สวัสดีค่ะทุกคนในนาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก  Kiehl's Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate อันโด่งดัง เรา... จากคนที่ไม่เคยสนใจจะเอาวิตามินซีมาทาหน้าเพราะกลัวว่าจะทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสง ? แต่พอหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง และเจอรีวิวแบบแน่นๆ เข้าไปก็หักห้ามใจไม่ไหว ใจอ่อนสิคะคราวนี้ ฮ่าๆๆๆ อีกเหตุผลที่เป็นแรงผลักดันให้เราเปิดใจลองใช้วิตามินซีก็คือริ้วรอย สิวอุดตัน ผิวไม่เรียบเนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ และรูขุมขนอันเบ่งบานไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น (เหตุผลเยอะเกือบร้อย ฮ่าๆๆ)

หากใครพอจะเคยเห็นกระทู้นี้ผ่านตาไปบ้างก็คงจะพอจำได้ว่า เมื่อ 4 เดือนก่อน เราเคยรีวิวคุณคนนี้เอาไว้ หลังจากที่ได้ทดลองใช้เทสเตอร์ทั้งเช้าและก่อนนอน สรุปได้ว่าเค้าได้ไปต่อนะคะ จากนั้นเราก็วอแวกับตัวเองเดินเข้าเดินออกเคาท์เตอร์ของคีลส์เป็นว่าเล่น ถามว่าซื้อมั้ย?? ... ก็ยัง เพราะยังงกอยู่ (งกด้วยอยากสวยด้วย 555) จนแฟนของเรารับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ซ่อนอยู่ (หรือลำไยก็ไม่รู้เพราะวอแวเหลือเกิ๊น ฮ่าๆๆๆ) คุณเค้าเลยเปย์มาให้ด้วยไซส์ใหญ่บึ้ม ขนาด 100 ml ... เอาไปใช้ให้จุใจกันไปเลย  > v < “

​

~ เอาล่ะ ตามมาดูคุณงามความดีของคุณคนนี้กันค่ะ ~

สภาพผิว ?

ผิวผสมค่อนไปทางแห้งและขาดน้ำ มีฝ้า กระ จุดด่างดำ รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีริ้วรอยตื้นๆ และริ้วรอยร่องลึก

 Kiehl's Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate

ข้อมูลจากแบรน์ ?

• เนื้อเซรั่มบางเบา

• มีส่วนผสมจากวิตามินซีบริสุทธิ์มากถึง 12.5%

  ประกอบด้วยวิตามินซีบริสุทธิ์เข้มข้น Ascorbic Acid 10.5% ช่วยลดเลือนริ้วรอยทั้งตื้นและลึก ปรับสภาพผิวให้เปล่งปลั่ง และมี Ascorbyl Glucoside หรือ Vitamin Cg 2% ที่ช่วยให้มีการปลุกฤกธิ์ทันทีที่ซึมซาบเข้าสู่ผิวชั้นบน ดังนั้นจึงช่วยบำรุงผิวและมุ่งส่งเสริมการลดเลือนริ้วรอยต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีไฮยาลูโรนิก แอซิด ที่ผ่านการแยกส่วน (Fragmented Hyaluronic Acid) เป็นไฮยาลูโรนิก แอซิดชนิดที่มีขนาดเล็กและซึมซาบไว มีความสามารถในการอุ้มน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวถึง 1000 เท่า ดังนั้นไฮยาลูโรนิก แอซิดจึงทำหน้าที่เสมือนฟองน้ำ โดยดึงความชื้นเข้าสู่ผิวชั้นนอกแล้วพองตัวขึ้นเมื่อดูดซับความชื้นไว้

•  ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันจากการใช้เซรั่มวิตามินเข้มข้น จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว เพื่อการดูแลปัญหาผิวที่มีริ้วรอย
  
  

?คุณสมบัติโดดเด่น

         * ลดเลือนจุดด่างดำให้จางลง
         * รับผิวชั้นนอกให้เปล่งปลั่งกระจ่างใส
         * ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยทั้งริ้วรอยตื้นและริ้วรอยร่องลึกของผิวชั้นนอกให้จางลง โดยเฉพาะบริเวณหางตาและมุมปาก
         * กระตุ้นการสร้าง Collagen ตามธรรมชาติ ผิวจึงเรียบเนียนเปล่งปลั่งสดใสยิ่งขึ้น

? ปราศจากสารกันเสีย ปราศจากการแต่งสีและกลิ่น 

บอกส่วนผสมอย่างชัดเจน ผลิตภัณฑ์ถูกบรรจุในขวดแก้วสีชาเพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาแอนติออกซิเดนซ์จากแสงและเพื่อให้เซรั่มสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ตัวฝาขวดแข็งแรงใช้ง่ายเพียงหมุน เปิด–ปิด ตามสัญลักษณ์ที่ระบุไว้ จากนั้นจึงกดปั้มผลิตภัณฑ์ออกมา

ลักษณะของผลิตภัณฑ์ ?

เซรั่มกึ่งครีม เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย รู้สึกอุ่นๆ ที่ผิวแต่ไม่นานความรู้สึกนั้นก็หายไปเองค่ะ มีกลิ่นซีตรัสๆ แอบคล้ายกลิ่นสนิม 5555 และจะได้กลิ่นนั้นอยู่ระยะนึงเลยค่ะ... เมื่อลงไปบนผิวจะเห็นได้ว่ามีลักษณะคล้ายซิลิโคนเคลือบผิวอยู่ ซึ่งมันคือ  Dimethicone เป็นกลุ่มของซิลิโคนที่ช่วยเติมความชุ่มชื่น และก่อให้เกิดการอุดตันน้อยกว่า สาวๆที่แพ้ซิลิโคนควรทดสอบการแพ้ก่อนนะคะ สีของเซรั่มเมื่อเปิดใช้ครั้งแรกเป็นสีขาวจั๊วที่ขาวแบบกระดาษเลยนะคะ แต่ 3 เดือนผ่าน เปลี่ยนเป็นสีที่ขาวนวลขึ้นเล็กน้อย ดังภาพ

วิธีใช้ ?

หมุนล็อคเพื่อเปิด แล้วกดปั้มเนื้อเซรั่มออกมาเพียงปั้มเดียว แต้มบนใบหน้าเน้นจุดที่มีริ้วรอยมากเป็นพิเศษและเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า เราใช้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนเลยค่ะ

ผลลัพธ์ของการลดเลือนจุดด่างดำ ?

สิวหัวช้างที่ถูกบีบเค้นจนเกิดรอยแผลเป็นดำคล้ำ ในตอนนี้ 3 เดือนผ่านไป มันดีขึ้นมาก กระก็ดูจางลงเล็กน้อย 

ผลลัพธ์เรื่องรูขุมขน ?

ในส่วนของรูขุมขนเบ่งบานตามสภาวะแวดล้อมและการนอนน้อย แต่เมื่อไหร่ที่มีพฤติกรรมดูแลสุขภาพดี รูขุมขนก็จะดีขึ้นตามไปด้วยนะคะ แต่ที่คุณเค้าทำได้ในทันทีคือช่วยเบลอรูขุมขนสูสีกับไพรเมอร์เลยค่ะ

ผลลัพธ์ก่อนและหลังลงผลิตภัณฑ์บนผิวหน้า ?

ความรู้สึกที่ได้รับ เนื้อเซรั่มมีความบางเบา ให้ความรู้สึกอุ่นทั่วทั้งใบหน้า สาวๆ บางคนอาจจะรู้สึกแสบ ยุบยิบๆ ได้นะ แต่เราไม่รู้สึกแสบเลย อารมณ์แบบหน้าชั้นแข็งแรงงงงง 555 เมื่อลงไปบนผิวจะเห็นได้ว่ามีลักษณะเป็นซิลิโคนเคลือบผิวอยู่จีงช่วยเบลอรูขุมขนได้ในระดับนึงเลยค่ะ

Finished Look!!

ผลลัพธ์หลังลงเมคอัพ ?

เราว่าเค้าทำหน้าที่คล้ายไพรเมอร์เลยล่ะ เพราะผิวโดยรวมดูเรียบเนียนและละเอียดมากขึ้น  ช่วยเบลอรูขุมขนได้ด้วยนะคะ และยังช่วยทำให้หน้าดูแมทและโกลว์ในเวลาเดียวกัน ให้ฟินิชลุคของผิวที่สุขภาพดีโดยเฉพาะเมื่ออยู่กลางแจ้งคือดีงามมาก เราสังเกตมาหลายครั้งแล้วว่าทุกครั้งที่ใช้คุณคนนี้มักจะมีคนทักว่าหน้าเนียน ผิวโกลว์ ... ฟินเลยค่ะ 

ผลลัพธ์โดยรวม ?

สำหรับคุณคนนี้เราใช้อย่างต่อเนื่องเข้าสู่เดือนที่ 3 แล้วนะคะ โดยใช้สลับกันกับสกินแคร์ที่เป็นกลุ่ม AHA หรือ BHA เพื่อลดโอกาสเกิดความระคายเคือง เนื้อสัมผัสเป็นเซรั่มเบาบาง ความรู้สึกเมื่อทาลงไปเหมือนเคลือบผิวเอาไว้แต่จริงๆ แล้วเค้าซึมเข้าสู่ผิวนะ ไม่ทิ้งความมันเหนอะหนะบนใบหน้า ริ้วรอยเล็กๆ บางๆ ดูตื้นขึ้น แต่ต้องขอออกตัวก่อนว่าเราใช้ร่วมกับสกินแคร์กลุ่ม Anti-aging ด้วยนะคะ เพื่อเป็นการรวมพลังและเสริมประสิทธิภาพกันและกัน อิอิ นอกจากนี้ยังได้ผิวที่กระจ่างใสมากขึ้น ฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยสิวเก่าๆ จางลง ส่วนรอยสิวใหม่ๆ ก็จางลงเร็วกว่าปกติเล็กน้อย สามารถให้ความชุ่มชื้นได้บ้าง แต่ผิวผสมค่อนไปทางแห้งและขาดน้ำง่ายมากแบบเรายังจำเป็นต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ควบคู่กันไปด้วยจะทำให้ดีต่อผิวมากกว่าค่ะ ในส่วนของความสามารถในการผลัดเซลล์ผิวเราว่าเค้าทำได้ดีเลยนะคะสังเกตได้จากผิวที่เรียบเนียนมากขึ้น แต่กว่าจะเรียบเนียนนั้น ในช่วงแรกๆ อาจจะมีสิวผุดขึ้นมาได้บ้างแต่ในระยะหนึ่งสิวพวกนี้ก็จะแห้งและหลุดไปค่ะ ขอให้ทุกคนอดทนกับช่วงเวลานี้ ^ v ^ ส่วนใครที่อดทนไม่ไหวเหมือนเราเพราะใจร้อนอยากให้สิวแห้งและยุบไวๆ เราก็จะสลับเอา BHA มาใช้ควบคู่กันไปด้วยค่ะ แต่ใช้คนละเวลากันนะคะ เนื่องจาก BHA จะสามารถเข้าไปกำจัดแบคทีเรียจากสิวต่างๆได้ลึกมากกว่า สิวจึงผุดไว แห้งไว หลุดเร็ว

ข้อแนะนำ ?

• หากใช้ในเวลากลางวันควรทาควบคู่กับครีมกันแดด 

• ควรลงเซรั่มตัวนี้หลังสกินแคร์ที่มีเนื้อบางเบากว่าเพราะทาไปแล้วจะมีซิลิโคนเคลือบผิวอยู่ จึงทำให้สกินแคร์ที่มีเนื้อบางเบากว่าซึมเข้าสู่ผิวได้ยาก

• ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีคุณสมบัติหลักๆ เป็น AHA หรือ BHA ซ้ำซ้อนกัน ควรเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นเพื่อลดโอกาสการเกิดความระคายเคืองค่ะ

• สำหรับการใช้ครั้งแรก ควรเทสที่หลังใบหู หรือท้องแขนก่อนเสมอ จนแน่ใจว่าไม่แพ้ไม่ระคายเคืองจึงนำไปบำรุงบนผิวหน้า

• ควรมีฝาขวดหุ้มหัวปั้มอีก 1 ชั้น เพื่อลดโอกาสของการสัมผัสกันระหว่างอากาศ/สิ่งแวดล้อมภายนอกกับตัวผลิตภัณฑ์

• การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนประกอบของวิตามินอี , กรดเฟอรูลิก , Niacinamide ที่เสถียรแล้ว จะช่วยส่งเสริมการทำงานของวิตามินซีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อแนะนำจากแบรนด์ ?

• แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่าการปกป้องสูงและมีส่วนผสมของวิตามินอี ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี สาเหตุของการเกิดปัญหาริ้วรอยจากแสงแดด

• หากกังวลเรื่องการระคายเคือง แนะนำให้ทดสอบการระคายเคือง (Patch Test) โดยทาเซรั่มวิตามินซีที่บริเวณหลังใบหู หรือท้องแขน แต่โอกาสในการแพ้ต่ำ เนื่องจากส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยวิตามินซีบริสุทธิ์ที่มีการคัดสรรในปริมาณเข้มข้นที่เหมาะสม ผ่านการทดสอบทางคลินิกในกลุ่มตัวอย่างที่มีผิวระคายเคืองง่าย ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังและทีมนักวิจัยของคีลส์

• ควรหยุดใช้หากผลิตภัณฑ์เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้มหรือสีน้ำตาล ซึ่งหมายถึงผลิตภัณฑ์อาจจะเสื่อมหรือหมดประสิทธิภาพ

ไขข้อข้องใจที่พบบ่อย ??

1. ทำไมผลิตภัณฑ์เซรั่มวิตามินซีจึงกลายเป็นสีหลือง ?

วิตามินซีมีคุณสมบัติในการต้านสารอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี จึงไม่เสถียรต่อความชื้น แสง หรืออุณหภูมิสูง หากวิตามินซีมีภาวะใดสภาวะหนึ่งดังกล่าว จะมีผลให้สลายตัว สังเกตได้จากสีที่เปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองเข้มหรือสีน้ำตาล ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักเป็นวิตามินซีเข้มข้นทุกชนิด มีโอกาสเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวลได้ ยกเว้นสีที่เหลืองเข้มจนเกินไป นั่นหมายถึง การเสื่อมสลายของวิตามินซี ทำให้คุณสมบัติทางเคมีในเป็นสารอนุมูลอิสระน้อยลง ประสิทธิภาพลดลงหรือไม่มีประสิทธิภาพ

2. ทำไมจึงมีการแยกชั้นเกิดขึ้น ?

ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซีเป็นส่วนผสมหลักในการดูแลผิวมีหลายเนื้อผลิตภัณฑ์ ขึ้นอยู่กับอนุพันธ์ของวิตามินซีที่ใช้เป็นส่วนผสมหลัก เพราะวิตามินซีเสื่อมสลายได้ง่ายมากหากผสมในสูตรที่มีน้ำ ดังนั้นจึงมีการพัฒนาโครงสร้างทางเคมีของวิตามินซีให้เสถียรมากยิ่งขึ้น

3. ทำไมบางคนจึงรู้สึกแสบหรือคัน ?

วิตามินซีมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนและมีค่า pH ต่ำ การทำให้ค่า pH สูงขึ้นมีผลต่อประสิทธิภาพของวิตามินซีและทำให้ดูดซึมได้น้อยลง ดังนั้นกระบวณการผลิตยังคงให้วิตามินซีคงค่า pH ตามธรรมชาติเพื่อคงประสิทธิภาพ สำหรับผิวบอบบางหรือผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น อาจเกิดความรู้สึกแสบหรือคันได้ สามารถแก้ได้โดยดูแลให้ผิวมีความชุ่มชื้น จึงจะสามารถดูดซึมวิตามินซีไปใช้ได้ และอาการดังกล่าวจะค่อยๆ ลดลง อีกหนึ่งวิธีในการแก้ปัญหานี้ คือ ใช้ปริมาณแต่น้อยในระยะแรกและใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ดูแลความชุ่มชื้นอื่นๆ ร่วมด้วย

? ขอบคุณข้อมูลส่วนนี้จากแบรนด์นะคะ

4. สามารถใช้ในตอนเช้าได้หรือไม่ / จะทำให้ผิวไวต่อแสงไหม ?

สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น เนื่องจากวิตามินซีของคีลส์เป็นวิตามินซีบริสุทธิ์ จึงไม่มีผลทำให้ผิวไวต่อแสง ไม่ทำให้ผิวคล้ำลง

5. มีส่วนประกอบที่เป็นซิลิโคนจะทำให้เกิดการอุดตันหรือไม่ ?

ซิลิโคนไม่ได้ก่อให้เกิดการอัดตันเสมอไปเพราะขนาดของซิลิโคนใหญ่เกินกว่าที่จะถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหนัง มันจึงทำหน้าที่ได้เพียงเป็นฟิล์มเคลือบผิวชั้นนอกเท่านั้น ดังนั้นการอุดตันจึงเกิดจากปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน

และนี่ก็เป็นข้อมูลทั้งหมดของ  Kiehl's Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate ที่เราได้รวบรวมมาให้ทุกคนเอาไว้ประกอบการตัดสินใจกัน สำหรับเรานั้นเราก็คงใช้เค้าแบบยาวๆ ไป เพราะค่อนข้างพอใจในผลลัพธ์ เพื่อนๆ ที่สนใจคุณคนนี้สามารถเข้าไปขอเทสเตอร์มาทดลองใช้กันก่อนนะคะที่สำคัญคืออย่าลืมทดสอบอาการแพ้หรือระคายเคืองด้วยค่ะเพราะผิวของแต่ละคนตอบสนองต่อสกอนแคร์แตกต่างกันออกไปเลือกในสิ่งที่ชอบลองใช้แล้วใช่จะดีต่อผิวมากที่สุดค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

แล้วพบกันใหม่นะคะ

บ๊ายบายคร้า