รีวิว Basic Cream สายมินิมอล : Simple Regeneration Age Resisting Night Cream

เกี่ยวกับ SIMPLE BRAND …

     เห็นหน้าคร่าตากันมาสักพักใหญ่ๆ แล้วกับแบรนด์ SIMPLE ที่นำเข้ามาขายในประเทศไทยในร้าน Watsons ต้นกำเนิดของแบรนด์อยู่ที่ประเทศอังกฤษ ใช้คอนเซปต์ที่เน้นความเรียบง่ายตามชื่อ รวมถึงหน้าตาแพคเกจจิ้งที่มีความมินิมอล (#น้อยแต่มากเรียบแต่โก้ไฮแฟชั่น) 555 ราคาน่ารักกรุปกริป ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เน้นการดูแลผิวขั้นพื้นฐานเป็นสำคัญ อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว ปราศจากสีและน้ำหอมที่เสี่ยงต่อการแพ้ทุกประการ

     ผลิตภัณฑ์ที่หยิบมาเขียนในวันนี้ มีชื่อว่า Simple Regeneration Age Resisting Night Cream (50 ml / เราพรีออเดอร์มา 3xx บาท) ที่เลือกหยิบครีมตัวนี้มาเขียน เพราะเราเชื่อในขั้นตอนพื้นฐานของการดูแลผิวให้มีความชุ่มชื้นที่เพียงพอ เพราะนั่นเป็นสัญญาณของผิวที่มีสุขภาพดี ซึ่งครีมตัวนี้นางตอบโจทย์อยู่นะ ด้วยสารประกอบที่เรียบง่าย ไม่ได้เล่นท่ายากใส่สารสกัดที่เสี่ยงต่อการระคายเคืองแต่อย่างใด แต่ประโคมสารสำคัญพื้นฐานมาหลากหลาย และยังเป็นการ combination ที่ช่วยเสริมชั้นผิว และปกป้องผิวเสียจาก UV ได้เป็นอย่างดี ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคนชนิดอุดตัน ไม่มีน้ำหอม ไม่ใส่สี ผิวเป็นสิว แพ้ง่าย หน้าแห้ง หน้ามัน ก็สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว

     คำเครมจากแบรนด์ : “รีเจนเนอเรชั่นไนท์ครีมประกอบด้วยส่วนผสมพิเศษที่จะช่วยฟื้นฟูผิวของคุณในชั่วข้ามคืนด้วยส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวแม้ผิวบอบบาง ประกอบด้วย Pro-Vitamin B5, วิตามิน E, สารสกัดจากเห็ด, สารสกัดจากข้าวโอ๊ตเบต้ากลูแคน, คาโมมายล์, แปะก๊วย Biloba, Borage Seed Oil, Shea Butter และ Green Tea Extract ปรับสภาพผิวให้อ่อนนุ่มและสีผิวและช่วยในการต่อสู้กับสัญญาณของริ้วรอยก่อนวัย”

INGREDIENTS : Aqua, Glycerin, Butylene Glycol, Cetearyl Isononanoate, Polyglyceryl-3 Methylglucose Distearate, Fomes Officinalis Extract, Isohexadecane, Cetyl Palmitate, Butyrospermum Parkii, Panthenol, Borago Officinalis Seed Oil, Camellia Sinensis Leaf Extract, Ginkgo Biloba Leaf Extract, Tocopheryl Acetate, Avena Sativa Kernel Extract, Anthemis Nobilis Flower Oil, Propylene glycol, Allantoin, Retinyl Palmitate, Glucose, Pantolactone, Sodium Hyaluronate, Stearyl Alcohol, Dipropylene Glycol, Sodium hydroxide, Lactic acid, Carbomer, Disodium EDTA, Methylparaben, Phenoxyethanol, 2-Bromo-2-Nitropropane-1,3-Diol, Sodium benzoate, Potassium sorbate, Sorbic acid, Chlorphenesin, Tocopherol

วิเคราะห์ส่วนผสมเบื้องต้น ... 

• Fomes Officinalis Extract : สารสกัดจากเห็ด นางมาอันดับต้นๆ เลยนะ อิทธิฤทธิ์ของนางที่นอกเหนือไปจากให้ความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์ผิว พร้อมกระชับรูขุมขนให้เล็กและละเอียดขึ้นได้อีกด้วย
• Panthenol : หรือรู้จักอีกชื่อคือ วิตามินบี 5 นั่นเอง สารตัวนี้ก็จะเน้นเรื่องกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว นอกจากนั้นนางยังมีอานุภาพในการบรรเทาอาการคัน จากการแพ้ ลดรอยแดง ช่วยสมานแผลและเร่งการสร้างเนื้อเยื่อชั้นผิวใหม่ ลดการอักเสบของผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ ผิวที่เป็นสิว เป็นแผล เป็นผื่นคัน มีอาการแพ้ ... อะไรจะครอบจักรวาลขนาดนี้ 
• Borago Officinalis Seed Oil : น้ำมันที่มาจากเมล็ดของต้นโบราจ ช่วยทำให้ผิวเปล่งปลั่งและมีสุขภาพดี
• Camellia Sinensis Leaf Extract : ศัพท์ทางการอาจจะยากไป ซึ่งจริงๆ แล้วนางคือ Green Tea หรือใบชาเขียวนั่นเอง โดดเด่นเรื่องการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยบำรุงผิว ป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น รอยด่างดำบนใบหน้า ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดการอักเสบของผิวหนัง
• Ginkgo Biloba Leaf Extract : ชื่อคุ้นๆ ม่ะ ... อายุสัก 30 ขึ้นไปต้องรู้แน่ๆ สารสกัดจากใบแปะก๊วยไงหล่ะ ในทางสกินแคร์นางช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและกระชับผิวหน้า กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูมีเลือดฝาดและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่สึกหรอให้กลับมาแข็งแรง ช่วยบำรุงผิวให้ขาวใส
  • ปล. ข้อมูลจากเพจมาดามเกรียน บอกเอาไว้ว่าสารสกัดจาก Gingko + Green tea เมื่อนำมา combination กันแล้วพบว่า ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น และลดผลเสียของ UV ที่ชั้นผิว (ใครยังไม่รู้จักเพจนี้ เราแนะนำเลยนะ รับรองได้เลยว่าพวกหล่อนจะตั้งใจทำงานเก็บเงินมาซื้อครีมตามมาดามจนหมดตัว 555)
• Tocopheryl Acetate : พอเป็นชื่อทางการค้านี่ไม่รู้เลยคืออะไร แต่พอนั่งหาข้อมูล ถึงบางอ้อ...สารตัวนี้คืออนุพันธ์ของวิตามิน E นั่นเอง สามารถเร่งการสร้าง enzyme ในผิว ปกป้องอนุมูลอิสระ และเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้
• Avena Sativa Kernel Extract : สารสกัดจากข้าวโอ๊ตนั่นเอง ช่วยบำรุงให้ผิวให้แข็งแรง ลดการแพ้ การระคายเคือง มีคุณประโยชน์คล้าย beta glucan ที่ได้จากข้าวโอ๊ต
• Anthemis Nobilis Flower Oil : สารสกัดจากดอกคาโมไมล์ ช่วยในการฟื้นฟูผิว ให้ผิวผ่อนคลาย สดชื่น สบายผิว
• Allantoin : เป็นสารสกัดที่ได้จากราก และใบของพืชที่ชื่อว่า Comfrey (Symphytum officinale) สารตัวนี้คุณสมบัติหลักๆ ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีนางเก่งในเรื่องปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคืองผิว หลังถูกสารเคมี และแสงแดด
• Retinyl Palmitate : นางคือวิตามิน A นั่นเอง มีประสิทธิภาพในการเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดริ้วรอย ลดสิว
• Sodium Hyaluronate : ไม่ต้องพูดเยอะเนอะ ใครก็รู้จัก ผิวชุ่มชื้น ผิวนุ่มฟูอิ่มน้ำ ลดเลือนริ้วรอย สุขภาพผิวแข็งแรงก็ต้องยกให้เค้าแหละ
  • จากข้อมูลเพจมาดามเกรียน ขุ่นแม่บอกไว้ว่า “ครีมตัวนี้มีน้ำมันที่ดีอย่าง Borage Oil + Fomes officinalis + Vit B5 + Vit E + Vit A + Oatmeal ที่ช่วยในเรื่องลดอักเสบ ระคายเคือง ลดความเสื่อมของตำรับ พร้อมมีส่วนผสมช่วยตรึงน้ำให้ผิว”

การนำไปใช้งานจริง ...

• แพคเกจจิ้งของขวดครีมเป็นขวดปั๊มสุญญากาศ ตอบโจทย์เรื่องการรักษาคุณภาพของครีมและความสะอาดในการใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราชอบขวดแบบนี้มากๆ เนื้อครีมที่ออกมา 1 ปั๊มก็เพียงพอต่อการใช้งาน 1 ครั้ง (แต่ถ้าหน้าบานเป็นจานดาวเทียมก็ 2 ปั๊มไปเลยค่ะพี่ชาย) 
• เนื้อครีมมีสีขาวนวลละมุนตา ไม่มีกลิ่นของน้ำหอม ตอนแรกคิดว่าเนื้อจะหนัก แต่เอาเข้าจริง นางเกลี่ยง่ายมาก กระจายตัวและซึมเข้าสู่ผิวได้ดี ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะบนผิว รู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้นของผิวทันที ผิวมันอย่างเราให้ใจไปเต็มๆ
• เราใช้นางเป็นขั้นตอนสุดท้าย หมดไป 1 ขวด ผลลัพธ์ที่สังเกตได้ชัดเจนสุดคือในช่วงเช้าหลังตื่นนอน ผิวหน้าแลดูได้รับการบำรุงอยู่นะ หน้านุ่ม ชุ่มชื้นดี ไม่มันวาว แอบได้ยินรูขุมขนส่งเสียงบอกว่า “ชั้นอิ่มจากการกินครีมมาทั้งคืน 555” รูเลยดูกระชับ (แบบไม่ถาวรนะย๊ะ) หลอกให้เรามโนว่าหน้าชั้นไร้รูขุนขน ถึงเธอจะหลอกให้ดีใจแป๊ปๆ ชั้นก็ยอมนะ 555
• สำหรับเรื่องการอุดตัน หรือก่อให้เกิดสิวใหม่ เราให้ผ่านเลยนะ ไม่รบกวนผิวเลย รับมงให้เลยค่ะ

สรุปความคุ้มค่า ... 

• บอกตรงๆ การใช้สกินแคร์ที่ไม่ได้ใช้สารสกัดหวือหวาแบบนี้ มันคือการใช้แบบต่อเนื่อง รักษาสภาพผิวแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือให้สภาพมันคงที่ไม่แย่ไปกว่านี้ แต่ด้วยราคา ปริมาณ แพคเกจจิ้ง และการหวังผล เราว่านางตอบโจทย์ และคุ้มค่าแก่การลงทุนมากๆ 
• ข้อพิจารณา คือนางไม่มีขายในประเทศไทย ต้องพรีออเดอร์เอา ราคาค่าตัวก็อาจจะผกผันบ้าง แต่เท่าที่ลองเสริชดู ส่วนใหญ่ไม่เกิน 500 บาทนะ ก็ยังถือว่าคุ้มค่าอยู่ดี
• ไม่อยากฟาดคะแนนเลย แต่ถ้าต้องให้จริงๆ ขอฟาดไปเลย 9 เต็ม 10 คะแนน เจ้าค่ะ (ขอหักไว้ 1 คะแนนที่นางหาซื้อไม่ได้ในประเทศ)