หมดแล้วไปไหนดี !?
POPuniCORN
44
16
ผู้หญิงกับเรื่องการช๊อปปิ้งเป็นอะไรที่คู่กัน จริง จริ๊งงงง
สวัสดีค่า
POPuniCORN เองค่า
วันนี้ จะมาโชว์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้หมด
พร้อมเห่อเพราะว่าในช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา นี่ ได้สอยอะไรมาบ้าง
รู้สึกว่า ช้อปเก่งง เป็นอีลูกช่างซื้อมาก
ไอ้นู้นหมด ไอ้นี่หมด เอ้าซื้อใหม่
ซื้ออะไรมาใหม่ ซื้ออะไรแบบเดิมมาใช้
มาดูกันค่าาา
เริ่มกันที่ตัวแรกค่ะ
การทากันแดดเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะ หลายๆคนอาจจะหลงลืมการทากันแดดผิวกาย แบบเดียวกับเรา เมื่อก่อนก็ไม่ทากันแดดผิวกาย เพราะมีช่วงที่เจอแดดบ่อยเลยหากันแดดมาทา
เปลี่ยนไปเป็นเธอคนเดิม
กันแดดตัวที่เริ่มแรกใช้ คือ กันแดดของ Cathy doll Aqua Sun (รุ่นพี่บอย) ซื้อมาโดยไม่ตั้งใจ แต่ใช้ไปใช้มาดีซะง้านนน หมดหลอดไป พอช่วงที่นึกอยากใช้กันแดดเลยกลับไปหาซื้อที่เดิม ปรากฏว่าไม่มีขาย ขุ่นพระ หรือเค้าจะเลิกผลิตแล้ว
ผลเลยหยิบอะไรมาใช้ก็ได้ ได้ Biore UV มาใช้ เพราะเค้าเป็นสูตรเย็นน่าจะคล้ายๆกัน แต่พอหมดหลอด
แล้วค้นพบว่า Cathy doll Aqua Sun เค้ายังไม่เลิกผลิต ยังมีจำหน่ายอยู่ เพียงแต่ต้องให้คุกกี้ทำนายกันว่า จะมีขายที่ไหนบ้าง สุดท้าย เจอปุ๊ป สอยปั๊ป กลับไปเป็นเธอคนเดิม
ทำไมถึงกลับมาใช้Cathy dollแบบเดิม แล้วBiore UVไม่ดีเหรอ?
Biore ก็ขึ้นชื่อในเรื่องของกันแดดอยู่แล้ว การที่เลือกน้องมาใช้ก็ไม่ผิดหวังนะ แต่เราชอบเนื้อของCathy doll มากกว่า เพราะเนื้อบางเบากว่า ไม่เป็นคราบสีขาวๆของกันแดด เป็นน้ำมากกว่า ถ้าใครที่ไม่ชอบทาผิวไม่ว่าจะกันแดดหรือครีมบำรุงก็จะรู้สึกได้ชัดเจนเลือกอะไรที่เบาสบายต่อผิวมากกว่า ส่วนในเรื่องของความเย็นนั้นเราให้เท่าๆกัน
กันแดดตัวผ่านไปแล้ว ต่อไปเป็นกันแดดผิวหน้าค่ะ
ใช้ครีมอะไรก็ไม่ขาว บำรุงอะไรก็ไม่ใส แล้วใช้กันแดดกันหรือเปล่า ?
ครีมกันแดดนี่ต้องทานะจ้ะ แดดประเทศไทยไม่ว่าจะฤดูไหนก็รุนแรงเหลือเกิน
>หลอดเดิมเป็นครีมกันแดดหมอโอ๊ค Smith total sunscreen
>>พอหมดหลอดก็ได้โอกาสอันดีที่เราจะะได้ไปลองครีมกันแดดแบรนด์อื่นๆบ้าง
ไปต่อไม่รอแล้วน้าาาา
Smith total sunscreen VS Juv Water Gel UV Protection
Smithเป็นครีมกันแดดที่ผลิตคิดค้นโดยผู้เชี่ยวชาญทางผิวหนัง เราจึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะสอยมาเพราะผิวหน้าเรามีโอกาสเกิดสิวได้ง่ายมาก แต่ต้องยอมรับว่ามีบางช่วงจังหวะที่ยังอุดตันบ้างเล็กน้อย พอหมดหลอดก็อยากลองเปลี่ยน ในส่วนของJuv ถือน่าสนใจเพราะเป็นครีมกันแดดออร์แกนิค พอได้ลองใช้น้องก็ทำได้ดี มีความบางเบา แต่การซึมเข้าผิวต้องให้เวลาน้องเค้าหน่อย มีการอุดตันบ้างเล็กน้อย โดยรวมสำหรับการไปต่อถือว่าทำได้ดีและติดใจมากด้วย
มาล้างหน้ากันจ้า บอกเลยว่า
รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง
Senka Perfect Whip ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เราต้องลอง ก่อนหน้านี้เราใช้สูตร Fresh Anti Shine ซึ่งเหมาะกับคนหน้ามัน ใช้แล้วมีความสะอาดดีมากๆ หมดหลอดลองเปลี่ยนมาลองใช้สูตร Acne Care ล้างหน้าได้สะอาดเหมือนกัน หน้าเอี๊ยดกว่าด้วย และถ้าใครเป็นสิวสด หลังล้างจะแสบตรงสิวนั้นมาก ส่วนเรื่องใช้แล้วสิวหาย สิวลดนั้น เรายังว่าเฉยๆเพราะน้องสิวไม่เคยหมดไปจากหน้าอยู่แล้ว เอาเป็นว่าสำหรับเรา ที่ล้างผิวหน้าให้ผลลัพธ์ถึงความสะอาดก็เพียงพอแล้ว
POSITIF Phyto Blanc Luminessence Lotion โลชั่นบำรุงผิวหน้า เราสอยมาพร้อมๆกับClinique ID ซึ่งตอนนี้ใช้ใกล้จะหมดแล้ว แต่เป็นการใช้บำรุงผิวกายแทน ??? เป็นช่วงที่อารมณ์อยากกลับมาใช้น้ำตบเห็ด ไม่อดทนใช้POSITIFเลย เพราะเป็นช่วงที่สิวถาโถมมาก เราเลยอยากบำรุงหน้าให้ผิวแข็งแรงขึ้น
น้องPosคุณสมบัติเด่นๆจะเน้นเติมความชุ่มชื้น ผิวแข็งแรง และปรับให้ผิวกระจ่างใส ซึ่งหลังใช้แล้วเรื่องความชุ่มชื้นเฉยๆ เรื่องผิวแข็งแรงก็เฉยๆ มีเพียงความกระจ่างใสขึ้นมาเล็กน้อย
ส่วนน้องOriนั้น เน้นการปลอบประโลมผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น น้องสามารถตอบโจทย์ในการช่วยรักษาสิวของเราในตอนนี้ได้ดีกว่า
น้องPosนั้นก็ดี นั้นOriก็โดนใจ
ไม่ใช่ว่าน้องไม่ดีนะ แต่แค่อยากขอบคุณที่ผ่านเข้ามา
Thanks u ,NEXT
ผ่านพ้นช่วงอากาศร้อนไปแล้วก็หมดหน้าที่ของสกินแคร์สำหรับฤดูร้อนอย่างClinique ID เพราะช่วงฤดูสิวเข้ามาแทน
ใช่ค่ะ ผู้หญิงทุกคนอยากมีผิวหน้าที่ดี ผิวหน้าที่ใส ไร้ริ้วรอย
ดิฉันเลยต้องสู้ค่ะ
สอย Estee ANR ในตำนานมาเลย ผิวฉันต้องดีผิวฉันต้องแข็งแกร่ง สิวจะได้น้อยลง
????
ไปให้สุดอย่าหยุดถ้าผิวยังไม่สวย
สำหรับรีวิว Clinique ID
สามารถดูกันเต็มๆได้ที่ https://www.jeban.com/topic/274468
แต่งหน้าตลอด แล้วไงล่ะ ไพรเมอร์ที่มีหลอดเล็กๆ(Smashboxเอย Hourglassเอย)ก็หมดหน่ะสิ เดือดร้อนต้องซื้อใหม่ ของเดิมคือดีอยู่แล้ว แต่ก็อยากลองของใหม่บ้างอะไรบ้าง เลยจัด Erborian Bamboo Matte Powder Effect Cream มาซะเลย
เราเคยใช้ทั้งตัว BB และ CC ของแบรนด์ Erborian
ซึ่งเค้าเป็นแบรนด์ที่มีที่มาที่ไปน่าสนใจ เลยเลือกตัวนี้มาลองใช้
คุณสมบัติคือ เป็นไพรเมอร์ที่ผสานคุณค่าแบบ 2 in 1 ที่ช่วยปรับผิวให้เนียนเรียบพร้อมสำหรับขั้นตอนการแต่งหน้าในลุคแมตต์ พร้อมมอบความชุ่มชื้นด้วยสูตร Bamboo Waterlock Complex ให้ผิวแลดูโกลว์สวย กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
เนื้อเป็นสีเขียวๆ สัมผัสเป็นเจล ไม่ลื่นปรืดแบบSmashbox หลังทาแล้วหน้าจะดูชุ่มชื่น ให้งานผิวแมตท์ แต่พอเวลาผ่านไปก็ไม่คุมมันให้ เกลี่ยรองพื้นต่อได้ไม่ยาก แต่ ถ้าน้องเค้าไม่ชอบสกินแคร์และรองพื้นตัวไหน น้องเค้าจะเป็นแบบในภาพที่ 3 ค่ะ รองพื้นติดกันเป็นคราบติดนิ้วขึ้นมา เกลี่ยไปเรื่อยๆเริ่มเป็นขุยๆ (เหมือนตอนที่ใช้benefitเลย) โดยการที่ได้ลองใช้เป็นแบบนี้ค่ะ
Biotherm Ampoules > Juv > Erborian Bamboo > รองพื้นใดๆตั่งต่าง >>>>เป็นคราบ
Origins > L’Occitane cream > Juv > Erborian Bamboo > รองพื้นใดๆตั่งต่าง >>>> น้องเค้ารัก L’Occitaneใช้ด้วยกันได้
Origins > Juv > Erborian Bamboo > Shu Uemura >>>> เกลี่ยไม่ดีเป็นขุย เป็นคราบ
Origins > Juv > Erborian Bamboo > Dior backstage >>>> น้องเค้าชอบ ใช้ด้วยกันได้
Origins > Juv > Erborian Bamboo > Tarte foundation stick >>>> น้องเค้าไม่ชอบรองพื้นตัวนี้เป็นขุยเป็นคราบตลอด
สรุปคือน้องเค้าไม่ชอบ
Biotherm Ampoules และ Tarte Foundation Stick
ใช้ทีไรเป็นคราบเป็นขุยตลอด แม้ว่าบางครั้งจะใช้ L'occitant ร่วมแล้วก็ไม่รอดจริงๆ
รองพื้นใดๆตั่งต่างๆในที่นี้หมายถึง หมายถึง Shu Uemura Unlimited, Dior backstage และ Clarins BB Beauty Perfector SPF 30 PA+++ Anti Pollution ซึ่งตอนนี้เราก็ไม่ได้ใช้Shuแล้ว เพราะเวลาใช้รู้สึกหน้าหมอง
ในส่วนของการคุมมันและช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนั้น
เราว่าน้องเค้าทำได้ในระดับกลางๆ ผ่านไป 2-3 ชม.หน้าก็มันแล้ว
เครื่องสำอางมีลบเลือนระหว่างวันบ้าง
ไพรเมอร์แต่ละตัวทำหน้าทีคล้ายกัน มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
ดังนั้น เราถือว่า
ไม่มีใครแทนใครได้ทั้งนั้น
ไม่ทาแป้งไม่ได้ค่ะ เพราะเราหน้ามัน
หลังจากที่รักกับศรีจันทร์มาระยะหนึ่งที่เรียกได้ว่ายาวนานพอสมควร
ก็อยากลองสิ่งใหม่ๆดูบ้าง ผลเลยได้ทั้งสองค่ะ
THREE Ultimate Diaphanous Loose Powder รุ่น Matte เบอร์ 01
เนื้อบางเบาจริงๆ ทาเหมือนไม่ทา รุ่นบอกว่าเเมตก็จริงแต่ทาแล้วให้งานผิวไม่ได้แมตแบบแห้งๆ ไม่ได้แมตจนเกินไป และก็ไม่ได้คุมมันเสียเท่าไหร่ ได้ความดีงามด้วยเนื้อละเอียด สัมผัสที่บางเบา ไม่หนา ไม่หนัก
Fundamental Cashmere Matte Power
เป็นแบรนด์คนไทยอีกแบรนด์ที่น่าสนใจ เพราะเค้าเป็นแบรนด์ที่ช่วยดูแลผิวเป็นสิวและยังบอกอีกว่าว่าเป็นแป้งที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 100%(Tripple Matte Powder จาก Silica, Kaolin และแป้งจากข้าวไทยที่ใช้นวัตกรรมผลิตจนเนียนละเอียดที่สุด) น้องเค้าเป็นแป้งtranslucentใช้ได้กับทุกสีผิว แป้งมีความละเอียดดี นุ่มดี เรื่องคุมมันทำได้มากกว่าThree นิดนึง
TIP : ใครที่ชอบงานผิวแนะนำให้เอาแปรงลงแป้งก่อนแล้วค่อยใช้พัฟกดค่ะ อีกส่วนที่ชอบมาก คือ เเพ็คเกจ เค้ามีชั้นกันระหว่างแป้งกับพัฟด้วย อันนี้คือชอบ มีความใส่ใจในเรื่องความสะอาด
สรุปโดยรวม คือ รักทุกคน ดีงามทั้งสามอันค่า
รักเธอทั้งหมดของหัวใจ
Resona Shower Clean โรลออนหนึ่งเดียว ที่ยืนพื้นไม่เคยไปไหน
เพราะเวลาทาแล้วมันแห้งดี เคยใช้สเปรย์ซึ่งมันหมดเร็วไป แบบนี้อยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือนเลย ให้กลิ่นหอมเบาๆ สะอาดๆ ควบคุมกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี
ไม่พูดเยอะ เจ็บคอ
รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
ไม่ว่าจะไปน้ำหอมกลิ่นไหน ก็ชอบกลิ่นนี้มากจริงๆ Clinique happy heart ♥ กลิ่นหอมดอกไม้ ดมแล้วรู้สึกไม่ฉุนเกินไป สะอาด เรียบร้อย ใช้แล้วมีความเป็น
ผู้หญิงมากๆ ขวดเก่าหมด ต้องรีบตำขวดใหม่อย่างไวเลย ต่อให้หมดขวดที่สอง ขวดที่สามเราก็จะรักอยู่อย่างนี้แหละ ซื้อซ้ำวนไปค่า รักแค่ไหนถามใจดู
ช่วง ? " อยากรู้ อยากลอง อยากได้ของใหม่ "
ได้ยินชื่อเสียงโด่งดังเหลือเกิน
กับคลีนซิ่งผัก WONDER BATH SUPER VEGITOKS CLEANSER
ไม่รอช้า รีบคว้ามาลองโดยไว
จัดมาด้วยกันสองสี คือ
สีเขียว สูตรลดสิว และสีแดงสูตรลดจุดด่างดำ
ด้วยกิมมิคอันโดดเด่นคือ เวลาที่ทาลงไปบนใบหน้า จากสีเขียวเข้มค่อยๆเปลี่ยนเป็นเป็นสีเขียวอ่อนๆลง กลายเป็นฟองฟูขึ้นเรื่อยๆ (พอมันเป็นฟองแล้วจักกะจี๋มากๆ) นวดหน้าแล้วล้างออก หน้าเราก็จะสะอาด หลักๆของเราคือ ต้องการความสะอาดอีกขั้นหลังทำการเช็ดเครื่องสำอางออก ก่อนที่จะล้างหน้าขั้นตอนสุดท้ายด้วยSenka Perfect Whip
แต่ไม่รู้ว่าเราทิ้งเวลารอให้มันฟู่น้อยเกินไปไหมหรือใช้ปริมาณที่เยอะเกินไป พอล้างน้ำเปล่าแล้วมันลื่นๆล้างออกยากเหลือเกิน ไม่ได้รู้สึกโดดเด่น แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร สำหรับเรา เราว่าเฉยๆจ้ะ
Dior Backstage Face & Body Foundation
เป็นรองพื้นอีกตัวที่มีความวอแววอยากจะได้ อ่านมาเยอะว่า เป็นรองพื้นเน้นงานผิวสวย เหมาะกับคนที่ผิวดี เพราะน้องไม่ปกปิด สอยมาตอนลด20% พอได้ลองแล้ว
เนื้อน้องเค้าบางเบาจริงๆ
เนื้อสัมผัสเป็นน้ำเลย ใช้นิ้วเกลี่ยและจะใช้เท่าไหร่ก็ไม่ทำให้ดูหนา
สีที่เราซื้อมาเป็นสี 2W มีความสว่างกว่านิดนึงประมาณ0.2ได้
ให้งานผิวสวย เนื้อรองพื้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผิว
เรารอยเยอะ น้องไม่ปกปิดจริงๆ ทาซ้ำก็ยังปิดไม่ได้ ตอนใช้ครั้งแรกคือมือหนักมาก แต่ผลที่ได้ผิวก็เด้งมาก ไม่ใช่เล่นๆเลย
เรื่องคุมมัน น้องไม่คุมให้จ้ะ
ใช้แล้วสบายผิวเหมาะกับการใช้ได้ในทุกๆวันเลย
หมดแล้วค่า
ถึงแม้จะไม่ได้ซื้อทีเดียวรวด แต่พอคิดเป็นค่าเงินออกมาแล้ว ก็ไม่ใช่เล่นๆ
คงต้องระงับกิเลสเยอะๆหน่อย ก็แหม ใครจะอดใจไหว ในเมื่อของมันต้องใช้ อีกทั้งมีของออกใหม่กันตลอดเวลา เราเองก็ไม่อยากพลาด 555
วันนี้ขอตัวลาไปก่อนนะคะ ไว้พบกันใหม่กระทู้หน้า
บ้าย บายยยย