่นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องความฉ่ำวาวแล้ว ยังมีสารบำรุงที่ใส่มาแบบจัดเต็มอีกด้วย ซึ่งตัวนี้จะมีส่วนผสมที่น่าสนใจหลักๆ อยู่ทั้งหมด 3 ตัวเลยค่ะ ได้แก่ 

• Pearlescent Complex EX (ผงไข่มุกที่มีประสิทธิภาพในเรื่องความช่วยเพิ่มความกระจ่างใส) 

• White Lily Extract ( ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการต่อต้านอนุมูลอิสระ) 

• Enriched White Ginseng Polysaccharides (ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการบำรุงให้ดียิ่งขึ้น)

ซึ่งคุชชั่นรุ่นนี้เขาจะไม่ได้เน้นฉ่ำวาวแบบจ๋าเลยซะทีเดียว เพราะเขาจะมีความกึ่งแมตต์ด้วย จึงสามารถใช้ได้ทั้งคนที่มีผิวมันและผิวแห้งเลยค่ะ

อีกหนึ่งความพิเศษของคุชชั่นตัวนี้คือเขามีเทคโนโลยี Air Glow UV Blocking 

ที่ช่วยให้เราไม่รู้สึกเหนอะหนะผิว พร้อมช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด

ด้วยค่า SPF 50 PA+++ ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว!

ขนาด 14 กรัม+พร้อมรีฟิล ราคา 2,200 บาทค่ะ

ความว้าวของพัฟคุชชั่นที่เขาให้มาด้วยคือมีนวัตกรรมฟองน้ำ SLIM FIT ที่ช่วยให้รองพื้นกระจายตัวได้สม่ำเสมอ เราเลยสามารถควบคุมปริมาณการใช้รองพื้นได้ ถือว่าช่วยแก้ไขปัญหาของสาวๆหลายๆคนที่เคยเจอปัญหาเวลาใช้คุชชั่นแล้วเนื้อรองพื้นไหลออกมาเยอะเกินความจำเป็น

ลืมบอกไปว่าคุชชั่นใหม่รุ่นนี้เขามีทั้งหมด 6 สีด้วยกันค่ะ ได้แก่

• No.11 Porcelain Pink

• No.15 Ivory Pink

• No.17 Ivory Beige (จูนใช้สีนี้ในการรีวิว)

• No. 21 Natural Pink

• No. 23 Natural Beige 

• No. 25 Sand Pink

**จะสังเกตเห็นว่าถ้าลงท้ายด้วยเลข 7,3 จะเป็นสีเบจหรือโทนเหลือง 

ส่วนถ้าลงท้ายด้วย 1,5 จะเป็นโทนสีชมพูค่ะ**

"พอลองปาดกับที่ท้องแขนดู สิ่งที่รู้สึกได้เลยคือเรื่องความบางเบาไม่หนักผิว

ที่สำคัญคือสีค่อนข้างกลืนกับผิวจูนไปเลยค่ะ555"

"มาลองทาที่ผิวกันดูบ้าง เนื้อรองพื้นที่ติดกับคุชชั่นตอนทาลงบนผิวออกมาพอดีมากๆ

คือไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป เราสามารถเลือกเติมเฉพาะจุด

ที่ต้องการปกปิดเพิ่มเติมได้ด้วย คือดีย์!"

ภาพก่อนและหลังใช้คุชชั่น

จะเห็นได้ว่าพวกรอยสิวจูนยังคงมีอยู่นิดหน่อย อาจจะไม่ถึงกับปกปิดแบบเนียบกริ๊บ! เพราะยังคงเห็นพวกรอยสิวอยู่บ้าง แต่งานผิวที่ได้ออกมาคือมันดีย์มาก อันนี้ยอมรับเลย คือเขาช่วยปรับสีผิวจูนให้ดูสว่างขึ้น และไม่หนักผิวเลยย้ำนะว่าไม่หนักเลย เพราะเนื้อคุชชั่นนางเบามากๆ ทาแล้วเหมือนไม่ทาอะ ถ้าใครที่กำลังมองหาคุชชั่นที่เบา สบายได้งานผิว ขอบอกว่าให้ไปลองตัวนี้ที่เคาท์เตอร์แบรนด์ Sulwhasoo ก่อนได้เลยเด้อ จะได้เลือกเฉดสีให้เข้ากับผิวเราด้วย

อันนี้คือ Makeup ก่อนไปทำงาน โดยลงเป็น Snowise Brightening Cushion ตัวเดียวและแต่งหน้าเพิ่มเติมนิดหน่อยคือปัดแก้ม เขียนคิ้วและทาลิป เพื่อจะได้ทำการทดสอบตัวคุชชั่นแบบเพียวๆกันไปเลยว่านางจะเอาอยู่ทั้งวันได้จริงไหม เป็นเวลาตั้งแต่ไปทำงานจนถึงตอนกลับบ้านค่ะ

เรามาเริ่มทดสอบกันเลย โดยจูนทำการถ่ายรูปแบ่งออกเป็น 3  ช่วง (ตั้งแต่ 7.00 - 19.00 น.)

• โดยรูปแรกจูนถ่ายตอนประมาณ 10 โมงหลังออกจากบ้าน จะเห็นได้ว่าผิวยังคงดูผ่องอยู่ ถึงแม้ว่าจูนจะมีซับไปแล้ว 1 รอบเนื่องจากอากาศร้อนและเป็นคนที่เหงื่อออกง่ายมากๆ

• ถัดมาคือรูปตอนที่ผ่านไปแล้ว 7 ชั่วโมง ซึ่งจูนก็มีซับด้วยกระดาษทิชชู่อีก 1 รอบ เนื้อคุชชั่นมีหลุดออกมาเล็กน้อย แต่ผิวก็ยังคงผ่องดีอยู่ ยังไม่พบปัญหาเรื่องตกร่องใดๆ

• มาถึงรูปสุดท้ายจะเป็นภาพที่จูนถ่ายหลังจากถึงบ้านประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง บอกเลยว่าหน้ายังดูผ่องเหมือนเดิม อาจมีดรอปกว่าตอนออกจากบ้านตอนเช้าแต่ไม่มากจนเรารู้สึกได้ค่ะ

**รูปที่ได้ไม่มีการปรับแต่งสีเพิ่มเติม สองรูปแรกอาจจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่

เนื่องจากถ่ายจากกล้องiphone ต้องขออภัยด้วยค่ะ**

สรุปโดยรวมถ้าเน้นงานผิว บางเบา ไม่เหนอะหนะ ตัวนี้ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์มากๆ แต่อาจไม่ได้คุมมันมากเท่าไหร่ นอกนั้นคือไม่มีอะไรจะติเลยค่ะ เพราะโดยส่วนตัวจูนชอบงานผิวแบบนี้อยู่แล้ว อิอิ 

สำหรับวันนี้จูนต้องขอตัวลาไปก่อน

แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้าจ้า บ๊ายบายย xoxo