จัดงานแต่งงานที่บ้านงบไม่เกิน 300,000 บาท (แขก 400 คน)

77 36
ฮัลโหลสาวๆ บ้านจีบัน หลังจากที่ฝนสิงอยู่ที่นี่มานาน แว๊บมารีวิวบ้าง สอนแต่งหน้าบ้าง จนวันนี้! ได้ฤกษ์แต่งงานแล้วจ้า ในที่สุด! วันนี้ที่รอคอย 12 ปีก็มาถึง 555+ คือฝนกับแฟนคบกันมารวมเข้าปีนี้ก็ปีที่ 12 แล้ว  เรา 2 คนเตรียมงานกันยังไง? ทำไม? ถึงอยู่ในงบที่เราตั้งใจไว้ได้ การจัดงานแต่งงานที่บ้านงบไม่เกิน 300,000 บาท ทำได้ถ้าเราวางแผนดีๆ วันนี้เลยอยากมาแชร์ให้สำหรับบ่าวสาวที่กำลังหาข้อมูลอยู่และอยากประหยัดงบ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ

สำหรับว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาวที่กำลังจะมีข่าวดีกันเร็วๆ นี้ ฝนขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับทุกคู่เลยน้าาาา
งานแต่งงานของเรา 2 คน อาจจะไม่ได้จัดในที่ที่สวยหรูหรือแพงอะไร แต่เรารู้สึกว่าจัดที่บ้านแล้วมันอบอุ่น อุ่นจนร้อนไปเลยจ้า 555+ ไม่ใช่อย่างงั้น คือเรารู้สึกว่าการจัดงานที่บ้านฟิลคนในครอบครัว คนที่มาร่วมงานมันอบอุ่นจริงๆ แล้วอีกอย่างคือ เราสามารถตั้งงบประมาณและประหยัดงบได้ด้วย
สิ่งสำคัญของงานแต่งคือ “ฤกษ์” เมื่อคุยกับผู้ใหญ่แล้วก็หาฤกษ์ให้เรียบร้อย พร้อมปักวันจ้า ของฝนมีเวลาให้เตรียมงานโดยประมาณ 4-5 เดือน เหมือนจะเยอะนะ แต่ไม่เลยจ้า เตรียมงานเกือบไม่ทันเหมือนกันเพราะมันจะมีเรื่องจุกจิก ยิบย่อยเข้ามาให้ปวดหัวมากพอสมควรเลย

เรามาคิดกันก่อนว่าในวันงานต้องเตรียมอะไรบ้าง เช็คลิสต์ไว้แล้วค่อยมาเลือกว่าจะทำอะไรก่อน-หลัง

  1. ตั้งงบประมาณจัดงาน
  2. สถานที่จัดงาน (ที่บ้าน-ร้านที่จัดในสวน-โรงแรม)
  3. รูปแบบงาน งานเลี้ยงเช้า-บ่าย หรือ เช้า-เย็น
  4. พิธีที่จัด (ไทย-จีน-คริสต์)
  5. ร้านชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาว
  6. ชุดเพื่อนเจ้าบ่าว เจ้าสาว
  7. ร้าน Backdrop และพิธีต่างๆ
  8. แหวนแต่งงาน
  9. ร้านของชำรวย
  10. ร้านการ์ด
  11. แต่งหน้า ทำผม
  12. รองเท้าเจ้าบ่าว เจ้าสาว
  13. ช่างภาพถ่าย pre wedding
  14. ช่างภาพถ่ายวันงาน 
งบประมาณจัดงาน สถานที่ รูปแบบงานเลี้ยง พิธีที่จัด ฝนขอรวบเป็นข้อเดียวไปเลยนะ
- เรื่องงบฝนตั้งไว้ที่ 300,000 บาท แยกเป็นค่าตกแต่งและพิธีการ 150,000 บาท ค่าอาหาร 100,000 บาท ค่าจิปาถะอื่นๆ (เต็นท์ พัดลม ค่าของรับไหว้ ฯลฯ) เตรียมเผื่อไว้ 50,000 บาท
- สถานที่อันนี้ตัวยากเลย ฝนลองเช็คราคาและรายละเอียดตามสถานที่ต่างๆ แต่ไม่น่าจะพอกับญาติผู้ใหญ่ที่มา จึงตัดสินใจจัดที่บ้านเลยจ้า ซึ่งมันก็เสี่ยงมากนะทั้งเรื่องอากาศซึ่งเราจัดช่วงเข้าหน้าฝนพอดี วันงานเลยเอาแน่เอานอนไม่ได้ว่าจะร้อนหรือฝนตก
- รูปแบบงานเลี้ยงเราเน้นง่ายให้สะดวกทั้งบ่าว สาวและแขกที่มาร่วมงาน ฝนจัดแบบพิธีไทย คือจัดที่บ้านเลยไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่เสียค่า renovate บ้านแทนจ้า 555+ ต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้านี้บ้านคือปล่อยให้เช่า คุณพ่อของแฟนเลยจัดการ renovate ทุกอย่างให้ใหม่หมด เตรียมพร้อมก่อนวันงาน
- พิธีการต่างๆที่คุยกัน เรา 2 คนคิดว่าเช้ามีตักบาตรและพิธีการต่างๆ เริ่มตั้งแต่ 7 โมง และจบตอนบ่ายเลย เพราะญาติผู้ใหญ่มาจากต่างจังหวัดค่อนข้างเยอะ จบงานจะได้พักผ่อนกันสบายๆ ไม่ต้องดึกมาก 
ร้านชุดแต่งงาน น่าจะเป็นปัญหากับเจ้าสาวหลายๆคน ว่าจะเอาร้านไหนดี ชุดแบบไหนดี อยากแนะนำทริคง่ายๆ ว่า เวลาเลือกชุด ฝนจะไม่ได้เข้าไปลองทุกร้านที่เราชอบ คือเวลาเข้าไปลองบางร้านมีค่าใช้จ่ายแน่ๆ เกิน 3 ชุดไป ก็น่าจะอยู่ที่ 400-500 บาท ในการลอง 1 ครั้ง ซึ่งบอกเลยว่าถ้าไปหลายร้าน รวมๆกันก็เป็น 1,000 แน่ๆ เพราะฉะนั้นวิธีของฝนที่ประหยัดเวลาคือ
- ฝนจะใช้วิธีเลือกร้านก่อน แล้วเอาลิงก์มาเก็บไว้ แปะๆ ไว้เผื่อเลือกให้ได้สัก 5-10 ร้าน
- ดูชุดในร้านที่แปะไว้ว่าชอบแนวไหน รีวิวคนที่เคยใช้บริการเป็นยังไง แล้วค่อยๆตัดออกที่ละร้าน
- ดูจากโปรโมชั่นร้านช่วงนั้นแล้วเทียบกัน ราคาอันไหนดีกว่าแล้วราคาเรารับไหว คุณภาพดี บริการดี จบ!
- ลองโทรไปถามข้อมูลเพิ่มเติม คุยเรื่องโปรโมชั่นให้เคลียร์ แล้วนัดวันเข้าไปลอง

สำหรับร้านชุดแต่งงาน ฝนใช้บริการที่ร้านนี้ nassy luxury shop ร้านมี 2 สาขา มีที่บางใหญ่กับลาซาลจ้ฝนเข้าไปเช่าที่ลาซาล ชุดที่เข้าไปลองตามนี้เลยจ้า
ธีมงานทั้งหมดเป็น สีเทา ชมพู จึงลังเลว่าชุดไทยจะเอาเทาดีไหม ลองไปลองมาจนมาได้สีชมพูครีมๆ น่าจะดูละมุนกว่า และอีกอย่างคือเจ้าบ่าวจะใส่สูทเทาที่ซื้อมาเลยไม่ได้ใส่จากที่เช่ามาจากร้าน

ชุดที่เลือกคือชุดเจ้าสาว 2 ชุด จะเป็นชุดไทย 1 ชุด ชุดสีขาว 1 ชุด และเจ้าบ่าวสูท 2 ชุด (ซึ่งเจ้าบ่าวไม่ใส่จ้า) และก็จบที่ชุดนี้จ้า
ชุดเพื่อนเจ้าบ่าว เจ้าสาว เรื่องนี้ก็กังวลอีกนั่นแหละ รู้สึกอยากให้เพื่อนสนิทที่มางานเราสะดวกที่สุด เลยตัดสินใจเช่าชุดให้ เพื่อนฝนกับอ๊อฟรวมกันทั้งหมด 16 คน เราอยากให้ภาพรวมออกมาสวย และอีกอย่างคือ คิดว่าเพื่อนเราน่าจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ใส่อะไรแบบนี้เลยตัดสินใจเลือกเป็นชุดไทย สีชุดก็เลือกอยู่นานมาก ร้านใน กทม.มีให้เลือกเยอะ แต่ไม่มีสีที่เราอยากได้ จนไปจบที่ร้าน FRING THEME คือเค้ามีสีแบบที่เราชอบเป๊ะ เลยตัดสินใจที่ร้านนี้เลย เจ้าของร้านน่ารักมาก ตอนส่งมาคือมีกระดาษแนบวิธีการใส่ชุดมาด้วย อุปกรณ์ทุกอย่างครบถ้วนสวยงาม  
ร้าน Backdrop สำหรับเรื่อง Backdrop เราต้องถามตัวเองก่อนว่าอยากได้อะไรบ้าง ลิสต์ออกมาอีกเหมือนกัน แล้วอะไรที่มากไปเกินตัวเราค่อยตัดทิ้ง ฝนพยายามหาร้านที่บริการทั้งงานเช้า (พิธีไทย) รวมไปถึงการตกแต่งงานทั้งหมด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฝนค่อนข้างกังวลมากที่สุด เพราะดูข่าวมาเยอะเรื่องบ่าวสาวถูกเทงาน 555+ ทำให้กลัวไปเลย บอกเลยว่าฝนโชคดีมากที่บังเอิญไปเจอร้าน Cake2uwedding ฝนก็วนดูร้านนี้อยู่นานมาก เลยลองติดต่อไปสอบถามข้อมูลต่างๆเพิ่ม ซึ่งเราประทับใจในการคุยตั้งแต่ครั้งแรกเลย พี่เกดดูแลบริการดีมาก ชอบที่ร้านยืดหยุ่นได้หมดเลย เราชอบแบบไหนหรืออยากตัดอะไรออก เพิ่มตรงนั้นตรงนี้คือปรึกษาได้หมดเลย

ธีมที่คิดไว้คือ เทา ชมพู แต่อยากให้ออกมาดูมินิมอลที่สุด คลีนๆสะอาดตา
บริเวณนอกบ้าน
แบ่งเป็น Backdrop ตรงนี้ฝนใช้เป็นฟอนต์เดียวกับการ์ดและใช้ทั้งงานให้เป็นโทนเดียวกัน โต๊ะของชำร่วย และตรงที่รดน้ำสังข์อุปกรณ์เป็นแบบใสๆ ทุกอย่างคลีนๆ ตกแต่งและประดับด้วยดอกไม้ ต้นไม้ปลอม ทุกอย่างเป็นสีขาวแทบจะทั้งหมด ส่วนพวงมาลัยคล้องคอ และพานรดน้ำสังข์เป็นดอกไม้จริง ซึ่งทางร้านจัดเตรียมให้หมดค่ะ

บริเวณในบ้าน
สำหรับทำพิธีสู่ขอตามประเพณีในช่วงเช้า จะมี Backdrop เป็นสีขาวสลับด้วยเทา เงิน ชมพู และฟอนต์เป็นภาษาไทย ส่วนโต๊ะหมู่บูชาพระ พระพุทธฝนเตรียมเป็นของที่บ้านตัวเองเลยค่ะ และของต่างๆทางร้านเตรียมมาคือสวยทั้งชุดเลย

 - สรุปเรื่องพิธีต่างๆ ขันหมาก การสู่ขอ นายพิธี และการตกแต่งฝนใช้บริการที่นี่ทั้งหมด เพราะเค้ามาครบตั้งแต่พิธีไทย ข้าวของทุกอย่าง จนถึงการส่งตัวเข้าหอจัดมาให้หมดเลยจ้า สะดวกครบจบที่เดียวโลด
- ก่อนวันติดตั้งพี่เกดมาดูบ้านเราก่อนเพื่อดูว่าอะไรควรจัดตรงไหน และดูขนาดบ้านว่าควรจัดแบบไหน คือเหมือนเรามีเพื่อนช่วยคิดเลย รู้สึกสบายใจมาก รอดแล้ววุ้ย 555+
- วันติดตั้งทีมงานมาช่วยกันเริ่มตั้งแต่บ่ายโมง จนถึงประมาณ 1 ทุ่ม ทุกอย่างเรียบร้อยตรงตามแบบที่เราคุยกับพี่เกดไว้ ประทับใจมาก
- วันงานมีทีมงานมาช่วยหน้างาน 3 คน ผ่านไปได้ด้วยดีทั้งหมด ตอนจบงานคือโล่งมากจ้า เพราะแขกที่มาร่วมงานก็ชอบการจัดงานออกมาสะอาดตา ไม่รกเกินไป และพิธีไทยทุกอย่างครบ จบอย่างสวยงาม

ที่สำคัญคือฝนไม่ตกจ้า แต่พองานจบ หลังจากนั้นฝนตก 3 วันติดเลยเอ้า!!!!! โคตรโชคดี 
ส่วนอีกมุมนึงคือด้านหน้าโต๊ะที่แจกของชำร่วย ฝนทำเป็นมุมที่มีรูปตอนไปถ่ายพรีเวดมาหนีบๆไว้ สลับกับให้เพื่อนๆ มาเขียนอวยพรในกระดาษนี้แทนเขียนลงสมุดค่า
ร้านแหวนแต่งงาน เรื่องแหวนเราก็มีร้านอีกนั่นแหละ เป็นร้านเพื่อนที่รู้จักกันอยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ เพื่อนเราแต่งงานไปแล้วคู่นึงใช้บริการของร้านนี้ Treerat Diamond&gems ข้อดีคือเราสามารถบอกงบประมาณไปได้เลย ว่ามีงบไม่เกินเท่าไหร่ ร้านจะขึ้นแบบแหวนด้วยคอมมาให้ดูก่อน ถ้าถูกใจหรือจะปรับอะไรก็สามารถแก้ได้ แต่ถ้าไม่แก้อะไรร้านก็จำทำตามแบบจริงเลยจ้า และด้วยความเป็นเพื่อนกัน ก็จะแนะนำแบบให้เรา ซึ่งพอทำออกมาเราจบที่แบบนี้เลยโดยที่ยังอยู่ในงบ สบายใจมากจ้า  
ร้านของชำรวย เป็นร้านเดียวในใจเลย ไม่ได้หาที่ไหนเผื่อเลือก เพราะเป็นร้านของพี่สาวที่น่ารักที่เรารู้จัก งานละเอียดแน่นอนเราเชื่อแบบนั้น เลยตัดสินใจที่ร้านนี้เลย Laall.brand ที่ร้านมีของชำร่วยหลายแบบมาก ฝนเลือกเป็นสบู่น้ำนมข้าวเพราะคิดว่าผู้ใหญ่และแขกท่านอื่นน่าจะได้ใช้แน่นอน นอกจากนี้ฝนก็ยังทำช่อดอกไม้ และสายกั้นประตูเพิ่มไปด้วยเลย น่ารักมากกกก เรื่องของชำร่วยก็ออกมาตามที่หวังไว้ คนที่รับไปของไปบอกว่าหอมมากจนไม่กล้าแกะใช้ บางคนที่ได้ลองใช้แล้วก็ชอบมาก แต่ก็มีอีกส่วนที่ไม่ได้หยิบกลับไป เค้าบอกว่าสวยจนนึกว่าของตั้งโชว์ เอาสิ!  คือต้องเอาไปให้ตามบ้านหลังจากจบงานอีกจ้า 555+  
ร้านการ์ด เรื่องการ์ด เรา 2 คนตั้งใจว่าคงออกแบบกันเองง่ายๆ อย่างน้อยก็เอาวิชาที่เรียนมาใช้บ้าง แต่! มีเพื่อนในรุ่นออกตัวจะช่วย เอ้า! รออะไรล่ะคะ จัดไปจ้าเพื่อน เราก็ส่งแบบให้ดูว่าอยากได้ประมาณไหน และเพื่อนก็จัดมาให้ตามนี้เลย ส่วนร้านปริ๊นเราก็ยังอยู่กับกิจการในครัวเรือน555+ เป็นร้านเพื่อนอีกเนี่ยแหละ Resolution Printing งานดีงานละเอียด ใครอยากได้แบบไหน กระดาษยังไง เพื่อนเราให้คำปรึกษาได้  
แต่งหน้า ทำผม เรื่องช่างแต่งหน้าเราชอบแนวเกาหลีใสๆ ไม่ต้องคัดเบ้าหนักหนาสาหัส แบบตาคมผมตึงอะไรงี้ 555+ เราก็เลือกมาแบบเผื่อเลือกประมาณ 5 เจ้า ดูดีเทลงาน การคุย การบริการผลงานและราคา เลยจบที่ Phurapee Jacky Eungamornboon เราไปแอบส่องผลงานอยู่คือเค้าแต่งหน้าดาราด้วยอ่ะ นี่แบบโอ้โห ต้องคุยยากแน่ๆ แต่ไม่เลยจ้า คุยง่ายมากช่างตามใจเราและให้คำแนะนำทุกอย่างดีมาก ช่างยังทิ้งท้ายคำพูดว่า “ไม่เป๊ะจะไม่ให้ออกไปแน่นอนค่ะ”  นั่นทำให้เรายิ่งมั่นใจขึ้นไปอีก ช่างมาตรงเวลาเป๊ะมาคนเดียวนะ แต่ทำทุกอย่างครบถ้วนมืออาชีพมาก หน้าผมบ่าวสาวออกมาถูกใจทั้งหมด แล้วมารู้ตอนสุดท้ายว่าช่างเป็นเพื่อนกับน้องที่คณะ เอ้า! โลกโคตรกลมอ่ะ
เรื่องสีผมฝนทำกับ ToB1 Hair Station เลือกสีที่เป็นน้ำตาลสว่างๆ เพื่อขับผิวค่า ตอนที่ไปทำผมเดิมฝนเคยฟอกไว้ แล้วไปย้อมดำเองเลยต้องล้างสีผมออกก่อน ฝนทำก่อนถึงวันงานประมาณ 1 อาทิตย์ เพราะที่ร้านแนะนำว่าถ้าสระบ่อยสีจะหลุดออกอีกหน่อย น่าจะกำลังดี  
สีผมที่ได้วันงานแฮปปี้มากกกก เพราะสีจะละมุนๆ ทำให้หน้าเราดูหวานขึ้นอีก
รองเท้าเจ้าบ่าว เจ้าสาว เรื่องรองเท้าฝนก็เดินหาตามห้างทั่วไปเลยค่ะ เพราะคิดว่าไม่ได้ใส่ยืนตลอดทั้งวัน เลยไปจบที่ charles & keith เป็นสีเนื้อๆไปทางน้ำตาลนิดๆ ส่วนของเจ้าบ่าวนี่ก็ง่ายเกิน ซื้อในโลตัสนี่แหละจ้า ราคาเบา ยืนสบาย ภายในงาน 555+  
ช่างภาพถ่าย pre wedding เรา 2 คนมีคอนเซปว่า ถ้าแต่งงานอยากไปถ่ายตามร้านอาหารต่างๆ ซึ่งตอนแรกใจนี่อยากเข้าร้านชาบูอะไรแบบนี้ แต่ถ้าเข้าหลายร้านน่าจะกินไม่ไหว ช่างภาพก็ทำการบ้านหาสถานที่ต่างๆมาให้ เลยได้โลเคชั่นมาเป็น “เยาวราช” แหล่งของกินเพียบ บางตรอกซอกซอยเราก็ไม่รู้น้องช่างภาพก็พาไปจนได้รูปสวยๆมาเพียบ ซึ่งช่างภาพที่ถ่ายให้นั่นก็คือรุ่นน้องเราเองจ้า เพจ หุ่นกระบอก ชอบฟิลแบบโคตรธรรมชาติ ชอบที่น้องรู้มุมว่ามุมไหนเราสวย 555+ ชอบความกันเองของน้องและแฟน และชอบที่น้องตั้งใจทำมันออกมาดี ถูกใจพี่มาก
ช่างภาพวันงาน มาถึงเรื่องสุดท้ายคือ ช่างภาพวันงาน เราก็คิดว่าอยากได้ช่างภาพที่เก็บพิธีขันหมากและพิธีไทยต่างๆ ซึ่งก็หาอยู่จนนึกขึ้นได้ว่า เห้ย! เรามีรุ่นน้องที่เปิดสตูดิโออยู่นี่หว่า นั่นก็คือ Jollybear Studio หลังจากคุยรายละเอียดงานเรื่องเวลาสถานที่เรียบร้อย น้องก็ให้โจทย์เรามาว่าวันงานเราต้องเตรียมอะไร และเตรียมตัวยังไง หลักๆ จะมีระยะเวลาของกำหนดการณ์ต่างๆ หรือเหตุการณ์พิเศษนอกเหนือจากกำหนดการณ์ต่างๆ
- แขกคนสำคัญในงาน พ่อแม่พี่น้อง
- ลักษณะการเก็บภาพ ว่าเน้นส่วนไหนยังไงบ้าง

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ วันงานเราจะต้องปล่อยทุกสิ่งอย่างที่จะต้องรับผิดชอบ กระจายงานให้หมดก่อนวันงานจริง ของชำร่วยใครดูแล อะไรอยู่ตรงไหน เรื่องทุกอย่างเรียกว่า เราต้องปล่อยวางจ้า 555+

ซึ่งเอาจริงๆ นะ วันงานคือเวลาเราเห็นมันปล่อยวางได้ยากมาก คือบางอย่างมันไม่เป็นไปตามที่เราคิดอ่ะ อีกอย่างกลัวภาพบรรยากาศออกมาไม่สยด้วย ซึ่งมันก็มีแหละที่มันไม่ใช่อ่ะ!!!! แต่ก็ต้องขอบคุณทีมงาน Jollybear Studio ที่ทำให้บรรยากาศในงานที่ว่าร้อนมากๆ เรายิ้มจนปากฉีกไปเลยจ้า น้องน่ารักมาก บิ๊วเก่งสุดอะไรสุด ญาติๆเราชมว่าน้องน่ารักมาก อารมณ์ดีที่สำคัญน้องใจเย็นมาก
จบการรีวิวแล้วจ้า ฝนคิดว่าโชคดีมากที่ได้รู้จักกับเพื่อนๆ ที่มีส่วนช่วยในงานแต่งคือมันทำให้ทุกอย่างไม่ยากอย่างที่คิดไว้ เราเคยกลัวการจัดงานแต่งที่บ้านแบบนี้ เพราะคิดว่าเราทำกันไม่ไหวแน่ๆ แต่กลายเป็นว่าทุกเรื่องมีหลายๆคนเข้ามา support เรา ทำให้งานทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ได้แบบฉลุยเลย ทุกส่วนในงานแต่งเป็นสิ่งสำคัญทั้งหมด ไม่ว่าจะจุดเล็กๆหรือจุดใหญ่ๆ หวังว่าการแชร์ประสบการณ์งานแต่งของฝน จะมีประโยชน์กับบ่าว สาวหลายๆ คู่ที่กำลังจะมีข่าวดีกันนะคะ
งานแต่งอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตคู่นะคะ มันเป็นแค่การเริ่มต้นของคน 2 คน ข้างหน้าจะเป็นยังไงอยู่ที่ความเข้าใจ ความอดทน และการให้อภัยกันมากกว่า ขอให้ทุกคู่โชคดีและมีความสุขกับชีวิตคู่กันนะคะ  


Rainyseasons

Rainyseasons

เรนนี่ซีซั่น:) #เรนนี่คนมีของ
มนุษย์เงินเดือน I สาวออฟฟิศ I สกินแคร์ผิวแห้ง-ผิวผสม I แต่งหน้า I ของถูกและดีของแพงก็มีปะปนกันไป I สาวออฟฟิศวัย 30 ใช้ชีวิตเร่งรีบทุกวัน ดูแลตัวเองยังไง?

FULL PROFILE