Clinique iD มอยส์เจอร์ไรเซอร์ยุคใหม่ ที่ให้คุณ Customize ได้มากถึง 15 แบบ!! จากกิจกรรม Jeban x Clinique

61 17
PARTNERS IN BEAUTY
บูมเชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอปัญหาเวลาไปเลือกซื้อมอยส์เจอร์ไรเซอร์ แล้วมันจะต้องมีบางอย่างที่ไม่ตอบโจทย์ผิวของคุณแบบ 100% ถ้าเป็นจิ๊กซอร์ก็เรียกว่าไม่ใช่ "Perfect Match" นั่นหละครับ แต่ล่าสุดบูมมีโอกาสได้ไปร่วมกิจกรรมกับทาง CLINIQUE และทาง Jeban ซึ่งเค้าได้นำเสนอมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวล่าสุด ที่สามารถ Customize ได้ถึง 15 แบบ

ซึ่งบูมก็ได้รับ Clinique iD™: Dramatically Different™ Hydrating Jelly + Clinique iD Active Cartridge Concentrate - Fatigue(บูสเตอร์สีส้ม) มาทดลองใช้ ต้องบอกว่านี่เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ Think Out of the Box และน่าจับตามองเป็นอย่างมากเลยหละฮะ เพราะนอกจากคุณจะได้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับความต้องการของคุณแล้ว ยังเลือกบูสเตอร์ที่ช่วยดูแลปัญหาผิวที่กังวลได้อีกด้วย เรียกว่าทาครั้งเดียวได้ 2 เด้งเลยหละฮะ เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักกับ Clinique iD™ กันเลยดีกว่าครับ

คำเคลม

Clinique iD™ : มอยส์เจอร์ไรเซอร์นวัตกรรมใหม่ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในทุกครั้งที่ใช้ ด้วยนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ ทำให้ปริมาณของส่วนผสมที่ออกมาแต่ละครั้งมีความแม่นยำในการผสมมอยส์เจอไรเซอร์ 90% และสารบำรุงผิวเข้มข้น 10% เป็นสัดส่วนที่ทรงประสิทธิภาพในการมอบความชุ่มชื้นและแก้ปัญหาผิวที่คุณกังวลอย่างมีประสิทธิภาพ


เนื้อสัมผัส / กลิ่น / ความรู้สึกขณะทา / บรรจุภัณฑ์

  • เนื้อสัมผัส : ด้วยเบสที่บูมเลือกมาคือ Dramatically Different™ Hydrating Jelly จึงให้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว และไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว
  • กลิ่น : เรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Clinique เลยก็ว่าได้ เพราะ Skincare เค้าไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม จึงช่วยลดโอกาสการแพ้ ระคายเคืองไปได้เยอะเลยหละฮะ
  • ความรู้สึกขณะทา : ให้ความรู้สึกชุ่มชื้น ผิวดูอิ่มน้ำกำลังดี เกลี่ยค่อนข้างง่าย และไม่ทำให้เกิดการ Ball-up(เป็นขุย) เมื่อทาผลิตภัณฑ์ตัวอื่นต่อ
  • บรรจุภัณฑ์ : เป็นอีกจุดที่บูมว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยหละ ด้วยความที่เค้าออกแบบให้บรรจุภัณฑ์ส่วนที่เป็นเบสมอยส์เจอร์ไรเซอร์ แยกกับบรรจุภัณฑ์ที่เป็นบูสเตอร์ ทำให้สารสกัดต่างๆ ในตัวบูสเตอร์ยังคงประสิทธิภาพได้อย่างยาวนาน และไม่ถูกลดทอนประสิทธิภาพลงไปฮะ

ส่วนผสมที่น่าสนใจ

Dramatically Different™ Hydrating Jelly

  • Cucumis Sativus Fruit Extract : สารสกัดจากแตงกวา มีฤทธิ์ให้ผิวนุ่ม (softening) ลดการระคายเคือง (soothing) เหมาะกับผิวหน้าและผิวรอบดวงตา
  • Hypnea Musciformis (Algae) Extract : สารสกัดจากสาหร่ายสีแดง ซึ่งมีประโยชน์ตั้งแต่ให้ความชุ่มชื้น ต้านจุลชีพ ไปจนถึงต้านกระบวนการไกลเคชั่นของโปรตีน (แต่ในที่นี้คงใส่มาเพื่อความชุ่มชื้นเป็นหลัก)
  • Gelidiella Acerosa Extract : สารสกัดจากสาหร่ายเป็นสารก่อเจล ซึ่งมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น และต้านอนุมูลอิสระได้
  • Hordeum Vulgare (Barley) Extract/Extrait D’Orge : คือสารสกัดที่ได้จากต้นอ่อนของข้าวบาร์เลย์ ซึ่งแทางผู้ผลิตเคลมว่าอุดมไปด้วยสารกลุ่ม Polyphenol มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้คอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินมีความคงตัว และช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
นอกจากนี้ยังมีสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอีกหลายชนิด เช่น Sodium Hyaluronate, Hydroxyethyl Urea และ Sorbitol ซึ่งเรียกว่าแต่ละตัวก็มีกลไกลการทำงานที่แตกต่าง และเสริมการทำงานของกันและกันอย่างลงตัวทีเดียวหละฮะ


Clinique iD Active Cartridge Concentrate - Fatigue(บูสเตอร์สีส้ม) 

  • Taurine : เป็นกรดอะมิโนซัลโฟนิก (amino sulfonic acid) ที่มักเรียกกันสั้นๆ ว่า “กรดอะมิโน” และเป็นสารเคมีที่เป็นหน่วยโครงสร้างของโปรตีนตัวหนึ่ง ที่ทางแบรนด์เคลมว่า ช่วยกระตุ้นผิว และช่วยฟื้นคืนความเปล่งประกายให้ผิว
  • Glycolic Acid : กรดไกลโคลิกจากธรรมชาติ สกัดจากอ้อย มีฤทธิ์ในการเร่งการผลัดเซลล์ผิว (chemical peel/exfoliation) ด้วยโมเลกุลขนาดจึงสามารถซึมสู่ผิวได้ดีกว่ากรด AHA ชนิดอื่นๆ เช่น Lactic acid จึงสามารถผลัดเซลล์ผิวได้ดีกว่า
  • Adenosine Phosphate : ช่วยให้ผิวผ่อนคลายและฟื้นฟูผิว บางครั้งเราเรียกส่วนผสมนี้ว่าอะดีโนซีนโมโนฟอสเฟต (Adenosine monophosphate) หรือเอเอ็มพี (AMP) โดยเมื่อทาลงบนผิวเป็นประจำ เอเอ็มพีจะช่วยสร้างเส้นทางผ่านผิวหนัง (pathway) ที่ช่วยในการส่งผ่านพลังงาน ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวหนังกลับมาสดชื่นเปล่งปลังอีกครั้ง
  • Albizia Juribbisin bark extract : ถ้าเราหาข้อมูลมาไม่ผิด คาดว่าน่าจะเป็นสารสกัดที่ได้จากเป็นพืชที่พบได้บนเทือกเขา Himalayas มีดอกสีชมพูหรือที่รู้จักในชื่อ "Persian Silk Tree" มีสรรพคุณช่วยลดการฟกช้ำของผิวหนัง มีฤทธิ์ช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย แถมยังเป็นสาร Anti-oxidant ทีดีตัวนึงเลยหละ
  • Lactobacillus Ferment : คือชื่อของจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งที่เรารู้จักดีในนมเปรี้ยวนั่นเองฮะ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Bio-Fense ซึ่งทางผู้ผลิตเคลมว่าเป็นสารละลายของ lactobacillus ที่ประกอบไปด้วย Peptidoglycan (PTG) และ Lipotechoic Acid (LTA) ซึ่งเจ้า PTG + LTA นี้เองเองที่เป็น Pre-biotic ซึ่งจะกระทำให้เกิดการปล่อยสาร NF-kB ผลลัพธ์ท้ายที่สุดคือจะทำให้ แบคทีเรียที่ไม่ดีกับผิวถูกขจัดออกไปนั่นเองขอรับ

ผลลัพธ์

บูมได้ลองใช้ Clinique iD™ ต่อเนื่องมาประมาณ 7 วัน โดยหยุดใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวอื่นทั้งหมด เพื่อทดสอบประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ ต้องบอกก่อนว่าในช่วงที่บูมทดลองเจ้า Clinique iD™ นั้นบูมทำงานค่อนข้างหนักหน่วง และนอนดึกกว่าปกติ ทำให้สภาพผิวโดยรวมหมองคล้ำ ดูไม่สดใส พูดไปก็คงไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่าไปชมภาพ Before - After กันเลยดีกว่าครับ
จะเห็นในภาพ Before ว่าผิวบูมหมองคล้ำซึ่งเกิดจากการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ รวมถึงการไหลเวียนของเลือดที่ไม่ดี ซึ่งหลังใช้ Clinique iD™ มาประมาณ 1 สัปดาห์ ร่วมกับการพยายามปรับ Life Style ให้กลับสู่โหมดปกติ ผลปรากฏว่าผิวโดยรวมสดใส และเปล่งปลั่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งถือว่าทำได้อย่าที่เคลมเอาไว้จริง ในจุดนี้เราค่อนข้างแฮปปี้เลยหละ

แต่จะมีในเรื่องของความชุ่มชื้นที่บางแอเรียอาจจะยังไม่เพียงพอ ซึ่งเกิดจาก Background ผิวของบูมเป็นผิวผสม-มัน ทำให้เจ้า Dramatically Different™ Hydrating Jelly ให้ความชุ่มชื้นไม่เพียงพอในบริเวณ U-Zone ที่มีความแห้งกว่าบริเวณอื่นฮะ

สรุป

หากถามว่า Clinique iD™ เหมาะกับใคร บูมคิดว่าน่าจะเหมาะกับคนที่ต้องการมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่ให้ผลลัพธ์มากกว่าในแง่ของความชุ่มชื้น และรู้จักสภาพผิว รวมถึงปัญหาผิวของตัวเองเป็นอย่างดี แต่หากยังไม่แน่ใจทางเค้าเตอร์ Clinique เค้ามีให้บริการในการ Scan ผิวด้วยเทคโนโลยีทีเรียกว่า Clinique Clinical Reality ซึ่งจะช่วยวิเคราะห์ปัญหาผิว พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ Match กับแต่ละท่านมากที่สุด
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะ Skip ขั้นตอนการลง Serum ไปเลยนะครับ เพราะถึงแม้เค้าจะมีส่วนที่เป็นบูสเตอร์แต่สุดท้ายแล้วเจ้า Clinique iD™ ก็ยังเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์อยู่นั่นเองฮะ ความเข้มข้นของบูสเตอร์ของ Ingredients นั้นยังไม่สามารถเทียบเท่ากับความเข้มข้นที่ใส่มาใน Serum อย่าง Clinique Fresh Pressed Clinical™ Daily and Overnight Boosters With Pure Vitamins C 10% + A (Retinol) ได้อยู่ดีฮะ
เอาเป็นว่าใครที่สนใจก็ลองเข้าไปสอบถาม ไปลองเล่นที่เค้าเตอร์ Clinique ดูนะครับ บูมเชื่อว่า Clinique iD™ จะเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนึงที่วางบนโต๊ะเครื่องแป้งของเพื่อนๆ ไปอีกยาวนานอย่างแน่นอนเลยหละฮะ 

หากบทความนี้มีข้อผิดพลาดประการใด บูมก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ บทความหน้าบูมจะมารีวิวผลิตภัณฑ์อะไร อย่างลืมติดตามกันทาง Facebook, Fanpage, Instagram และ Youtube เน้อ สำหรับวันนี้เท่านี้ค๊าบ แล้วไว้เจอกันใหม่บทความหน้า บับบาย...



Wanviset

Wanviset

✨ สวัสดีฮะ ชื่อบูม นะครับ ✨
สกินแคร์คือหนึ่งในความสุขเล็กๆ ของเราและด้วยความอยากรู้อยากลอง ชอบแชร์ทำให้เราลองเขียนบล็อกเล็กๆ ขึ้นมาฝากเพื่อนๆ ติดตามผลงานของเราด้วยน้า

FULL PROFILE