[REVIEW] Kiehl's : Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate 12.5% Vitamin C

44 10
JEBAN GIVEAWAY / ได้รางวัลจากจีบันนี่แหละ!
สวัสดีครับ สมาชิกเวปจีบันทุกคน
วันนี้ผมจะมาขอรีวิวอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ตัวเด็ดจากแบรนด์ Kiehl's ที่ผมได้รับจากกิจกรรมของเวปนะครับ

ผลิตภัณฑ์นั้นคือ Kiehl's Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate Vitamin C 12.5% หรือชื่อที่เราเรียกกันสั้นๆว่า วิตซีคีลส์ นั่นเอง

ถ้าเราจะพูดถึงเซรั่มวิตามินซีในในตลาด คงจะแทบไม่มีใครที่ไม่รู้จัก วิตซีคีลส์ กันนะครับ สำหรับตัวที่จะมารีวิวในกระทู้คือคือรุ่นปรับปรุงสูตรใหม่ในปี 2018 จะมีอะไรบ้างมาดูกันครับ

Kiehl's Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate Vitamin C 12.5%

วิตซีคีลส์สูตรใหม่ขวดนี้ มีการปรับปรุงส่วนผสมที่เห็นได้ชัดๆเลยคือเพิ่มปริมาณวิตามินซีจาก 10% เป็น 12.5% ถ้าเราดูตรงคำอธิบายข้างกล่องจะเห็นได้ว่า วิตามินซี 12.5% แบ่งออกเป็น Ascorbic Acid 10% และ Ascorbyl Glucoside 2.5% แถมยังเพิ่ม Hyaluronic Acid ไปอีก เรามาดูกันดีกว่านะครับว่า ส่วนประกอบชูโรงทั้ง 3 ตัวนี้ มีผลลัพธ์ต่อผิวอย่างไร

Ascorbic Acid หรือ L-Ascorbic Acid เป็นวิตามินซีมีวิจัยหลายตัวมารองรับมากที่สุด ในเรื่องของข้อดีเมื่อเราทาลงไปบนผิว เป็น Antioxident ที่ดีมากและยังช่วยเรื่องการลบเลือนริ้วรอยบนผิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวเราสังเคราะห์ Collagen ได้ดีขึ้น และช่วยเรื่องปรับโทนสีให้ดูกระจ่างใสแถมยังช่วยเรื่องลดรอยสิวได้อีกด้วย

Ascorbyl Glucoside เกิดจากการสังเคราะห์วิตามินซีขึ้นใหม่ โดยจากผสม Ascorbic Acid เข้ากับ น้ำตาลกลูโคส มีข้อดีคือสามารถละลายในน้ำและมีความเสถียรที่สูงกว่า Ascorbic Acid ( คือเจ้า Ascorbic Acid ให้ผลที่ดีมากก็จริง แต่มีข้อเสียคือ มีความสเถียรต่ำมาก แถมตัวมันจะทำงานได้ก็ต้องพึ่งค่า PH ที่ต่ำอีก) ประโยชน์ต่อผิวของ Ascorbyl Glucoside มีหลายอย่างมากทั้งเรื่องปรับความสม่ำเสมอของสีผิว ,ลบเลือนจุดด่างดำ ,ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ,สีผิวสม่ำเสมอกัน

Hydrolyzed Hyarulonic Acid คือ Hyarulonic Acid ในเวอชั่นที่มีโมเลกุลขนาดเล็กกว่า โดย Hyarulonic Acid จะแทรกซึมลงในในผิวแล้วทำหน้าที่คล้ายฟองน้ำ ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
สภาพผิว
ก่อนอื่นเลยต้องบอกถึงสภาพผิวก่อน ผมเป็นคนผิวผสม ช่วงแก้มจะมันแต่จะแห้งตรงโซนหน้าผาก ปีนี้ก็อายุ 31 ปีแล้วครับ ปัญหาผิวที่ผมเจอบ่อยๆก็คือสิวอุดตัน รูขุมขนกว้าง โดยจะมีปัญหาตรงช่วงหน้าแก้มเป็นหลัก

การใช้งาน
ตัวผลิตภัณฑ์มาในเบสซิลิโคน เกลี่ยได้ง่ายและลื่นมาก ไม่ได้รู้สึกเหนาะมากนัก ตอนทาจะรู้สึกอุ่นๆเล็กน้อย หากเรารอให้เซตตัวซักพัก จะไม่ได้มีฟินิชแบบเงาแว๊บมากนะ แถมยังไม่มีความรู้สึกที่หนักหนาเหมือนมีอะไรเคลือบผิวอีก สูตรปรับปรุงรุ่นนี้ทำออกมาได้ดีทีเดียว


จากการลองใช้ทั้งหมด 2 สัปดาห์ โดยทาเช้าเย็นเป็นประจำทุกวัน พบว่า

1. ผิวมีโทนทีสดใสมากขึ้น ก่อนใช้ผิวจะออกติดเหลืองหน่อย พอใช้ไปครบ 2 สัปดาห์ ผิวจะออกโทนขาวขึ้นนะ แถมยังดูไม่หมองเท่าแต่ก่อนด้วย

2. รอยสิวจางลงไปพอสมควร พวกรอยสิวใหญ่ๆ ที่มีสีเข้มๆจางลงไปกว่า 50% ไม่ต้องพึ่งคอนซีลเลอร์หนักมากแล้ว

3. ผิวดูมีความเรียบขึ้น โทนสีดูสม่ำเสมอกันมากขึ้น โดยผิวของผมบางจุดจะมีรอยแดง รอยสิวจางๆบ้างประปราย พอใช้ไปซักพักผมว่า รอยพวกนี้จางลงไปเยอะพอสมควรเลยล่ะ ของเค้าดีจริงๆ

4. ผิวดูอิ่มน้ำมากขึ้น อันนี้สังเกตุจากรูขุมขนนะครับ น่าจะด้วย Hyarulonic Acid มันทำให้ผิวอิ่มฟูมากขึ้นเลยไปช่วยได้รูขุมขนดูเล็กลง แถมผิวยังดูไม่ค่อยแห้งกร้านขาดน้ำซักเท่าไหร่
สรุปการใช้งาน

ข้อดี
ปรับสูตรใหม่ไฉไลกว่าเดิม ส่วนผสมมีความเสถียรมากขึ้น เกลี่ยง่ายลื่นไปบนผิวแล้วเซตตัวแบบไม่มันวาวมาก ทาได้ทั้งเช้าเย็น วิตามินซีสองตัวผสานการทำงานได้อย่างลงตัว ช่วยลดเลือนรอยสิวและจุดด่างดำได้อย่างเห็นผล พอเพิ่ม Hyarulonic Acid ทำให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น ใครที่เคยลองสูตรเก่าแล้วคิดว่าใช้ยาก ผิวเยิ้มไป ไม่ชอบฟีลเหมือนมีอะไรมากองๆบนผิว บอกเลยว่าต้องซื้อสูตรใหม่นี้ เพราะปิดจุดด้อยของตัวเก่าได้หมดเลย

ข้อเสีย
ด้วยความที่เป็นเบสซิลิโคน ใครที่ผิวอุดตันง่ายมากๆหรือแพ้ซิลิโคน แนะนำว่าให้ลองเทสเตอร์ก่อนนะ อีกอย่าง ในส่วนประกอบนั้นมีน้ำมันสกัดจากเปลือกส้ม (Orange Peel Oil) และน้ำมันสกัดจากเปลือกมะนาว (Lemon Peel Oil) ผสมอยู่ใครที่แพ้พวกน้ำมันสกัดก็ต้องระวังนิดนึงนะ
ทางที่ดีไปขอเทสเตอร์จาก Kiehl's มาลองก่อนได้เลยจ้า

สำหรับวันนี้ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้านะครับ


luxio

luxio

สวัสดีค้าบบบ พูดคุยกันได้คับ ทุกเรื่องเลย :3

FULL PROFILE