[Review] ลองงานผิวนู้ดแบบสาวเกาหลี ด้วย JUNG SAEM MOOL Skin Nuder Foundation
turtle.yolq
30 ต.ค. 62
97
40
สวัสดีค่ะ ชาวจีบันนิสต้าทุกคน วันนี้เราจะมาลองรองพื้น Skin Nuder Foundation งานผิวตัวใหม่ล่าสุด ของ JUNG SAEM MOOL แบรนด์งานผิวสัญชาติเกาหลีอันโด่งดังที่พึ่งเข้าไทยเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ตัวเองไปสอยคุชชั่นเขามา (แต่ยังไม่ได้หยิบมารีวิวเลย มีความขี้เกียจเบาๆ ค่ะ แฮ่) และนี่ก็ติดใจ ในงานผิวเขามากกก ก็ไปโดนตัวรองพื้นเขามาอีก TwT จะเป็นอะไรยังไง ตามมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ เย่ <3
JUNG SAEM MOOL Skin Nuder Foundation (1,700.-/30ml.) รองพื้นที่ไม่ได้ให้แค่ผิวสวยเรียบเนียนจากการปกปิดแบบเป็นธรรมชาติตามสไตล์แบรนด์ แต่รุ่นนี้ยังเป็นรองพื้นที่เสริมความเปล่งปลั่งให้ผิวดูเปล่งประกาย ดูเหมือนคนผิวอิ่มน้ำ (ประมาณว่า กินน้ำ 10 แก้ว + นอนเต็มอิ่ม 8 ชั่วโมง แฮ่!) เหตุผลที่เราอยากลองตัวนี้ อย่างที่บอกไปแล้วว่าเราประทับใจกับคุชชั่นของเขา + เป็นของใหม่ที่หลายคนว่าดี ให้ลุคคล้าย คุชชั่นรุ่น Skin Nuder แต่ตัวนี้มาในรูปแบบรองพื้นเหลวในขวด (แอบคิดว่า น่าจะใช้ง่ายมากกว่า เพราะเป็นคนที่ใช้รองพื้นแบบกดออกมาจากขวดมากกว่าแบบคุชชั่น + น่าจะประหยัดมากกว่าแบบคุชชั่น)
คุณสมบัติหลักๆ ทั้ง 3 ประการ : Nude Canvas Completed with Color and Light – สร้างผิวเรียบเนียนแบบเป็นธรรมชาติด้วยการปกปิดจากเม็ดสีโปร่งแสงที่จะปรับให้กลืนไปกับผิวจริงเสมือนเป็นผิวใหม่ที่ถูกสร้างขึ้น (หลังแพคเกจใช้คำว่า like a second skin) Clean Nude Glow – ฟินิชลุคเป็นแบบเผยผิวนู้ดโกลว์สวย + ฉ่ำโกลว์เปล่งประกายดูสดชื่นแบบธรรมชาติ จาก Blooming Oil 2 ตัว ทำให้ระหว่างวันผิวไม่แคร็ก หรือหน้าดูแข็ง + เพิ่มความยืดหยุ่น ยึดกับอณูแป้งให้ติดกับผิวยาวนาน Nude Sensation – เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย ติดทนยาวนานตลอดวัน
สำหรับใครที่เวลาซื้อรองพื้นแล้วไม่รู้ว่าควรจะใช้นิ้ว แปรง หรือฟองน้ำดี (+มีงบเท่านี้ไม่อยากจ่ายซื้ออุปกรณ์เพิ่มแล้ว) ในกล่องนี้เขาก็มี Beauty Tool เป็น Easy-Tap Puff หรือพัฟฟองน้ำ เนื้อนุ่ม แน่น เนียนละเอียด ทรงแบนที่ด้านนึงจะเป็นทรงมนปกติ และอีกด้านนึงเขาออกแบบตรงหัวเป็นมุมแหลมเพื่อแท็บรองพื้นตรงซอกเล็กบนผิวหน้า เช่น ซอกข้างจมูก หรือมุมช่วงหัวตา ฯลฯ ใส่มาพร้อมให้เราใช้งาน
ส่วนเนื้อสัมผัส จะเป็นครีมเกลี่ยง่าย แอบให้ความชุ่มชื้นกับผิวระดับหนึ่ง + เม็ดสีแน่นใช้ได้ และมีกลิ่นน้ำหอมเบาๆ ค่ะ
สามารถใช้ได้ทั้ง นิ้วมือ แปรง และพัฟที่เขาแถมมา ตามที่ตัวเองถนัดเลย เราลองทั้ง 3 แบบคือ รอดหมด ไม่ได้รู้สึกว่า
วิธีการลงรองพื้นแบบไหน จะลงยากกว่า หรือเป็นคราบแต่อย่างใด แต่ถ้าใช้คู่กับพัฟที่แถมมาส่วนตัวจะรู้สึกว่าฟินิชที่ได้ดูธรรมชาติเหมือนผิวมากกว่าค่ะ ถ้าใช้แปรงจะให้ความรู้สึกปกปิดขึ้นมาอีกระดับ สีที่เราเลือกมาเป็นสี Medium เข้ากับสาวผิวเหลือง-ผิวกลางๆ แบบกลืนเข้าไปดูเป็นธรรมชาติมากๆ ถ้าดูตามภาพจะเห็นเลยว่า ด้านขวาที่ทามีความธรรมชาติเหมือนกับอีกด้านที่ไม่ได้ทา + ดูมีความดิวอี้เล่นแสงเบาๆ
จากทั้งหมดที่มีประมาณ 6 เฉดสี ได้แก่ Fair สำหรับผิวขาวมาก มีติ่งชมพูนิดๆ, Fair-Light ขาวรองจาก Fair ค่อนข้างเหมาะกับผิวขาวเหลือง, N-Light ผิวขาวเหลืองธรรมชาติ แบบสุขภาพดี, Light ออกแนวครีมเบจ ออกแนวกลมกลืนกับสีผิวขาวเหลือง-กลางๆ และสี Medium สำหรับผิวเหลือง-ผิวกลางๆ ผิวสองสีก็พอใช้ได้นะคะ ส่วนใครที่เป็นสาวผิวเข้มแนะนำสี Medium Deep เด้อ พึ่งมาเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขอแนะนำให้ไปลองปาดเล่นดูก่อนนะคะ จะได้ได้สีที่ตรงกับผิว+ตรงใจ
ผิวบางส่วนอาจจะแดงๆ บ้างนะคะแหะๆ ช่วงนี้ระคายเคืองง่ายมากเด้อ TwT
หลังจากลองใช้ : จะได้ลุคผิวเนียนสวย + เปล่งประกายดิวอี้ทันทีที่ทา ในเรื่องของการปกปิด ส่วนตัวว่าอยู่ในระดับบางเบา-ปานกลาง แต่สามารถบิ๊วท์เลเยอร์ได้ ถ้าไม่ลงแป้งคือผิวสวยมากกก แต่ด้วยสภาพอากาศประเทศไทยและส่วนตัวเป็นชาวผิวผสมที่เหงื่อค่อนข้างเยอะ ก็อาจจะอยู่ไม่ถึงตลอดวัน เราเลยใช้แปรงลงแป้งฝุ่นแบบแมตต์ปัดเบาๆ ทับอีกชั้นนึง ช่วงแรกๆ ผิวจะดูแมตต์เล็กน้อยแต่ก็ดูไม่หนาเท่าไหร่ ยังคงเป็นงานผิวธรรมชาติ พอช่วงระหว่างวันแป้งเริ่มหลุด ผิวจะดูโกลว์สวยมากกก ผ่านไปประมาณ 8 ชั่วโมงรองพื้นอาจจะลอยเหนือผิวหรือเลือนบ้าง แต่ถ้าไม่ไปแตะ หรือไปถูก็ไม่หลุดนะคะ ซับแล้วยังสวยเด้อ โดยรวมถือว่า ดีงามสมราคาค่ะ สายเกาที่ชอบแต่งหน้าเน้นงานผิวโกลว์สวยควรมีเลยใครที่สนใจก็ลองไปปาดเล่นที่เคาท์เตอร์ดูเด้อ ถ้าถูกจริตก็ค่อยสอย และก็แอบเห็นว่าเขามีขายในลาซาด้า ใครไม่สะดวกไปเคาท์เตอร์ก็ลองสั่งออนไลน์ดูเด้อ ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าน้า สวัสดีค่ะ รักรักรัก <3