นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution จริงมั้ยคะ แถมยังมีรีวิวแน่นๆ มาให้เราได้เก็บข้อมูลกันตลอดๆ ถือว่าเป็นไอเท็มที่ไม่มีวันเอาท์เลย เราก็เป็นคนนึงล่ะที่อ่านรีวิวจากหลายๆ แหล่งก่อนตัดสินใจลองใช้จริง นี่ก็ซุ่มใช้อยู่เงียบๆ มาจนจะครบ 1 ปี อยู่ล้าวววว ในที่สุดวันนี้เราก็ได้หยิบน้องเค้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสาวๆ ในมุมของเราบ้าง ภายใต้เหตุผลที่ซ่อนอยู่คือ รีบหยิบมารีวิวก่อนที่น้องเค้าจะหมด 55555  จะเป็นอย่างไรนั้นตามมาดูกันเลยคร้า  .... วันนี้โทนภาพมาในแนวดาร์กๆ หน่อยนะคะ ?

 Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution

ข้อมูลจากแบรนด์ ?

เซรั่มสูตรเข้มข้นที่อาศัยเทคโนโลยีของการพัตนาโครงสร้างวิตามินซีที่มีการพิสูจน์ทางคลีนิคแล้วว่า สามารถลดการก่อตัวของเม็ดสีและลดเลือนความเข้มจากรอยหรือจุดด่างดำต่างๆ เช่น รอยสิว ฝ้า กระ ให้จางลงได้อย่างเห็นผลชัดเจน ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ พร้อมปรับผิวให้สว่างกระจ่างใสมากขึ้น บอกลาความหมองคล้ำ เผยผิวดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่ๆ และป้องกันการเปลี่ยนสีของเม็ดสีผิวเมื่อใช้เป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง

ผสานพลังแห่งการบำรุง และฟื้นฟูผิวจากวิตามินซีสกัด ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่อย่างอ่อนโยน

โดยมีส่วนผสมหลัก ได้แก่

Activated C

ส่วนผสมออกฤทธิ์รุ่นใหม่ ที่จัดการกับปัญหาความหมองคล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างล้ำลึก พร้อมปกป้องผิวจากการก่อตัวของเม็ดสีใหม่ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ให้ผิวดูขาวกระจ่างใส

สารสกัดจาก White Birch

ส่วนผสมที่ได้จากน้ำตาลซึ่งทราบกันดีว่ามีความสามารถในการฟื้นฟูระดับน้ำและสารอาหารในผิว

สารสกัดจากดอกโบตั๋น

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับ Activated C เพื่อแก้ไขการสร้างเม็ดสีที่มากเกินไปของผิวพรรณ เพื่อผิวสวยกระจ่างใส

ผลการทดสอบ ?

- ภายใน 2 สัปดาห์ 55% ของผู้ที่เข้ารับการทดสอบ มีจุดด่างดำลดลงอย่างเห็นได้ชัด

- ภายใน 4 สัปดาห์พบว่า 69% ของผู้ที่เข้ารับการทดสอบมีจุดด่างดำลดลงอย่างต่อเนื่อง และ 73% มีรอยแผลเป็นจากสิวลดลงอย่างเห็นได้ชัด

- ภายใน 8 สัปดาห์ 87% ของผู้ที่เข้ารับการทดสอบทางคลินิกมีสีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น และเผยผิวกระจ่างใส

? ปราศจากซิลิโคน ปราศจากสารกันเสีย ปราศจากน้ำหอม ปราศจากสี ปราศจากเทคโนโลยีกระจายแสง (Optical Diffuser)

เมื่อเปิดใช้งานแล้ว น้องเค้าจะมีอายุอยู่ได้เพียง 1 ปี เท่านั้นนะคะ ทางเราก็กระมิดกระเมี้ยนใช้มาจนจะครบ 1 ปี อยู่ล้าว ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าต้องเร่งมือใช้ให้หมดก่อนจะครบ 1 ปี ... ปวดหัวกับตัวเอง 5555

ลักษณะของผลิตภัณฑ์ ไม่มีสี เป็นน้ำใสวิ้งอยู่ในขวดที่เราคุ้นตากันเป็นอย่างดี แต่ของเรา... เป็นเพราะเปิดมาจนจะครบ 1 ปี แล้ว สังเกตเห็นได้เลยว่าความใสวิ้งเริ่มดร็อบลงแต่ยังใช้ได้ดีเหมือนเดิมนะคะ เนื้อสัมผัสจะลื่นๆ หนึบๆ หน่อย แต่ซึมเข้าสู่ผิวไวนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นิดๆ เป็นกลิ่นที่มาจากน้ำมันหอมระเหยจากลาเวนเดอร์ เอาจริงๆ คือ ถ้าไม่สนใจเรื่องกลิ่นก็จะไม่ได้กลิ่น ... อารมณ์ประมาณนั้น

ใสกิ๊ง ใสกิ๊ก ใสเหมือนกันแต่ปลอดภัยต่างกัน ... ยืมคำในโฆษณามา 555 สำหรับคีลส์ตัวนี้เราค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเราจะไม่แพ้หรือมีโอกาสแพ้น้อยมากๆๆๆๆ  เพราะที่ผ่านมาเราใช้ผลิตภัณฑ์ของคีลส์อยู่หลายตัวก็ไม่เคยแพ้เลย แต่!!!! สภาพผิวของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป เราจึงไม่สามารถการันตีให้สาวๆ ได้ว่าสาวๆ จะแพ้หรือไม่แพ้นะคะ 

มาในรูปของดรอปเปอร์

วิธีใช้

บีบดรอปเปอร์ 1 - 2 หยด หรือตามความต้องการ (บางวันเราก็ใช้ 3 - 4 หยด) จากนั้นทาทั่วผิวหน้าหรือแต้มเฉพาะจุดก่อนการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป

สภาพผิวก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ ?

มองเผินๆ จะเห็นได้ว่าทาแล้วเหมือนไม่ได้ทา 5555 อย่าเพิ่งร้อง เอ้า!!!!! เพราะเค้ามีเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะบนใบหน้าทำให้สามารถลงสกินแคร์ตัวต่อไปได้แบบสบายๆ เลยค่ะ แต่ลองเพ้งมองอีกทีสภาพผิวดูไบรท์ขึ้นนิดๆ และช่วยเบลอรูขุมขนได้นิดหน่อยด้วยนะคะ

มาดูผลลัพธ์กันต่อเลยค่ะ ?

ผลลัพธ์หลังการใช้ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ ?

พบว่า ภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ รอยแดงและรอยดำจากสิวจางลงไปมาก จุดด่างดำเล็กๆๆๆ ที่เข้มๆ ก็ดูจางลง ส่วนเรื่องของรูขุมขนเป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดหวังเลย แต่น้องคนนี้เค้าทำให้รูขุมขนดูเล็กและกระชับมากขึ้นได้ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นเราคิดว่าสิ่งสำคัญที่ช่วยเรื่องรูขุมขนอีกสิ่งหนึ่งก็คือการใช้สกินแคร์กลุ่มมอยส์เจอร์ไรเซอร์ควบคู่กันไปด้วยค่ะ 

ภาพนี้อาจจะดูน่ากลัวไปหน่อยนะคะ เพราะเราปรับความคมชัดและความละเอียดเพิ่มขึ้นแบบสุดๆ เพื่อจะให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้น สำหรับโทนสีของแต่ละภาพก็ให้แสงต่างกันเพราะถ่ายคนละช่วงเวลาค่ะ

ผลลัพธ์หลังการใช้อย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ แต่ไม่สม่ำเสมอ ?

น่าเสียดายมากๆ ที่เราลบภาพร่องรอยแผลเป็นและจุดด่างดำต่างๆ ที่เราจี้ไฝเองทิ้งไปหมดแล้ว ? เพราะตอนนั้นยังไม่ได้เข้าสู่วงการรีวิว ... ไม่อย่างนั้นจะได้เห็นภาพเปรียบเทียบชัดๆกันไปเลย เพราะน้องคนนี้เค้าช่วยไว้ได้เยอะมากกกกกก ครั้งนี้เราจึงขอแปะภาพนี้มาให้ดูเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นรอยดำและรอยแดงจากสิวอักเสบที่เรียกว่าสิวหัวช้างแทนแล้วกันนะคะบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ปั่นทอนจิตใจมากเพราะอักเสบนานมากกว่าจะหายไป แถมทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้ดูต่างหน้าอีก ถึงแม้จะพยายามกลบ & โบกเพื่อลบรอยต่างๆ ก็ไม่เป็นผลยังเห็นร่องรอยชัดเจนมาก .... 5 เดือน ผ่านไป สังเกตได้เลยว่ารอยแดงรอยดำจากสิวเม็ดนั้นลดลงไปเยอะมากเลย

สรุปผลลัพธ์อีกครั้งจากประสบการณ์ตรงของเรา ที่ใช้มาเกือบ 1 ปี ?

น้องคนนี้เค้าช่วยลดจุดด่างดำ รอยแดง รอยดำ จากสิว หรือจากการจี้ไฝรวมถึงรอยแผลเป็นจากการแกะสิวได้จริง โดยจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในระยะเวลาราวๆ 2 สัปดาห์ เป็นต้นไปนะคะ โดยเฉพาะถ้าเพิ่งเริ่มมีรอยดำรอยแดงใหม่ๆ แล้วทาตัวนี้เข้าไป รอยต่างๆ จะจางลงเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก ส่วนเรื่องฝ้ากระช่วยได้เล็กน้อยเท่านั้นแค่ทำให้มันดูจางๆ ลงเพราะเป็นอะไรที่ฝังลึกและพอผิวโดนแดดมากๆ ฝ้ากระก็กลับมาเข้มขึ้น ฉะนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ผิวโดยรวมดูกระจ่างใสมากขึ้น ช่วยให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นได้เล็กน้อย ที่เราประทับใจคือความอ่อนโยนโดยไม่ทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง หรือบางลงจึงสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องแบบยาวๆไปเลยค่ะ 

? ข้อแนะนำเพิ่มเติม 

Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution มีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิวแบบอ่อนๆ ดังนั้น คนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือยังไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวมาก่อน ควรเทสต์ก่อนใช้และทดลองใช้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1-2 หยด หรือวันเว้นวันก่อนก็ได้นะคะ นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA  BHA หรือสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิวเพื่อลดโอกาสที่จะทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองจากการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวซ้ำซ้อนกันนั่นเองค่ะ

อ่านยาวๆ กันมาตลอดแล้วววววว เลยขอจบแบบสั้นๆ ด้วยการขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและติดตามกันนะคะ

แล้วพบกันใหม่

บ๊ายๆ