รวมขั้นตอนการบำรุงผิวแพ้ง่าย ขาดน้ำให้เปล่งปลั่ง ลดรอยสิว รอยหมองคล้ำ
Am Belfry 42 9ฮัลโหล !!!
มีหลายคนถามเข้ามาว่า เราใช้สกินแคร์อะไร จริงๆ เราใช้เยอะมาก ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวในแต่ละช่วงว่าตอนนั้นมีปัญหาแบบไหน ก็จะเลือกใช้สูตรที่ตรงกับปัญหาผิวที่กำลังเจออยู่ ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนผิวแพ้ง่าย แถมยังแห้งแบบสุดๆ มีช่วงนึงที่หน้าของเรามีปัญหารอยแดงรอยสิวเยอะเป็นพิเศษและเชื่อว่าสาวๆ หลายๆ คนก็น่าจะมีปัญหาผิวแบบนี้ซะส่วนใหญ่ วันนี้ก็เลยจะมาบอกบุญสาวๆ หยิบไอเทมเด็ดๆ ในราคาแค่หลักร้อยมาแนะ จัดมาตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายเลย ทั้งหมดนี้ที่เพื่อนๆ กำลังจะได้เห็นกันอยู่นี้ คือตัวที่เราใช้จริงๆ นะ จะมีไอเทมไหนน่าตำบ้าง เราไปเช็คลิสต์สกินแคร์ทั้งหมดนี้กันเลยจ้า
Some By Mi AHA-BHA-PHA 30 Days Miracle Acne Clear Foam ( 100 ml. / 420 บาท )
━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━
มาเริ่มที่ขั้นตอนของการคลีนผิวกันก่อนเนอะ ตัวที่เราใช้อยู่เป็นประจำตอนนี้ก็คือโฟมของ Some By Mi ตัวนี้เลยค่ะ เป็นตัวที่เราชอบมากๆ คือคลีนผิวได้สะอาดเวอร์ ตัวนี้ผสานคุณค่า AHA, BHA และ PHA คือพอเราล้างหน้าด้วยตัวนี้ไปเรื่อยๆ ผิวจะดูกระจ่างใสขึ้น พวกรอยสิว ความหมองคล้ำต่างๆ จะแลดูจางลง นอกจากจะคลีนผิวได้อย่างสะอาดหมดจดแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวให้ดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วยค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้
ส่วนตัวชอบนะ หลอดนึงก็ไม่ใช่น้อยๆ เด้อ ใช้ได้เป็นเดือนๆ อะ โฟมตัวนี้เหมาะกับคนที่เป็นสิวง่ายด้วย ไม่อุดตัน แถมยังทำความสะอาดได้ดีจริงๆ อาจจะมีในเรื่องของกลิ่นนั่นแหละที่เราไม่ชอบ เค้าสามารถทำความสะอาดได้ดีเลยแหละ หลังล้างหน้า ผิวรู้สึกสดชื่น กระจ่างใส ไม่แห้งตึง เป็นอีกหนึ่งโฟมล้างหน้าราคาหลักร้อยที่ดีมากๆ
Graymelin Rose Flower Water 85% Natural Toner ( 500 ml. / 590 บาท )
━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━หลังจากที่เราล้างหน้า ตัวถัดมาที่เราใช้ก็คือ โทนเนอร์ เช็ดทำความสะอาดหน้าอีกรอบ ตัวนี้จะเป็นของ Graymelin เป็นแบรนด์ดังของเกาหลี คือขวดอย่างใหญ่อะ แล้วราคาไม่แรงเกินไปด้วย เป็นโทนเนอร์กลิ่นกุหลาบ ซึ่งกลิ่นหอมไม่ได้ฉุนนะ ดมแล้วรู้สึกผ่อนคลาย สามารถเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกได้ดีด้วย แถมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้อีก เหมาะกับคนผิวแห้งมากๆ
ความรู้สึกหลังใช้
ชอบกลิ่นก่อนเลย อาจจะไม่ได้โดดเด่นมาก แต่หอมผ่อนคลาย ตัวโทนเนอร์เติมความชุ่มชื้นได้ดี ช่วยให้ผิวของเราพร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นต่อไป หลังจากเช็ดด้วยโทนเนอร์ตัวนี้ สำลีที่เราใช้เช็ดอะ มีพวกคราบสกปรกติดออกมาด้วย อะไรที่มันตกค้างๆ ในผิว เค้าสามารถคลีนได้อย่างหมดจด หลังใช้ผิวไม่แห้งตึง ยังคงความชุ่มชื้นอยู่ แถมขนาดก็ใหญ่ใช้ได้นานด้วย
Facelabs Hydrating Essence ( 30ml. / 395 บาท )
━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━เช็ดโทนเนอร์เสร็จแล้ว ต่อกันด้วยเอสเซนส์ขวดจิ๋วแต่แจ๋วขวดนี้เลยค่ะ เป็นของ Facelabs นะ ตัวนี้เค้ามี Sodium PCA ที่จะช่วยปรับสภาพผิว ช่วยรักษาสมดุลของน้ำในผิว และมี Sodium Hyalironate ที่จะช่วยล็อคความชุ่มชื่นให้กับผิวยาวนานทั้งวัน พูดง่ายๆ ก็คือเค้าจะช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เมื่อผิวชุ่มชื้นดีแล้ว ผิวก็จะเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลขึ้น ทั้งยังช่วยลดปัญหาผิวต่างๆ ได้อีกด้วย
ความรู้สึกหลังใช้
อย่างแรกที่เราชอบคือ เค้าให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ค่อนข้างดี ที่สำคัญไม่แพ้ด้วยนะ เราจะใช้เค้าเป็นขั้นตอนแรกก่อนการบำรุงเลย หลังลงเอสเซนส์ รู้สึกได้ทันทีว่าหน้าเด้ง เปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี ผิวดูชุ่มชื้นขึ้นด้วย แต่เค้าไม่ได้ช่วยลดพวกสิวหรืออะไรนะคะ เพียงช่วยทำให้ผิวเราแข็งแรงขึ้น เมื่อผิวเราแข็งแรงขึ้น สิวผดหรือสิวใหม่ก็จะไม่ขึ้นค่ะ
Skinsista
━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━บอกเลยว่าประทับใจมากๆ คือเราอะเห็นรีวิวของหลายๆ คนบอกว่าบูสเตอร์ของ Skinsista ดีงามมากเวอร์! ก็เลยไปจัดมาเลย ซึ่งตอนนี้เค้ามีโปรที่ Watsons ชิ้นที่สอง 1 บาท เลยเลือกมาเป็นสองสูตรนี้ ถามว่าใช้พร้อมกันมั้ย ใช่ค่ะ เราใช้ทั้งสองสูตรพร้อมๆ กันเลย โดยเราจะลงเป็นตัวสีฟ้า V Younger Skin Booster ก่อน แล้วค่อยลงตัวสีเหลือง Vit C Extra Bright Booster ตามอีกที ไปดูกันดีกว่าว่าทั้งสองตัวนี้มีประสิทธิภาพต่อผิวยังไงบ้าง
Skinsista V Younger Skin Booster ( 15 ml. / 790 บาท )
ตัวนี้เป็นวิตามินบูสเตอร์เพื่อผิวอ่อนเยาว์ เด้ง เต่งตึง และแข็งแรง ใน 14 วันเนื้อบูสเตอร์ของเค้าเกลี่ยง่ายและบางเบามากๆ ทั้งยังไม่เหนียวเหนอะหนะด้วย สังเกตเป็นป่ะว่าจะมีเม็ดบีทเล็กๆ สีฟ้าผสมอยู่ เป็นเม็ด Vitamon E พอเกลี่ยลงไปที่ผิว ก็ไม่ได้รู้สึกว่าไปบาดหรือทำให้ผิวระคายเคืองนะ มันซึมเข้าไปกับผิวเลยอะ ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น
ความรู้สึกหลังใช้
เค้าเป็นบูสเตอร์ที่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายอย่างเราจริงๆ ตัวนี้ไม่มีสารกันเสีย ซิลิโคน นํ้าหอม แอลกอฮอล์ ใครที่ผิวแพ้ง่ายเหมือนกันใช้ได้แน่นอน หลังจากที่เราได้ลองมาแล้วสักระยะนึง รู้สึกประทับใจมาก ทุกครั้งเวลาที่ตื่นนอน หน้าดูอิ่มฟูมาก ดูแบบเด้งๆ สดชื่นขึ้น พวกรอยแดงก็จางลง จากก่อนหน้านี้ที่ผิวแห้งกร้าน เป็นขุยบ่อยๆ ตอนนี้ก็ไม่ค่อยเป็นละ พวกผดผื่นก็ช่วยได้น้า ทำให้ผิวเรียบเนียน ผิวดูชุ่มชื้นและดูยืดหยุ่นแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมด้วย เริ่ด!
Skinsista Vit C Extra Bright Booster ( 15 ml. / 790 บาท )
หลังจากที่เราลงตัวสีฟ้าเสร็จปุ๊บ สักแป๊บนึงเราก็จะลงตัว Vit C ต่อเลยค่ะ ตัวนี้จะมีกลิ่นเปรี้ยวๆ ของเลม่อนนิดๆ เนื้อบูสเตอร์จะใส่ๆ อมเหลืองเบาๆ เค้าจะมีสารสกัดทรงคุณค่า encapsulated Vitamin C + Hyaluronic Acid คือ ช่วยให้ผิวของเรากระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น เปล่งปลั่งขึ้น พวกจุดด่างดำ รอยสิวต่างๆ ก็จะดูจางลงด้วย ทั้งยังปราศจากสารกันเสีย แอลกอฮอล์ น้ำมัน และสารให้สีอีก
ความรู้สึกหลังใช้
ตัวนี้คือดีงามมากจริงๆ กลิ่นเลม่นอ่อนๆ คือดี ใช้แล้วรู้สึกว่าผิวสดชื่นขึ้น เราได้ลองทั้งสองตัวมาสักระยะนึงแล้ว เดี๋ยวจะมีภาพให้ดู คือหน้าดีขึ้นมาก พวกผิวที่ดูด่างๆ ดำๆ อะ จางลง เค้าช่วยให้ผิวของเราดูใสขึ้น หน้าดูสว่างกระจางใสขึ้น รอยสิว รอยดำต่างๆ ดูจางลง ที่ชอบอีกจุดนึงคือหน้าดูอิ่มฟู ชุ่มชื้น เห็นผลตั้งแต่งช่วงอาทิตย์แรกๆ เลย แล้วนี่เป็นคนผิวแพ้ง่ายด้วย ใช้ได้สบายๆ เลยค่ะ ตัวนี้แนะนำสุดๆ
St. Ives Bright & Radiant Hydrating Gel ( 45 g. / 439 บาท )
━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━หลังจากลงบูสเตอร์ทั้งสองตัวเสร็จ เราก็จะใช้เป็นตัวนี้ต่อเลยค่ะ จริงๆ ก็เพิ่งลองได้ไม่นาน รู้สึกชอบอะ เลยใช้มาเรื่อยๆ สูตรนี้จะอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าหมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใส แถมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวฉ่ำเด้ง ดูโกลว์สุขภาพดีอีกด้วย
ความรู้สึกหลังใช้
หลังได้ลองใช้ตัวนี้ ผิวรู้สึกเย็นสดชื่นมากๆ ทั้งหน้ายังดูชุ่มชื้นขึ้นด้วย อาจจะไม่ได้ฉ่ำอิ่มน้ำเวอร์วัง แต่ผิวก็ไม่ได้แห้งกร้าน ไม่เหนี่ยวเหนอะหนะ เนื้อเจลเกลี่ยง่าย ซึมเข้าผิวได้ทันทีหลังทา ลองใช้มาสักระยะแล้วแหละ สังเกตได้ว่าหน้าดูกระจ่างใสขึ้นทีละนิดๆ และผิวดูนุ่มเนียนเด้งขึ้นด้วย
KINRx Lab MadeCera Cream ( 50 ml. / 550 บาท)
━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ ━ตัวนี้เราสั่งซื้อทางออนไลน์นะ ราคาที่ได้มาก็อยู่ที่เท่านี้ คือเราเห็นรีวิวของหลายๆ คนบอกว่า นี่คือสกินแคร์ที่สาวเกาหลีนิยม ว่ากันว่าเป็นครีมที่แพทย์คลินิคศัลยกรรมแนะนำให้ใช้ ส่วนผสมหลักที่สำคัญคือ Ceramide, ใบบัวบก, วิตามินบี3และ Adenosine ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น กระจ่างใสขึ้น จุดด่างดำ กระ ฝ้าลดเลือนลง ให้ผิวที่ดูเปล่งปลั่ง อ่อนกว่าวัย
ความรู้สึกหลังใช้
เนื้อครีมเกลี่ยง่ายนะ เป็นครีมที่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก ตั้งแต่ใช้มาหน้าไม่ค่อยแห้งกร้านละ แล้วที่ประทับมากๆ คือ เวลาที่เรามีรอยสิวชัดๆ โปะตัวนี้ลงไปตรงที่เป็นรอยสิว ตื่นมารอยจางลงเลยค่ะ คือตะลึงไปเลย แต่ก็อย่างที่บอก แนะนำว่าให้ใช้เป็นไนท์ครีมเนอะ เพราะถ้าทาตอนเช้าอะ มันจะหนักหน้าเกินไป อาจจะทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบได้
และทั้งหมดนี้ก็คือสกินแคร์ราคาหลักร้อยที่เราใช้อยู่ปัจจุบันนี้ค่ะซิส ราคาเบาๆ เอื้อมถึงได้ แถมคุณภาพก็ไม่ธรรมดาเลยด้วย ใครที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำเหมือนกัน ลองไปตำมาใช้ตามกันดูได้นะ ได้ผลเป็นยังไง ชอบตัวไหน ไม่ชอบตัวไหนยังไง ก็แวะมาแชร์กันได้นะคะ สำหรับวันนี้ บ๊ายบาย