[worth every penny] มาสคาร่าที่ควักใช้จนหมดแล้วซื้อซ้ำๆวนไป
King of Eugenie 53 18ฮายยยยซิสสสส เสียงคุ้นๆกลับมาอีกแล้วฮะ ฮ๊ายยย 555
คิสไม่ได้มาอัพอะไรในบ้านจีบันเลยนานมากๆ นานจนคิดว่าหายไปปีนึงน่าจะได้
ซึ่งเป็นปีที่พลิกชีวิตคิสมากๆ ไม่เคยเหนื่อยอะไรเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต
เรียกว่าแทบจะต้องทิ้งเครื่องสำอางที่มีทั้งหมดให้นอนอับเฉาตายซากคาบ้าน
ปรกติคิสมักจะใช้อะไรไม่หมด คือต้องทิ้งขยะก่อนจะหมด
แต่...มีสิ่งนึงที่คิสใช้หมดทุกหยดจริงๆ ควักได้ควัก
ซึ่งก็จั่วหัวไปละว่ามันก็คือมาสคาร่า ซึ่งอายุการใช้งานสั้นขาดใจ
ถ้าคิสจำไม่ผิด 3 หรือ 6 เดือนนี่ละควรจะเปลี่ยนมาสคาร่าได้แล้ว
แต่คิสมักจะใช้หมดก่อนอายุมันทุกทีไป เพราะใช้ทุกๆวัน ขาดไม่ได้
แล้วที่มันแห้งไว หมดไว เพราะคิสใช้เวลาปัดขนตานานมากกกกกก
เรียกว่าเปิดข่าวดูไป ปัดไป ภรรเมียพี่เสกออกมาให้ข่าวจนครบทุกบ้าน จนถึงมือพี่เสือวนไปวนมายังปัดไม่เสร็จเลย
ถ้าวันไหนที่คิสรีบมากจริงๆ คิสก็จะไปปัดที่ทำงาน คือมีติดไว้อีกหนึ่งชุดเผื่อฉุกเฉิน ขนตาขาดไปหัวใจจะโคม่า ขนตาไม่มาแขนขาอ่อนแรงว่างั้น
^
^
^
จากรูปก็ขอให้ข้ามๆฟันและเหล็กงัดฟันคิสไปก่อนนะฮะ มันกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง 55
จะเห็นได้ว่า....ขนตามีผลต่อคิสเป็นอันมาก ถ้าไม่ปัดคือหน้าจะไม่มีความหวานใดๆเจือปน
เอาละ เข้าเรื่องซะที มาๆ มาม๊ะ
1. CANMAKE, quick lash curler, made in Japan, 2xx thb
มาสคาร่าเบส หัวเป็นซี่ๆแบบหวีที่มีให้เลือกทั้งแบบใสและแบบสีดำ
สำหรับมือใหม่ และคนที่ชอบปัดมาสคาร่าหลายๆแท่ง แนะนำตัว clear เจลใสๆ หรือถ้าเป็็นคนที่มีขนตาฟูอยู่แล้ว แค่อยากจะ freeze ให้มันอยู่ทรงแบบปาดจารบีก็ต้องตัวนี้เลย
คิสแนะนำเพื่อนเกือบทุกคนที่มองหามาสคาร่าดีๆ หรือใครที่ทักคิสว่าติดขนตาปลอมรึป่าว คิสก็จะแนะนำตัวนี้ตลอด เพราะมันช่วยได้ดีมากกกก ไม่แปลกใจเลยที่มง cosme ลงได้ซ้ำๆอย่างต่อเนื่อง
แต่!! ก็มีหลายคนเหมือนกันที่ซื้อไปแล้วด่าบุพการีคิสในฐานะที่ทำให้ต้องเสียทรัพย์และไม่บังเกิดผลดีต่อชีวิต ประหนึ่ง NPL ของประเทศชาติ
ซึ่งคิสก็ไม่รู้จะแนะนำทริคยังไงเหมือนกันว่าใช้แบบไหนให้มันดีแบบที่คิสใช้ เอาว่าถ้าซื้อมาแล้วใช้ดี คิสก็อนุโมทนาด้วย แต่ถ้าไม่ดีขึ้นมาก็อโหสิกรรมให้คิสละกันนย้าาาา 55555
ตัวนี้ถึงแม้คิสจะซื้อซ้ำๆมาไม่รู้แท่งที่เท่าไหร่แล้ว คือเกิน 10 แน่ๆ แต่ไม่รู้เท่าไหร่แน่ ก็จำราคาเต็มไม่เคยได้ จำได้แต่ 200 นิดๆ เพราะหยิบกี่ครั้งก็ไม่เคยดูราคา มันต้องซื้ออยู่แล้ว และตัวไหนๆก็แทนมันไม่ได้ Canmake ผ่านมาก็ฝากเนื้อฝากตัวเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยค่ะ หนูไม่สวย แต่หนูแปลกและแก่มาก ถถถถถ
ปล.สีดำนี่ใช้งานยากพอสมควร แต่ถ้าปัดจนเข้ามือแล้วก็ทำให้อยากมีทั้ง 2 สีนั่นละ
ข้อเสีย ต้องใช้ remover ล้างออก แต่ไม่ได้ล้างยากขนาดนั้น, หมดไว และไม่เคยบอกเลยว่ามันปริมาณเท่าไหร่ ไม่แน่ใจว่าความลับของลูกสาวโชกุนหรือไร ทำไมต้องปกปิดกัน บอกหน่อย อยากรู้จริงๆนะ
ข้อเสียต่ออีกหน่อย ก็แพคเกจง่อย แถมชวนสับสนเป็นที่สุด ทั้งแบบใสและสีดำ ดันใช้แพคเกจเหมือนกัน ความต่างเหมือนต้องเพ่งมองอินายซ้องปี๊บกะอิแม่กาสะลอง ดูยาก แต่ซื้อผิดครั้งนึงก็จำได้ละ 555 ยังไงก็ขอให้ได้ตามยถากรรมค่ะ
^
^
จากรูปก็ขอให้ข้ามๆฟันและเหล็กงัดฟันคิสไปก่อนนะฮะ มันกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง 55
จะเห็นได้ว่า....ขนตามีผลต่อคิสเป็นอันมาก ถ้าไม่ปัดคือหน้าจะไม่มีความหวานใดๆเจือปน
เอาละ เข้าเรื่องซะที มาๆ มาม๊ะ
1. CANMAKE, quick lash curler, made in Japan, 2xx thb
มาสคาร่าเบส หัวเป็นซี่ๆแบบหวีที่มีให้เลือกทั้งแบบใสและแบบสีดำ
สำหรับมือใหม่ และคนที่ชอบปัดมาสคาร่าหลายๆแท่ง แนะนำตัว clear เจลใสๆ หรือถ้าเป็็นคนที่มีขนตาฟูอยู่แล้ว แค่อยากจะ freeze ให้มันอยู่ทรงแบบปาดจารบีก็ต้องตัวนี้เลย
คิสแนะนำเพื่อนเกือบทุกคนที่มองหามาสคาร่าดีๆ หรือใครที่ทักคิสว่าติดขนตาปลอมรึป่าว คิสก็จะแนะนำตัวนี้ตลอด เพราะมันช่วยได้ดีมากกกก ไม่แปลกใจเลยที่มง cosme ลงได้ซ้ำๆอย่างต่อเนื่อง
แต่!! ก็มีหลายคนเหมือนกันที่ซื้อไปแล้วด่าบุพการีคิสในฐานะที่ทำให้ต้องเสียทรัพย์และไม่บังเกิดผลดีต่อชีวิต ประหนึ่ง NPL ของประเทศชาติ
ซึ่งคิสก็ไม่รู้จะแนะนำทริคยังไงเหมือนกันว่าใช้แบบไหนให้มันดีแบบที่คิสใช้ เอาว่าถ้าซื้อมาแล้วใช้ดี คิสก็อนุโมทนาด้วย แต่ถ้าไม่ดีขึ้นมาก็อโหสิกรรมให้คิสละกันนย้าาาา 55555
ตัวนี้ถึงแม้คิสจะซื้อซ้ำๆมาไม่รู้แท่งที่เท่าไหร่แล้ว คือเกิน 10 แน่ๆ แต่ไม่รู้เท่าไหร่แน่ ก็จำราคาเต็มไม่เคยได้ จำได้แต่ 200 นิดๆ เพราะหยิบกี่ครั้งก็ไม่เคยดูราคา มันต้องซื้ออยู่แล้ว และตัวไหนๆก็แทนมันไม่ได้ Canmake ผ่านมาก็ฝากเนื้อฝากตัวเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยค่ะ หนูไม่สวย แต่หนูแปลกและแก่มาก ถถถถถ
ปล.สีดำนี่ใช้งานยากพอสมควร แต่ถ้าปัดจนเข้ามือแล้วก็ทำให้อยากมีทั้ง 2 สีนั่นละ
ข้อเสีย ต้องใช้ remover ล้างออก แต่ไม่ได้ล้างยากขนาดนั้น, หมดไว และไม่เคยบอกเลยว่ามันปริมาณเท่าไหร่ ไม่แน่ใจว่าความลับของลูกสาวโชกุนหรือไร ทำไมต้องปกปิดกัน บอกหน่อย อยากรู้จริงๆนะ
ข้อเสียต่ออีกหน่อย ก็แพคเกจง่อย แถมชวนสับสนเป็นที่สุด ทั้งแบบใสและสีดำ ดันใช้แพคเกจเหมือนกัน ความต่างเหมือนต้องเพ่งมองอินายซ้องปี๊บกะอิแม่กาสะลอง ดูยาก แต่ซื้อผิดครั้งนึงก็จำได้ละ 555 ยังไงก็ขอให้ได้ตามยถากรรมค่ะ
2. L'OREAL, Lash Paradise (Waterproof), 3xx thb
มาสคาร่าเบิกเนตรจากลอรีอัล คุณค่าที่ข้อยและคุณคู่ควร
อันนี้เรียกว่าไอเท็มที่เกิดมาเพื่อฆ่ามาสคาร่าระดับไฮเอนท์ และดีจนเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวจีบันมาแล้วจากกิจกรรมที่บ้านหลังนี้เคยจัดขึ้นให้สาวๆได้ทดลองใช้และมรีวิวกันเป็นที่เอิกเริก(สะกดยากเกิ๊นนน)
ซึ่งคิสก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีในนั้นด้วยเหมือนกัน เปิดกล่องมา เอ๊าาาา เพิ่งจะซื้อมาใช้เอง จีบันก็กรุณามาให้อีกแท่ง ณ จุดนี้ก็แท่งที่ 4 ไปแล้วจ้า ดีขนาดไหนละ
คิสเคยทำรีวิวแบบจัดหนักจัดเต็มไปแล้ว ไว้พรุ่งนี้เช้าตื่นมายังมีสติจะไปรื้อมาแปะ
ข้อดีของตัวนี้คือ ขนตาฟู๊ววววววเป็นเอฟโฟรวเลยค่ะ ฟูเหมือนติดขนตาปลอมเลยถ้าได้ที่ดัดขนตาคู่บารมีมาส่งเสริมกัน
(ซึ่งก็เคยคิดว่าวันนึงจะมาเปิดกรุที่ดัดขนตาตัวเองที่มีอีกมากมาย ติดไว้ก่อนนะ)
ชอบความหนาแน่น ประหนึ่งมีตัวมิ๊งค์เดินมาคอสเพลย์บนหนังตาเรา
ฟูได้ใจ ปัดได้เรื่อยๆ อะไรที่เคลมมาก็ได้ตามนั้น อวทม. ไม่มีอะไรจะติ ราคาก็สุดแสนจะยุติธรรม
ข้อเสีย หัวแปรงใหญ่มาก ใหญ่จนคิดว่าถ้าล้างๆเอาไปอบฆ่าเชื้อสักหน่อยก็เอาไปล้างขวดนมเด็กได้ คือใหญ่เกิน คุณพระคุณเจ้า มันจำเป็นต้องใหญ่กันขนาดนี้จริงๆใช่มั๊ย เรียกว่ามือใหม่หัดปัดอาจจะไม่ชินเลยก็ได้
และในบางรีวิวที่เคยอ่านมา บางคนก็ประสบปัญหามีแพนด้า จับมือตีคู่มาปาร์ตี้กับตัวมิ๊งค์ที่บอกไว้ข้างบน แต่อันนี้คิสไม่เป็นนะ อยู่ที่การ pack แป้งใต้ตาด้วย
(ให้ตายสิ อยากจะรีวิวแป้งที่ baking ใต้ตาแล้วไม่ตกร่องขึ้นมาอีกละ ติดไว้ก่อนนะ จำได้แล้วจะวนกลับมาเรื่องนี้ใหม่)
ทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงจะมี bristles ที่หย่ายยยยเกินความจำเป็นอย่างมีนัยสำคัญ แต่คุณงามความดีกลบมิดหมด แล้วคุณดูราคาเค้าสิ บ้าจริง ทำไมไม่แจกงานเทกระจาดปีนี้เลยละ จัดโปรเรื่อยๆ ชั้นจะหยุดซื้อได้ยังไง
มาสคาร่าเบิกเนตรจากลอรีอัล คุณค่าที่ข้อยและคุณคู่ควร
อันนี้เรียกว่าไอเท็มที่เกิดมาเพื่อฆ่ามาสคาร่าระดับไฮเอนท์ และดีจนเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวจีบันมาแล้วจากกิจกรรมที่บ้านหลังนี้เคยจัดขึ้นให้สาวๆได้ทดลองใช้และมรีวิวกันเป็นที่เอิกเริก(สะกดยากเกิ๊นนน)
ซึ่งคิสก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีในนั้นด้วยเหมือนกัน เปิดกล่องมา เอ๊าาาา เพิ่งจะซื้อมาใช้เอง จีบันก็กรุณามาให้อีกแท่ง ณ จุดนี้ก็แท่งที่ 4 ไปแล้วจ้า ดีขนาดไหนละ
คิสเคยทำรีวิวแบบจัดหนักจัดเต็มไปแล้ว ไว้พรุ่งนี้เช้าตื่นมายังมีสติจะไปรื้อมาแปะ
ข้อดีของตัวนี้คือ ขนตาฟู๊ววววววเป็นเอฟโฟรวเลยค่ะ ฟูเหมือนติดขนตาปลอมเลยถ้าได้ที่ดัดขนตาคู่บารมีมาส่งเสริมกัน
(ซึ่งก็เคยคิดว่าวันนึงจะมาเปิดกรุที่ดัดขนตาตัวเองที่มีอีกมากมาย ติดไว้ก่อนนะ)
ชอบความหนาแน่น ประหนึ่งมีตัวมิ๊งค์เดินมาคอสเพลย์บนหนังตาเรา
ฟูได้ใจ ปัดได้เรื่อยๆ อะไรที่เคลมมาก็ได้ตามนั้น อวทม. ไม่มีอะไรจะติ ราคาก็สุดแสนจะยุติธรรม
ข้อเสีย หัวแปรงใหญ่มาก ใหญ่จนคิดว่าถ้าล้างๆเอาไปอบฆ่าเชื้อสักหน่อยก็เอาไปล้างขวดนมเด็กได้ คือใหญ่เกิน คุณพระคุณเจ้า มันจำเป็นต้องใหญ่กันขนาดนี้จริงๆใช่มั๊ย เรียกว่ามือใหม่หัดปัดอาจจะไม่ชินเลยก็ได้
และในบางรีวิวที่เคยอ่านมา บางคนก็ประสบปัญหามีแพนด้า จับมือตีคู่มาปาร์ตี้กับตัวมิ๊งค์ที่บอกไว้ข้างบน แต่อันนี้คิสไม่เป็นนะ อยู่ที่การ pack แป้งใต้ตาด้วย
(ให้ตายสิ อยากจะรีวิวแป้งที่ baking ใต้ตาแล้วไม่ตกร่องขึ้นมาอีกละ ติดไว้ก่อนนะ จำได้แล้วจะวนกลับมาเรื่องนี้ใหม่)
ทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงจะมี bristles ที่หย่ายยยยเกินความจำเป็นอย่างมีนัยสำคัญ แต่คุณงามความดีกลบมิดหมด แล้วคุณดูราคาเค้าสิ บ้าจริง ทำไมไม่แจกงานเทกระจาดปีนี้เลยละ จัดโปรเรื่อยๆ ชั้นจะหยุดซื้อได้ยังไง
โอ๊ยยยย รีวิวบ้าบออะไรของชั้นนนน พิมพ์เยอะเกิน กว่าจะถึงตัวที่ 3 ง่วงแล้ว 5555
3. MAYBELLINE, Total Temptation, Waterproof, 3xx thb
มาสคาร่าที่คิสซื้อมาทิ้งไว้นานมากๆแล้ว และก็ไม่ถึงคิวจะใช้งานสักทีเลยผ่านๆไป
ตอนแรกไม่รู้ว่าสีฟ้า สีชมพูต่างกันยังไง แถมซื้อมาตอนที่พนักงานร้านวสันต์ถามหน้าแคชเชียร์ "แลกซื้อมั๊ยพี่ ตัวนี้ใช้ดีมาก"
น้องว่าดี พี่ก็ว่าดีค่ะ แล้วเดี๋ยวบุ๋มเค้าก็ว่าดีเอง
และเดชะบุญที่คิสได้สีฟ้ามา เป็นสูตรกันน้ำ ซึ่งก็ได้ขอบคุณคุณน้องแคชเชียร์ในใจเป็นที่เรียบร้อยแล้วที่ทำให้คิสเปิดหูเปิดตาในราคาร้อยกว่าบาท แล้วได้งานดีขนาดนี้
สำนึกในใจเลยว่า Maybelline นี่ช่างเป็นเจ้าแม่แห่งวงการมาสคาร่าโดยแท้ (แต่รุ่นไหนที่คนเค้าชอบๆกัน คิสซื้อมาแท่งไหนแท่งนั้น พังหมด แพนด้าบ้าง ขนตาตกบ้าง ที่ใช้แล้วดีคือดีมากๆๆๆ แต่คนไม่ค่อยมารีวิวกัน)
เรื่องความฟูหนา เรียกว่าต้องให้รุ่นพี่ตัวบนเค้าเรียกองค์มา แต่เรื่องความยาว การเรียงตัวเป็นเส้น ไฟเบอร์อะไรก็ต้องยกให้ตัวนี้
ทำงานกันเป็นทีมอะว่างั้นเถอะ จะขาดตำแหน่งใดไปก็เหมือนเตะตะกร้อคนเดียว เกทใช่ปะ มันไม่นัวต่อใจ
ข้อดีและข้อเสียอย่างนึงคือกลิ่นหอม คิสชอบนะ ชอบเลยละ เพราะใช้มาสคาร่าที่มีน้ำหอมมาหลายยี่ห้อแล้วในแบรนด์ระดับเคาทเตอร์ แต่ในดรักสโตร์ก็เพิ่งเคยเจอ โชคดีที่ไม่แพ้ หอมกลิ่นมะพร้าวจนอยากจะไปกระชากประตูร้านขนมไทยหวานดำรงค์กะวุ้นคุณอุ๊ให้ออกมาขายขนมซะดีๆ กลิ่นมันช่างหอมน่ากินอะไรขนาดนั้น
ซึ่งหลายคนก็คงไม่ชอบนะ เดาเอา
ข้อเสียที่ชัดเจนมากๆๆๆ มากจนน่าเกลียดเลยคือแพคเกจค่ะ นี่มันกระบอกข้าวหลามหรือไร ใยเจ้าจึงต้องสิ้นเปลืองเม็ดพลาสติกถึงเพียงนี้
คือเหมาะกับไว้ใช้ดัดแปลงเป็นอาวุธป้องกันตัวยามวิกาล มองไกลๆนึกว่า powerbank ดีไซน์เกร๋ๆ ใหญ่เกินงาม
ส่วน bristles ที่ใหญ่พอๆกับตัวบนนั้น อันนี้กลับปัดได้ง่ายกว่า ซึ่งก็น่าจะเป็นที่ดีไซน์ หรืออะไรสักอย่าง ที่คอนทัวร์ได้เข้าถึงเส้นขนตาได้ง่ายกว่าถึงขนาดจะใหญ่ก็ตาม
วิธีการใช้ที่จะเพิ่มความเป็นสิริมงคลนั้นควรจะปัดแค่ปลายขนตาสไตล์มาสคาร่าไฟเบอร์ ค่อยๆแตะเพิ่มความยาวไปเรื่อยๆ แล้วค่อยดึงส่วนเกินออก
มี flake ระหว่างวันเล็กน้อย น้อยมาก ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีมากๆแล้วค่ะ ราคานี้ยอมใจ
3. MAYBELLINE, Total Temptation, Waterproof, 3xx thb
มาสคาร่าที่คิสซื้อมาทิ้งไว้นานมากๆแล้ว และก็ไม่ถึงคิวจะใช้งานสักทีเลยผ่านๆไป
ตอนแรกไม่รู้ว่าสีฟ้า สีชมพูต่างกันยังไง แถมซื้อมาตอนที่พนักงานร้านวสันต์ถามหน้าแคชเชียร์ "แลกซื้อมั๊ยพี่ ตัวนี้ใช้ดีมาก"
น้องว่าดี พี่ก็ว่าดีค่ะ แล้วเดี๋ยวบุ๋มเค้าก็ว่าดีเอง
และเดชะบุญที่คิสได้สีฟ้ามา เป็นสูตรกันน้ำ ซึ่งก็ได้ขอบคุณคุณน้องแคชเชียร์ในใจเป็นที่เรียบร้อยแล้วที่ทำให้คิสเปิดหูเปิดตาในราคาร้อยกว่าบาท แล้วได้งานดีขนาดนี้
สำนึกในใจเลยว่า Maybelline นี่ช่างเป็นเจ้าแม่แห่งวงการมาสคาร่าโดยแท้ (แต่รุ่นไหนที่คนเค้าชอบๆกัน คิสซื้อมาแท่งไหนแท่งนั้น พังหมด แพนด้าบ้าง ขนตาตกบ้าง ที่ใช้แล้วดีคือดีมากๆๆๆ แต่คนไม่ค่อยมารีวิวกัน)
เรื่องความฟูหนา เรียกว่าต้องให้รุ่นพี่ตัวบนเค้าเรียกองค์มา แต่เรื่องความยาว การเรียงตัวเป็นเส้น ไฟเบอร์อะไรก็ต้องยกให้ตัวนี้
ทำงานกันเป็นทีมอะว่างั้นเถอะ จะขาดตำแหน่งใดไปก็เหมือนเตะตะกร้อคนเดียว เกทใช่ปะ มันไม่นัวต่อใจ
ข้อดีและข้อเสียอย่างนึงคือกลิ่นหอม คิสชอบนะ ชอบเลยละ เพราะใช้มาสคาร่าที่มีน้ำหอมมาหลายยี่ห้อแล้วในแบรนด์ระดับเคาทเตอร์ แต่ในดรักสโตร์ก็เพิ่งเคยเจอ โชคดีที่ไม่แพ้ หอมกลิ่นมะพร้าวจนอยากจะไปกระชากประตูร้านขนมไทยหวานดำรงค์กะวุ้นคุณอุ๊ให้ออกมาขายขนมซะดีๆ กลิ่นมันช่างหอมน่ากินอะไรขนาดนั้น
ซึ่งหลายคนก็คงไม่ชอบนะ เดาเอา
ข้อเสียที่ชัดเจนมากๆๆๆ มากจนน่าเกลียดเลยคือแพคเกจค่ะ นี่มันกระบอกข้าวหลามหรือไร ใยเจ้าจึงต้องสิ้นเปลืองเม็ดพลาสติกถึงเพียงนี้
คือเหมาะกับไว้ใช้ดัดแปลงเป็นอาวุธป้องกันตัวยามวิกาล มองไกลๆนึกว่า powerbank ดีไซน์เกร๋ๆ ใหญ่เกินงาม
ส่วน bristles ที่ใหญ่พอๆกับตัวบนนั้น อันนี้กลับปัดได้ง่ายกว่า ซึ่งก็น่าจะเป็นที่ดีไซน์ หรืออะไรสักอย่าง ที่คอนทัวร์ได้เข้าถึงเส้นขนตาได้ง่ายกว่าถึงขนาดจะใหญ่ก็ตาม
วิธีการใช้ที่จะเพิ่มความเป็นสิริมงคลนั้นควรจะปัดแค่ปลายขนตาสไตล์มาสคาร่าไฟเบอร์ ค่อยๆแตะเพิ่มความยาวไปเรื่อยๆ แล้วค่อยดึงส่วนเกินออก
มี flake ระหว่างวันเล็กน้อย น้อยมาก ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีมากๆแล้วค่ะ ราคานี้ยอมใจ