เปิดกรุลิปทิ้นต์เกาหลีฉ่ำๆ ที่สาวปากแห้งต้องเลิฟ!
icecream_pb
42
15
ลมหนาวเริ่มพัดมาแล้ว จะปล่อยให้ริมฝีปากแห้งแตกไปกับความเย็นไม่ได้นะคะทุกคน
วันนี้เราเลยมาเปิดกรุลิปทินต์เกาหลีสายฉ่ำวาวตัวเด็ด ที่ใช้แล้วชอบมากกกก
ทาแล้วปากฉ่ำ ดิวอี้สุดๆ เหมาะกับหน้าหนาว (ที่ยังไม่หนาวสักที) ของบ้านเรามาก
จะมีตัวไหนบ้างไปดูกันเลยจ้า
ขอเริ่มต้นด้วยรูปสวอชสีลิปทั้งหมดเลยละกัน
ซึ่งลิปที่เราจะนำมารีวิวในวันนี้มีทั้งหมด 6 ตัวด้วยกันค่า
แต่ละแบรนด์สีน่ารักน่าลุ้นมาก เราพยายามเลือกให้สีต่างกัน
เวลาทาจะได้เหมือนเปลี่ยนลุคไปด้วย อิอิ
ข้อดีเหมือนกันของทุกแบรนด์คือเนื้อสัมผัสใกล้เคียงกันมากๆ
ถ้าปิดตาทาแทบแยกไม่ออก
เนื้อฉ่ำวาว ทาแล้วไม่หนึบปาก ให้ความชุ่มชื่นค่อนข้างดี
ไม่ได้กลบสีปากมิดสนิท เน้นเติมระหว่างวันได้เรื่อยๆ
และมีกลิ่นหอมผลไม้ทุกแบรนด์เลย
ส่วนข้อแตกต่างคือระดับความชุ่มชื่นที่ได้
และความติดทนของเม็ดสีจะต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับโทนสี
เอาล่ะ ไปดูรีวิวแบบเจาะลึกทีละตัวกันค่า
a'pieu juicy pang tint be01
เป็นทิ้นต์สีออกพีชๆ นู้ดๆ ใสๆ เนื้อสีจะบางที่สุดในบรรดา 6 แท่ง ไม่กลบสีปากเลย
คิดว่าถ้าใครริมฝีปากซีดจะช่วยให้ดูมีสุขภาพดีขึ้นมาระดับนึงและดูเป็นธรรมชาติมาก
น้องๆ ทาไปโรงเรียนได้ ครูไม่ว่า
แต่ถ้าคนริมฝีปากคล้ำมากๆ ทาเดี่ยวๆ ก็ไม่รอดค่ะ
แนะนำให้ทาทับลิปสีอื่นๆ ในวันที่อยากได้ความชุ่มชื่นจะดีมาก
ความติดทนไม่มาก ด้วยเม็ดสีที่อ่อนมาก
ความชุ่มชื่นปานกลาง ประมาณ 3-4 ชม. ถ้าอยู่ในห้องแอร์ต้องทาอีกสักรอบ
ราคา : โปร1+1 290 บาท
แหล่งช้อป : twitter @beautyskymu
a'pieu juicy pang tint cr03
เป็นสีแดงก่ำๆ แบบสาวเกาหลีที่สวยมาก ทาแล้วให้ความรู้สึกดูเซ็กซี่ลึกลับ
เม็ดสีชัดแน่นติดทนค่อนข้างดี ทานข้าวทานน้ำมีหลุดบ้าง
คนปากคล้ำทาแล้วรอดนะคะ อาจใช้ลิปคอนซีลเลอร์ช่วยช่วงขอบปากก็เอาอยู่
ความชุ่มชื่นเท่าตัวบนเลยค่ะ 3-4 ชม. เติมอีกรอบ
ราคา : โปร1+1 290 บาท
แหล่งช้อป : twitter @beautyskymu
a'pieu water light tint rd03
ตัวนี้เป็นลิปรุ่นดังของแบรนด์ a'pieu เลยก็ว่าได้ และสีนี้เป็นสีขายดีที่สุดที่แนะนำว่าควรมี
(เห็นเขาว่าเป็น dupes กับ ysl ด้วยนะ)
รุ่นนี้เป็นโทนสีชมพูตุ่นๆ ดูละมุนตุ้น สีผิวไหนทาก็รอด ทาแล้วดูเป็นธรรมชาติมาก
เม็ดสีจะแน่นกว่าตัวแรก (be01) แต่ก็ไม่ได้กลบริมฝีปากมิดถ้าริมฝีปากคล้ำ
ติดทนไม่มาก กินข้าวกินน้ำมีหลุด แต่ไม่น่าเกลียด
ความชุ่มชื่นพอๆกันกับรุ่นแรก แต่คิดว่าน้อยกว่านิดนึง สัก 3 ชม. ก็เติมทีนึง
ราคา 189 บาท
แหล่งช้อป shopee แต่จำร้านไม่ได้แล้ว TT
innisfree vivid oil tint #4
โทนสีอมส้มอมชมพู อธิบายยากมาก 555 แต่ทาแล้วสวย ดูเป็นธรรมชาติ สุขภาพดี
เม็ดสีแน่นกว่า a'pieu (be01 และ rd03) และ romand รู้สึกว่าติดทนกว่าด้วยนิดนึง
ให้ความชุ่มชิ่นดีมากๆ ทาแล้วแทบไม่ต้องเติมเลย
แต่ถ้านั่งห้องแอร์ก็สัก 6 ชม. เติมทีนึงก็ใช้ชีวิตต่อได้
ราคา : โปร1+1 400 บาท
แหล่งช้อป : twitter @beautyskymu
innisfree vivid oil tint #5
โทนสีจะแดงก่ำติ่งส้มนิดๆ ทาแล้วสวยมากเหมือนกัน เป็นโทนสีที่คิดว่าใครทาก็รอดค่ะ
เม็ดสีแน่นสุดในทุกตัว ติดทนสุดในทุกตัวด้วยเช่นกัน
ความชุ่มชื้นดีมากค่ะ อยู่ในห้องแอร์ก็ประมาณ 6 ชม.เติมอีกรอบ
ราคา : โปร1+1 400 บาท
แหล่งช้อป : twitter @beautyskymu
romand juicy lasting tint #8 apple brown
ตอนแรกเห็นในรูปรีวิวออกสีส้มอมน้ำตาล แต่เราเห็นของจริงแล้วมันออกส้มสดใสมากกว่าค่ะ สีน่ารักมากเหมือนเดิม เม็ดสีปานกลาง ติดทนปานกลาง
ให้ความชุ่มชื้นพอๆ กับ a'pieu คือประมาณ 3-4 ชม. ก็ทาทับอีกรอบค่ะ
ราคา 250 บาท
แหล่งช้อป ฝากเพื่อนซื้อจากเกาหลีค้าบ
สรุปจากเรานะคะ ถ้าเรียงตามความชุ่มชื้นเราให้
innisfree
a'pieu juicy pang tint
romand = a'pieu water light tint
แต่ถ้าเรียงตามความติดทนก็ขึ้นอยู่กับโทนสีเลยค่ะ ตัวไหนสีเข้มก็ติดทนกว่า
ส่วนการกลบสีปากก็ขึ้นอยู่กับโทนสี และพื้นปากเดิมของเราค่ะ
ใครปากแห้ง เบื่อพวกลิปแมท ลิปครีม ลองมาใช้พวกนี้ดูนะคะ เราว่ามันช่วยได้เยอะเลยค่ะ