#หน้าเด็กต่อไม่รอแล้วนะ! รีวิว CLINIQUE Fresh Pressed™ Repair Clinical MD เปลี่ยนสาว35+ งานยุ่ง นอนน้อย หน้าหมอง เป็นสาวหน้าใส อิ่มฟู ดูเด็ก ใน 4 สัปดาห์! มาดูกันค่า
Tob Koravick 47 19 JEBAN GIVEAWAY / ได้รางวัลจากจีบันนี่แหละ!
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะคะ นี่เป็นกระทู้แรกของต๊อบเลยค่ะ จากที่สิงอยู่ในเว็บแบบแอบมองเธออยู่นะจ๊ะมานานหลายปี 555+ เราก็ได้รับคำท้า ให้พิสูจน์ฯประสิทธิภาพของสกินแคร์กลุ่ม Anti-Aging ตัวใหม่ล่าสุดของ Clinique ในฐานะตัวแทนของสาววัย 35+ ที่นอกเหนือจากผิวหน้าเดิมจะมีปัญหาทั้ง ความมัน รูขุมขน สิวอักเสบ สิวอุดตัน ยังเพิ่มเติมด้วยไลฟ์ไตล์ที่สุดจะไม่ Healthy แถมริ้วรอยก็มี มาดูกันค่ะว่า สกินแคร์ตัวนี้จะกู้หน้าปัญหาเพียบของต๊อบรอดหรือไม่รอดดด
สภาพผิวดั้งเดิมของต๊อบ: ผิวมัน รูขุมขนกว้าง เป็นสิวง่าย ทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงใกล้วันนั้นของเดือน จะชอบมีสิวขึ้นที่คางประจำค่ะ
ปัญหาผิวก่อนใช้: นอกเหนือจากปัญหาผิวมันข้างต้น ด้วยความที่อายุมากขึ้น ริ้วรอยก็เริ่มชัดขึ้น โดยเฉพาะริ้วรอยตอนแสดงอารมณ์ อย่าง หางตา ใต้ตา และร่องแก้ม แต่ยังไม่มีปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อยหรือผิวไม่กระชับค่ะ
สภาพผิวดั้งเดิมของต๊อบ: ผิวมัน รูขุมขนกว้าง เป็นสิวง่าย ทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงใกล้วันนั้นของเดือน จะชอบมีสิวขึ้นที่คางประจำค่ะ
ปัญหาผิวก่อนใช้: นอกเหนือจากปัญหาผิวมันข้างต้น ด้วยความที่อายุมากขึ้น ริ้วรอยก็เริ่มชัดขึ้น โดยเฉพาะริ้วรอยตอนแสดงอารมณ์ อย่าง หางตา ใต้ตา และร่องแก้ม แต่ยังไม่มีปัญหาเรื่องผิวหย่อนคล้อยหรือผิวไม่กระชับค่ะ
ไลฟ์สไตล์ที่ส่งผล (ไม่ดี) ต่อผิว:
1.นอนน้อย: ปัจจุบันนี้ต๊อบทำงานสองจ๊อบค่ะ นอกเหนือจากทำธุรกิจที่บ้านเต็มตัวแล้ว ยังรับจ๊อบเป็นอาจารย์พิเศษสอนภาษาอังกฤษสัปดาห์ละวันอีกด้วย เท่ากับว่าเวลาพักผ่อนน้อยมาก ถ้าวันทำงานก็เฉลี่ย 4-5 ชั่วโมงเท่านั้นเองค่ะ (แต่วันหยุดก็นอนยาวว)
2. เครียดดด: แน่นอนว่า งานหนักขนาดนี้ แล้วงานหลักของเราก็เป็นงานที่ค่อนข้าง Stressful อยู่แล้วด้วย เราก็จะเครียดง่ายมาก
3. ติดหวาน: แล้วพอเราเหนื่อยและเครียด เราก็อยาก กิน กิน กิน! ใช่ไหมคะ ช่วงที่ต๊อบทำงานหนักๆ จะกินแต่ของหวานค่ะ แถมช่วงนี้ติดกินน้ำหวานทุกวันเลยด้วย ไม่ดีเลย อย่าเลียนแบบนะคะ T^T
1.นอนน้อย: ปัจจุบันนี้ต๊อบทำงานสองจ๊อบค่ะ นอกเหนือจากทำธุรกิจที่บ้านเต็มตัวแล้ว ยังรับจ๊อบเป็นอาจารย์พิเศษสอนภาษาอังกฤษสัปดาห์ละวันอีกด้วย เท่ากับว่าเวลาพักผ่อนน้อยมาก ถ้าวันทำงานก็เฉลี่ย 4-5 ชั่วโมงเท่านั้นเองค่ะ (แต่วันหยุดก็นอนยาวว)
2. เครียดดด: แน่นอนว่า งานหนักขนาดนี้ แล้วงานหลักของเราก็เป็นงานที่ค่อนข้าง Stressful อยู่แล้วด้วย เราก็จะเครียดง่ายมาก
3. ติดหวาน: แล้วพอเราเหนื่อยและเครียด เราก็อยาก กิน กิน กิน! ใช่ไหมคะ ช่วงที่ต๊อบทำงานหนักๆ จะกินแต่ของหวานค่ะ แถมช่วงนี้ติดกินน้ำหวานทุกวันเลยด้วย ไม่ดีเลย อย่าเลียนแบบนะคะ T^T
การดูแลผิวหน้าโดยปกติ:
ตอนเช้า: ล้างหน้าด้วยเจลแบบไม่มีฟอง ---> น้ำตบเพิ่มความชุ่มชื่น ---> กันแดด ---> แต่งหน้าตามปกติ
ตอนกลางคืน: ลบเมกอัพด้วยรีมูฟเวอร์และคลีนซิ่งออย์ ---> ล้างหน้าด้วยเจลแบบไม่มีฟอง ---> โทนเนอร์สูตรลดการเกิดสิว ---> ใช้เซรั่มสองตัวสลับกันคนละวันสองวัน เซรั่มตัวแรก ลดการเกิดสิว/ เซรั่มตัวที่สอง เพิ่มความชุ่มชื่นและลดริ้วรอย ---> อายครีม ---> มอยซ์เจอไรเซอร์ปิดท้าย
เพิ่มเติม: จะพยายามมาส์กหน้าประมาณอาทิตย์ละ 2-3 วัน หรือใช้ Sleeping mask บ้างค่ะ
ตอนเช้า: ล้างหน้าด้วยเจลแบบไม่มีฟอง ---> น้ำตบเพิ่มความชุ่มชื่น ---> กันแดด ---> แต่งหน้าตามปกติ
ตอนกลางคืน: ลบเมกอัพด้วยรีมูฟเวอร์และคลีนซิ่งออย์ ---> ล้างหน้าด้วยเจลแบบไม่มีฟอง ---> โทนเนอร์สูตรลดการเกิดสิว ---> ใช้เซรั่มสองตัวสลับกันคนละวันสองวัน เซรั่มตัวแรก ลดการเกิดสิว/ เซรั่มตัวที่สอง เพิ่มความชุ่มชื่นและลดริ้วรอย ---> อายครีม ---> มอยซ์เจอไรเซอร์ปิดท้าย
เพิ่มเติม: จะพยายามมาส์กหน้าประมาณอาทิตย์ละ 2-3 วัน หรือใช้ Sleeping mask บ้างค่ะ
เอาละ ปูพื้นฐานเรียบร้อยแล้ววว มาดูความรู้สึกของต๊อบ ต่อเจ้า CLINIQUE Fresh Pressed™ Repair Clinical MD กันบ้างดีกว่าค่ะ
แพ็คเกจจิ้ง: รุ่นที่เราได้มารีวิว คือรุ่นที่มีทั้งสองเนื้อสัมผัส โดยภายในกระปุก จะถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ใช้งานง่าย ^^
เนื้อสัมผัส:
แพ็คเกจจิ้ง: รุ่นที่เราได้มารีวิว คือรุ่นที่มีทั้งสองเนื้อสัมผัส โดยภายในกระปุก จะถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ใช้งานง่าย ^^
เนื้อสัมผัส:
- ฝั่งสีม่วง – เน้นประสิทธิภาพ Revolumize ช่วยให้ผิวดูฟูอิ่ม มีวอลุ่ม ฝั่งนี้เนื้อจะค่อนข้างเข้มข้นเลยค่ะ
- ฝั่งสีครีม – ส่วนฝั่งนี้คือ Resculpt ช่วยกระชับผิว ให้หน้าดูได้รูป ฝั่งนี้เนื้อบางเบากว่า ออกกึ่งเจลนิดๆค่ะ ฝั่งนี้จะใช้บริเวณกรอบหน้าและคอเป็นหลักเพื่อช่วยยกกระชับผิว (ฝั่งนี้ใช้กับใต้ตาก็ได้ด้วย)
วิธีที่เราลงครีมทั้งสองฝั่งนะคะ
เนื้อสีม่วง: ลงทั่วหน้า โดยลูบขึ้นบริเวณหน้าผาก นวดวนบริเวณขมับ และลูบออกด้านข้างจากจมูก เน้นการช่วยยกผิวค่ะ
เนื้อสีครีม: ลงบริเวณกราม แล้วลูบเนื้อครีมในแนวขึ้น ลูบเนื้อครีมส่วนที่เหลือบริเวณคอ โดยลูบในแนวขึ้นเช่นกัน แล้วลงอีกนิดที่ใต้ตาค่ะ
**เพิ่มเติมนิดนึงว่า ช่วงที่ทดลองใช้สกินแคร์ตัวนี้ ต๊อบยังคงใช้สกินแคร์ตัวอื่นๆ ตามปกติ แต่แค่เปลี่ยนจาก อายครีม และ มอยซ์เจอไรเซอร์ตัวสุดท้าย ที่ใช้เป็นประจำมาเป็นตัวนี้แทนค่า
เนื้อสีม่วง: ลงทั่วหน้า โดยลูบขึ้นบริเวณหน้าผาก นวดวนบริเวณขมับ และลูบออกด้านข้างจากจมูก เน้นการช่วยยกผิวค่ะ
เนื้อสีครีม: ลงบริเวณกราม แล้วลูบเนื้อครีมในแนวขึ้น ลูบเนื้อครีมส่วนที่เหลือบริเวณคอ โดยลูบในแนวขึ้นเช่นกัน แล้วลงอีกนิดที่ใต้ตาค่ะ
**เพิ่มเติมนิดนึงว่า ช่วงที่ทดลองใช้สกินแคร์ตัวนี้ ต๊อบยังคงใช้สกินแคร์ตัวอื่นๆ ตามปกติ แต่แค่เปลี่ยนจาก อายครีม และ มอยซ์เจอไรเซอร์ตัวสุดท้าย ที่ใช้เป็นประจำมาเป็นตัวนี้แทนค่า
สรุปผลการเปลี่ยนแปลงผิวหน้าจากวีคแรก สู่วีคสุดท้าย “เรียงตามความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากไปน้อยค่ะ”
1. หน้ากระจ่างใสขึ้น ผิวหน้าเนียนขึ้นค่ะ ตรงจุดนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นจุดประสงค์หลักของสกินแคร์ตัวนี้ แต่เราว่าเป็นผลพลอยได้จากการที่เนื้อสกินแคร์มีความชุ่มชื่นสูง ทำให้ผิวเก็บความชุ่มชื่นได้ดีขึ้น (แต่ตรงนี้อาจจะต้องระวังเป็นพิเศษสำหรับคนที่เป็นสิวง่าย สำหรับต๊อบเองที่ไม่ได้มีสิวขึ้นเยอะอาจจะเป็นเพราะใช้สกินแคร์รักษาสิวร่วมด้วยค่ะ)
2. ความหมองคล้ำใต้ตาและริ้วรอยใต้ตาลดลงอย่างเห็นได้ชัด ข้อนี้ถือว่าดีย์มากมากกกก เพราะส่วนตัวเป็นคนมีปัญหากับใต้ตามาแทบจะตลอดชีวิต ชอบโดนทักว่าป่วยมั่งแหละ นอนน้อยมั่งแหละ แต่หลังจาก 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา รู้สึกเลยว่าการที่ความหมองคล้ำใต้ตาลดลง ทำให้หน้าเราดูสดชื่นขึ้นจริงๆ
3. ร่องแก้มเวลายิ้มและแสดงอารมณ์ ดูตื้นขึ้นเล็กน้อย – ขอให้ดูจากภาพตอนหน้านิ่ง จะเห็นว่าก่อนใช้ต๊อบจะเป็นคนมีร่องน้ำหมากอยู่นิดหน่อยบริเวณข้างๆมุมปาก ซึ่งพอหลังใช้ 4 สัปดาห์ ร่องนี้ค่อนข้างจางหายไปในระดับนึงเช่นกันค่ะ
1. หน้ากระจ่างใสขึ้น ผิวหน้าเนียนขึ้นค่ะ ตรงจุดนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นจุดประสงค์หลักของสกินแคร์ตัวนี้ แต่เราว่าเป็นผลพลอยได้จากการที่เนื้อสกินแคร์มีความชุ่มชื่นสูง ทำให้ผิวเก็บความชุ่มชื่นได้ดีขึ้น (แต่ตรงนี้อาจจะต้องระวังเป็นพิเศษสำหรับคนที่เป็นสิวง่าย สำหรับต๊อบเองที่ไม่ได้มีสิวขึ้นเยอะอาจจะเป็นเพราะใช้สกินแคร์รักษาสิวร่วมด้วยค่ะ)
2. ความหมองคล้ำใต้ตาและริ้วรอยใต้ตาลดลงอย่างเห็นได้ชัด ข้อนี้ถือว่าดีย์มากมากกกก เพราะส่วนตัวเป็นคนมีปัญหากับใต้ตามาแทบจะตลอดชีวิต ชอบโดนทักว่าป่วยมั่งแหละ นอนน้อยมั่งแหละ แต่หลังจาก 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา รู้สึกเลยว่าการที่ความหมองคล้ำใต้ตาลดลง ทำให้หน้าเราดูสดชื่นขึ้นจริงๆ
3. ร่องแก้มเวลายิ้มและแสดงอารมณ์ ดูตื้นขึ้นเล็กน้อย – ขอให้ดูจากภาพตอนหน้านิ่ง จะเห็นว่าก่อนใช้ต๊อบจะเป็นคนมีร่องน้ำหมากอยู่นิดหน่อยบริเวณข้างๆมุมปาก ซึ่งพอหลังใช้ 4 สัปดาห์ ร่องนี้ค่อนข้างจางหายไปในระดับนึงเช่นกันค่ะ
สรุปผลกระทบด้านอื่นๆ ในฐานะเป็นตัวแทนสาวผิวมัน
1. สาวผิวมันใช้แล้วจะเป็นสิวไหม?– สำหรับคนผิวมันและเป็นสิวง่าย อาจจะมีโอกาสเกิดสิวอุดตันเพิ่มเพราะสกินแคร์เนื้อค่อนข้างชุ่มชื่นมากเหมือนกัน (โดยเฉพาะเนื้อฝั่งสีม่วง แต่หากเนื้อฝั่งสีขาวจะบางเบากว่านิดหน่อย) ส่วนตัวแนะนำสำหรับสาวผิวมันว่า อาจจะใช้เฉพาะตอนกลางคืน หรือใช้สกินแคร์กลุ่มรักษาสิวร่วมด้วยค่ะ
2. ระหว่างวันหน้ามันมากขึ้นไหม? – ไม่ค่ะ แต่หน้าก็ไม่ได้มันน้อยลงเช่นกัน สรุปคือเหมือนเดิม
3. ช่วยให้แต่งหน้าติดทนขึ้นไหม? - ไม่เห็นความแตกต่างตรงจุดนี้ค่ะ
1. สาวผิวมันใช้แล้วจะเป็นสิวไหม?– สำหรับคนผิวมันและเป็นสิวง่าย อาจจะมีโอกาสเกิดสิวอุดตันเพิ่มเพราะสกินแคร์เนื้อค่อนข้างชุ่มชื่นมากเหมือนกัน (โดยเฉพาะเนื้อฝั่งสีม่วง แต่หากเนื้อฝั่งสีขาวจะบางเบากว่านิดหน่อย) ส่วนตัวแนะนำสำหรับสาวผิวมันว่า อาจจะใช้เฉพาะตอนกลางคืน หรือใช้สกินแคร์กลุ่มรักษาสิวร่วมด้วยค่ะ
2. ระหว่างวันหน้ามันมากขึ้นไหม? – ไม่ค่ะ แต่หน้าก็ไม่ได้มันน้อยลงเช่นกัน สรุปคือเหมือนเดิม
3. ช่วยให้แต่งหน้าติดทนขึ้นไหม? - ไม่เห็นความแตกต่างตรงจุดนี้ค่ะ
ให้คะแนน Clinique Fresh Pressed Repair MD ในแต่ละประเด็นค่ะ...
แพ็คเกจจิ้ง: 9/10 หักนิดหน่อยที่พอใช้ไปนานๆ ต้องเอานิ้วจุ่มลงไปควักเนื้อครีมก้นๆกระปุก ลำบากนิดนึงค่ะ
เนื้อสัมผัส: 8/10 ชอบฝั่งสีครีมมากกว่า ฝั่งสีม่วงแอบเนื้อหนักไปนิดนึง ทาก่อนนอนแล้วนอนเลยก็มีติดหมอนหนึบๆ เหมือนกันนะ แต่ฝั่งสีครีมบางเบาซึมเร็ว เลิฟค่า
ความเปลี่ยนแปลงผิวโดยรวม: 8/10 ชอบมากๆ เรื่องการแก้ปัญหาใต้ตา แต่มันไม่ใช่จุดประสงค์หลักของสกินแคร์ ส่วนเรื่องการลดริ้วรอยพอใจพอสมควร แต่การยกกระชับผิวยังไม่ค่อยรู้สึก หรือาจจะต้องใช้ต่อเนื่องกว่านี้ก็ได้ค่ะ
แพ็คเกจจิ้ง: 9/10 หักนิดหน่อยที่พอใช้ไปนานๆ ต้องเอานิ้วจุ่มลงไปควักเนื้อครีมก้นๆกระปุก ลำบากนิดนึงค่ะ
เนื้อสัมผัส: 8/10 ชอบฝั่งสีครีมมากกว่า ฝั่งสีม่วงแอบเนื้อหนักไปนิดนึง ทาก่อนนอนแล้วนอนเลยก็มีติดหมอนหนึบๆ เหมือนกันนะ แต่ฝั่งสีครีมบางเบาซึมเร็ว เลิฟค่า
ความเปลี่ยนแปลงผิวโดยรวม: 8/10 ชอบมากๆ เรื่องการแก้ปัญหาใต้ตา แต่มันไม่ใช่จุดประสงค์หลักของสกินแคร์ ส่วนเรื่องการลดริ้วรอยพอใจพอสมควร แต่การยกกระชับผิวยังไม่ค่อยรู้สึก หรือาจจะต้องใช้ต่อเนื่องกว่านี้ก็ได้ค่ะ
ใครเป็นสาวผิวมัน อายุ 35+ ไลฟ์สไตล์หนักหน่วงเหมือนต๊อบ หวังว่าจะได้ประโยชน์ในการรีวิวครั้งนี้กันนะคะ
หลังจากนี้จะพยายามมาปรากฏตัว รีวิวเมกอัพ และสกินแคร์ ตามประสาสาว 35+ เรื่อยๆค่า
สุดท้ายยย ท้ายสุด ต้องขอขอบคุณ Clinique Thailand และทีมงาน Jaban.com ที่ให้โอกาสให้ต๊อบมารีวิวครั้งนี้ด้วยนะคะ รักนะจุ๊บๆ
หลังจากนี้จะพยายามมาปรากฏตัว รีวิวเมกอัพ และสกินแคร์ ตามประสาสาว 35+ เรื่อยๆค่า
สุดท้ายยย ท้ายสุด ต้องขอขอบคุณ Clinique Thailand และทีมงาน Jaban.com ที่ให้โอกาสให้ต๊อบมารีวิวครั้งนี้ด้วยนะคะ รักนะจุ๊บๆ
