มาส์กหน้า ถูกและดี ที่ใช้แล้วผิวดีขึ้นจริง เหมาะกับสาวผิวแห้ง มีริ้วรอย ขุ่นแม่วัย30+ ขอมาแชร์ค่ะ
Yingbestzyyy
43
9
สวัสดีค่ะ พบกับหญิงเบสท์เม้าส์มอย กันอีกแล้วจ้า
วันนี้เบสท์ก็รวบรวม(Sheet Mask) หรือมาส์กแผ่น ที่เบสท์ลองใช้ แล้วเห็นผล ช่วยให้ผิวดีขึ้น ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นมากขึ้น
เหมือนพอผิวเราชุ่มชื้นขึ้น ก็ทำให้ริ้วรอยต่างๆดูจางลงไปด้วย
คือแต่ก่อนเราเป็นคนมีร่องแก้มลึกมาก กับริ้วรอยที่ตาเยอะมาก
ด้วยความที่แต่ก่อนไม่เคยมาส์กหน้าเลย
ไม่เคยดูแลผิวเลย ใช้ครีมตัวเดียวจบ
บางทีกันแดดก็ไม่ค่อยทา ซึ่งเป็นการทำร้ายผิวมากกกกก
พึ่งจะมาใส่ใจ ดูแลก็ตอน 3-4 ปี ก่อนหน้านี้เอง
เนื่องจากมีเพื่อนทักว่า...ริ้วรอยหางตามาเป็นเส้นแล้วนะ....
หูยยยย ...เราเลยได้ลองหันมาใส่ใจกับผิวตัวเองมากขึ้น
และประกอบกับ
ตอนนั้นใกล้จะ30แล้ว กำลังจะมีลูกด้วย
แต่เดี๋ยวนี้คืออายุ30แล้ว แต่เหมือนว่าริ้วรอยกลับดูลดลง
เราคิดว่าน่าจะมาจากที่เรามาส์กหน้าบ่อย
มาส์กอาทิตย์ละ2-3ครั้งด้วย ทำให้หน้าเราดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
คือแต่ก่อนไม่เคยใช้มาส์กอย่างจริงจังเลย
พอมาใช้แบบจริงจังใช้บ่อยขึ้น เลยเห็นผลชัด
เลยอยากมาแชร์มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ชีทมาส์กหรือมาส์กแผ่น
ที่เบสท์จะมาแชร์วันนี้เป็นของถูกและดีทั้งหมดเลยนะ
ทุกตัวเบสท์ซื้อใช้เองทั้งหมดนะคะ
ไม่มีสปอนเซอร์ใดใดนะจ๊ะ
ขออนุญาติแชร์ตามความคิดเห็นส่วนตัวที่ได้นะคะ
ขอไม่พูดถึงคำเครมของแบรนด์นะคะ ขอพูดตามความรู้สึกที่ได้เลยล้วนๆเลยนะคะ
1. Lulalun รุ่น Regular หรือรุ่นธรรมดา
*ราคา ซองละไม่เกิน 200 บาทค่ะ 1 ซองมี 7 แผ่นนะคะ
เราซื้อจากญี่ปุ่น (ราคาในไทยเราไม่ค่อยแน่ใจนะคะ เพราะเราก็ซื้อรวมๆกันมา จ่ายเงินทีเดียวเฉลี่ยแล้วก็ตกประมาณ 200 บาทไทยจ้า)
รุ่นนี้เรา มีด้วยกัน 3 สูตร มี สูตรสีขาว สีน้ำเงิน สีชมพู
ทั้ง 3 สูตร ในความคิดเราว่า ไม่ค่อยต่างกันเท่าไรนะ
**ผลลัพท์ที่ได้ **
เขาให้ความชุ่มชื้นได้แค่ปานกลาง น้ำเอสเซนส์ได้น้อย
เราว่าคงเพราะใน 1 ซองอัดกันมา 7 แผ่น
ทำให้แต่ละแผ่นได้น้ำเอสเซ็นที่ไม่ค่อยเยอะ
สำหรับเรา
-เราชอบสูตรสีน้ำเงินมากที่สุด เพราะเรารู้สึกว่าให้ความชุ่มชื้นได้ดีที่สุด
ถ้าเทียบกันระหว่าง 3 ตัวนี้นะ
-ส่วนสูตรสีขาว จะเน้นความสว่างใสเพิ่มขึ้นนิดหน่อย
-สูตรสีชมพู ส่วนใหญ่เราเอาใว้ใช้มาส์ก 5 นาที
ก่อนแต่งหน้าอะไรแบบนี้
เขาว่ากันว่าสูตรสีชมพูควรใช้ติดต่อกัน 7 วันจะเห็นผลดีที่สุด (แต่เรายังไม่เคยนะ)
**น่าจะเหมาะกับ **
เราว่าคนที่เร่งรีบใช้ในตอนเช้า 5-10 นาที ก่อนแต่งหน้า
หรือคนที่ผิวมัน ผิวผสมน่าจะชอบค่ะ
เพราะไม่เหนียวเหนอะหนะหน้าดี
แต่ถ้าผิวแห้งเราว่าอาจจะต้องมองข้ามไปนะคะ
แนะนำให้ใช้แค่ 5-10 นาทีพอนะคะ เพราะไม่งั้นแผ่นมาส์กจะแห้งไวมาก
**สิ่งที่ไม่ชอบเลย**
คือ แผ่นมาส์กเขาบางมาก ขาดง่ายไปนิดนึง เวลามาส์กจะรู้สึกไม่ค่อยกระชับหน้าเลยค่ะ จะรู้สึกหย่อนๆใหญ่ๆ ต้องตัดตลอดเลย แหะๆ
**พิกัดในไทย** : Watsons , Top ห้างสรรพสินค้าทั่วไป
2. Lulalun รุ่น Precious หรือ เราเรียกว่ารุ่นสีทอง
รุ่นนี้ทางแบรนด์เขาว่าเหมาะกับสาววัย30+
*ราคา ซองละไม่เกิน 200 บาทค่ะ
เราซื้อมาจากญี่ปุ่น เหมือนกันค่ะ ใน 1 ซองได้ 7 แผ่นเหมือนกัน
เรามี 3 สี ทุกสีเราว่าให้ผลลัพท์พอๆกันเลย
**ผลลัพท์ที่ได้**
คือจะให้ความชุ่มชื้นได้...มากกว่ารุ่นธรรมดา
เหมือนเขาให้น้ำเอสเซนส์...เยอะกว่ารุ่นธรรมดาค่ะ
ที่เขาเครมว่าช่วยเรื่องริ้วรอย เราว่าคงเพราะทำให้หน้าชุ่มชื้นได้ดีกว่า
และอาจจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ยากกว่าค่ะ
*น่าจะเหมาะกับ**
คนที่ไม่ชอบ ให้หน้าเปียกเหนียวเหนอะหนะ ก่อนนอนก็น่าจะชอบตัวนี้นะ
มาส์กตอนเช้าได้ มาส์กกลางคืนได้
แนะนำให้ใช้แค่ 10 นาทีพอนะคะ เพราะไม่งั้นแผ่นมาส์กจะแห้งไวมาก
**สิ่งที่ไม่ชอบเลย**
คือ เรื่องแผ่นมาส์กเหมือนกันกับรุ่นธรรมดาเลย
ไม่กระชับหน้า และก็ ขาดง่ายมากค่ะ
**พิกัดในไทย** : Watsons , Top ห้างสรรพสินค้าทั่วไป
3. Barrier Repair หรือมาส์กหน้าเด็ก
เรามี 2 สูตร คือ สูตรสีชมพู และ สูตรสีฟ้า
*ราคา เราซื้อมาจากญี่ปุ่นอีกเหมือนกัน
กล่องละประมาณ 200 บาท 1 กล่องมี 5 แผ่นค่ะ
ทั้ง 2 สูตรไม่ต่างกันมาก
แค่สีชมพูน่าจะให้ชุ่มชื้นได้มากกว่านิดหน่อย
เพราะเขาให้น้ำเอสเซนส์มา มากกว่าที่27ml
สีฟ้าให้น้ำเอสเซนส์ มา22ml ค่ะ
*ผลลัพท์ที่ได้*
ตัวนี้เป็นมาส์กที่ใช้แล้วทึ่งมาก หลังมาส์กเสร็จ จะเห็นผลลัพท์ทันทีเลย
ว่าหน้า เนียน นุ่ม เด้ง ชุ่มชื้น คือพอเรามาส์กเสร็จ
นวดน้ำเอสเซนส์ให้ซึมลงผิวหน้าแล้วนะ
พอมาจับหน้าตัวเองและไปจับหน้าลูกชาย
คือแบบนุ่มเด้งเหมือนกันเลย
มหัศจรรย์มาก คือ ตัวนี้ชอบมากแนะนำเลยค่ะ
แผ่นมาส์กนุ่มกระชับเข้ากับหน้าได้ดีมากด้วยค่ะ
*น่าจะเหมาะกับ*
ทุกสภาพผิว เราใช้ 15-20 นาที น้ำเอสเซนส์ยังเยอะอยู่เลย
คือเขาให้น้ำเอสเซนส์มาเยอะมากจริง
ที่ชอบอีกอย่างคือ น้ำเอสเซนส์เขาไม่เหนียวเหนอะหนะหน้าเลย
*สิ่งที่ไม่ชอบเลย*
คือ ไม่มี (ด้วยความที่เราไม่เคยใช้มาส์ก พอมาใช้ตัวนี้เลยรู้สึกมหัศจรรย์มาก เป็นตัวแรกที่เห็นผลชัดเจนค่ะ)
เราว่าตัวนี้น่าซื้อเพราะถูกและดีจริง
**พิกัดในไทย : Watsons
4. Kose มาส์ก
*ราคา เราซื้อจากญี่ปุ่น ประมาณ 200 บาทอีกเหมือนกัน
ใน 1 กล่องมี 5 แผ่นค่ะ
เรามี 2 สตร อีกเหมือนกัน คือสูตรสีฟ้ากับสูตรสีชมพู
ตัวนี้บอกก่อนว่าชอบสูตรสีชมพูมากกว่านะ
ทั้ง 2 สูตรให้น้ำเอสเซนส์มา 27ml เท่ากันค่ะ
*ผลลัพท์ที่ได้*
ให้ผิวหน้า เนียน นุ่ม ชุ่มชื้น คล้ายกับมาร์คหน้าเด็กเลย
แต่เหมือนน้ำเอสเซนส์ ของเขาจะเหนียวเหนอะหนะกว่านิดหน่อย
*น่าจะเหมาะกับ*
ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้งน่าจะชอบ
เพราะมาส์กเสร็จยังมีความฉ่ำเปียกอยู่เยอะมาก
สำหรับเราต้องซับออก เพราะว่าเรารู้สึกว่าเหนียวหน้าไปนิดนึงค่ะ
*สิ่งที่ไม่ชอบ*
สูตรสีฟ้าของเขาจะเปียกมากเหนียวเหนอะหนะมากเกินไปนิดหน่อยค่ะ่
*พิกัดในไทย : ร้านที่ขายของญี่ปุ่นน่าจะมีค่ะ แถวสยาม แถวทองหล่อ
5. Rojukiss สีชมพู มาฝั่งเกาหลีกันบ้างค่ะ
จริงๆเราใช้มาทุกสีแล้วแหระ
แต่ เราชอบสีชมพูมากสุดค่ะ
*ราคา 69บาท ซื้อที่วัตสันมีโปร 1แถม1 บ่อยมากค่ะ
*ผลลัพท์ที่ได้*
ตัวนี้ให้ผิวหน้าชุ่มชื้นดีค่ะ ให้น้ำเอสเซ็นเยอะมากกกกก
สีชมพูเหมือนช่วยเพิ่มความขาวกระจ่างใสให้นิดนึงด้วยนะ
*สิ่งที่ไม่ชอบเลย*
คือ แผ่นมาส์กเขาแข็ง ไม่กระชับหน้าเท่าไรค่ะ น้ำเอสเซนส์ไหลเยิ้มไปหน่อยค่ะ
**พิกัดในไทย : Watsons มีโปรบ่อยมากกกก
6. Faith in face
*ราคา 129บาท เราซื้อมาตอนวัตสัน
ลดราคาน่าจะ 79-89 บาท (ไม่แน่ใจค่ะ)
ตัวนี้แผ่นมาส์กเป็น Hydrogel นะคะ
แผ่นมาส์กจะไม่เหมือนตัวอื่น คือมี 2 ชิ้น ชิ้นบน และ ชิ้นล่าง (ตามภาพเลยค่ะ)
คือเบสชอบแผ่นมาส์กแบบนี้มาก
อยากให้ทุกแบรนด์เป็นแบบนี้เลย อิอิ
*ผลลัพท์ที่ได้*
เขาให้ความชุ่มชื้นดี ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย
ผิวที่ได้หลังใช้คือ ผิวจะนุ่มเด้ง และดูกระจ่างใสขึ้น
แผ่นมาส์กเขาเนียนนุ่ม
เหมือนเจลลี่เลยแหระ ตัวแผ่นมาส์กก็แนบสนิทไปกับผิวได้ดี
ใช้แล้วรู้สึกเย็นสบายผิวดีค่ะ
ด้วยความที่เขาเป็นไฮโดรเจล เลยทำให้ไม่มีน้ำไหลเยิ้มเหนอะหนะค่ะ
*น่าจะเหมาะกับ*
คนที่ผิวแสบร้อนแดดมา ใช้แล้วจะรู้สึกเหมือนช่วยลดอุณหภูมิผิวให้เย็นลงได้ค่ะ
ยิ่งถ้าแช่เย็นยิ่งรู้สึกดีค่ะ เพราะเย็นสบายผิวสุดๆเลยค่ะ
แนะนำให้มาส์ก 30 นาทีนะคะ
เพราะแผ่นมาส์กไม่ดูดความชุ่มชื้นออกจากผิวค่ะ จะได้คุ้มๆเนอะ อิอิ
*สิ่งที่ไม่ชอบเลย*
คือ ราคาอาจจะสูงไปนิด ถ้าไม่ได้ซื้อตอนลดราคานะ อิอิ
**พิกัดในไทย : Watsons
7. Neutrogena Hydro boost
สูตรที่เรามีตอนนี้เป็นแบบแผ่นมาส์กธรรมดานะ
แต่ที่เราชอบจริงๆจะเป็นแผ่นมาส์กแบบ Hydrogel มากกว่า
(แต่เราพอดีใช้หมดแล้วลืมถ่ายรูปใว้ค่ะ)
**ราคา 159 บาท
ของนูโทรจีน่าเป็นแบรนด์แรกๆ ที่เบสท์ได้ลองใช้เลยก็ว่าได้
*ผลลัพท์ที่ได้*
เขาให้หน้าชุ่มชื้นดี ถ้าเป็นแผ่นมาส์กไฮโดรเจล จะรู้สึกเย็นสบายกว่าแผ่นปกติ
แต่หลักๆก็ให้ความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ ไม่เปียกเกินไป กำลังดีเลยค่ะ
*สิ่งที่ไม่ชอบเลย*
คือ แบบไฮโดรเจล หายากมาก ส่วนใหญ่จะเจอแต่แผ่นมาส์กธรรมดา
คือไม่แน่ใจว่าขายดีจนหมด
หรือว่าผลิตมาน้อยก็ไม่รู้นะ
แต่อยากให้ผลิตแบบไฮโดรเจลเพิ่มมากๆเลยค่ะ
**พิกัดในไทย : Top ห้างสรรพสินค้าทั่วไป
8. Leaders Clinic Bright Mask With Alpha-Melight
**ราคา 69 บาท
*ผลลัพท์ที่ได้* คือ
เขาให้ผิวที่นุ่มชุ่มชื้น ผิวนุ่มเด้ง ให้ผิวใสได้ดีมาก
เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยนะ เขาให้น้ำเอสเซนส์มาแน่นมาก
แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะหน้าเลยนะคะ
เบสท์จะใช้ในวันพิเศษๆ
เช่น วันที่ต้องออกงานหรือต้องแต่งหน้าแน่นเป็นพิเศษ
ใช้ตัวนี้ตอนกลางคืน ตื่นมาคือหน้าดีย์มาก
เบสท์พึ่งได้ลองเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ
ตั้งแต่ได้ลอง คือ เบสท์ก็ซื้อติดตู้เย็นใว้ตลอดเลย ช่วงไหนแต่งหน้าบ่อย
ต้องใช้ตัวนี้ช่วยตลอด ราคาไม่แพง แล้วก็ดีมากด้วยค่ะ
*สิ่งที่ไม่ชอบเลย*
คือแผ่นมาส์กมีความแข็งไปนิดนึงถ้าเทียบกับตัวอื่นๆ
แต่เขาให้ผิวหน้าที่ใสดีค่ะ ก็ให้อภัยได้ค่ะ อิอิ
*พิกัดในไทย : Watsons , Top ห้างสรรพสินค้าทั่วไป
เบสท์จะขอฝากใว้นิดนึงนะคะ สำหรับใครที่ไม่เคยใช้มาส์กแผ่นเลย
อย่าทิ้งให้แผ่นมาส์กแห้งไปกับผิวนะคะ
เพราะบางคนอาจจะงก
หรือมาส์ก จนหลับไปเลย
ทำให้แผ่นมาส์กแห้งไปกับหน้าเลย อันนี้ไม่ดีมากๆเลยนะ
เพราะถ้าแห้ง แผ่นมาส์กจะดูดความชุ่มชื้นกลับไป
ทำให้หน้าเรายิ่งแห้ง ใช้แล้วก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ยิ่งเกิดผลเสียมากกว่าผลดีนะคะ
มีใครใช้มาส์กตัวไหนกันอยู่บ้างไหมคะ
มาส์กตัวไหนใช้ดีเอามาแชร์กันได้นะคะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างนะคะ
เบสท์เป็นคน
ชอบพิมพ์ ชอบพูด ชอบเขียน ชอบเล่า ชอบแชร์
ก็อาจจะพูดเยอะไปสักหน่อย ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมาจนจบนะคะ
~Yingbest เม้าส์มอย~
yingbestzyyy (y 3ตัวนะคะ)