รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม น้ำตบพีช Momopuri lotion จากแบรนด์ BCL ของญี่ปุ่น

32 9
สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆบ้านจีบันทุกๆท่าน

วันนี้มี่แวะมารีวิวและวิเคราะห์ส่วนผสมน้ำตบพีชตัวดังให้ได้ชมกันนะคะ

น้ำตบพีชตัวนี้มีชื่อว่า Momopuri lotion เป็นของแบรนด์ BCL จากประเทศญี่ปุ่นค่ะ

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีจุดเคลมอยู่ที่การใช้ Peach ceramide ค่ะ

น้องมีหน้าตาเป็นแบบนี้นะคะ
ตัวขวดเป็นสีพีช ฝาก็เป็นสีพีช กลมๆคล้ายลูกพีช ทำมาได้น่ารักมากๆ
เนื้อจะเป็นเนื้อแบบค่อนข้างใส กลิ่นหอมพีชมากๆ ใครที่ชอบพีชคงฟินมากๆ ตอนทาแบบดิฉัน
แต่ถึงจะดูใส ก็ให้ความชุ่มชื้น ซึมซาบไว ไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ
ค่า pH อยู่ที่ราวๆ 5 นะคะ
สำหรับส่วนผสมเป็นดังนี้ค่ะ
จากส่วนผสมในภาพรวม นางจะมาในเนื้อแบบน้ำใส มีส่วนผสมของน้ำมัน และวิตามินที่ละลายได้ในน้ำมันอยู่บ้าง แต่ก็อาศัยกลุ่มของพวกสารลดแรงตึงผิว (Surfactant) หลายชนิด มาช่วยละลายให้ได้ผลิตภัณฑ์รูปแบบน้ำใส

จุดนี้ทางแบรนด์ก็เลือก Surfactant ที่ค่อนข้างอ่อนโยนเข้ามาค่ะ

ในส่วนของสารบำรุงวันนี้มี่ทำไว้หลายสีอยู่นะคะ มาดูไปด้วยกันเลยค่ะ

ขอเริ่มด้วย

>>สีเขียว
  • Phytostearyl glucoside/Glucosylceramide ตัวนี้ก็คือ Ceramide ที่ได้จากพีชนั่นเองค่ะ นางเป็นวัตถุดิบจากญี่ปุ่น มี่ลองไปค้นข้อมูลดู ก็เจออยู่ตัวหนึ่งค่ะ เป็นของบริษัท Cosfa ประเทศญี่ปุ่น ทางแบรนด์มีการทดสอบในระดับหลอดทดลองพบว่า สารตัวนี้สามารถเสริมการสังเคราะห์ Ceramide ชนิด 2 3 และ 5 ได้ค่ะ
  • น้ำมันจากข้าวโพด มีกรดไขมันหลายชนิด 

>>สีม่วง
  • Arginine เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง จัดเป็นสารในกลุ่ม Natural moisturizing factor มีประโยชน์เป็นตัวช่วยจับน้ำให้ผิว
  • Sodium hyaluronate และ น้ำตาล Xylitol มีประโยชน์ในเชิงด้านชุ่มชื้นเช่นกัน

>>สีฟ้า เป็นวิตามินพื้นฐาน 3 ตัวหลัก คือ A C E มีประโยชน์โดยรวมมากมาย ทั้งในด้านชะลอวัย ต่อต้านอนุมูลอิสระ และ Whitening

>>สีพีช เป็นสารบำรุงอื่นๆ ขอเลือกหยิบมาเล่าให้ฟังเฉพาะตัวที่น่าสนใจนะคะ
  • สารสกัดจากใบพีช ตัวนี้มีประโยชน์ในเชิง Antioxidant ต่อต้านอนุมูลอิสระ และในเชิงการลดการอักเสบระคายเคือง

มีสารตัวหนึ่งที่มี่แอบติดใจ คือ Enterococcus feacalis ferment ตัวนี้นับเป็น Probiotic ค่ะ แต่บนฉลากด้านหน้าขวด นางเขียนว่า น้ำตบอันนี้เป็นตัวเบลนด์ของ น้ำพีชเซราไมด์ กับ Lactobacillus เลยไม่แน่ใจว่า สรุปอันนี้เกิดการสื่อสารผิดพลาด หรือ อย่างไรเนอะ

พอดีขวดมันโค้ง เลยใช้ google translate ไม่ติด เลยแกะส่วนผสมจากฉลากญี่ปุ่นไม่ได้

คือ เรื่องมีอยู่ว่าปกติเราไม่ค่อยเจอ Enterococcus feacalis ferment ในทางเครื่องสำอางเท่าไหร่ แต่ก็พอมีข้อมูลอยู่บ้างค่ะ ว่ามีประโยชน์กับผิวพรรณ

สรุปค่ะ

ในภาพรวมทางด้านสารบำรุง คือ เด่นไปในเชิงด้านของการชุ่มชื้นเป็นหลัก รองๆลงมาก็จะเป็นเรื่องของการชะลอวัย แต่จุดที่น่าสนใจคือปริมาณของสารบำรุง ถ้าดูตามลำดับ อาจจะถือว่าอาจจะน้อยไปหน่อย

แต่สำหรับวิตามินเอ แค่ในระดับ 0.1% ก็น่าจะให้ประโยชน์แล้วนะคะ แล้วคิดว่า วิตามินเอ ก็มีประโยชน์กับผิวมากมายหลายอย่าง เลยคิดว่าก็โอเคอยู่ค่ะ

และในด้านของราคาก็ถือว่าราคาค่อนข้างเป็นมิตรค่ะ

ราคาญี่ปุ่น 900 เยน (ไม่รวมภาษี) ราคาที่ไทย จำไม่ได้ น่าจะ 3xx บาท ต่อ 200 มล.

ถ้าเทใส่มือแล้วตบก็ใช้ได้ 6 เดือน+ อยู่ค่ะ

แต่ถ้าเทใส่สำลี อาจจะอยู่ที่ราวๆ 1-2 เดือน ก็ถือว่ารับได้อยู่นะคะ

สำหรับวันนี้ก็ขอลากันไปเท่านี้ พบกันใหม่โอกาสถัดไป สวัสดีค่ะ
Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ซื้อด้วยตนเอง การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล และผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ


LadyMiyeon

LadyMiyeon

ชื่อมี่ มียอน สาวสกินแคร์สายเกาหลี ชอบอ่านส่วนผสมเครื่องสำอาง เน้นรีวิวส่วนผสมค่ะ กำลังหัดแต่งหน้าอยู่ แต่ยังได้แค่พอไปวัดไปวา คุยกันได้นะคะ ดูเหมือนโหดแต่จริงๆน่ารักแบ๊วๆใสๆ ไม่กัดจ้าาา

FULL PROFILE