IPL ทำเองที่บ้าน ลองดูให้รู้กัน

เริ่มเรื่องกันก่อน เนื้อหาตรงนี้ จุดประสงค์คือบอกเล่าว่ามันคุ้มค่ากับเงินทีเสียไปมั้ย เพราะงั้นก็เลยขออนุญาตไม่ถ่ายตัวเครื่องให้ดูชัดๆ ก็แล้วกันน๊า

เข้าเรื่องกัน ก่อนหน้านี้ เราเคยไปยิงเลเซอร์กำจัดขนที่คลินิคมาแล้ว 9 ครั้ง โดยใช้เป็น เลเซอร์ ND-YAG แล้วทีนี้เห็นฟีดเฟซบุ๊กเต็มไปหมด ว่าเอ้อ..มันมีเจ้าเครื่อง IPL ที่สามารถทำเองที่บ้านได้ ซึ่งจำนวนการยิงก็โอ้โห.. มากช๊อตอยู่

เครื่องที่เราซื้อมาราคา 4 พันกว่าบาท เกือบ 5 พันเลย ยิงได้ 500,000 ช๊อต เอาจริงๆ ก็น่าจะมี 2 ปีได้เลยนะ (ถ้าเครื่องไม่พังไปก่อน)

ว่ากันที่รอยดำก่อน
อันนี้บอกเลยว่า ก็ไม่ได้เห็นผลมาก อาจเพราะว่าตัวเราเอง กินวิตามินอยู่แล้ว รอยก็ลดลงไปตามวันเหมือนกัน ยิงมาประมาณ 1 เดือน อาทิตย์ละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ ขยันหน่อยก็วันเว้นวัน ก็ยังไม่เห็นว่ารอยจะหายไปอย่างรวดเร็วแต่อย่างใด

ว่ากันที่สิว
คือเราเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสิวอยู่แล้ว ลองกับที่หลัง.. ก็ไม่ยังไม่ทันเห็นผล

ว่ากันที่กำจัดขน
เครื่องนี้กำจัดขนได้ทั่วร่างเลยค่ะ ตรงไหนก็ได้ ที่มีขน ถามว่าเจ็บมั้ย.. เราว่าไม่เจ็บ แต่อาจเป็นเพราะเราปรับระดับความแรงไว้แค่ 2-3 เท่านั้น (เขาปรับได้ถึง 6 ระดับ)

ความรู้สึกต่างจากที่คลินิคมั้ย?
เราว่าความเจ็บ..แทบไม่รู้สึกเลย มีแต่ความเสียว ลุ้นเอง เจ้าเครื่องนี้เราสามารถปรับค่าให้เขายิงอัตโนมัติได้ ไม่ต้องกดค่ะ ก็เลยลุ้นว่าแสงจะออกมั้ยแค่นั้น สะดุ้งก็แสงนี่แหล่ะ

ส่วนเรื่องของขนหายมั้ย?
เราว่า ตอนที่เราทำเลเซอร์ที่คลินิค ขนจะถูกทำลายในชั้นรากเลย เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก แต่สำหรับเจ้าตัวนี้ ความรู้สึกคือ มันเหมือนเผาไหม้ขนตรงที่ยื่นๆ ออกมา และเห็นผลดีกับขนแข็ง ตอนนี้เราเหลือแต่ขนอ่อนๆ ที่ถ้ามองผ่านๆ จะไม่เห็นเส้นขนเลย
ก็เหมือนกับว่าขนไม่หายไป หรืออาจเพราะเราปรับระดับอ่อนไป ก็ไม่แน่ใจค่ะ

คู่มือที่ติดมาด้วยเป็นภาษาจีน เลยไม่รู้ว่าใช้ถูกวิธีหรือไม่

+2

ถามว่าคุ้มมั้ย ถ้าจะซื้อ?
เราว่า ในราคาเกือบ 5 พัน ถ้าอยากกำจัดขนจริงๆ ไปคลินิคดีกว่า เพิ่มเงินนิดหน่อยก็ซื้อคอร์สได้แล้วหรือทำแบบเราที่ยอมจ่ายทีละครั้งก็ได้

แต่เจ้าเครื่องแบบนี้ เราว่าเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากออกไปไหน อยากทำเอง มันก็ได้เหมือนกันนะ แต่ต้องใช้เวลากับเขาหน่อย ก็พอได้อยู่ เราลองยิงขาที่ไม่เคยผ่านการเลเซอร์มาเลย อืม... ขนก็เหมือนไหม้ไปอ่ะ

ก็ถ้าไม่คิดอะไร ยิงไปบ่อยๆ ก็อาจจะดีนะคะ เราลองมาประมาณ 1 เดือน อาจใช้เวลาน้อยเกินไป ผลที่ได้ในระยะนี้ก็เล่าสู่กันฟังประมาณนี้

เดี๋ยวถ้าได้ลองอะไรใหม่ๆ อีก จะมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะ