REVIEW: เปิดกรุ Skincare สำหรับคนหน้าแห้ง+ผิวผสม (ราคาถูกยันแพง) **รีวิวครบแล้วจ้า**

36 9
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวจีบัน ห่างหายจากการรีวิวนานมากกก5555
รอบนี้จะมารีวิวสกินแคร์ที่เราใช้มาประมาณปีนึงจนถึงครึ่งปีที่ผ่านมานะคะ
ขออภัยหากไม่แจ้งราคาเนื่องจาก เพราะเราไม่ได้อยู่ไทยนะคะ ทำให้บางตัวถ้าใครต้องสั่งร้านพรี+หิ้วเอา ฮือ ขอโทษจริงๆค่ะ แต่ว่าที่ใช้หลักๆมีราคาหลักร้อยจะเยอะหน่อย ส่วนหลักพันจะแจ้งไว้นะคะ
มาเริ่มกันเลยยยย
มาเริ่มที่หมวดลิปมันกันก่อนนะคะ
โดยส่วนตัวเราเป็นคนค่อนข้างปากแห้งค่ะ ไม่ว่าจะดื่มน้ำน้อย หรือเยอะ จริงๆ มีeos ด้วยแต่หายไปไหนไม่รู้5555
- คิดว่าหลายๆคนคงได้ใช้ เจ้าตัวทางซ้ายกันมาเยอะแล้ว ซึ่งมันดีจริงๆค่ะ เราเคยไปใช้counter brand แต่ก็ไม่ดีเท่าตัวนี้เลย เค้า ช่วยให้ปากไม่แห้ง ไม่ลอกเป็นขรุย ชุ่มชื้นมากกกก จขกท. ชอบทาโปะเยอะๆก่อนนอน ตื่นมาอีกวัน ปากไม่แห้งเลย ดีมากๆๆค่ะ แถมทาก่อน-หลัง ลิปสติกก็ไม่เป็นคราบ เลย ราคาก็ถูกมากเช่นกัน **หาซื้อได้ตาม eve&boy ค่ะ**
- ตัวทางขวา เป็นลิปบาล์มเหมือนกัน แต่จะไม่ได้เป็นliquid จะเป็นแบบแท่ง มีสีแดง แต่เป็นแดงธรรมชาติ!!! 555555 และที่น่าทึ่งมากๆ ก็คือเค้าเนี่ยชุ่มชื้นไม่แพ้ เจ้าตัวแบบหลอดเลย ซึ่งตัวนี้ ก็จะใช้ตอนกลางวันค่ะ เพราะว่าบางทีขี้เกียจเติมลิป เลยใช้เจ้านี่แถมช่วยบำรุงปากด้วย ราคาก็น่ารักเช่นกันค่ะ **ตัวนี้ จขกท. ไม่แน่ใจว่าที่ไทยมีมั้ย ไม่เคยเห็นเลย ใครเคยเจอช่วยบอกพิกัดด้วยนะคะ**
- วิตามิน C เข้มข้น อัดแน่น อยู่ในหลอดเล็กๆ แต่คุณภาพไม่เล็กเลย555555
- ตัวนี้ใช้มาหลอดที่3-4 แล้ว มันดีมาก ซึมไวมาก ใช้ได้นานหลายเดือน (เอาขึ้นเครื่องบินได้นะคะ อิอิ)
- เขาเคลมว่าตัวนี้จะช่วยในเรื่องของให้หน้ากระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ และรอยสิว ส่วนตัว จขกท. ไม่ได้มีปัญหาเรื่องสิวมากค่ะ จะมีเฉพาะช่วงก่อนปจด. มา บางทีมาเม็ดเป้งๆ ก็ชอบไปแกะ ทุกครั้งที่ใช้ตัวนี้ ไม่ถึงอาทิตย์ รอยสิวก็จางลงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ ส่วนเรื่องกระจ่างใส ถ้าช่วงไหนยุ่งมากๆ พักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะไม่ค่อยเห็นผลค่ะ TT^TT
- แต่ **** อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกคนนะคะ สำหรับใครที่กลัวแพ้หรือระคายเคือง ไม่แนะนำค่ะ เพราะเพื่อนเรา เป็นผิวแพ้ง่าย ใช้รอยสิวก็ไม่ได้ลดลง สิวขึ้นเพิ่มด้วยค่ะ***
The Ordinary Caffeine Solution 5%
- ตัวนี้เคลมว่า ลดอาการใต้ตาคล้ำ บวม อาจจะไม่ได้เห็นผลทันทีขนาดนั้น แต่ส่วนตัวชอบมากๆๆๆๆ ปลื้มใจมาก เพราะเป็นคนมีปัญหาใต้ตา (ภูมิแพ้) ค่ะ แต่ไม่อยากให้expect กันว่าจะช่วยเรื่องใต้ตาได้.. เพราะบางคนก็บอกเราว่ามันไม่ได้ช่วยค่ะ แต่ส่วนตัวใต้ตาเราดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย
- เรื่องใต้ตาบวม อันนี้ก็คือทำให้หายบวมได้จริงๆค่ะ แต่ส่วนตัวที่ใช้รู้สึกว่ายังไม่ได้ว้าวอะไรตรงนี้มาก
- แนะนำว่าให้ระวังนิดนึง ไม่ต้องใช้เยอะมากนะคะ เพราะ ว่าเป็น Eye cream ที่เป็นเนื้อเหลวๆค่ะ
- ราคาเบากระเป๋ามาก แต่ว่าสั่งได้แต่pre order และร้านหิ้วนะคะ

KIEHL'S CREAMY EYE TREATMENT AVOCADO
- ตัวนี้เน้นในเรื่องชุ่มชื้นใต้ตา และรอยเหี่ยวที่ใต้ตา แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องใต้ตาคล้ำ
- texture จะเหนอะหนะ แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรนะ เพราะว่าพอซึมแล้วก็ไม่ได้เหนอะหนะอะไรค่ะ
- เหมาะกับการพกไปเที่ยวเมืองนอก หรืออากาศแห้งๆอย่างมากกกกก
- ราคาค่อนข้างสูง ถ้าใครงบน้อย ไปซื้อ The Ordinary ก็ได้จ้า

CLINIQUE ALL ABOUT EYES RICH
- ในบรรดา under eye cream ที่ใช้มา ตัวนี้ จขกท. รู้สึกว่า เห็นผลน้อยที่สุดแล้ว
- ที่รู้สึกก็คือ ให้ความชุ่มชื้น นอกนั้นคือไม่ได้ช่วยอะไร
- เราซื้อมาก่อนหน้าที่จะเจอ The Ordinary กับ Kiehl's อีก texture ไม่หนาเท่า Kiehl's ใช้แล้วระคายเคืองหน่อยๆ ยิ่งช่วงไหนหน้าแห้งๆ ก็คือแสบมาก ไม่ไหวว
- สกินแคร์ตัวนี้ จขกท.โดนเพื่อนป้ายยาว่า "ถ้ามีสิว ต้องตัวนี้เลย!!!"
- เราได้ลองใช้มาหลายเดือน รู้สึกว่า สิวยุบจริงๆนะ ยิ่งมีช่วงนึงสิวผด ขึ้นเยอะมาก พอใช้ตัวนี้ก็จะค่อยๆหายไป
- ข้อเสียก็คือ ถ้าทาไม่ดี มันจะไม่ซึมแล้วจะเป็นขรุยๆนะ
- เป็นมิตรกับทั้งคนหน้าแห้ง ผิวผสม มากๆๆ เพราะเนื้อจะมีความเข้มข้นและชุ่มชื้น ผลพลอยได้คือ หน้าจะเด้งขึ้น ดูสุขภาพดี แต่ไม่ถึงกับนางเอกเกาหลี อิอิ
- คนผิวมันก็ใช้ได้นะคะ เคยอ่านรีวิวของคนที่ใช้ คนผิวมันก็คือใช้ได้ แต่ควรใช้เวลา กลางคืนนะ (กระทู้นี้ละเอียดมากก https://www.jeban.com/topic/259844)
- ราคาถูกมากเช่นกัน แต่เหมือนเดิมค่ะ ต้องร้านหิ้ว + พรี
มาต่อกันค่ะ ตื่นแล้วววว อิอิ
- เคยใช้ตัวที่เป็นสูตรสีฟ้าค่ะ และเคยเป็นสกินแคร์ตัวโปรดเลย เพราะช่วยเรื่องหน้าแห้งได้ดีมาก แต่ว่าด้วยความที่เราเป็นคนหน้าแห้งมากๆ ยิ่งมาอยู่ที่เมืองนอก ยิ่งเป็นขรุยหนัก เลยต้องลองเปลี่ยนมาใช้สูตร AI Cream (สีแดง)
- สูตรสีแดงจะต่างจากสีฟ้าตรงเหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย เป็นสิว และ ผิวแห้งมาก
- ตัวนี้ใช้แรกๆ ส่วนตัวไม่ชินกลิ่น เพราะสีฟ้าจะไม่มีกลิ่น แต่สีแดงมีกลิ่นแปลกๆค่ะ 55555 แต่ตอนนี้คือชินแล้ว
- ถึงจะเป็นตัว intense แต่ว่าเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเลย สบายหน้า
- ข้อเสียคือเป็นครีมบำรุงที่ต้องใช้ตลอดนะ ถ้าวันไหนใช้ วันนั้นหน้าก็จะไม่ลอก ไม่แห้ง แต่ถ้าวันไหนไม่ใช้ หน้าก็เหมือนเดิม.. แต่มันช่วยจริงๆ ค่ะ ยอมซื้อไปเรื่อยๆ 55555
- เอาจริงๆ ส่วนช่วยในการที่ทำให้หน้าไม่แห้ง และชุ่มชื้น ไม่ได้มีแค่ Physiogel อย่างเดียว เพราะอย่างที่บอกเราหน้าแห้งมากๆจริงๆ 555555
- ส่วนตัวจะใช้ตบท้ายก่อนเริ่มแต่งหน้า เพราะนอกจากช่วยเรื่องหน้าแห้งแล้วนั้น เค้าจะช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนขึ้นด้วยค่ะ ส่วนตอนกลางคืน ถ้าวันไหนไม่ขี้เกียจ ก็จะโบกน้องเค้า ตื่นมาอีกวัน หน้าอิ่มน้ำมากจริงง ดูสุขภาพดีมากกก
- เคยอ่านสรรพคุณของ Argan Oil มา เค้าบอกว่าใช้ได้ทุกสภาพผิวค่ะ ใครหน้ามัน ผิวผสม ผิวแพ้ง่าย และใช้ได้ทั้งตัวเลย เช่น ผสมกับยาสระผม หรือ รองพื้นก็ได้
- ที่จขกท. ใช้แบรนด์นี้ เพราะว่ามีคนแนะนำมาประมาณต้นปีที่แล้วค่ะ ใช้มา จะเข้าปีที่2แล้ว ชอบมากๆ และแบรนด์นี้ก็เป็นแบรนด์คนไทยด้วย!!! (search ใน FB ก็เจอนะ)

- ตัวนี้ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่ากับการที่จะต้องมีมากมากมากมากมากมาก
- จขกท. เจอรีวิวในทวิตเตอร์มาค่ะ และตัวนี้เป็นตัวที่ทำให้เรา ตกหลุมรัก Kiehl's มากกกก55555555
- ใครที่เหงื่อออกเยอะมากๆ โดยเฉพาะตรงน้องรักแร้ ต้องซื้อตัวนี้เลย เพราะว่า เค้าจะไประงับเหงื่อของเราไม่ให้ออกมา ตอนแรกเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย เพราะปกติเป็นคนที่เหงื่อออกเยอะมากๆ ยิ่งอยู่ไทยแค่ออกมาจากห้องนอน รักแร้ก็เปีบยกแล้ว55555
- ใช้มาเหงื่อใต้วงแขนก็คือไม่มีเลย ไม่ได้ทำให้รักแร้แห้งด้วยค่ะ ไม่มีกลิ่นตัวเลย และอยู่ทน24 ชม. จริงๆ
- เนื้อสัมผัส คือเหมือนครีมทาผิวทั่วไปค่ะ แต่ไม่เหนอะหนะนะ ทาวนๆ กระพริบตาไม่ถึง 10 ทีก็ซึมละ 555555555
- คืออยากให้ทุกคนมาใช้จริงๆนะ เพราะว่า มันไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่ได้ทำให้รักแร้คล้ำเลย
- นี่เป็นหลอดที่ 2 แล้วค่ะ ใช้เกือบทุกวันจริงๆ ถ้าใครงบเยอะซื้อหลอดใหญ่มาเลย มันคุ้มจริง แต่ใครอยากลองก่อน หลอดเล็กก็ได้จ้า
ปกติรีวิว ครีมกันแดดกับ คสอ. แต่ไหนๆก็ไหนๆละ ได้ลองมาหลายตัว เลยเอาที่ใช้ตอนนี้มารีวิวพร้อมskincareเลยค่ะ555555

Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF 50+ PA++++
- เป็นครีมกันแดดที่ตัวนี้เราไม่ค่อยซีเรื่องกันแดดเท่าไหร่ เพราะมันบางเบามากเลยชอบจ้า
- ข้อดีคือบางเบาอย่างที่บอก และเนื้อเหลวดี ไม่หนักหน้าเลย ชอบใช้ที่ไทยเพราะว่าตัวอื่นๆเนื้อจะเหนอะหนะ หนักหน้า และเติมระหว่างวันได้ ทับmake upได้ ตัวนี้เลยชนะเลย55555
- ทาแล้วไม่ได้ทำให้หน้าดูสว่างขึ้นซึ่งมันดีนะ ชอบอะไรแบบนี้มากกว่าพวกครีมกันแดดที่จะทำให้หน้าวอก5555
- แต่ข้อเสียหลักๆที่ไม่ชอบคือ กลิ่นแอลกอฮอลล์แรงมาก ใครแพ้แอลไม่แนะนำให้ใช้เลย

Mizumi UV Water Defense SPF 50+ PA++++
- ครีมกันแดดที่ชนะ  ให้เต็ม10 10 10 หมดก็จะซื้อต่อ 55555
- ถึงเราจะเป็นคนหน้าแห้ง แต่ตัวนี้ไม่ได้ทำอะไรให้หน้าเราดูแห้ง ให้ความรู้สึกเหมือนทาครีมบำรุงมากกว่าครีมกันแดด แต่กันแดดได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ หน้าไม่หมองเลย
- ถึงเนื้อtexture จะมีความข้นนิดนึง แต่ไม่หนักหน้าเลยค่ะ และที่สำคัญไม่วอกไม่ลอยไม่เทา คนผิวสองสีควรค่าแก่การมีเอาไว้นะคะ อิอิ และที่สำคัญไม่มีแอลกอฮอลล์
- ที่เห็นมีสีส้มแบบกันน้ำคือตัวนี้ และสีฟ้าไม่กันน้ำให้หน้าชุ่มชื้น ยังไม่เคยลองสีฟ้า แต่สีส้มคือเลิศมากแล้ว ไว้คราวหน้าจะลองสีฟ้าค่ะ (ใครอยากดูรีวิวละเอียด ลองกระทู้นี้จ้า https://pantip.com/topic/34848241)

Anessa Perfect UV Sunscreen Aqua Booster SPF 50+ PA++++
- ครีมกันแดดที่ กันแด๊ดดดกันแดด
- มีช่วงนึงที่ใช้แต่น้องคนนี้ เพราะว่าเค้ากันแดดได้ดีมาก
- เนื้อจะหนึบๆ ข้นๆ แต่ไม่ได้เหนียวอะไร แต่กลิ่นแอลกอฮอล์แรงมากเลยไม่ค่อยโอเค หน้าวอกนิดนึงค่ะ แต่ติดทนดีให้อภัยก็ได้55555
- ที่ชอบคือมันpractical ดีค่ะ ถ้าซื้อขวดใหญ่ใช้ได้ทั้งหน้าและตัวเลยนะ คุ้มค่ามาก

สรุปรวมๆค่ะ
*ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นหรือแพ้แอลกอฮอลล์ Mizumi ดีสุด
*ใครชอบแบบครีมกันแดดจัดๆ ทาแล้วมั่นใจว่าอยู่ได้ทั้งวัน + ใช้ทาตัวด้วย Anessa
*สายบางเบา ชอบเติมระหว่างวัน Bioreตัวนี้เลยจ้า
***เตือนก่อนว่า Tanning Lotion ไม่ใช้ครีมกันแดดนะคะะ***
- ปกติจขกท. ไม่ได้อินTanning lotionเลย เพราะไม่ชอบไปตากแดด เพราะคล้ำอยู่แล้ว555555
- จะทาเฉพาะวันไหนรู้สึกว่าแดดแรงหรือต้องไปทะเลจริงๆ ตัวtanning lotionจะช่วยทำให้ผิวเนี่ยไม่เสียค่ะ และมันจะไม่ได้ทำให้เราคล้ำดำแบบน่าเกลียด แต่จะแทนแบบแทนนวลเนียนมากขึ้น555555
- แนะนำว่าใครที่ไม่อยากผิวคล้ำเสียให้ทาครีมกันแดดก่อน แล้วทาตัวtanning lontionนี้ จะผิวสวยค่ะ
- ส่วนตัวยังไม่ได้ว้าวอะไรกับน้องคนนี้มาก แต่หาซื้อง่าย(7-11ใกล้ๆทะเล) และราคากันเอง เอาไว้ถ้าลองใช้ตัวอื่นๆจะมารีวิวเพิ่มจ้า

 
- Cleansing Oil ที่รักมากถึงมากที่สุด (ปกติจขกท. ใช้คู่กับโฟมล้างหน้า Clearing Foam ของเค้า แต่หายไปไหนไม่รู้เสียใจมาก TT^TT)
- ตั้งแต่ใช้ Oil ล้างหน้ามา ยังไม่มีตัวไหนมาแทนได้เลยค่ะ ถึงมีก็ไม่ชอบเท่าเค้าจริงๆ5555
แบรนด์ Three ถ้าใครที่ชอบจะรู้ว่าเป็นสาย organic หนักมาก และคุณภาพดีมากค่ะ อย่าง oilตัวนี้ ใช้ทำความสะอาดmake upได้ดีมากๆ สะอาดหมดจด ไม่อุดตัน ยิ่งวันไหนออกงาน หน้าแน่น ต้องเค้าคนนี้จริงๆค่ะ
- กลิ่นเหมือนไปนอนโรงแรมศรีพันวาเลย มันหอม ผ่อนคลายมากกก555555
- ที่สำคัญ ล้างแล้วหน้าไม่แห้งเลยค่ะ
- ราคาพันปลายๆ แต่คุณภาพขนาดนี้ก็ยอมจ่ายอ่ะ ยิ่งใช้คู่กับโฟมล้างหน้าเค้าจะดีมากจริงๆค่ะ
สุดท้ายโฟมล้างหน้าคู่ใจมาแทน Three Clearing Foam ที่หายไปป...
- เป็นโฟม Cleanserที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ***ขอบอกก่อนนิดนึงค่ะว่าส่วนใหญ่โฟมล้างหน้าเนี่ย จะทำให้หน้าเราแห้งตึงหลังล้างด้วยน้ำ***
- แต่ว่าตัวนี้คนผิวแห้ง ผิวผสมใช้ได้ดีมากค่ะ ไม่แห้งเลย รู้สึกว่าหน้าชุ่มชื้นอยู่มากๆ  (คนผิวมันจะมีสูตรอีกสูตรนึงค่ะ ต้องถาม BA นะ)
- หลังใช้ทุกครั้งจะรู้สึกว่าหน้าสะอาดมากๆๆๆๆๆๆ แต่กลิ่นจะแปลกๆนิดนึงนะคะ ส่วนตัวรู้สึกเหมือนกาว แต่ไม่เป็นไรค่ะ5555
- นี่ขึ้นหลอดที่2 แล้วมันดีจริงๆ แบรนด์นี้คือดีมากๆ อยากให้ทุกคนไปลอง
ราคาอาจจะสูงหน่อย(ที่ไทยน่าจะเกือบ1000) แต่ไม่เท่าThree ลองดูเคาน์เตอร์ได้ค่ะ

จบแล้วจ้าาาา เป็นอย่างไรกันบ้างคะ???
ชอบไม่ชอบตัวไหนก็บอกกันนะคะ
ใครมีอะไรมาแลกเปลี่ยนมาคุยกันได้น้าา
ขอบคุณมากๆนะคะที่ติดตามจนจบ
หวังว่าจะชอบนะคะ ไว้เจอกันใหม่ค่าา