DR.PEPTI+: Peptide Volume Essence งานเกาหลีที่ดีต่อริ้วรอยมากแม่!
Up to Me Review 93 26Dr.pepti+: Peptide Volume Essence Premium อีกหนึ่งตัวที่เราใช้มาสักพัก เพื่อช่วยต้านแก่
ฟังกันชัด ๆ ว่า "ต้านแก่"
พูดดัง พูดเบาก็เจ็บ เมื่อเข้าวัย 29 ที่ปีหน้าเลข 3 มาเยือนแล้ว >< ช่วงปีนี้ของชีวิตก็จะเริ่มมีไลน์สกินแคร์แนวนี้มาเพิ่มโต๊ะเครื่องแป้งบ่อย ๆ หน่อย อยากลองไปหลาย ๆ ตัว และหาตัวใช่สุดไว้ใช้ยาว ๆ คู่กับแบรนด์รัก CLARINS
ของเราด้วยนั่นเอง
และเราได้มาเจอกับ Dr.pepti+: Peptide Volume Essence Premium ที่อยากลองเพราะคำเคลมว่า #ครีมโบท็อก อันดับ 1 ในเกาหลี กับยอดขายกว่า 1ล้านขวด ปีเดียวหลังเปิดตัว เริ่ดขนาดนั้นนน เลยสินะให้ตายเหอะ ลองก็ได้นะจ๊ะ กับราคาที่ลดจัดโปรบ่อย ๆ 1,690 จาก 1,990 สอยมาจากเว็ป koriico ที่ดังเรื่องนำเข้าแบรนด์สายเกามั่ก ๆ (ราคาดี โปรเยอะชอบ ๆ อิอิ)
ที่สนใจอีกเรื่องคือนวัตกรรม Peptide 6 ชนิด และปริมาณ 12% ของ Peptide ที่ใส่ไปซึ่งมี % ที่เยอะกว่าตามท้องตลาดทั่ว ๆ ไป Active ดูถึงจุใจแบบนี้ เราก็ไม่พลาดนะ ลอง ๆ ให้รู้ว่าดีจริงมั้ย แล้วควรค่าใช้ต่อหรือไม่ จัดมาจร้าาาา!!!
ที่สนใจอีกเรื่องคือนวัตกรรม Peptide 6 ชนิด และปริมาณ 12% ของ Peptide ที่ใส่ไปซึ่งมี % ที่เยอะกว่าตามท้องตลาดทั่ว ๆ ไป Active ดูถึงจุใจแบบนี้ เราก็ไม่พลาดนะ ลอง ๆ ให้รู้ว่าดีจริงมั้ย แล้วควรค่าใช้ต่อหรือไม่ จัดมาจร้าาาา!!!
ขอแปะภาพเรื่อง Peptide จากแบรนด์หน่อย จะได้รู้ว่ามันดีนะ เราถึงสนใจเรื่องพวกนี้มากขึ้น และหาสกินแคร์ Type นี้มาดูแลผิว เพราะด้วยโมเลกุลที่เล็ก ซึมได้ดี ทำงานเสมือนเซลล์ของผิวมนุษย์ได้อีกด้วย รวมถึงจากผลวิจัยหลากหลายที่การันตีในความว้าว เราจึงเริ่มเปิดใจ และเปิดเป๋าตังค์รับกลุ่ม Peptide เข้ามาช่วยจัดการเรื่องริ้วรอยให้ตรงจุดกันไปเล๊ยยยยย
ตัวนี้เค้าทำงานได้ล้ำลึกด้วยสารสกัด Peptide เข้มข้นถึง 6 ชนิด จะมาช่วยฟื้นฟูผิว
ร่องลึกโดยการช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ข้อนี้คือการทำงานแบบเดียวกับ Botox เลยค่ะ และตัว Peptide อย่างที่บอกเด่นเรื่องการบำรุงล้ำลึกถึงชั้นเซลล์ผิวอยู่แล้ว แล้วเค้ามีนวัตกรรม Oxygen Bubble มาช่วยให้การซึมเข้าผิวได้ไว และทำงานได้ดีด้วย ใครใช้แรก ๆ จะงงจร้าเกิดอิหยัง? ซึ่งเราเป็น ฮ่าาาาาาา พอใช้ไปจะชินเอง
ร่องลึกโดยการช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ข้อนี้คือการทำงานแบบเดียวกับ Botox เลยค่ะ และตัว Peptide อย่างที่บอกเด่นเรื่องการบำรุงล้ำลึกถึงชั้นเซลล์ผิวอยู่แล้ว แล้วเค้ามีนวัตกรรม Oxygen Bubble มาช่วยให้การซึมเข้าผิวได้ไว และทำงานได้ดีด้วย ใครใช้แรก ๆ จะงงจร้าเกิดอิหยัง? ซึ่งเราเป็น ฮ่าาาาาาา พอใช้ไปจะชินเอง
มาในรูปแบบหัวปั๊ม ๆ สะดวกใช้งานดี และช่วยคงสภาพสกินแคร์ในขวดได้อย่างเริด
เพราะเซฟเรื่องสารปนเปื้อนต่าง ๆ ระหว่าใช้ได้จร้า
เพราะเซฟเรื่องสารปนเปื้อนต่าง ๆ ระหว่าใช้ได้จร้า
ชอบรายละเอียดของหัวขวดมากจ้ะ เก๋ดูดีมีชาติตระกลูกับการพิมพ์ตอกชื่อ Product ลงไปรอบ ๆ บนสีทองแบบนี้ เลยขอถ่ายเก็บมาให้เพื่อน ๆ ชมสักหน่อย
อันนี้คือเนื้อสีฟ้า ๆ ดูแปลกตามว๊ากกก เพิ่งเคยได้ใช้เลยสีแบบนี้ เนื้อไม่หนัก ไม่เบาจนเกินไป กลาง ๆ แต่ซึมไว
วิธีการทาค่ะ...เค้าจะไม่ได้ทาแล้ววนให้ซึมไปเลย แต่ให้ทาทิ้งไว้ ให้เกิดฟอง ๆ Oxygen Bubble Foam เอออกริมมิคดีเราชอบ เพราะในความรู้สึกเราตอนทา แล้วรอ
Oxygen Bubble Foam ทำงานมันจะได้ยินเสียงซึ้บ ๆ ที่หน้าเบา ๆ รู้สึกว่าผิวได้รับการบำรุง และทำงานจากน้อง Peptide ทั้ง 6 นี้ได้จริง ๆ อย่าขำเค้า >< ก็แค่มโนเก่ง อิอิ ส่วนลำดับขั้นของการทาตัวนี้คือ...สำหรับเราทาหลังจากเซรั่มเนื้อใส และเจลค่ะ เพราะตัวนี้เนื้อสัมผัสเค้าแล้วเกือบไปทางครีม แต่ไม่หนึบเท่า แต่ก็ไม่ได้เบาบางขั้นเซรั่มอ่ะ เลยไว้ทาตรงกลางหลังเซรั่ม และก่อนครีมค่ะ
Oxygen Bubble Foam ทำงานมันจะได้ยินเสียงซึ้บ ๆ ที่หน้าเบา ๆ รู้สึกว่าผิวได้รับการบำรุง และทำงานจากน้อง Peptide ทั้ง 6 นี้ได้จริง ๆ อย่าขำเค้า >< ก็แค่มโนเก่ง อิอิ ส่วนลำดับขั้นของการทาตัวนี้คือ...สำหรับเราทาหลังจากเซรั่มเนื้อใส และเจลค่ะ เพราะตัวนี้เนื้อสัมผัสเค้าแล้วเกือบไปทางครีม แต่ไม่หนึบเท่า แต่ก็ไม่ได้เบาบางขั้นเซรั่มอ่ะ เลยไว้ทาตรงกลางหลังเซรั่ม และก่อนครีมค่ะ