CASETITY ของมันต้องมีนะแม่!
bundaree sakorn
25 ธ.ค. 62
36
10
HI สาวจีบันทุกคนค่าาา วันนี้เราจะมาชี้ช่องทางเสียทรัพย์ ส่งท้ายปี 2019 กันหน่อยย
และสิ่งที่เราจะกล่าวถึงก็คืออ CASETIFY นั่นเอง!!! สาวๆหลายคนคงรู้จัก แบรนด์CASETIFYมาบ้างแล้ว ส่วนสำหรับใครที่ไม่รู้จักแบรนด์นี้ เล่าคราวๆก็คือเป็นแบรนด์ที่ผลิตและออกแบบเคสโทรศัพท์และเคสของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ แถมเคสแบบทุกประเภทของเขายังผ่านการทดสอบDrop Test มาตรฐานระดับ US Military Grade (MIL-STD) ด้วยเด้อมั่นใจในคุณภาพได้ระดับหนึ่งเลย CASETIFY มีสำหรับงานใหญ่ตั้งอยูที่ฮ่องกง เปิดตัวมาได้8ปีกว่าๆแล้ว แถมยังมีการ CO.LAB กับแบรนด์ดังต่างๆไม่ว่าจะเป็น DHL,Pokémon, Vetements, Saint Laurent ล่าสุดก็ไปco.labกับสายเกาอย่างวง BTS ด้วยจ้าา คาดว่าในอนาคตจะต้องมีการร่วมมือกับอีกหลายแบรนด์อย่างแน่นอน
พูดมาถึงขนาดนี้แล้วทุกคนคงรู้ว่าเราไม่ได้แค่เอาประวัติมาบอกอย่างเดียว เราโดนตกไปแล้วเมื่อเดือนก่อน เพราะงั้นวันนี้เราก็เลยจะมาreview + how to + tricks การสั่งยังไงให้ได้ราคาถูก แบบคร่าวๆให้ดูกันนะจ้าา (กระทู้นี้ของเน้นแต่เรื่องเคสของแบรนด์นะจ้า)
REVIEW : รุ่นที่เราโดนตก ได้แก่ รุ่น Neon Sand Case จ้า แบบว่าคือเก๋ไก๋มากแม่ เราใส่กับ Iphone8 Plus ถ้าตีเป็นคะแนนเราให้ 8/10 WOWกับแบบและลายมากแถมยังสลักชื่อได้อีก ส่วนตัวนี่คิดว่าคุ้มที่จะลงทุนมาก555 หัก 1 คะแนนเพราะรุ่นนี้ตัวเคสค่อนข้างมีน้ำหนักเยอะ ถ้าใครชอบเคสเบาๆนี่อาจจะไม่ถูกใจนัก หักอีก 1 เรื่องความสะท้อนแสง เราคาดหวังว่ามันน่าจะนีออนมากๆ แต่พอเอาเข้าจริงก็เห็น แค่นิดหน่อยไม่เยอะมากจ้า (แต่ในที่สว่างก็สวยนะบอกเลยย) ราคา อยู่ที่ประมาณ 1200 บาทไทย (แอบบอกว่าเขาส่งฟรีนะอิอิ)เวลาจัดส่งของ ก็อยู่ที่ 7-15 วันทำการ ถือว่าโอเคเลยทีเดียว เพราะเราเลือกส่งแบบปกติ เน้อ ถ้าใครอยากได้เร็วเขามีให้เลือกแบบ DHL Express Worldwide นะคะ ใช้เวลาแค่ประมาณ 7 วันเอง แต่เสียเงินเพิ่ม น้าาา
สวยมากจ้าแม่
จบการรีวิวไปแล้ว 1 ต่อไปจะเข้ามาถึงโหมด HOW TO การเลือกซื้อกันบ้าง เราไม่ขออธิบายละเอียดมากน้า จะไปกันแบบคร่าวๆให้พอจับทางกันได้เด้ออ
มาเริ่มจากหน้าต่างเว็บไซต์คร่าวๆกันก่อน ก็จะประมาณรูปด้านบนเลยค่ะ โดยแทบด้านบนจะลิงค์ต่างๆให้เราคลิ๊กเลือก เริ่มต้นที่ (สังเกตขีดเขียวๆนะคะ อาจจะเล็กหน่อยเราย่อมาตัดแปะรวมกัน555) CUSTOM STUDIO : จะบอกถึงประเภทต่างๆที่มีทั้งหมดในเว็บนี้ มีทั้งที่เป็นเคสสำหรับกันกระแทกโดยตรง เคสนีออน เคสกลิ๊ตเตอร์ หรือโมโนแกรมเคส แต่ในแต่ละประเภทจะไม่มีทุกรุ่นนะคะ เราต้องมาเลือกเอาอีกที ใครขี้เกียจมานั่งเดาว่าเคสแบบนี้จะมีรุ่นเราไหมให้ไปช่องต่อไปPHONE : บอกรุ่นทั้งหมดที่สามารถใช้ได้กับ casetify เราสามารถกดเข้าไปเลือกรุ่นมือถือตัวเองได้เลย แล้วมันจะขึ้นแบบให้เลือกเลยจ้า ไม่ต้องมานั่งดูว่าแบบนี้จะใช้กับรุ่นนี้ได้ไหม และที่สำคัญ!! ไม่ได้ใช้ได้แค่ไอโฟนนะ ซัมซุงก็ใช้ได้จ้าาาAPPLE WATCH & TECH ACCESSORIES : สองช่องนี้ก็ตามชื่อเลยจ้า เราจะไม่พูดถึงเพราะเน้นเคสโทรศัพท์น้าาาCOLLECTIONS : ในโหมด CO.LAB ก็จะอยู่ในช่องนี้เลยจ้า เราสามารถคลิ๊กเข้าไปดูได้ว่าตอนนี้ทางแบรนด์เขาco.labกับแบรนด์อะไรบ้าง สะดวกสุดๆเลยต่อไปเป็นวิธีการShop ไปดูกันเลย!
จากภาพก็คงพออธิบายให้สาวๆเข้าใจถึงขั้นตอนการเลือกซื้อได้เบื้องต้นแล้วเนอะ หลักๆก็มีอยู่ แค่ 4-5 ขั้นตอนในการเลือกซื้อ *สังเกตตามจุดรูปดาวที่เราแปะไว้* เลือกประเภทมือถือของตัวเอง (ได้ทั้ง Apple และ Sumsung ) เลือกรุ่นโทรศัพท์ เลือกประเภทเคส (เผื่อว่าเกิดเปลี่ยนใจอยากได้เคสลายอื่น) นอกจากเลือกลายแล้วเลือกสีได้ด้วยเด้อ เมื่อเลือกเสร็จแล้วก็มาถึงคัดตอนการ edit ในสไตล์ของตัวเองเลยจ้า (รูปหัวใจสีแดง) ช่องนี้เขามีไว้ให้ใส่ชื่อ หรือใส่คำที่ตัวเองชอบลงไป ใส่ได้ประมาณ8ตัวอักษร เปลี่ยนสีตัวอักษร เปลี่ยนฟอนต์ และยังเปลี่ยนตำแหน่งการวางได้ด้วยจ้า เก๋ไก๋สุดๆไปเลยจ้า
เมื่อช็อปเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กดลงตะกร้าเลย เว็บจะเด้งไปหน้าตะกร้า และบอกรายละเอียดสินค้า พร้อมราคาให้เรียบร้อย แล้วกดเช็คเอ้าท์ก็จะไปถึง ขั้นตอนจ่ายเงินขั้นตอนสุดท้ายจ้า มาถึงขั้นตอนนี้ สาวๆจะเห็นว่าในหน้าตะกร้าจะมีช่องให้เราใส่โค้ดอยู่ ถามว่าเอาโค้ดมาจากไหน ดูภาพต่อไปในส่วนของ TRICKS ได้เลยจ้าาา
TRICKS : สำหรับวิธีการ การเลือกซื้อสินค้ายังไงให้ถูกและดี ง่ายๆตามภาพด้านบนสาวๆจะเห็นแถบสีแดงอยู่บนสุดของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเปิดไปหน้าไหนแถบแดงนี้ก็จะขึ้นอยู่ตลอด! เพราะเป็นแถบบอกโค้ดลดราคา สินค้าของเดือนนั้นๆนี้เองจ้า เมื่อเราไปถึงหน้าตะกร้าสินค้าแล้วก็สามารถเอาโค้ดด้านบนมาใส่ได้เลยยย มีตั้งแต่10% 15% 20% ตามเงื่อนไขทางแบรนด์กำหนดเลย ทริคที่2 : อยากได้ถูกให้เลือกจัดส่งแบบธรรมดาจ้า ส่งฟรีทั่วโลกไม่มีขั้นต่ำ ใช้เวลาแค่7-14 วันเอง สำหรับใครที่ไม่รีบ ถือว่าคุ้มสุดๆ ทริคที่ 3 : สุดท้ายที่อยากจะแนะนำคือให้กรอกอีเมล์ที่เราใช้ประจำในการสั่งซื้อเพราะว่า เขาจะแจ้งโค้ดลดผ่านทางอีเมล์มาตลอด บางโค้ดที่ลดเยอะๆมันก็จะมีเวลาแปบเดียว เราก็ไม่สามารถเข้าไปดูหน้าเว็บได้ตลอดเวลาเพราะงั้น อีเมล์ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยจ้า อ่อลืมบอกว่าหลังจากเราจ่ายเงินเสร็จแล้ว ก็จะมีอีเมล์ยืนยันการสั่งซื้อมาตามอีเมล์ที่เรากรอกไป และในอีเมล์จะมีลิ้งค์ที่เขียนว่า "ติดตามคำสั่งซื้อ" เราสามารถเช็คสถานะสินค้าได้จากตรงนั้น สุดท้ายก่อนจาก ถ้าเราเขียนผิดพลาดอะไรไปก็ต้องอภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะจ้า ใครชอบ ไม่ชอบ หรือสงสัยอะไร มาคอมเม้นต์บอกเล่าเก้าสิบกันได้นะ ไว้ว่างๆเราจะมาเล่าเม้ามอยกันอีก บายยยย