"มะเร็งแล้วไงใครแคร์ ?" แชร์ How to ดูแลตัวเองให้แฮปปี้

132 66

"มะเร็งแล้วไงใครแคร์ ?" 

แชร์ How to ดูแลตัวเองให้แฮปปี้ ◡̈

ที่เค้าว่ากันว่า..."บางทีสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดกับเราได้เสมอ" ใช่แล้วค่ะใน วัย 25 ปี เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งรังไข่ สิ่งที่คิดในหัวมากมาย ยังตายไม่ได้นะ ยังไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่อยากทำเลย แถมเรามาอยู่จุดนี้ได้ยังไง ทำไมไม่ดูแลตัวเองขนาดนี้


ตั้งแต่วันนั้นคือจุดเปลี่ยนค่ะ ด้วยสิ่งที่ต้องเจอ การรักษา การทำคีโม มันทรมานจนไม่สามารถเล่าออกมาเป็นคำพูดได้ อย่างที่ทุกคนพอจะรู้กันอยู่แล้ว แต่ด้วยครอบครัวที่คอยดูแลไม่ห่างอย่างดี และกำลังใจจากคนรอบข้าง มันคือยาที่วิเศษที่สุดแล้ว เราเลยสัญญากันตัวเองว่า จะเต็มที่กับการรักษา ถ้าการรักษาผ่านไปด้วยดี เราจะกลับมารักตัวเอง และ ดูแลตัวเองให้เป็นคนใหม่

และสิ่งที่ทำได้ในการดูแลตัวเองช่วงระหว่างการรักษานั้นนก็คืออออ... 
กินได้ก็กินให้มาก มีแรงก็ออกกำลังกาย ส่องกระจกบอกตัวเองไว้ว่าสักวันเราจะหาย เป็นถึงแม้จะไม่มีผมและคิ้วแต่ก็สนุกกับการที่ได้เปลี่ยนลุค 7 วัน 7 ทรง 7 สี 7 ระดับความยาว แฮปปี้ไว้ แบบไม่ให้ใครรู้ว่าป่วยอยู่

ในช่วงที่ป่วย เรามักจะไม่ปล่อยให้คิดฟุ้งซ่าน เลยคิดทำเรื่องซื้อบ้าน ไปหัดเรียนขับรถ แพลนทริปไปเที่ยวหลังรักษา ให้ชีวิตมันวุ่นวายขึ้นอีกหน่อย

การซื้อบ้านใหม่ เหมือนได้เปลี่ยนการใช้ชีวิต ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตใหม่
การหัดขับรถ ทำให้เรารู้สึกว่าได้ใช้ชีวิตมากขึ้นได้ไปเที่ยว ได้พาตัวเอง และคนที่รักไปในที่ๆอยากไป

การแพลนทริปไปเที่ยว มันทำให้เรามีกำลังใจในวันต่อๆไป เวลาคนที่แพลนไปเที่ยวเค้าว่าจะมีความสุขขึ้นอีกเท่า เพราะในหัวเราก็จะคิดแต่เรื่องที่จะไปเที่ยว เชื่อว่าอันนี้ทุกคนน่าจะเป็นเหมือนกัน ใช่มั้ยล่ะ นั้นแหละค่ะ เราเตรียมไปญี่ปุ่นรอบนี้ไป 14 วัน เดินทาง 3 คันไซ ลางานเกือบเต็มโควต้าไปเลยค่ะ :)

พอจบการรักษาจนปกติดี การดูแลตัวเองก็ทำให้แฮปปี้ยิ่งขึ้น และนี้คือสิ่งต่างๆ ที่ประโคม ชมชอบ ในการใช้อยู่ตอนนี้ ส่วนมากเป็นออร์แกนิก ที่เลือกมาแล้วว่าใช้ดีกับตัวเองแน่นอน


เริ่มจากผิวหน้าก่อนละกัน

อยู่ในช่วงทดลองใช้ ก็จะประมาณนี้ค่ะ เน้นราคาไม่แรง ที่บอกต่อกันว่าดี การันตีตอบโจทย์ปัญหาผิว ส่วนมากก็จะเป็นพวกเรื่อง สิว รอยดำ และการปรับผิวให้แข็งแรง เพราะพื้นฐานผิวสำคัญที่ตรงนี้ ถ้าแข็งแรงพอ อะไรก็พังหน้าเราได้ยาก!

และตอนนี้ก็ลามมาถึงผิวกายละค่ะ

เพิ่งจะได้ซื้ออะไรแบบนี้มาลองใช้ เพราะผลข้างเคียงจากการทำคีโม ทำให้ผิวบอบบางค่อนข้างแพ้ง่าย เลยพยายามเลี่ยงพวกผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองที่มีสารเคมีต่างๆ เลยลองเสิร์ชหาออนไลน์ดูว่ามีอะไรน่าใช้บ้าง ก็มาเจอนี่แหละค่ะ สะดุดตาตั้งแต่ชื่อแบรนด์เลย “ฉัน” ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิด “ฉัน” (Shan) เริ่มจากเห็นเพื่อนกดไลค์เพจ ไถๆ อ่านคอนเท้นไปเพลินตา โปรดักส์มีความธรรมชาติและออร์แกนิก เหมือนโดนสะกด แถมมีโปรลดอยู่ ด้วย กดสิคะ รออะไร

“ฉัน…ร่าเริง”  ไม่ได้เป็นแค่สบู่ เพราะอาบแล้วเหมือนยืนเฟรชกลางสวนส้ม ด้วยสบู่เนื้อเจลใส แถมผสมตัวบำรุงระหว่างอาบน้ำอย่าง น้ำมันออร์แกนิคอาร์แกน น้ำมันอัลมอนต์ช่วยทำให้ผิวได้ความชุ่มชื้น ฟองกำลังดี แถมล้างออกง่าย เรามักจะชอบใช้ช่วงเช้า ไม่ก็หลังออกกำลังกาย กระปรี้กระเปร่าร่าเริง อะไรจริง

“ฉัน…ผ่อนคลาย” เป็นโลชั่นที่ผ่อนคลายสมชื่อเค้าจริงๆแหละค่ะ นี่ก็กลิ่นหอมคล้ายๆกับเจลอาบน้ำ กลิ่นส้ม ๆ แต่จะมีปลายๆ กลิ่นมะลิหน่อยๆ ทาก่อนนอนได้ฟีล อโรมาเบาๆ กับเนื้อครีมเข้มข้นแต่แปลกตรงที่ฟีลลิ่งจะรู้สึกเบาๆ ไม่หนักผิว นอนสบายตัวเลยแหละ

“ฉัน…สบาย” ออยล์ ทรีทเม้นท์ผิวกายนี้ คือดีสุดฟินสุด กลิ่นละมุน เหมือนนอนหนุนหมอนสปาอยู่กลางธรรมชาติเลยล่ะ จนต้องรู้ให้ได้ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง เลยได้รู้ที่มาของกลิ่นหอมนี้ มาจาก orange peel, rosewood, sandalwood และ lavender ส่วนเรื่องการบำรุงผิวมันคือการรวมตัวของ อาร์แกน อาร์แกน โจโจ้บาร์ โรสฮิป เกรปซีด ดอกคำฝอย และสวีทอัลมอนด์นั่นเองค่ะ แถมยังเป็นน้ำมันธรรมชาติ 100 % ด้วยนะ สัมผัสตอนทา รู้สึกได้ถึงความผิวฟูนุ่มทันทีหลังชะโลม ซึมง่าย ไม่เหนอะผิวเลย

เมื่อความสุขของอ้อคือการกิน ยังคงแฮปปี้กับการกิน แต่จะใส่ใจมากขึ้น
กินผัก กินอาหารออร์แกนิกมากขึ้น ถ้ามีเวลาก็จะทำอาหารกินเองบ่อยขึ้น งด ขนมซอง น้้ำอัดลม น้ำชง แทบจะตัดทิ้งไปเลย ลดความถี่ บุฟเฟต์ ปิ้งย่าง ชาบู แต่ก็มีบ้างที่ชีวิตอ้อจะขาดหวานไม่ได้ แต่ก็จะกินพอแค่รู้รสชาติ แบบขอ 3 คำ หรือวันไหนที่ซัดชานมไข่มุก ก็จะกลับไปชดใช้กรรมด้วยการออกกำลังกาย และกินคลีนขึ้น ย้ำด้วยน้ำผลไม้สกัดเย็น รีเฟรชตัวเองในวันถัดไปแทน

ยอมให้เรียก หมูที่แข็งแรง เพราะความผอม ไม่ใช่ทาง

จากคนที่แทบจะไม่ออกกำลังกาย ตั้งแต่ช่วงที่ป่วย ถ้าวันไหนมีแรง ถ้ามีเวลา ไม่ว่าจะ แบดมินตัน วิ่ง ฟิตเนต ว่ายน้้ำ ไม่พลาดที่จะทำกิจกรรม เพราะคุณหมอมักย้ำอยู่เสมอว่า การออกกำลังกายทำให้เราหายใจได้ดียิ่งขึ้น และการหายใจที่ดีช่วยเรื่องความสมดุลระดับเซลล์ เลยพยายามทำให้เป็นนิสัย ให้ชินกับการออกกำลังกาย จนทุกวันนี้ช่วงไหนที่ไม่ได้เอาเหงื่อออกจะรู้สึกไม่สบายตัวอย่างบอกไม่ถูก

สำหรับทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ เราอยากบอกว่า... 
การเป็นมะเร็งสำหรับเรา อาจจะมองว่าโชคร้ายก็ได้ แต่ถ้ามองในอีกมุม เราคงต้องขอบคุณมันเหมือนกันนะ ที่ทำให้เรารู้ตัวเอง ดูแลตัวเองได้ดีขึ้น ได้ทำหลายๆอย่าง ได้เห็นคุณค่าของอะไรหลายอย่าง เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่ามันจะกลับมาอีกครั้งมั้ย วันข้างหน้าจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่วันนี้เราต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ และสุดท้าย กับทุกเรื่องที่ต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ไม่ว่าผลมันจะเป็นยังไง แค่เชื่อว่าตัวเองจะผ่านไปได้ สูดหายใจเข้า แล้วฮึ้บในใจ แล้วไปต่อด้วยกันนะคะ ◡̈


iiaorroa

iiaorroa

FULL PROFILE