ความสัมพันธ์พี่น้องของสองเจ้าชายมีรอยร้าว จริงหรือ?

84 15
.
พวกเราต่างเคยคุ้นเคยกับภาพความปรองดองของสองเจ้าชายพี่น้องจากราชวงศ์ Windsor และไม่เคยนึกมาก่อนว่า ทั้งสององค์จะต้องมาพัวพันกับข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ที่กำลังมีรอยร้าว



หลายคนอาจจะกำลังคลางแคลงใจไม่ต่างจากเราว่า  เป็นความจริงหรือที่เจ้าชาย William และ เจ้าชาย Harry กำลังมีปัญหากัน ?



ภาพของเจ้าชายที่ทรงอดกลั้นต่อความโศกเศร้าในพิธีศพของเจ้าหญิง Diana ยังตราตรึงในความทรงจำของผู้คนมากมาย เมื่อต้องเห็นเจ้าชายต้องสูญเสียเสด็จแม่อันเป็นที่รักไปไวเกินควร เหล่า royal fans ต่างก็คาดหวังว่าทั้งสองพระองค์จะรักใคร่และสนับสนุนกันจนเติบใหญ่


แต่ในระยะหลังๆ ความกลมเกลียวที่พวกเราเคยเห็นถูกแทนที่ด้วยกระแสข่าวลือจากแทบลอยด์ว่า เจ้าชายทั้งสองไม่ลงรอยกันมากจนส่งผลกระทบต่อการร่วมงานในมูลนิธิเดียวกัน


ต้นตอของข่าวนั้นเริ่มจากที่ใด ?


การเปิดใจครั้งล่าสุดของเจ้าชาย Harry ก็น่าจะยืนยันได้ว่า ความสัมพันธ์พี่น้องที่เคยดูแน่นแฟ้นเริ่มเปลี่ยนแปลงไป

"พวกเราก็มีวันที่ขึ้นๆลงๆ" เจ้าชายอธิบาย " มีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นโดยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องมาจากความกดดันที่ราชวงศ์ต้องเผชิญ"


"เราเป็นพี่ชายน้องชาย เราจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป ตอนนี้เรามีเส้นทางที่แตกต่างกัน แต่ข้าพเจ้าจะคอยอยู่เคียงข้างพี่เสมอดังที่ข้าพเจ้าทราบดีว่าพี่จะคอยเป็นกำลังใจให้ข้านเจ้าเช่นเดียวกัน"






ถ้าใครที่อ่านข่าวแปลจากแทบลอยด์บ่อยๆแล้วเชื่อทันที อาจจะต้องงงกันบ้าง เพราะเนื้อหาพลิกเปลี่ยนไปเรื่อย เริ่มต้นตั้งแต่


- เจ้าชาย William ไม่ยอมรับชายาของเจ้าชายองค์น้องที่ "คุณสมบัติ"ไม่เข้าขัั้นสะใภ้หลวง

- ดัชเชสทั้งสองแข่งขันประชันกันจนสวามีมองหน้ากันไม่ติด

- เจ้าชาย William ไม่พอพระทัยที่ ฝั่ง Sussex ดึงดูดความสนใจไปจนหมด

- เจ้าชาย Harry รับไม่ได้ที่สำนักราชวังไม่ปกป้องชายาจากสื่อมากเท่าที่ควร

etc


บุคคลแรกที่สื่อเคยพุ่งเป้าให้เป็นสาเหตุของการแยกทางเดินของสองเจ้าชาย  หนีไม้พ้นเธอคนนี้ค่ะ


แต่ในขณะที่สื่ออย่าง Dailymail หรือ The Sun จะวาดภาพให้เธอเป็นนางมารร้ายที่ชาวอังกฤษไมายอมรับ แต่เดี๋ยวก่อนนะ พวกเราก็คงเห็นข้อพิสูจน์กันมาหลายครั้งแล้วใช่มั้ยว่าแทบลอยด์เหล่านี้สร้างอาณาจักรขึ้นมาจากอะไร ?

มีบุคคลโด่งดังในสังคมหลายคนออกมายืนยันแล้วว่า สื่ออังกฤษได้ปฏิบัติดัชเชส Meghan นั้นเลวร้ายอยู่ในขั้น abuse และมันไม่ยากจนเกินไปที่จะเห็นว่าเธอคือเหยื่อที่ไม่สมควรต้องมาพบสิ่งเหล่านี้


และความปรารถนาอันแรงกล้าของเจ้าชายHarry ที่จะปกป้องพระชายาและมารดาของโอรสก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดแปลกแต่อย่างใด




เคยมีศึกสะใภ้หลวงเกิดขึ้นจริงหรือ ??


การจับชายาเจ้าชายสองคนที่ทั้งสะสวยและโด่งดังไม่แพ้กันให้มาเป็นคู่แข่งกันนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ค่ะ ทั้งเจ้าหญิง Diana และ Fergie ต่างก็ผจญเรื่องข่าวลือเหล่านี้มายาวนานหลายปี และเมื่อมาถึงรุ่นลูกก็เลี่ยงเรื่องนี้ไม่พ้น



เมื่อคิดถึงในแง่ความเป็นจริง จำเป็นหรือไม่ที่สะใภ้หลวงทั้งสองต้องแสดงความผูกพันเป็นเพื่อนรัก


หากคุณแต่งงานกับชายคนรัก คุณจะต้องกลายเป็นเพื่อนซี้ของพี่หรือน้องสะใภ้โดยอัตโนมัติรึเปล่า คุณก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัวใหม่ด้วยภูมิหลังชีวิตที่แตกต่างกันมาก และไม่นานจากนั้นก็ตั้งครรภ์ คุณมีงานสำคัญที่ต้องเดินทางข้ามทวีปไปนานร่วมเดือน และยังต้องสร้างสรรค์แคมเปญต่างๆที่สร้างเสริมภาพลักษณ์และบทบาทอันเป็นแบบอย่างอันดีในฐานะราชวงศ์และเตรียมตัวเป็นคุณแม่ในเวลาเดียวกัน ในขณะที่สะใภ้อีกคนก็มีต้องคำเนินชีวิตตามบทบาทของเธอ ทั้งยังต้องรักษาความเป็นส่วนตัวในระดับสูง ไม่ได้มีโอกาสนัดกันออกมาช็อปปิ้งให้paparazzi คอยติดตามถ่ายรูปอย่างไม่ลดละเหมือนกัยคนดังปกติ

มันจึงไม่น่าแปลกใจหากทั้งสองอาจจะรู้จักกันอย่างผิวเผินและปฏิบัติต่อกันด้วยมารยาทโดยไม่ได้แสดงออกว่าสนิทกันอย่างจี๋จ๋า แม้แต่ขนิษฐาร่วมสายเลือดที่สนิทสนมกันอย่างเจ้าหญิง Beatrice และเจ้าหญิง Eugenie ก็ยังแสดงออกอย่างสำรวมเมื่อปรากฏกายต่อหน้าสาธารณชน


ข่าวคราวว่าดัชเชสทั้งสองเกลียดชังกันกันก็เริ่มมาตั้งแต่พิธีเสกสมรสเลยทีเดียว เริ่มด้วยการปล่อยข่าวลือว่าเจ้าสาวชาวอเมริกันทำตัวเป็นนางร้ายจอมบงการบังคับเรื่องเสื้อผ้าของเจ้าหญิงCharlotte จนทำให้ดัชเชสCatherine ต้องเสียน้ำตา หลังจากนั้นข่าวลือเกาเหลากัชเชสก็ถูกปล่อยออกมาไม่หยุดยั้ง และทำให้หลายคนเชื่อว่า เพราะทั้งสองเกลียดชังกันขนาดนั้น ฝ่ายสวามีจึงมองหน้ากันไม่ติดเช่นเดียวกัน!


เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ติดตามราชวงศ์อังกฤษจำนวนมากก็เริ่มสัมผัสได้ว่า นี่น่าจะเป็นขบวนการใส่ร้ายป้ายสีครั้งใหญ่จากแทบลอยด์อังกฤษ เพราะยิ่งเสี้ยมว่าสองดัชเชสไม่ถูกกันมากเท่าไร มันก็ยิ่งมีความย้อนแย้งปรากฏตามมา


....




ในระยะเวลาหลายปีมานี้ ดัชเชสแห่ง Cambridge ต้องผจญกับการล้อเลียนเรียกเธอว่า Lazy Kate เนื่องจากการให้ความสำคัญกับการดูแลโอรส-ธิดาทั้งสามโดยไม่ได้สร้างความโดดเด่นในฐานะ " working royal " ทั้งก่อนที่จะเสกสมรส ก็ไม่ได้ทำงานประจำเป็นหลักแหล่งนอกจากงานพาร์ทไทม์และฝึกงานในธุรกิจของครอบครัว หลังจากเข้าสู่ราชวงศ์ ก็เคยติดอันดับราชนิกูลที่มีกรณียกิจน้อยที่สุดมาแล้ว ซึ่งเรื่องทุกอย่างก็ลงล็อคเมื่อมองถึงกรณียกิจของเจ้าชาย Williams ที่ไม่ได้มากมายไปกว่ากันนัก ว่ากันว่า หากสวามีทรงเลือกที่จะไม่ทรงงานมากมายนัก ตัวชายาก็คงไม่อยากสร้างผลงานให้โดดเด่นกว่า

ในขณะที่เจ้าหญิงเจ้าชายยุค modern ยังแสดงบทบาท working royal กันน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อพระวงศ์รุ่นอาวุโสอย่างเจ้าฟ้าชาย Charles เจ้าหญิง Anne หรือแม้กระทั่งสมเด็จพระราชินี Elizabeth ผู้ทรงงานต่างๆ นับเป็นตัวเลขสูงนับร้อย ซึ่งถือเป็นตัวอย่างอันดีงามที่ประชาชนคาดหวัง

นั่นก็น่าจะตีความได้ว่า งดัชเชสแห่ง Cambridge ไม่ได้มีเป้าหมายในการสร้างความนิยมให้พุ่งสูงกว่าเชื้อพระวงศ์คนอื่นๆแต่อย่างใด ในเมื่ออีกหลายปีในข้างหน้า เธอจะกลายเป็นพระมเหสีและราชินีแห่งอังกฤษ หากเธอจะทุ่มเทเวลาให้กับบทบาทความเป็นแม่อย่างเต็มที่ในเวลานี้ก็ไม่ใช่เรื่องชวนประหลาดใจ เพราะในอนาคตเมื่อดยุคแห่ง Cambridge ได้สืบทอดการครองบัลลังก์ บทบาทการทรงงานของพวกเค้าก็น่าจะชัดเจนไม่ต่างจากเชื้อพระวงศ์รุ่นอาวุโสในปัจจุบัน

ทางด้านการสร้างความนิยมนั้น  Kate ได้รับความสนใจมามากมายตลอดระยะเวลาที่กลายเป็นดัชเชส  และต้องผจญกับข่าวลือต่างๆมามากมายเช่นกัน     หลายคนมองว่า  เมื่อสะใภ้หลวงคนใหม่ก้าวเข้ามา      เธอน่าจะโล่งใจขึ้นมาได้อีกนิดด้วยซ้ำ   เพราะสื่อที่เคยกดดันและปลอยข่าวต่างๆเกี่ยวกับเธอ ได้หันไปที่เป้าหมายใหม่ที่สร้างกระแสได้ร้อนแรงซะแล้ว  
ในฝั่งของ Meghan ที่ก้าวเข้ามาพร้อมกับมรสุมข่าวฉาวจากครอบครัวฝั่งพ่อเพียงไม่กี่วันก่อนแต่งงาน  และหลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าสื่อ TV บางช่องและเหล่าแทบลอยด์ก็ไม่ได้มองเธอในด้านที่ดีอีกเลย   กระแสตอบรับdrama การจัดฉากขายภาพของพ่อ Meghan นั้นมีทั้งความเห็นใจและความหมั่นไส้  แต่ข่าวลือเสียหายที่ตามมาไม่หยุดนั้นทำให้มีคนที่ไม่แน่ใจในตัวเธอมากขึ้น    ไม่ว่าจะเป็นข่าวเรื่อง ...

- มาแผนสูงแบบสาวนักขุดทองจับเจ้าชายจนอยู่หมัด
- ทำตัวเป็นชายาจอมบงการและเหวี่ยงจนสต๊าฟระอา
- ยุแยงให้สวามีแตกคอกับดยุคและดัชเชสแห่ง Cambridge


แต่ก็มีคนตั้งข้อกังขาไว้ว่า หากเธอใช้ความเจ้าเล่ห์เพื่อสยบเจ้าชายจนได้มาเป็นดัชเชสตามที่ถูกกล่าวหาแล้วล่ะก็ ข่าวฉาวโฉ่จากครอบครัวทำให้เธอเริ่มต้นแบบไม่สวยไปแล้ว มันน่าจะส่งผลให้เธอยิ่งระมัดระวังขึ้นไปอีก หากแสดงพฤติกรรมที่ร้ายกาจจนทั้งๆที่เพิ่งก้าวมาเป็นสมาชิกใหม่ของราชวงศ์อันโด่งดัง ก็ดูจะเป็นmove ที่ไม่ฉลาดเอาซะเลย

หากไม่นับสวามีแล้ว ก็นับได้ว่าเธอโดดเดี่ยวในพื้นที่พระราชวังอันกว้างใหญ่ พระญาติแต่ล่ะคนก็มิได้อาศัยรวมตัวกันในปราสาทเหมือนในนิทาน แต่แยกย้ายใช้ชีวิตเคหะสถานอย่างมีความเป็นส่วนตัว ภาพนางมารชาวอเมริกันที่คอยบงการทีมสต๊าฟและรังแกสะใภ้หลวงนี่ก็อาจไม่ต่างจากสิ่งที่เจ้าหญิงเสด็จแม่ Diana และ Fergie เคยถูกสื่อว่าร้ายมาแล้ว


ข่าวลือเรื่องการแตกคอของดัชเชสทั้งสองเริ่มเงียบลงไป  หลังจากที่เริ่มมีผู้ให้ข้อสังเกตตรงกันว่า   ท่าทีของเจ้าชายพี่น้องต่างหากที่ดูเย็นชา ผิดจากเมื่อก่อนจะพูดคุยใกล้ชิดอย่างสนุกสนานอยู่เสมอ      เริ่มมีคนให้ความเห็นว่า ที่จริงแล้วพวกเธออาจจะทำหน้าที่เป็นเกราะกำบังความขัดแย้งของสวามีอยู่ก็เป็นได้   


private jet  เจ้าปัญหา




การโดยสารเครื่องบินส่วนตัวดูเป็นเรื่องปกติของเหล่าอภิสิทธิ์ชนที่มีฐานะมั่งคั่งและรวมไปถึงเหล่าเชื้อพระวงศ์ด้วย   พวกเขาโลดแล่นอยู่ในสังคมชนชั้นสูงที่เต็มไปด้วยเพื่อนฝูงที่เชื้อเชิญให้ไปเยี่ยมเยียนด้วยเครื่องบินหรูหรา     แต่เมื่อมาถึงการออกทริปของเจ้าชาย Harry และชายาชาวอเมริกันที่ร่วมรณรงค์เรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม    ความสะดวกสบายจากเครื่องบินส่วนคัวก็กลายเป็นเรื่องฉาวทันที


จอมเสแสร้ง - ไร้สติ คำประนามนี้อาจจะเป็นสิ่งที่นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่าง Leonardo DiCaprio เคยเผชิญมาแล้ว แต่ดราม่านี้ก็ทำให้มีคนลุกขึ้นมาชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างถึงปฏิกิริยาจากสื่อในอดีต เมื่อเชื้อพระวงศ์ผู้โด่งดังอย่างเจ้าชายWilliam และครอบครัวก็เคยเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศที่สวยงามด้วยเครื่องบินส่วนตัว เพราะมีพระญาติที่ร่ำรวยมหาศาลอย่างดยุคแห่ง Westminster ได้ใจกว้างให้ยืมเครื่องบินส่วนตัวไปใช้ แต่นอกจากจะลงสกู๊ปและวิจารณ์หอมปากหอมหอ สื่อก็ไม่ได้มีทีท่าต่อต้านว่ามันเป็น big deal ทั้งๆที่เจ้าชายรัชทายาทก็ได้สนับสนุนให้ชาวโลกตื่นตัวเรื่อง climate change ไม่ต่างจากเสด็จน้อง


ข้อเท็จจริงคือ ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง Cambridge หรือ Sussex พวกเค้าต่างเคยเดินทางทั้งเครื่องบินพาณิชย์ชั้นประหยัดไปจนถึง first class และแน่นอนว่าจะบินด้วยเครื่องบินส่วนตัวเหมือนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเจ้าชาย Harry ได้อธิบายไว้ว่า เป็นเหตุผลทางด้านการรักษาความปลอดภัยนั่นเอง
 

Elton John เป็นหนึ่งมนคนดังรายแรกๆที่ออกตัวปกป้องเจ้าชาย Harry และMeghanอย่างเต็มที่

" ผมรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นสื่อได้โจมตียุคและดัชเชสแห่ง Sussex อย่างรุนแรงหลังจากพวกเขาได้มาพักที่บ้านของผมที่ Nice เมื่อสัปดาห์ก่อน "

"เจ้าหญิง Diana ผู้เป็นพระมารดาของเจ้าชาย Harry เป็นเพื่อนรักที่สุดของผม ผมจึงต้องการจะปกป้องเจ้าชายและครอบครัวของเขาจากการคุกคามของสื่ออันเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่จุดจบของDiana"

"หลังจากที่ทั้งคู่ทำงานหนักและอุทิศตนให้งานการกุศลมาตลอดปี  David และผมอยากจะให้ครัวครัวหนุ่มสาวนี้ได้มีวันหยุดส่วนตัวที่ราบรื่นและปลอดภัยในบ้านของเรา"
"เพื่อสนองตอบความจำเป็นในการรักษาความปลบอดภัย พวกเราจึงได้ส่งเครื่องบินส่วนตัวเพื่อการเดินทางไปให้พวกเขา"

"ผมให้ความชื่นชมนับถือทั้ง Harry และ Meghan ในการทำงานการกุศล และผมขอประนามสื่อที่คอยให้ร้ายและใส่ความพวกเขาอย่างไม่หยุดหย่อน"





คลื่นข่าวฉาวก็แรงขึ้นมาอีกหลังจากที่สื่อแทบลอยด์เผยแพร่ภาพของครอบครัวฝั่ง Cambridge ในขณะกำลังเดินขึ้นเครื่องบินของสายการบิน low cost และเปรียบเทียบกับฝั่ง Sussex ว่าผลาญทั้งค่าใช้จ่ายและทำลายสิ่งแวดล้อม แตกต่างจากครอบครัวเสด็จพี่ที่ไม่ถือองค์เรื่องความหรูหราและใช้บริการราคาย่อมเยาไม่ต่างจากสามัญชน


เรื่อง Timing ที่ภาพนี้ออกมาช่วงที่เจ้าชายHarryและดัชเชส Meghan กำลังถูกสื่อโจมตีก็ทำให้ชาวเน็ทหลายคนกังขาว่า  นี่อาจจะไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นสัญญาณความร้าวฉานของสองเจ้าชายหรือไม่ ???

ภาพการโดยสารเครื่องบินlow cost หรือชั้นประหยัดไม่ใช่เรื่องใหม่ของเชื้อพระวงศ์ยุค modern ในการโดยสารแบบใกล้ๆ เหล่าสต๊าฟทั้งหลายจะร่วมติดตามกันไปเป็นทีมและวางแผนการเดินทางไว้อย่างรัดกุม มันจึงไม่ได้เป็นภาพที่เห็นได้บ่อยครั้ง เมื่อสื่อรายงานว่าครอบครัว Cambridge ได้เลือกใช้บริการสายการบิน low cost ราคาเบาๆ หลายคนก็ได้ชื่นชมในด้านที่ติดดิน

แต่ถ้ากวาดตาไปยังเว็บบอร์ดที่แสดงตัวเป็นแฟนของครอบครัว Sussex แล้วล่ะก็ เรียกว่าหน้าจอแทบลุกเป็นไฟก็ว่าได้!


แฟนๆของเจ้าชาย Harry และ Meghan ต่างแสดงความไม่พอใจและกล่าวหาว่า เจ้าชายองค์พี่จงใจพาครอบครัวเดินทางด้วยสายการบินlow cost เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของน้องชายและชายาดูตกต่ำลงไป เนื่องจากเชื้อพระวงศ์ระดับสูงต่างก็บิน first class กันเป็นปกติ แต่ใครบางคนกลับปล่อยภาพนี้ออกมาในช่วงที่ดราม่าเครื่องบินส่วนตัวยังร้อนฉ่า


มันจึงทำให้หลายคนเริ่มเชื่อว่า  สายสัมพันธ์ของพี่น้องอาจจะเริ่มแตกแยกจริงๆก็เป็นได้ 



หลังจากITV ได้เผยแพร่สารคดีเรื่องราวการเยี่ยมเยือนAfrica ของดยุคและดัชเชสแห่ง Sussex สิ่งที่สร้างประเด็นให้สังคมต้องกล่าวขวัญคือคำสัมภาษณ์ของทั้งคู่ที่ยอมรับถึงความยากลำบากจากแรงกดดันของสื่ออังกฤษ แม้จะเป็นคำพูดสั้นๆที่ไม่ได้ลงรายละเอียดแน่ชัด แต่ก็ทำให้เกิดกระแสความเห็นใจจนมี trending #WeLoveYouMeghan บน twitter เพราะการเผชิญหน้ากับคำพูดว่าร้ายและประจานให้อับอายตอนกำลังตั้งท้องและคลอดโอรสมาใหม่ๆนั้นฟังดูเป็นสิ่งที่หนักหนา ทำให้มีการแสดงความห่วงใยในเรื่อง mental illness ของเธอ

mental illness ก็คืองานการกุศลชิ้นสำคัญที่ทั้งฝั่ง Cambridge และ Sussex ร่วมมือกัน บางคนจึงแสดงความหวังที่จะได้เห็นเจ้าชาย William แสดงความเป็นห่วงต่อครอบครัวของน้องชายที่ต้องพบเจอกับสถานการณ์กดดันมตั้งแต่เสกสมรส และในที่สุด ก็มีความเคลื่อนไหวของเสด็จพี่


ฺฺฺBBC สื่อยักษ์ใหญ่ที่มีแนวทางเสนอข่าวแตกต่างจากแทบลอยด์อย่าง The Sun หรือ DailyMail ได้ระบุว่า มีแหล่งข่าววงในจากคนใกล้ตัวเจ้าชาย William ที่ยืนยันได้ว่า ทรงมีความห่วงใยต่อเจ้าชาย Harry และชายาที่กำลังอยู่ในสภาวะที่เปราะบาง และหวังว่าทั้งคู่จะไม่เป็นไร
หลายคนเชื่อว่านี่น่าจะมาจากเจ้าชาย William จริงๆ เพราะสื่อเจ้านี้มีความน่าเชื่อถือเรื่องแหล่งข่าววงในมากกว่าเหล่าแทบลอยด์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหอกข้างแคร่ของราชวงศ์นั่นเอง


ทัศนคติที่แตกต่างนำไปสู่ความขัดแย้ง ? 




หลายคนพุ่งประเด็นไปที่ Meghan ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้สายสัมพันธ์พี่น้องต้องแปรเปลี่ยน เนื่องจากคำพูดบางอย่างของเจ้าชาย Harry ที่มีการตีความไปกันว่า อาจจะโกรธเคืองท่าทีของสำนักพระราชวัง Kensington ที่ไมได้ปกป้องชื่อเสียงของชายาอย่างเต็มที่ ดังกรณีที่มีแพทย์ศัลยกรรมออกมาวิจารณ์ว่า ดัชเชส Kate ไปฉีด botox มา สำนักราชวังก็รีบส่งตัวแทนออกมาปฏิเสธว่ามิได้เป็นความจริง ในขณะที่ชายาฝั่ง Sussex ต้องเจอข่าวรุนแรงยิ่งกว่านั้นอยู่หลายครั้ง ก็ดูเหมือนว่าสำนักราชวังจะนิ่งเฉยไป บ้างก็ว่า เจ้าชายไม่สามารถรับได้ที่สำนักราชวังถือโอกาสใช้ข่าวเสียหายของชายาเพื่อกลบเกลื่อนข่าวฉาวของเจ้าชาย Andrew หรือแม้กระทั่งเสียงร่ำลือเรื่องเจ้าชาย William นอกใจไปกับเพื่อนของ Kate และแน่นอนว่าสำนักราชวังปฏิเสธทั้งสองเรื่องนี้อย่างแข็งขัน

อีกหนึ่งทฤษฎีที่สร้างข้อถกเถียงบนโลกออนไลน์  สื่อบางเจ้าระบุว่า  เจ้าชาย William ไม่สนับสนุนการเสกสมรสของคู่ Sussex มาตั้งแต่ต้น   และไม่ต้องการให้น้องชายแสดงความต่อต้านสำนักราชวังและต่อสู้กับสื่อเพราะเกรงจะฉุดให้ภาพลักษณ์ยิ่งเสียหาย    เมื่อต้องหันหน้าร่วมมือดำเนินงานในมูลนิธีเดียวกัน ก็ยิ่งทำให้เกิดอคติต่อวิธีทำงานของอีกฝ่าย  กลับกลายมาเป็นความแตกแยกในที่สุด

ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีคนนำเสนอทฤษฎีที่แตกต่างกันออกไป ล่าสุด สื่อยักษ์ใหญ่แห่งอเมริกาอย่าง People ก็เล่นไอเดียของฐานันดรว่าที่กษัตริย์ของเจ้าชาย William ที่ทำให้ทั้งสองแข่งขันกันมาตลอด (มาจากพล็อทเรื่องความสัมพันธ์ของสมเด็จพระราชินี Elizabeth และเจ้าหญิง Margaret ใน The Crown แบบเป๊ะๆ) แต่เราขอพับทฤษฎีนี้เก็บใส่ลิ้นชักไปค่ะ เพราะเจ้าชาย Harry เปิดใจมาแล้วว่าเคยคิดอยากจะสละฐานันดร และมรเส้นทางที่แตกต่างจากเจ้าชาย William ไปคนละด้าน ทั้งไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยแต่ตรงเข้าโรงเรียนนายร้อยทหารบก และเคยมีภาพลักษณ์ party boy ต่างจากเสด็จพี่ที่ต้องสำรวมอยู่ในกรอบด้วยภาระหน้าที่ของรัชทายาทในอนาคต


ถึงตอนนี้หลายคนน่าจะจับทางวิธีการทำงานของแทบลอยด์ได้แล้ว ไม่ว่าจะมีความจริงอยู่ในหัวข้อข้อข่าวมากหรือน้อยเพียงใด แต่หน้าที่สำคัญของพวกเขาคือการโจมตีคนดัง ธุรกิจนี้ต้องวนเวียนอยู่กับศาลเพื้อสู้คดีหมิ่นประมาทตลอดเวลา แต่ธุรกิจนี้ก็ยังเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง และมุ่งมั่นดึงดูดชาวเน็ทให้เข้ามาวิจารณ์อย่างถึงพริกถึงขิงในกล่องคอมเมนท์แล้วคลิกแชร์ไปให้ได้มากที่สุด

เราคือมนุษย์อีกคนที่ทิ้งความอยากรู้อยากเห็นเรื่องชีวิตส่วนตัวคนดังไปไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องอินกับคำว่า "แหล่งข่าว"ของสื่อจนเกลียดชังคนที่ถูกโจมตี

เราเลือกที่จะติดตามเรื่องเหล่านี้ด้วยempathy ด้วยใจเป็นกลางได้  ไม่สะสมความเกลียดชังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพราะว่า "เขาเล่ามา"       เราไม่คิดเห็นด้วยกับการแบ่งฝักฝ่ายเป็นทีม Cambridge - ทีม Sussex เพื่อคอยวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่เราได้ยินจากสื่อ   ความจริงที่อยู่เบื้องหลังจะเป็นเช่นไร   คนภายนอกไม่สามารถฟันธงตามสิ่งที่ได้รับการบอกเล่ามาได้ไปทุกสิ่ง    แม้ว่าให้คนที่ตกเป็นข่าวออกมาเล่าเรื่องเองก็ตาม

จากเหตุการณ์ที่พรากชีวิตเจ้าหญิง Diana ได้ฝากบาดแผลลึกให้กับเจ้าชายทั้งสอง ความอาลัยและเห็นใจทำให้มีผู้คนมากมายที่ได้คาดหวังให้ทั้งคู่รักใคร่กลมเกลียวไม่ต่างจากเมื่อยังอยู่ในวัยเยาว์ แต่ชีวิตที่อยู่ภายใต้ความคาดหวังและแรงกดดันมายาวก็อาจจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต่างฝ่ายต่างก็ต้องดูแลปกป้องชายาและลูกๆเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยความเจ็บปวดเดิมที่พวกเขาเคยพานพบมา หากพวกเขาจะห่างกันออกไปก็ไม่ได้ถือเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายแต่อย่างใด แต่เราก็ต้องยอมรับว่า ภาพความรักผูกพันของสองเจ้าชายก็ยังประทับใจอยู่เสมอ


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE