6 Items ครบสูตรสำหรับผิวผสม บอบบางแพ้ง่าย with Machil Home
Thita Wiriyaratanaporn 65 14ช่วงนี้กระแสของ Zero Waste กำลังมาแรงมาก ซึ่งเรากับที่ทำงานอินกับสิ่งๆ นี้เป็นพิเศษ ทุกวันนี้ที่ออฟฟิศก็จะมีแก้วและหลอดของตัวเอง เวลาเราไปซื้อของ 7-11 หรือตามตลาดก็จะพกถุงผ้าไปด้วย เพราะเราเคยมาลองนั่งนับถุงพลาสติกที่เราได้จากการเดินตลาดแถวๆ คอนโด มันเยอะมาก!! พออินมากๆ ก็เกิดคำถามว่า…
แล้วสายสกินแคร์บ้าเครื่องสำอางอย่างเราช่วยลดอะไรได้บ้างมั้ย?
เราเลยนั่งค้น google และเจอว่า ถึงเราเป็นสายบิวตี้ ก็ช่วยลดปริมาณขยะได้เหมือนกัน เริ่มจากใช้สำลีเวลาเช็ดหน้าให้น้อยลง หรือเลือกใช้เจลล้างหน้า ที่สามารถล้างเมคอัพได้หมดจรดแทน รวมถึงถ้าจำเป็นต้องใช้ ให้ใช้สำลีที่ย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ รวมถึงเลือกสกินแคร์ที่ออร์แกนิก รักโลก (อันนี้เราทำอยู่แล้วนะ เพราะดีกับผิวเราด้วยแหละ) และเลือก product ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ขวดก็สามารถนำมารีฟิล กลับมาใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลได้
พอเกริ่นมาขนาดนี้ กระทู้นี้เราก็เลยมีคอมโบเกี่ยวกับทั้ง สกินแคร์ที่อ่อนโยนรวมถึงอยู่ในคอนเซปต์ Zero Waste เหมาะสำหรับสายรักโลกและผิวบอบบาง แพ้ง่ายเป็นพิเศษอย่างเราปี้จุด อาจจะปนๆ สำหรับผิวมันและผิวผสมเข้ามานิดนึง แต่ไม่หลุดคอนเซปต์จ้ะ
โดย Total ของทั้ง 6 คนนี้จะปราศจากพวกน้ำหอม ซิลิโคน แอลกอฮอล์และสีสังเคราะห์ รวมถึงพาราเบน เป็นสกินแคร์ที่เราใช้อยู่จริงในทุกๆ วัน ใช้แล้วรู้สึกภูมิใจ รู้สึกหลงรักในสิ่งที่ตัวเองใช้ และบานปลายไปถึงให้คนข้างๆ ใช้ด้วยกัน 5555555555 ><
ขอเรียงลำดับเป็นขั้นตอนใช้ก่อน - หลังละกัน จะได้ไม่งงและเป็นสเตปเนอะ
1.FYNE Gentle Facial Cleansing Gel
ไม่รู้ใครเป็นแบบเรามั้ยแต่เราเป็น เราชอบเครื่องสำอางที่มีขวดและสีประมาณนี้ ให้อารมณ์เหมือนนักทดลองวิทยาศาสตร์ 5555555 สำหรับแบรนด์ FYNE อ่านว่า ฟายน์ ค่ะ เป็นสกินแคร์ที่เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย และขอย้ำว่าผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ คนที่ตามบล็อกเกอร์ผิวแพ้ง่ายจะคุ้นชื่ออยู่นะ เพราะไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ใดๆ ไม่มีซิลิโคน แอลกอฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์และพาราเบน เรียกได้ว่าครบสูตรสกินแคร์ที่เหมาะสมกับตัวเรา คุณคนนี้เป็นคลีนซิ่งเจลค่ะ ใช้ล้างเครื่องสำอางแบบไม่ต้องเปลืองสำลีเลย เราชอบใช้โฟมล้างหน้าที่เป็นเจลเพราะจากที่ผ่านๆ มา พอเป็นเจลแล้วประสิทธิภาพเกี่ยวกับสิวผด ผดผื่นแพ้ดีขึ้นมากกกก ตอนนี้แทบไม่มีเลยจ้า จะมีบ้างก็คือสิวอักเสบจากฮอร์โมน แต่ถ้าเทียบกับก่อนๆๆ นี้คือลดลงไปเยอะ คุณเขาไม่มีสีไม่มีกลิ่นนะ ตอนล้างออก ไม่ทำให้หน้าตึงเอี๊ยดจนเกินไป กำลังดีค่ะ
2.Lancome Advanced Genifique สูตรใหม่
ตัวนี้ของจริงไม่ต้องพูดเยอะ เราเคยพูดถึงไปแล้วแบบจัดเต็มในกระทู้ก่อนหน้า ถ้าอยากได้ผิวที่แข็งแรงขึ้น ต้องคุณคนนี้ค่ะ เราใช้เป็น pre- serum นะ เพราะเขาได้ผลลัพท์ที่เข้มข้นจริงงง แต่เนื้อบางเบา ริ้วรอยดีขึ้น เราขอข้ามขั้นตอนโทนเนอร์ไป จริงๆ หลังล้างหน้าเสร็จเราจะมาลงโทนเนอร์ก่อน แต่ตัวที่ใช้สีขวดไม่คุมโทนความมินิมอล อิอิ ก็เลยข้าม ถ้าอยากรู้เฉลยให้เลยว่าช่วงนี้ใช้ Pixi Beauty ค่ะ ใช้ 2 สูตรสลับกันคือ Glowing และ Vitamin-C ดีทั้งคู่เลิฟ
3.Caudalie Vinoperfect serum
ใครรู้จักแบรนด์นี้บ้างเอ่ย? เป็นแบรนด์ที่สเปรย์น้ำแร่โด่งดัง ดาราฮอลลีวูดใช้เยอะ รวมถึงเซรั่มตัวนี้ก็เช่นกันค่ะ กลิ่นดีไม่มีน้ำหอมและแอลฯ ให้ขุ่นเคืองใจและผิว เนื้อค่อนข้างเบาบาง คุณเขาไม่มีเคาเตอร์ในไทยนะคะ อยากได้ต้องสอยที่ Sephora จ้า ช่วยเรื่องรอยจากสิว จุดด่างดำต่างๆ
4. Aesop Lucent Facial Concentrate
ถัดมาเป็นเอสอปหรือจะเรียกอีสปก็ได้จ้า แบรนด์ที่เชื่อว่าหลายคนหลงรักหัวปลักหัวปลำ ตัวนี้เพื่อนของเค้าแนะนำมา บอกว่าแกลองแกล้งๆ เพิ่มเซรั่มไปอีกตัวสิ โดยหลักๆ แล้วถ้าเป็นสกินแคร์อื่นๆ เราไม่ควรใช้เกิน 1 อย่าง แต่ถ้าเป็นเซรั่ม ด้วยแต่ละตัวมีพลังฤทธาต่างกันก็สามารถใช้ด้วยกันได้ บางทีเราก็ใช้สลับกันนะ เซรั่ม 3 ตัวนี้ถ้าเวลาน้อย แต่ถ้าตอนกลางคืนก็จะบำรุงเต็มขั้นตอนไปเลยจ้า ตัวนี้ช่วยปลอบประโลมผิว และเหมาะกับผิวมันและผสมมากๆ ถ้าใครผสมอาจจะใช้เฉพาะจุดได้น้า
5.Aesop B&C Facial Balancing Gel
ไม่เด่น ไม่ดัง จะไม่ถอยหลังกลับไป หรือนี่คือคอนเซปต์ของเขา เพราะคุณคนนี้เป็นที่เลื่องชื่อในแบรนด์ Aesop แบบสุดๆ เป็นเนื้อเจลนะคะ ที่ตอนแรกเราคิดว่าเหนียวหนืดแน่ๆ อ่ะ มันดูเจ้มจ้นมาก แต่พอปาดทากับหน้าปุ๊ป เห้ยแกกกกกกกก มันซึมไวมากกกก ไม่เหนียวไม่เหนอะ และผิวเด้งในเวลาต่อมา ยิ่งช่วงนี้ฝุ่นเยอะก็ควรตำจ้า
6.FYNE Hybrid Light Hydraing Sunscreen Broadspectrum SPF 50 PA+++
ขอแนะนำคุณคนสุดท้าย และเป็นคุณนั่นแหละที่ทำให้ใจผมหยุดเหงา #ผิด เป็นคุณนั่นแหละที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือครีมกันแดด คุณคนนี้ก็มาจากแบรนด์ FYNE เช่นเดียวกับคุณคนแรกสุดค่ะ มี SPF จุกๆ ถึง 50PA+++ เป็นของใหม่ล่าสุดของแบรนด์นี้ เห็นปุ๊ปกดสั่งทันทีเลยเด้อ ไม่ต้องคิด เป็นครีมกันแดดประเภทไฮบริดซันสกรีน และมีสารสกัดจากมอรินก้า ลดการเกาะติดของพวกฝุ่นและมลภาวะได้ดี ข้อนี้เริ่ดนะ เพราะปกติครีมกันแดดก็จะช่วยแค่กันแดดชะมะ รวมถึงมีแอนตี้ออกซิแดนท์จากธรรมชาติ ช่วยปกป้อง ฟื้นฟู บำรุงผิว ไม่ทำให้หน้าลอย เหมาะกับทุกสีผิวจ้า ตอนนี้ถ้าให้เลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งก่อนออกจากบ้าน ก็จะไม่ลืมพกคุณคนนี้แน่นอน
และเป็นธรรมเนียมที่เรารู้กัน ที่พักที่อยากจะแนะนำก็คือออ Machill House จ.นครปฐม ที่มีคอนเซปต์คือ Zero Waste แงงงง พอเห็นบ้านปุ๊ปก็คิดคอนเซปต์ว่าอยากนำเสนอสกินแคร์แบบไหนปั๊ป (มาควบคู่กันไป) เป็นบ้านที่อยากให้ทุกๆ คนเที่ยวไปพร้อมความรับผิดชอบ
เราไปนอน 2 วัน 1 คืน ไม่สร้างขยะเลยแม้แต่นิดเดียว เขามีวิธีการกำจัดขยะ มีที่ไปของทุกๆ อย่าง และมีประโยชน์มากๆ เป็นเวลาสั้นๆ แต่ได้เรียนรู้เยอะ ที่มาชิวมีบ้านอยู่ 2 หลังค่ะ บ้านดิน สำหรับ 4 คน (ทำจากดิน ข้างในบ้านเย็นสบาย) และบ้านนก 2 คน เรานอนบ้านนี้ ตอนกลางคืนเปิดแอร์แค่ 27-28 องศาและเปิดพัดลมก็เย็นหลับสบายแล้ววว มีกิจกรรมให้ทำ เช่น เก็บผักปลอดสารพิษ ทำพิซซ่า ย่ำบ้านดิน ผสมดิน (ตอนเราไปเขากำลังก่อสร้างบ้านดินหลังใหม่กันแหละ) รวมถึงได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านคือคุณเกล้าและคุณกุ้ง เกี่ยวกับแนวคิดการทำบ้าน ที่นี่ยังเปิดรับอาสาชาวต่างชาติด้วยนะ เป็นการชาร์จพลังที่เต็มเปี่ยม รู้สึกใจฟู และยิ้มได้เยอะกว่าทริปไหนๆ เลยแหละ สบายใจมาก <3