รีวิว 6 ครีม กันแดดสุดเลิฟที่ใช้วนไปมาตลอดทั้งปี 2019 !!

สวัสดีจ้าเพื่อนๆ วันนี้มาในหัวข้อครีมกันแดดกันนะจ๊ะ เป็นครีมกันแดดที่เราใช้มาตลอดตั้งแต่ต้นปีเลยจ้า ส่วนใหญ่จะใช้วนๆ สลับกันไปในแต่ละวัน เพราะว่าแต่ละตัวเค้าก็จะให้เนื้อสัมผัสและผิวที่ต่างกันนิดๆ หน่อยๆ

 ก็รวมรวมมาได้ 6 แบรนด์ด้วยกันจ้า ก็จะมีทั้งอันที่ใช้มาตั้งแต่ดั้งเดิมและบางอันก็มีการซื้ออเพิ่มลองใช้แล้วปรากฏว่าชอบก็เลยเอามาใช้ต่อวนๆ ไปจ้าาาา จะมีแบรนด์ไหนบ้างตามมาดูกันเล้ยยย

Provamed sun face SPF50 PA++​

ตัวแรกเป็นของ Provamed อันนี้คือใช้มาตลอดเป็นลูกรัก สำหรับครีมกันแดดรุ่นนี้เค้ามีด้วยกัน 2 สีนะทุกคน คือสีขาวและสีเบจ ส่วนตัวเราชอบสีเบจมากกว่าจ๊ะ ที่เราชอบตัวนี้ก็คือว่าเค้าเป็นครีมกันแดดที่เป็นสูตรปลอดภัยจากสารเคมี และอีกอย่างนะใช้แล้วไม่แพ้ด้วยเพราะครีมกันแดดส่วนใหญ่ชอบผสมแอลกอฮอล์เราใช้แล้วก็คันเป็นผดผื่นประจำ พอมาใช้ตัวนี้ไม่เป็นเลยใช้ทุกวันเลยตอนนี้

เนื้อของเค้าจะเป็นแบบมูสๆ เลยล่ะ บางเบาเกลี่ยง่ายมากๆ ถ้าวันไหนที่เราไม่ได้ออกไปไหนหรือไม่อยากแต่งหน้าจัดมาก เราทาครีมกันแดดตัวนี้ตัวเดียวแล้วทาแป้งก็จบเลย เพราะว่าเค้าเป็นสีเบจอ่ะ ก็เลยจะเป็นเหมือนกับการช่วยปรับให้ผิวดูเรียบเนียนได้ระดับนึงเลย

Biore UV Bright Milk SPF50+/PA++++

อันที่ 2 ก็เป็นกันแดดจากบีโอเร เป็นรุ่นขวดสีชมพูนะจ๊ะ ก่อนหน้านี้ใช้แบบหลอดสีฟ้ารุ่น Aqua มาก็ดีงามเช่นกันแต่ตอนนี้พอลองได้มาใช้แบบเนื้อน้ำนมแล้วติดใจกว่า คือชอบในความบางเบา และเนื้อกันแดดที่ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นนิดหน่อย (แต่ไม่ถึงกับวอกนะ) คล้ายกับเป็นเมคอัพเบสให้ผิวไปในตัว

เนื้อเค้าจะเหลวๆ เป็นน้ำนมแบบนี้เลย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และที่สำคัญคือกันน้ำกันเหงื่อดีมากเลยล่ะ ถ้าวันไหนต้องออกแดดเยอะก็หยิบตัวนี้มาใช้เอาอยู่เลย 

Bloss UV Solution

ต่อมาเป็นครีมกันแดดของ Bloss คือเราเคยใช้เป็นคลีนซิ่งกับสลิปปิ้งมาส์กเค้ามาและอันนี้จัดโปรพอดีเลยอ่ะเอามาลองดู คือจะบอกว่าดีเกินคาดเลยนะ เค้ามีส่วนผสมของสารสัดที่ช่วยบำรุงผิวด้วย แถมเนื้อกันแดดเค้ายังเป็นเนื้อครีมแบบน้ำนมหน่อยๆ คือซึมไวไม่เหนียวหนักผิว แล้วทำให้แต่งหน้าติดทนมากขึ้นด้วย หรือถ้าวันไหนที่ไม่แต่งหน้าก็จะเป็นเหมือนเบสทำให้ผิวผ่องๆ ได้อ่ะ

เนื้อเค้าดีมาก ตอนนี้เราสารภาพเลยว่าหยิบตัวกันแดด Bloss มาใช้บ่อยสุด คือชอบความรู้สึกที่เบาสบายผิวแล้วก็ประสิทธิภาพการกันแดดนั้นก็เริ่ดด้วยจ้า ใช้แล้วผิวดูโกลว์ๆ ดี

ACSEINE Super Sunshield Bright Veil

มากันเกินครึ่งทางแล้วกับตัวที่ 4 เป็นแบรนด์ ACSEINE แบรนด์นี้เค้าเป็นเวชสำอางชื่อดังจากญี่ปุ่นเลยนะ มีสกินแคร์หลายตัวที่น่าสนใจ อย่างน้ำตบเค้าก็ดีนะ ขวดใหญ่บึ้ม (แพงหน่อยแต่ใช้คุ้มอยู่) ซึ่งกันแดดตัวนี้บอกกว่าว่าเหมาะกับคนที่ผิวขาว ขาวเหลืองหรืออมชมพูก็ได้หมด แต่ขอให้เป็นแบบผิวขาวนะ เพราะเนื้อกันแดดเค้าจะเป็นสีขาวอมชมพู มีความแวววาวด้ยส่วนผสมของไขมุก ซึ่งเค้าจะช่วยคุมมันและปรับให้ผิวสมดุลไม่ดรอบระหว่างวันด้วยละ

 เนื้อเค้าจะเป็นเนื้อเหลวๆ มีความเข้มข้นแต่บางเบา สีเหมือนรองพื้นหน่อยๆ หลังทาจะช่วยปรับสีผิวขึ้นมาหนึ่งเฉดเลยนะ แนะนำว่าไม่ต้องทารองพื้นเพิ่มแล้ว ทาแป้งแต่งหน้าต่อได้เลย อันนี้เหมาะกับวันที่อยากได้ความผิวผ่องหน่อยเริ่ดจ๊ะ

ครีมกันแดดออร์แกนิค Vasanava organic

มาเป็นแนวครีมกันแดดออร์แกนิคกันบ้างนะ เราใช้มาตั้งแต่ต้นปีล่ะ มีช่วงนึงที่ผิวอ่อนแอ เราใช้อะไรก็แพ้เลยลองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นออร์แกนิคมาลองดู ปรากฏว่าได้ผลนะ ผิวก็ดีขึ้น  เพราะว่าเค้าไม่มีส่วนผสมของเคมีเลย การันตีเลยนะว่าใช้แล้วไม่แพ้ มีมาตรฐานรับรอง 100% Vegan and Cruelty free ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ และไม่ใช้สารสกัดที่ทดลองในสัตว์ จึงทำให้เรามั่นใจว่าปลอดภัยต่อผิวเราแน่นอน

เนื้อเค้าจะเป็นครีมเข้มข้นพอสมควรเลยล่ะ เราเลยจะต้องมีเทคนิคนิดนึงคือก่อนทาลงที่ผิวหน้าเราจะวอร์มเนื้อครีมี่หลังมือก่อนให้ครีมคลายตัวเล็กน้อยจากนั้นค่อยทาที่ผิวหน้าจะช่วยให้เกลียยง่ายขึ้นนะ

NSK Milk Sunscreen SPF40/PA+++

สุดท้ายเป็นของ NSK เป็นกันดดเนื้อน้ำนมเหมอนกันจ้า เค้าจะโดดเด่นตรงที่บางเบา ไม่อุดตันและสามารถทาซ้ำระหว่างวันได้เลยล่ะ ส่วนใหญ่จะเอาไว้ทาวันที่อยากความเบาสบาผิว หรือวว่าวันที่รีบๆ หน่อยเพราะว่าเค้ามีสารบำรุงในตัว อย่างเช่นพวก คอลลาเจน วิตามินบี 3 ประมาณนี้ ก็ทาตัวเดียวทาแป้งแต่งหน้าจบ!

เนื้อเค้าจะเป็นน้ำนมมีความเหลว ซึมไว ไม่วอกไม่ลอยระหว่างวัน คุมมันได้ค่อนข้างดีเลยล่ะ และอย่างที่บอกว่าค่อนข้างสบายผิวและสามารถเติมทับเมคอัพระหว่างวันได้ ดีตรงนี้แหละ 

...ก็จบไปแล้วกับกันแดดทั้ง 6 ตัวที่เราใช้วนๆ กันไป ชอบทุกตัว หยิบใช้สลับกันไปแล้วแต่ตามโอกาส เพื่อนๆ ที่ใช้เหมือนกัน หรือมีตัวไหนแนะนำก็มากระซิบบอกกันบ้างนะ  

คราวหน้าจะมีอะไรดีๆ มาแชร์อีกฝากติดตามด้วยน๊าาา 

วันนี้ไปก่อนจ้า บ้ายย บายยยย

....................................................................