CLINIQUE LOVERS ภูมิใจนำเสนอม๊อยเจอร์ลูกรักที่สามารถออกแบบได้เอง!

สวัสดีค่ะสาวๆจีบัน มาพบกับน้องน้ำคนดีคนเดิมอีกแล้วน้า <3

วันนี้น้ำจะมาพูดถึง แบรน skincare ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและ เก่าแก่

ซึ่งน้ำบอกตรงๆนะ ว่าน้ำได้ฝากใจและใบหน้ากับแบรนนี้ตั้งแต่สมัยยังเอ๊าะๆ

ไม่พอ คุณแม่น้ำก็ใช้แบรนนี้ พูดเลยว่า ความสวยนี้รุ่นสู่รุ่นกันเลยทีเดียวค่ะ

จริงๆเพื่อนๆก็พอจะเดาได้จากภาพหน้าปกนั่นแหละเนอะ

ว่าจะเป็นแบรนไหนไปไม่ได้นอกจาก CLINIQUE นั่นเองค่าาา *รัวมือ รัวมือ*

เนื่องจากเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ moisturizer ตัวใหม่ของเค้าออกมา

และน้ำก็ได้เป็นหนึ่งในสาวๆ ที่ได้ไปงาน CLINIQUE X JEBAN 

จึงได้รับ moisturizer ตัวใหม่ของเค้ามาลองนั่นก็คือ CLINIQUE ID นั่นเองค่าา

CLINIQUE ID คือ อะไรน๊าาาา

มาค่ะ น้ำจะมาอธิบาย เจ้าตัว CLINIQUE ID เนี่ย เป็นไลน์ moisturizer 

ที่สามารถ customize ได้นั่นเอง คราวนี้ไม่ใช่ครีมเลือกเราแล้วนะคะ

แต่เป็นเราเลือกครีมแทน! เลิศใช่มั้ยล๊าาา

ซึ่งคอนเซ็ปต์ของเค้าเองก็น่าสนใจมาก ๆ CLINIQUE ID เค้าเห็นถึงการที่

สาว ๆ จะมี “ผิวสวยสุขภาพดี” ได้เนี่ยก็ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

ที่แตกต่างกันไป ตามสภาพผิวหน้าและปัญหาผิวของแต่ละคน

 และอีกข้อสำคัญเลยคือ ถ้าเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวของเรา

ตั้งแต่ขั้นตอนแรก จะช่วยให้ผิวแข็งแรง สามารถรับการบำรุงในขั้นตอนต่อ ๆ ไป

ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียกว่าเป็นการสร้างพื้นฐานของผิวสุขภาพดีนั่นเอง 

ซึ่งถ้าวันนี้น้ำจะมารีวิวแค่ตัว clinique ก็จะไม่ใช่ clinique lovers น่ะสิคะ

น้ำเลยนำ น้องๆทั้งหมดที่น้ำใช้แล้วว่าดียยย! 

ของแบรน clinique มาด้วย

ถ้าจะสวย ก็สวยยกไลน์กันไปเล้ยยย

แต่ก่อนที่เราจะไปพูดถึงน้องๆ ตัว CLINIQUE ID นั้น

น้ำขอเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้ไปร่วม work shop กับทาง jeban ก่อนนะคะ

ซึ่งน้ำจะบอกว่า ก่อนจะมาร่วม work shop กับทานจีบัน ก็คือได้ล่วงหน้า

ซื้อเองไปก่อนแล้วสูตรหนึ่ง ซึ่งมันก็ยังไม่ตอบโจทย์ขนาดนั้น

พอได้ไปรวม work shop ตรวจผิวเพื่อค้นหา CLINIQUE ID สูตรที่ใช่

ก็รู้สึกประทับใจมากๆเลยค่ะ และ เลือกสูตรที่ถูกต้องที่สุดกับผิวด้วย

ซึ่งจะบอกว่า เพื่อนๆสามารถไป สแกนเพื่อตรวจสภาพผิวหน้าได้อยู่น้า ที่สาขา พารากอนค่า ไม่ต้องเขินนน เพื่อเลือก CLINIQUE ID สูตรที่ดีที่สุดให้กับผิวหน้าตัวเองน้า

มาเริ่มกันเลยค่ะ

ตอนไปถึงหน้าเคาเตอร์ CLINIQUE ที่สาขา paragon

ก็จะมีน้องๆเรียงรายกันเต็มไปหมดเลยค่ะ

ฟินมาก ให้ลองเล่นเนื้อกันให้สาแก่ใจไปเลยค่ะ 5555 

สีสันสวยไปหมด อยากพาน้องกลับบ้านทุกขวดไปเล้ยย

ซึ่งสาวๆสามารถ เลือกได้ถึง 15 สูตรกันเลยทีเดียวค่ะ

สามารถ ผสม mix and match ได้ตามใจต้องการเลย

แต่สาวๆไม่ต้อง งง น้า เพราะแค่จับคู่ตัว moisturizer และ ตัว booster เท่านั้นค่ะ

มาเริ่มกันที่เลือก ตัวหลัก moisturizer กันก่อน

เค้าจะมีให้เลือกอยู่ 3 เนื้อสัมผัสด้วยกัน

•  Moisturizing Lotion  เนื้อโลชั่น ตัวนี้ตอนเกลี่ยเนื้อจะมีความข้นนิด ๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เหมาะสำหรับผิวแห้งมาก-ผิวผสมค่อนไปทางแห้ง 

• Oil-Free Gel เนื้อเจล ตัวนี้เนื้อบางเบา เกลี่ยแล้วรู้สึกเบาสบายผิวมาก ๆ เลย เป็นสูตรปราศจากน้ำมัน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และปรับสมดุลระหว่างน้ำกับน้ำมันในผิว แน่นอนว่าเหมาะสำหรับผิวมัน-ผิวผสมค่อนไปทางมัน 

• Hydrating Jelly เนื้อเจลลี่ใส ตัวนี้เนื้อบางเบามากกก เกลี่ยแล้วซึมหายเข้ากับผิวไปเลย สบายผิวสุดด ให้ความชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมง มีจุดเด่นตรงที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะด้วยนะ เหมาะกับทุกสภาพผิว 

จากนั้นมาเลือกกันที่ ตัว booster ตัวนี้แหละค่ะ ที่จะไปทำ ปฏิกริยากับใบหน้าของเรา และ แก้ไขปัญหาผิวต่างๆของใบหน้ากันไป

• สีเขียว (Delicate Skin) - สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย ช่วยปรับสมดุลให้ผิวแข็งแรง มอบความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยแก้ปัญหาเรื่องรอยแดงและอาการระคายเคืองด้วย

• สีฟ้า (Pores & Uneven Texture) - สำหรับผิวที่มีรูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน สูตรนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวเนียนละเอียดยิ่งขึ้น

• สีขาว (Uneven Skin Tone) - สำหรับสีผิวไม่สม่ำเสมอ ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำ

• สีส้ม (Fatigue) - สำหรับผิวเหนื่อยล้า ขาดความเปล่งประกาย ช่วยกระตุ้นผิวที่หมอง ดูเหนื่อย ให้กลับมาดูสดใส ผิวดูโกลว์ เปล่งปลั่งยิ่งขึ้น 

• สีม่วง (Lines & Wrinkle) - สำหรับผิวที่มีริ้วรอย และรอยย่น ช่วยเติมเต็มร่องริ้วรอย และฟื้นฟูผิวแห้งกร้านให้กลับมานุ่มเนียน

จากนั้นทางพี่ๆบีเอ เค้าจะแจก passport สำหรับผิวหน้าของเรา

เพื่อให้เราบันทึกข้อมูล และ เลือกสูตรที่ใช่ที่ชอบค่ะ

จากนั้น พี่ๆบีเอก็จะพาเราไป สแกนหน้ากะแอปของทางแบรนเลยค่ะ

ซึ่ง สแกนออกมาได้ เป๊ะเช๊ะมากกก 5555

สีหน้าดูตั้งใจมากเลยใช่มั้ยคะ นักเรียนแถวหน้ามากๆ

ท๊าาาด๊าาาา

เย้ เราได้สูตรที่ใช่สูตรที่ชอบมาแล้วค่ะ

ซึ่งของน้ำเนี่ยได้เป็นสูตร

 Hydrating Jelly เนื้อเจลลี่ใส + booster สีขาว สำหรับสีผิวไม่สม่ำเสมอ 

ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำ

เมื่อโครงการพาน้องกลับบ้านสำเร็จ 

ก็มาเริ่มรีวิวกันเลยค่าา มา!

อย่างที่บอกว่า น้ำได้ซื้อเอง 1 สูตร และ ได้จากทาง กิจกรรม 1 สูตร

น้ำขอรวบรีวิวทั้ง 2 สูตรเลยแล้วกันนะคะ

มาเริ่มกันที่ตัวแรกก่อน

CLINIQUE iD

Dramatically different hydrating jelly + booster สีฟ้า (Pores & Uneven Texture) สำหรับผิวที่มีรูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน สูตรนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวเนียนละเอียดยิ่งขึ้น

ตัวเนื้อสัมผัสจะค่อนข้างเป็นเจลลื่นๆ

พร้อมซึมเข้าไปเลยค่ะ ส่วนตัวบูสเตอร์เข้มข้นจะเป็นสีฟ้าๆ

ซึ่งเวลาบีบออกมา เค้าจะแยกชั้นกัน ต้องเบลนๆ วอร์มๆ กับมือนิสนึงง

แล้วน้องจะเบลนผสมกัน แล้วก็ทาไปที่หน้าได้เลยค่ะ สำหรับน้ำ น้ำใช้วันละ2ปั้มน้า

มาฟังผลลัพธ์การใช้กัน

สำหรับน้ำแล้ว ตัวนี้น้ำใช้เป็น 

" moisturizer ตัวหลัก " ในตอนกลางคืนเลยค่ะ 

skincare order ในการใช้ก็คือ ลงtoner ทา Clinique ID ตัวนี้

แล้วต่อด้วย serum เทพๆสักตัวคือนอนได้ น้ำบอกก่อนนะว่า ส่วนตัวแล้ว

น้ำเป็นคนผิวหน้ามันมาก ตัว moisturizer jelly นี้เลยไปตอบโจทย์ทั้งเรื่อง

ความชุ่มชื้น และ ซึมง่าย ทาวืบหายวาบ แต่ยังคงความชุ่มชื่นให้ผิวของเราอยู่

น้ำชอบตัว moisturizer มากกก ถ้าหมดแล้วคงมีซื้อซ้ำค่ะ

ส่วนตัว booster สีฟ้าที่แบรนเคลมมาว่า ช่วยแก้ปัญหาเรื่อง สำหรับผิวที่มีรูขุมขนกว้าง

 ไม่เรียบเนียน ซึ่งน้ำบอกก่อนเลยว่า เรื่องรูขุมขนนี้ต้องใช้เวลาจริงๆค่ะ

น้ำใช้มาเพิ่งจะเห็นผลตอนประมาณ อาทิตย์ที่ 4 ว่ารูขุมขนกระชับลงนะ

คือ ไปช้าแต่ชัวร์ ซึ่งสาวๆที่มีปัญหาเรื่อง รูขุมขุนกว้าง น้ำว่า ถ้าเลือก booster สูตรนี้

ก็ค่อนข้างตอบโจทย์ และ ช่วยได้อีกทางหนึ่งค่ะ

แต่อยากบอกกันไว้ก่อนว่า ปัญหาเรื่องรูขุมขน และ ความชุ่มชื่น

เปรียบดั่งลิ้นกะฟันบนใบหน้า หน้าเราก็เหมือนฟองน้ำนั่นแหละค่ะ

ถ้าหน้าเราไม่ชุ่มมากพอ รูขุมขนก็จะมาให้กวนใจ แต่ถ้าเราเติมความชุ่มชื้น

ที่หน้ามากพอ หน้าเราก็จะอิ่มฟู กระชับขึ้น นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมเราต้องใช้

moisturizer เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้านั่นเองค่ะ สาวๆ 

มาที่ตัวต่อไป นั่นก็คือ 

CLINIQUE iD สูตรที่ทางแอปพิเคชั่นได้เลือกให้นั่นเองค่ะ  ตื่นเต้นที่จะได้รีวิวมากๆ 

CLINIQUE iD

Dramatically different hydrating jelly + booster สีขาว (Uneven Skin Tone)  สำหรับสีผิวไม่สม่ำเสมอ ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำ

ขอนอกเรื่องเม้ามอยนิสนึงงง จะบอกว่า moisturizer เจลลี่ กับ booster ขาว

น่ารักมากกกกก คือ พอประกอบร่างกัน หน้าตาน้องคือ ลูกคุณหนูมาก 

น่ารักไปวางบนเช้ลฟ์ แล้วฟินสุดๆไปเลยค่ะ

มาดูเนื้อกันดีกว่า จะคล้ายๆตัวข้างบนเลยค่ะ

แต่ว่า ตัว booster จะออกมาเป็นใสๆ แต่แยกชั้นกันนะ

ก็คือเบลนๆผสมกันเหมือนเดิมค่ะ

มาฟังผลลัพธ์การใช้กัน

สำหรับน้ำตัวนี้คือ โดนมากกกกกกกกก

เรื่องความชุ่มชื้นก็คงรู้ว่าน้ำปลาบปลื้มไปกับตัวข้างบนอยู่แล้ว

เพราะมันคือ ม๊อยเจอร์สูตรเดียวกัน แต่สิ่งที่ทำให้น้ำพราวว กับตัวนี้

ก็คือ เค้าปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอในช่วงหน้าผากของน้ำ ให้กลับมาดีเหมือนเดิม

คือ แบบ จะร้องไห้แล้วนะ แล้วไม่ได้เห็นผลนานนะคะ

คือใช้สัก7วัน ผิวก็เริ่มคงที่ กระจ่างใสขึ้น สม่ำเสมอขึ้น

น้ำปลื้มมากกก ตัวนี้เหมาะกับคนที่ มีรอยดำรอยแดง หรือ รอยคล้ำ

จากการทากันแดดไม่ทั่วถึง ไปสอยตัวนี้มาค่ะ แล้วหมั่นทา อย่าให้ขาด!

ผิวจะค่อยๆปรับมาสม่ำเสมอกันเอง น้ำคอนเฟิม!

หมดไปแล้วนะคะกับตัว clinique id moisturizer ทั้งสองตัว

ที่เป็นพระเอกของวันนี้ แต่จะให้จบไปง่ายๆ น้ำก็เสียดาย

ขอนำพระรองทั้งสองตัวมาแนะนำให้เพื่อนๆรู้จักก็แล้วกันค่า

ซึ่งเป็น skincare ของ clinique ทั้งคู่

 และ น้ำได้ใช้อย่างต่อเนื่องมาอย่างนมนาม ไม่พูดถึง เดี๋ยวน้องๆน้อยใจ

ตัวนี้คือ Clinique Clarifying Lotion สูตร3 ขวดชมพูนั่นเองค่ะ

เค้าเป็นโลชั่นเช็ดผิวสำหรับสาวผิวมัน ที่ช่วยช่วยขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพให้หลุดออก การExfoliationนั่นเอง  ขจัดสิ่งอุดตันจากรูขุมขน และ ควบคุมสมดุลผิว ความมันเงา 

ทำให้ผิวดูใสขึ้น พร้อมที่จะรับการบำรุงในขั้นต่อไป 

ตัวนี้จะเป็นน้ำใสๆค่ะ แต่เตือนก่อนน้าาา เค้ามีแอลกอฮลล์นะคะ

ใครแพ้ข้ามไปเลยค่ะแม่ ใครรับได้ไม่แพ้ มาอยู่กันต่อค่ะ55

ที่บอกว่าชอบตัวนี้มาก และ ใช้มาเนิ่นนานเพราะว่า

เจ้าตัวนี้เค้าช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายออกไป เพื่อเคลียรูขุมขนของเรา

ให้รับครีมต่างๆได้มากขึ้น! ซึ่งเมื่อผิวหน้าของเรา clear ครีมทั้งหลาย

ที่ทาลงไปเนี่ย มันจะมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นค่ะ และทำให้หน้าเราใสขึ้น

หน้าเป็นกระเบื้องเพราะสิ่งนี้แหละค่ะ

ซึ่งน้ำบอกเลยว่าน้ำขาดขั้นตอนการผลัดเซลล์ผิวไม่ได้จริงๆ

เพราะถ้าไม่ Exfoliat ผิวเรา จะมีความรู้สึกว่า ครีมที่ทาตามลงไปเนี่ย

ซึมไม่เต็มที่ มากองตามบริเวณรูขุมขน ไม่โอเคเลย

*เตือน*

การ Exfoliation ผิว หรือ การผลัดผิว สามารถใช้ได้เพียง อาทิตย์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้นนะคะ เพราะตัวผลิตภัณฑ์ค่อนข้างรุนแรง ถ้าใช้บ่อย อาจจะทำให้หน้าระคายเคือง

ผิวหน้าลอก และ บางได้น้า

มาถึงตัวสุดท้ายกันแล้วว

CLINIQUE Even Better Brighter Moisture Cream

CLINIQUE Even Better Brighter Moisture Cream 

น้องคือครีมที่ช่วยลดเลือนและป้องกันการเกิดจุดด่างดำ  

 ดูแลผิวให้ดูสว่างกระจ่างใส ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และรอยจากสิว เค้ามีส่วนผสมของ Gyokuro Extract และ DipotassiumGlycyrrhhizate ที่ช่วยลดเลือนและป้องกันการเกิดจุดด่างดำ ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยให้ผิวรู้สึกถึงความนุ่มละมุนทันทีที่ใช้

 เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวผสมค่อนข้างแห้ง ซึ่งสาวๆผิวมันแบบน้ำ

 ที่ชอบแบบหน้าไม่เงา ฉันไม่นอน ก็ใช้ตัวนี้ได้นะคะ

น้ำให้ตัวนี้เป็น rich ครีมตัวหนึ่งเลย ที่ไว้ทาบำรุงช่วย " ครอบจักวาล"

ทั้งหน้าลอก หน้าแห้ง หน้าหมอง รอยสิว จุดด่างดำนางก็ช่วยได้

วันไหนใต้ตาคล้ำๆ ก็โบกตัวนี้ไปที่ใต้ตาเป็น eye cream ได้เลย

คิดอะไรไม่ออก โบกๆน้องเข้าไป ตื่นเช้ามาคือทุกอย่างจะดีเอง

ครั้งแรกที่ทาคือ ตกใจมากค่ะ เพราะหลังจากทาทันที คือหน้านุ่มมากกกก

ตื่นมาหน้าฟูอิ่มโกลวเลยอ่ะ เอามาเล่าให้ฟังเป็นอีกช๊อยส์สำหรับ สาวๆ

ที่ต้องการoption เสริมนะคะ เผื่อ CLINIQUE iD ยังไม่สาแก่ใจ

โบกน้องคนนี้เข้าไป รู้เรื่อง !

เอาเนื้อครีมมาให้ดู เนื้อเค้าจะเป็นสีขาว สัมผัสค่อนข้างหนักๆ

แนะนำให้วอร์มก่อนใช้ค่ะ แต่เอาอยู่ทุกสถานการณ์

บางทีน้ำไปต่างประเทศ เอาตัวนี้ตัวเดียวไปก็มี น้องเค้าเลิศจริง

หมดไปแล้วนะคะ กับ clinique stuff ที่น้ำภูมิใจนำเสนอ

มายลโฉมน้องๆกันอีกรอบบ

กระทู้นี้ยาวมากจริงๆค่ะ

อยากจะมาแชร์สิ่งดีดีให้กับสาวๆจีบันจริงๆ

น้ำตั้งใจเขียนมากๆ

ขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ

ด้วยรัก

จากนุ้งน้ำ <3