[Review] 4 รองพื้นจากฝั่งยุโรป จากปากสาวหน้ามันเมือก !

สวัสดีค่า กลับมาแล้วหลังจากห่างหายไปนานมากกกก

วันนี้ก็กลับมาเม้ามอยเกี่ยวกะรองพื้น 4 ตัว จากฝั่งยุโรป ที่เราได้ลองใช้มาในช่วงครึ่งปีแรกนี้ค่า

สภาพผิวของเราคือ ผิวปานกลางโทนเหลือง เป็นสิว แพ้ง่าย

หน้ามันมากกกกกกกกกก (ลอร่ากะเอสเต้เอาไม่อยู่ TT) และ รูขุมขนกว้าง

(ปล. เพิ่งมาสังเกตตัวเองว่า แพ้รองพื้นแบบที่ทาละแห้งเป็นแป้ง อย่างเช่น Chanel perfection lumiere, Nars Natural radiance และ Lancome teint idole ultra wear)

มาเริ่มกันที่ตัวแรก ลูกรักที่สุดของเราในตอนนี้ นั่นก็คือออ 

Ysl all In one glow 

ตัวนี้เป็นรองพื้นจาก YSL เราประทับใจแพคเกจนางมากก 

เพราะน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับคนเดินทางบ่อยอย่างเรา 

สีที่ใช้คือ B30 (บีเอฝรั่งเลือกให้ คือสีตรงหน้าเป๊ะ ไม่วอก ไม่ลอย) 

และเราชอบตรงที่ สีของรองพื้นโทนเหลืองแบบ คนผิวเหลืองใช้แล้วผ่อง 

ไม่มีติดโทนเนื้อ หรือ ชมพูมาให้เสี่ยงกับการหน้าเทาเลย

เนื้อสัมผัสของเขาจะเหมือนพวกครีมน้ำแตก ที่จะเบาๆ พอเกลี่ยลงผิวละกลายเป็นน้ำๆแล้วเซ็ตตัวไปกับผิว

ซึ่งเพราะเป็นเนื้อน้ำนี่แหละ เลยทำให้นางไม่ทิ้งความมันไว้เลยหลังทา 

แต่จะรู้สึกว่ามันชุ่มชื้นเหมือนเวลาเราทาเซรั่มบำรุงผิว

ฟินนิชหลังทาผิวจะดูมีความเงาอย่างเป็นธรรมชาติเพราะความชุ่มชื้น ไม่ได้เงาเพราะผสมชิมเมอร์ 

คนหน้ามันเมือกๆอย่างเรา ใช้แล้วยังรอด ไม่หลุดง่ายอีกต่างหาก และไม่เป็นคราบอีกด้วย

เรื่องของความปกปิด ตัวนี้ปกปิดน้อยถึงปานกลาง เน้นให้สีผิวดูสม่ำเสมอ

ตอนนี้นางเป็นรองพื้นลูกรัก ใช้แทบทุกวัน 
วันไหนอยากให้แน่นก็เซ็ทแป้งผสมรองพื้นทับ อยู่ทั้งวัน ซับหน้าก็ไม่หลุดค่า

 

สำหรับตัวนี้ เราให้ไปเลย 5/5 เพราะไม่รู้จะติอะไรจริงๆ ถูกกะผิวเราม๊าก

ใครสายหน้าเงา สายถ่ายรูป สายเซลฟี่ มาทางนี้เลยค่า 

Rimmel Lasting radiance 

ถูกและดี ขอแนะนำคุณคนนี้เขาเลย ตัวนี้เป็นเครื่องสำอาง Drugstore จากฝั่งอังกฤษ

เราไปได้มาตอนไปเที่ยวในราคาไม่ถึงสี่ร้อย คือถูกมากเด้ออออ 

พอมาลองละก็ต้องกรี๊ด เพราะเนื้อรองพื้นดีมากกก เป็นครีมๆแบบ Fluid 

เพราะฉะนั้น หมดกังวลเรื่องการเกลี่ยยาก เพราะเนื้อลื่นปรื๊ด ลงด้วยนิ้วมือก็แน่น ลงด้วยฟองน้ำก็ได้ 

เนื้อรองพื้นเขาจะผสมชิมเมอร์สีเงินละเอียดๆมา ทาลงบนผิวแล้วจะดูเงาๆโกลวๆแบบผิวสุขภาพดี

และทำให้ถ่ายรูปสวยมากก หน้าสว่าง หน้าออร่า หน้าพุ่งต้องยกให้เขาเลยจริงๆ 

ในส่วนของความปกปิด เราว่าเขาปกปิดปานกลางถึงมาก รอยดำจากสิวนางเอาอยู่ ไม่ต้องทาอย่างอื่นเพิ่ม

ส่วนความทนทานนั้น เรานั่งเรือคลองแสนแสบเพราะรีบไปหาเพื่อนแถวย่านอโศก เหงื่ออาบท่วมตัว 

แต่ซับหน้าแล้วนางก็ยังอยู่ครบ ไม่มีการหลุดแต่อย่างใด จะแดดร้อน เหงื่อท่วมแค่ไหนนางก็ไม่หวั่น

​

 ในส่วนของสี เราใช้เบอร์ 200 Soft beige

แง เป็นสิ่งเดียวที่ไม่รักเลย เพราะสีจะออกโทนเนื้อ ติดอันเดอร์โทนชมพูตามประสารองพื้นฝรั่ง

คนผิวเหลืองอย่างเรา ใช้แล้วจะเห็นชัดเลยว่า หน้าเป็นโทนสีเนื้อ แต่คอเหลือง TT 

แนะนำ คนที่ผิวไม่เหลืองมากควรไปลองเด้อ ถูกและดี มีอยู่จริงง 

ใครสายหน้าแมท ชอบรองพื้นคุมมัน แต่ไม่หนักหน้า มาหาพี่คนนี้ค่า 

Lancome Teint idole ultra wear 

ตัวนี้เพื่อนเราให้มา เพราะนางเป็นคนหน้าแห้ง ใช้ละไม่ถูกกะหน้า 
เลยเอามาให้มนุษย์หน้ามันอย่างเราได้ลอง

ซึ่งก็โป๊ะเช๊ะเลย เพราะตัวนี้เหมาะกับคนหน้ามันมากกกก 

เนื้อเขาจะเป็นเหลวๆ แบบว่าเท ละเอียงมือคือไหลตามทิศทางการเทเลยนะคะ 

แต่พอเกลี่ยลงไปบนผิวแล้ว เขาก็จะเซ็ตตัวเป็นแป้งแมท ไม่มีความมันอยู่บนผิวของเราเลย

ปกปิดได้ปานกลางถึงมาก แต่เบาสบายผิว ไม่หนักหน้า แถมคุมมันได้เลิศนะสำหรับเรา 

ในส่วนของความทนทาน ขุ่นพระ อิฉันฟาดนางไปวันรับปริญญาค่า แดดร้อน อบอ้าว ฝนเอยเหงื่อเอย 

นางยังผ่อง สีไม่ดรอป อยู่ทนถึงเย็น 
คือเป็นรองพื้นที่ผ่องมากๆ ไม่เคยเจอรองพื้นอะไรทาละหน้าไบรท์ขนาดนี้

​

 สรรพคุณที่กล่าวมา อยากให้คะแนนซัก 10/5 

แต่ว่า … แพ้ค่ะ !!! เราใช้ละแพ้ อุดตันขึ้นเต็มหน้าเลย (ไม่ได้ล้างไม่สะอาดนะคะ แพ้คือแพ้จริงๆ) 

เอาเป็นว่า ใครหารองพื้นที่บางเบา คุมมัน ปกปิด สีไม่ดรอป ต้องไปลองตัวนี้จริงๆ แนะนำเลยค่า 

ตัวสุดท้าย สำหรับกระทู้นี้ นั่นก็คือ 

Ysl all hours นั่นเอง

ตัวนี้เป็นรองพื้นที่หลายคนบอกว่า แมท คุมมัน ติดทน 

แต่คนหน้าเมือกอย่างเราใช้แล้วไม่คุมมันเลยอะ ตัว All in one glow ยังคุมมันซะกว่า 

เนื้อของรองพื้น จะเป็นแบบครีมๆ ไม่ได้เหลวมากนะคะ

แต่ยังคงเกลี่ยง่ายอยู่ และปกปิดได้เยอะ ตัวนี้ให้เป็น Full coverage เลยจริงๆ

เวลาทาลงบนผิว จะไม่ได้แห้งเหมือนรองพื้นแมทตัวอื่น แต่ยังดูมีความเป็นผิว มีความเงาอยู่ 

สำหรับเรา ใช้แล้วรู้สึกว่าหน้ามันมาก มันจนเพื่อนทักว่าแบบ ใช้อะไร ทำไมหน้ามันตลอดเวลาขนาดนี้ 

แต่ข้อดีของเขาก็คือ ติดทนมากนะคะ ซับหน้าทั้งวัน กลับบ้านมาตอนเย็นก็ยังไม่หลุดไปไหน 

ส่วนของสี อันนี้เลือก B30 มาเอง และคงเป็นเพราะไฟส้มใน Duty free สนามบินเลยทำให้เลือกพลาด 

จะบอกว่า มันเข้มกว่าผิวไปมากเลย แถมยังมีติ่งโทนชมพูด้วย TT

เลยยิ่งให้คนหน้าเหลืองอย่างเราไม่รอดและหมองไปใหญ่ (โทนเดียวกับ Rimmel เลยอะเธอ)

เราคิดว่าตัวนี้เป็นรองพื้นที่ตอบโจทย์ คนที่อยากได้รองพื้นแบบติดทน แต่ไม่แห้ง

น่าจะเหมาะกับ คนผิวผสม-ผิวแห้ง ค่า 

จบแล้วค่า สำหรับการมาแชร์รองพื้นจากฝั่งยุโรปที่ใช้จริงในช่วงนี้

หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับสาวๆที่ชอบของถูกและดี ที่กำลังมองหา คสอ ใหม่ๆมาลองน้า

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นผลรีวิวจากการใช้ของเราเองล้วนๆ สภาพผิว และความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน

เราเลยอยากแนะนำให้สาวๆ ไปลองเทสต์ให้พอใจก่อนตำมาจริงๆเน้ออ

โปรดอย่าลืมระวังเรื่องการแพ้ด้วยย

​

เลิฟฟฟ แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้า สวัสดีค่า