[REVIEW&FAQ] FYNE Sunscreen กัน UV ได้ครบจบในขวดเดียว ☀️
donut 118 31 PARTNERS IN BEAUTYสวัสดีค่าทุกคน
สำหรับประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรอย่างเรามีแต่หน้าร้อน
ดังนั้นเรื่องแดดเรื่องใหญ่ แต่เรื่อง “กันแดด” คือเรื่องใหญ่กว่า
และวันนี้โดนัทมารีวิวกันแดดที่กำลังมาแรง และมีคนถามเข้ามาทุกวันเลยค่ะ
นั่นคือ กันแดดจากแบรนด์ FYNE นั่นเอง
ชิ้นนี้คือ FYNE Hybrid Light Hydrating Sunscreen Broad spectrum SPF 50 PA+++
ซึ่งแบรนด์ FYNE เป็นแบรนด์ที่โดนัทใช้มานาน และติดเป็น Product ที่ชอบที่สุดมาหลายปีเลย
โดยทางแบรนด์มีความใส่ใจ รู้จริง และเข้าใจปัญหาผิวจริงๆ
โดนัทใช้ตั้งแต่เจลล้างหน้า และ BHA รักษาสิวอยู่แล้วค่ะ
และเมื่อกันแดดออกมาใหม่ ก็พลาดไม่ได้เด็ดขาดเลย ต้องมีค่ะ ^^
ดังนั้นวันนี้จึงมาเล่าให้ทุกคนฟังนะคะ ว่าทำไมกันแดดจาก FYNE จึงเป็นอีก 1 ลูกรักของโดนัทค่ะ
เรามาเล่าหลักการเลือกกันแดดเพื่อผิวสวยกันก่อนนะคะ
กันแดดที่ดีและเพื่อผิวสวยจะต้องกันทั้ง UVA และ UVB ได้ทั้งคู่
แต่ที่เหนือกว่าเดิมคือต้องมีฤทธิ์แอนตี้ออกซิแดนท์ได้ด้วย
โดยหลักการจำเรื่อง UV คือ
UVA - A > AGING - คือความแก่ชราของผิว ดังนั้นถ้ากันได้ = ผิวไม่แก่
UVB - B > BURN – คือการไหม้เกรียมคล้ำของผิว ดังนั้นถ้ากันได้ = ผิวไม่คล้ำ ไม่ไหม้
สำหรับกันแดดชิ้นนี้ให้ประสิทธิภาพการกันแดดได้ดีทั้ง UVA และUVB
และที่เค้าไม่ลืมใส่ลงมาคือ สารต้านอนุมูลอิสระ ,วิตามินต่างๆ ที่จะปกป้องให้ผิวเราไม่เกิดปัญหาจากทั้งรังสี UV ,จากน้ำมันบนผิว และจากสารกันแดดค่ะ
มาถึงส่วนประกอบแล้วค่ะ เรามาดูกันว่ากันแดด FYNE เค้าใส่อะไรบ้างกันนะคะ
โดยในสูตรจะมีสารกันแดด 3 ตัวค่ะ คือ
Tinosorb M (Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol)
ตัวนี้เป็นสารกันแดดแบบ Hybrid ค่ะ ซึ่งจะรวบรวมความสามารถทั้งสะท้อนรังสี UV แบบ Physical
และดูดซับรังสี UV แบบ Chemical ไว้เลย
และสามารถป้องกัน UV ที่ความยาวคลื่น ประมาณช่วง 290-400nm
ซึ่งครอบคลุม ทั้ง UVB UVAI UVAII
ความพิเศษของสารกันแดดกลุ่มนี้ คือ
“การก่ออาการระคายเคืองต่ำมาก”
ดังนั้นคนผิวแพ้ ระคายเคืองง่ายก็ใช้ได้ และก็ยังให้ประสิทธิภาพการกันแดดที่ดีมากๆ
สารกันแดดแบบ Hybrid นี้ค่อนข้างคลอบคลุมดีมาก และตัวสารราคาสูงมาก
แต่คุ้มผลลัพธ์ ทางแบรนด์จึงนำมาใช้นั่นเองค่ะ
2. OMC (Octyl methoxycinnamate)
ตัวนี้เป็นสารกันแดดแบบ Chemical โดยสารตัวนี้สามารถป้องกัน UV ที่ความยาวคลื่นช่วง 290-330nm
แปลว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันแสง UVB ได้ดีมาก
นั่นก็คือสามารถป้องกันผิวคล้ำเสีย และป้องกันผิวไหม้ได้ดีมากนั่นเอง
ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศแบบบ้านเรามากที่ผิวคล้ำเสียง่ายจากแสงแดดค่ะ
3. Avobenzone (Butyl Methoxydibenzoylmethane)
สำหรับ Avobenzone เป็นสารกันแดดกลุ่ม Chemical ที่สามารถปกป้องผิวจาก UVA ได้ครบ และนอกจากนั้นยังซึมลงผิวได้น้อยมากๆ ทำให้มีความปลอดภัยสูง
ซึ่งสรุปคือสารตัวนี้กันผิวแก่ได้เก่งมากๆ นั่นเองค่ะ
ปัญหาการรวมสารข้อ 2 กับข้อ 3 มีนะคะ
เพราะการรวมนั้นจะทำให้สารกันแดดเสื่อมสลายลงได้
แต่มีวิธีแก้ค่ะ !!!
โดยการเติมสารกันแดดกลุ่ม Hybrid (ข้อ 1) และ วิตามินอี ลงมาในสูตรนั่นเองค่ะ
.
โดยในการศึกษาจะเป็นการศึกษาว่าเมื่อมีการใช้ Tinosorb S ใส่ลงมาในสูตรที่ใช้ Avobenzone และ OMC จะทำให้สารทั้ง 2 จะเสถียรขึ้นค่ะ ซึ่งจากสูตรคิดว่าทางแบรนด์ปรับใช้ เป็น Tinosorb M เพราะมีความมันเยิ้มทิ้งบนผิวน้อยกว่า
ซึ่งประสิทธิภาพกันแดด มั่นใจได้แล้วว่า สามารถกันได้ครบทั้ง UVA และ UVB
เรามาต่อกันที่ประสิทธิภาพการกันอนุมูลอิสระ
เพราะการกันแดดมันไม่ใช่แค่กัน UVA ,UVB แล้ว ต้องมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีด้วยค่ะ
ซึ่งสูตรนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดาค่ะ เพราะในสูตรไม่ได้ใช้แค่วิตามินธรรมดา
โดนัทคิดว่าในสูตรน่าจะใช้ Cocktail รวมสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ชื่อว่า CELLIGENT®
ซึ่งมี INCI Name ดังนี้ค่ะ
Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil (and) Ethyl Ferulate (and) Polyglyceryl-5 Trioleate (and) Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract (and) Aqua (and) Disodium Uridine Phosphate (and) Tocopherol
ซึ่ง CELLIGENT® ตัวนี้เป็น Active Ingredient หรือสารออกฤทธิ์ที่ช่วยปกป้องเซลล์ผิว ซึ่งรวมแอนตี้ออกซิแดนท์มาเพื่อแก้ปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจากการโดนรังสี UV ทำร้ายโดยเฉพาะ
โดย Ethyl Ferulate มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ
และสารประกอบอื่นๆช่วยทำให้การซ่อมแซมเซลล์ผิวเป็นไปได้อย่างปกติ และที่สำคัญยังช่วยลดการทำร้ายของผิวจากแสงสีฟ้า (หรือแสงจากหน้าจอมือถือ และคอมพิวเตอร์นั่นเอง)
❤️และในส่วนประกอบยังมี Moringa Pterygosperma Seed Extract ทีเป็นสารสกัดจากเมล็ดมะรุม
ที่มีฤทธิ์เป็นตัวช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น และลดโอกาสการเกาะติดของฝุ่นมลภาวะ
❤️มี Bisabolol ซึ่งสำคัญต่อสูตรกันแดดมาก
เพราะช่วยให้ผิวลดอาการระคายเคืองจากปัจจัยต่างๆ
และเมื่อผิวโดนแดด และความร้อนทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นระหว่างวัน
❤️ในสูตรจึงเสริม Sodium Hyaluronate หรือ Hyaluron ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้น
และเป็นอีก 1 ปัจจัยในการทำให้ผิวชุ่มชื้นแข็งแรงขึ้นค่ะ
ซึ่งถือเป็นกันแดดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่จะกันความคล้ำเสีย กันความแก่ชรา การทำร้ายเซลล์ผิว
และยังต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วยค่ะ
และอีกอย่างที่สำคัญที่สุดสำหรับโดนัทในการใช้กันแดดคือ เนื้อสัมผัส ความมันเหนอะหนะ
และกลิ่นตกค้างบนผิว
เพราะโดนัทมีผิวผสมถึงมัน ซึ่งกันแดด FYNE ชิ้นนี้คือใช่เลยค่ะ
ดีงามมากกก ใช้แล้วสบายผิวทั้งวัน
ไม่มัน ไม่เหนอะ หนึบหนับ และผิวหน้าไม่วอกลอยด้วยค่ะ
อีกอย่างที่ชอบคือไม่มีกลิ่นแบบน้ำมันๆ ที่ไม่สบายจมูก
หลังจากใช้แล้วไม่เกิดผดผื่น หรือปัญหาสิวใดๆทั้งสิ้นค่ะ
ถือเป็นกันแดดที่บรรจุลงใน Routine หรือการใช้สกินแคร์ทุกวันได้สบายๆเลยค่ะ
ในสูตรกันแดด FYNE นี้ ปราศจาก
ซิลิโคน
แอลกอฮอล์
พาราเบน
สารก่อระคายเคือง
สี และน้ำหอม
โดนัทขอรวบรวมคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อยไว้ให้นะคะ ?
ทาแล้วเหงื่อออก จะเยิ้มมั้ย
โดนัทลองแล้วไหวค่ะ ไม่เยิ้ม แต่ถ้าอยู่กลางแจ้งเราต้องเติมกันแดดทุก 2 ชม.
เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดและปริมาณที่ดีที่สุดของสารกันแดดค่ะ
บางทีเราเช็ดเหงื่อ ซับหน้า สารกันแดดก็หายไปด้วย ต้องเติมค่ะ
ทาทับเมคอัพได้มั้ย
ถ้าแต่งบางๆสบายๆ ทับแบบทาตบๆแล้วเติมแป้งสักหน่อยก็กลับมาสวยเหมือนเดิมค่ะ
แต่ถ้ารองพื้นแบบหนาหน่อย ไม่แนะนำให้ทาทับนะคะ รองพื้นมีเลือนบ้างค่ะ
ทาดำน้ำ ,ว่ายน้ำได้มั้ย
ไม่เหมาะค่ะ เพราะไม่กันน้ำ คิดว่าเค้าทำมาเพื่อให้เราทาได้สบายๆสวยๆในชีวิตประจำวันมากกว่าค่ะ
ผู้ชายใช้ได้มั้ย
สบายมากค่ะ และผู้ชายต้องการการกันแดดเช่นเดียวกับผู้หญิง ดังนั้นทาโลดค่ะ
ผิวมีแผลทาได้มั้ย
ไม่แนะนำให้ทาบริเวณที่มีแผลเปิด ไม่ว่าจะกันแดด หรือเครื่องสำอางต่างๆนะคะ
ทาแล้ววอกมั้ย มีคราบขาวมั้ย
ไม่วอกเลยค่ะ เพราะนี่คือจุดเด่นของสารกันแดดกลุ่ม Hybrid และ Chemical ค่ะ
ที่ทาแล้วไม่วอก ไม่ลอย ไม่มีคราบขาวค่ะ
ทาแล้วต้องใช้คลีนซิ่งเช็ดมั้ย