[รีวิว] แนะนำ 10 ไอเทม ถูกและดี 2019

สวัสดีทุกคนค่า วันนี้ได้รวบรวมไอเทมที่รอบตัวที่ได้ลองใช้ในปีนี้และจัดว่าอยู่ในหมวดของราคา “ถูกและดี” ใช้คุ้มค่า น่าตำ และอยากแนะนำก่อนจะสิ้นปีนี้

เพื่อน ๆ จะได้รู้ว่า ของบางอย่างไม่ต้องจ่ายแพงก็มีของดีและเป็นเบื้องหลังคุณภาพชีวิตที่ดีของเราได้นะ จะได้มีเงินเหลือเก็บไปซื้อของแพง ๆ ชิ้นอื่นใน Wish List อันยาวเหยียดของพวกเราไงจ๊ะ ฮี่ๆๆ

พร้อมแล้วมาเช็คกันเลยว่ามีอะไรบ้างที่ปอนด์เอามาเสนอในวันเนร้…

1.) Eye Palette จาก ‘Anylady’

ปริมาณ: ได้ถึง 30 สี ในราคาเพียง 200 บาท

Anylady เป็นแบรนด์คสอ.ยี่ห้อนึงซึ่งทางเราไปเจอมาในแอพ Shopee และพบมาว่ามันคุ้มราคามาก 

โดยมีตัวเลือกมากมายหลายรุ่นหลายเฉด ส่วนมากจะจ่ายในราคา 100~200 บาท แล้วได้พาเลทมาแบบ 12-15 หลุมซึ่งก็ว่าเยอะแล้วนะ แต่ที่เจอมาแล้วรู้สึกคุ้มที่สุดก็คือน้องคนนี้เลยจ้า

สีเยอะน่าโดนแบบนี้เพราะเค้ารวมสียอดฮิตมาไว้ด้วยกันถึง 30 ช่อง!! ทำให้เลือกแต่งตาได้หลายแนวไม่เบื่อในราคาขำ ๆ กรุ๊บกริ๊บ สอยมาเล่นได้แบบไม่ต้องคิดเยอะ

ซื้อมาแล้วไม่เสียดายตังเลยเพราะพิกเมนต์เค้าชัดและสีก็สวยติดทน แต่งไปเที่ยวมาแล้ว ชัดเจนยังไงอย่างงั้นเลยค่า นอกจากรุ่นนี้ก็ยังมีพาเลทรุ่นฮิตน่ารักน่าพกอีกหลายแบบ เพื่อน ๆ คนไหนสนใจลองไปค้นหากันได้ในแอพช้อปออนไลน์ดูจ้ามีให้เลือกเพียบ

2.) Y.N.M | You need me ‘Rainbow Honey’ Lip Balm

ขนาด: 3.8 กรัม ในราคา 150~250 บาท

ลิปบาล์มเปลี่ยนสีเป็นชมพูเข้ม-อ่อน ตามอุณหภูมิ จากเกาหลี จุดเด่นอยู่ที่ความฉ่ำวาวของเนื้อลิปสติกคือมีความเงากลอสซี่ขั้นสุดแต่บางเบาไม่หนักปาก หลาย ๆ ร้านที่ขายได้ให้คำจำกัดความของน้องเค้าไว้ว่าเป็น ลิปแฝด Dior ด้วยนะจ๊ะ

ความอยากมีปากฉ่ำเมื่อเจอลิปนี้ในราคา 199.- ทำให้กด F ตำน้องเค้ามา แต่ที่ทำให้อดใจซื้อไม่ได้เพราะดีไซน์แพคเกจเค้าด้วยส่วนนึงด้วยจ้ะแม่ คือปลอกลิปเป็นกลิตเตอร์สะท้อนแสงไฟวิบวับใจบางมาก แล้วแพคเกจคือดีมีกลไกลูกเล่นไปอีก

ส่วนการใช้งานเป็นไปได้ดี ทาแล้วฉ่ำวาวสมใจ แต่ด้วยพื้นสีปากธรรมชาติเราไม่สวย ถ้าทาบำรุงอยู่บ้านก็จะเห็นเป็นไม่สม่ำเสมอไปบ้าง แต่ความเงาที่ชนะเลิศนี้สามารถทาลิปคอนซีลเลอร์ไปก่อนแล้วทาชั้นบนสุดด้วยตัวนี้ก็สวยแบบปากสาวเกาหลีได้แหละ

ชิ้นนี้หาซื้อไม่ยากแล้วเพราะมีคุณ Icepadie รีวิวไว้ แม่ค้าหิ้วก็จะรับมาขายกันเยอะ ตามร้านกด F ในเพจต่าง ๆ หรือแอพช้อปปี้ก็มีให้เลือกหลายเจ้าหลายราคาค่ะ

3.) Power Curling Mascara จากแบรนด์ Barbie

ขนาด: 12 กรัม ในราคา 199 บาท

มาสคาร่าลิขสิทธิ์แท้ Barbie ซึ่ง Made in Korea ดังนั้นจึงไม่ได้ราคาถูกอย่างเดียวแต่คุณภาพดีด้วยจ้า คือมาเป็นสูตรไฟเบอร์ที่ออกแบบมาให้ปัดขนตาได้ยาวหนา และดัดขนตาให้งอนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งคีมดัดขนตาเลย

จะบอกว่า มันเหมาะมากสำหรับมือใหม่หัดแต่งหน้าอย่างเรา เพราะปัดง่าย สวยเร็ว และอยู่ติดทนนานทั้งวันโดยไม่เป็นแพนด้า ล้างออกก็ง่ายด้วยโฟมล้างหน้าหรือน้ำอุ่นเค้าก็จะหลุดมาเป็นเส้น ๆ ไม่เป็นสีดำละลายติดตา ซึ่งราคานี้ถือว่าคุ้มจริง ใช้ซ้ำวนไปจ้า

ใครจะตำหาดูได้ที่เว็บช้อปออนไลน์ต่าง ๆ แล้วก็เจอที่ Beautrium ด้วย เค้ามีคนนำเข้ามาแบบเป็นทางการไม่ต้องพรีฯ จ้า

4.) Aloe-E Snail Bright Gel จาก Smooto

ขนาด: 50 กรัม ในราคาเพียง 49 บาท

ชิ้นนี้จับในมือก็ถูกชะตาเลย สัมผัสแค่ข้างนอกก็น่าพากลับบ้านล๊าววว คือมันดึ๋ง ๆ เย็น ๆ ในมือ ให้ความรู้สึกงุ๊ยง๊ายมาก อารมณ์เดียวกะขนมเจเล่บิวตี้ (ต้องห้ามตัวเอง กินไม่ได้นะ! อย่าเปิดฝาดูดเชียวนะ 555)

นับว่าเป็นครีมซองที่ไซส์ใหญ่สะใจม๊าก แต่ราคาก็ยังไม่เกิน 50 บาท เป็นอโลเจลเพื่อผิวใส เด้งดึ๋ง ที่มี Aloe Vera 99.5% แล้วยังมีเมือกหอยทาก สารสกัดตัวโปรดไปอีก ถูกใจมนุษย์ผิวแห้งยิ่งนัก

เนื้อเจลทำมาดีมาก ฉ่ำลื่นบางเบา อ่อนนุ่ม ละมุนมากแม่ ที่สำคัญใช้แล้วปลื้มสมชื่อ Smooto เลย แบรนด์นี้ลองใช้อะไรก็ประทับใจตัลหลอดดด

ลูบแล้วฉ่ำไปทั่วผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะแม้แต่น้อย ตอนทาหน้าคือฟินจริงไรจริง ซึมเร็ว และหลังซึมก็ให้ความรู้สึกผิวกระชับ เย็น  ๆ ผ่อนคลาย ยิ่งทาหลังวันตากแดดก็รู้สึกได้เลยว่าได้ฟื้นบำรุงผิวขาดน้ำให้กลับมาชุ่มชื่น แข็งแรง ไม่แห้งกร้าน พวกรอยสิวที่นาน ๆ เกิดขึ้นทีก็ดูจางลง ใช้เตรียมผิวก่อนแต่งหน้าได้ดีมาก แล้วช่วงอากาศเปลี่ยนผิวแพ้ง่าย คันง่ายก็ใช้ทาปลอบประโลมผิวได้ผลดีแท้

อีกเรื่องที่ชอบคือกลิ่นที่หอมอะโรม่าแบบที่ตามหาเลย ไม่ฉุนเหมือนอโลเจลที่เคยใช้ มันจะมีหลายตัวที่ได้มานานก็ยังใช้ไม่หมดเพราะมันไม่ได้ฟีลแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะอโลเจลทั่วไปมีการผสมแอลกอฮอล์ที่ทาไปแล้วระเหยไวจริง แต่ก็รู้สึกว่าความชุ่มชื่นมันระเหยไปพร้อมกันด้วย สรุปคือผิวกลับมาแห้งเหมือนเดิมอีก ยี่ห้อที่ดีไม่ผสมแอลฯ ก็มีอยู่ แต่แพงมากเวอร์จนไม่กล้าใช้หมด 555+

เพราะงั้นเลยเทใจเมื่อมาเจอน้องที่ไม่มีแอลกอฮอล์แถมราคาน่ารัก ทาแล้วชุ่มชื่นได้จริง จนอยากไปหาตำขวดใหญ่มาติดบ้าน ส่วนแบบซองก็ต้องมีไว้พกไปเที่ยว ไปทำงาน ไว้ทาระหว่างวันก็ได้สบายกระเป๋าทั้งเรื่องพื้นที่และเรื่องราคาด้วย เยิฟ ๆ

ความดีงามคือการหาซื้อสะดวกแค่เข้าเซเว่นก็เจอแล้ว

5.) Watermelon EE Cream จาก Sistar

ปริมาณ: 10 กรัม ในราคา 49 บาท

น้องครีมอีอีแตงโมงซองแดงแรงฤทธิ์นี้ก็เป็นอีก 1 ครีมซองที่ต้องแนะนำเลย ใช้แล้วปลาบปลื้มในความสามารถของเค้าที่เกินราคายิ่งนัก

เอาง่าย ๆ คือถ้ารีบออกจากบ้านด่วนมาก สายล๊าววว ก็ทาสกินแคร์บำรุงแล้วตามด้วยตัวนี้ก่อนวิ่งออกจากบ้านได้ เพราะน้องเค้าเป็นกันแดด SPF 50 PA++ ที่สามารถเสกผิวให้ “เนียนใสทันทีที่ใช้” ราวกับมีเวทมนต์เลยจ้า คือลูบปุ๊บเนียนปั๊ป แล้วผิวจะดูโทนอัพแบบอมชมพูขึ้นทันตา แล้วเนื้อครีมเค้าเวิร์คมากด้วย ไม่ฝืดไม่แห้งเป็นขุย ทาแล้วฉ่ำแตกตัวเป็นน้ำแบบฉ่ำ juicy เลยทีเดียว

เนื้อครีมแตกตัวเป็นน้ำเกลี่ยง่าย ใช้นิดเดียวทั่วหน้า กลิ่นหอมอ่อน ๆ ชื่นใจเหมือนลูกอมแตงโม

เท่าที่ลองทาออกจากบ้านและสังเกตดูก็ไม่มีเยิ้มนะ คุมมันได้ทั้งวัน ไม่มีคราบเหงื่อให้โป๊ะระหว่างวัน เรียกกันน้ำได้ดีเลย คุณภาพในราคาเท่านี้นับว่าควรมีไว้จริง ๆ

น้องคนนี้ก็มีขายอยู่ในเซเว่นเหมือนกันค่ะ

6.) Boya | Q10 Body Bath

ขนาด: 800 ml. (ใหญ่สะใจโฮก) ในราคา 159 บาท

ไม่รู้มันยังไง คือจะ 10 ปีรึยังนะที่ต้องใช้เจลอาบน้ำขวดนี้วนอยู่เรื่อย เพราะเราค้นพบแล้วว่าผิวตัวเองแห้งและแพ้สบู่บางตัวง่ายมาก คือต้องใช้ครีมอาบน้ำเด็ก หรือไม่ก็ออร์แกนิคไปเลย แล้วก็มียี่ห้อนี้แหละที่ใช้แล้วผิวไม่แห้ง ไม่แพ้คัน ไม่คล้ำเสีย จนซื้อซ้ำบ่อยมากจริง ๆ ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปลองเจลอาบน้ำผิวขาวตัวดังตัวแพงแค่ไหนก็ไม่เห็นจะกระจ่างใสเต่งตึงเท่าใช้อันนี้ ก็ต้องวนกลับมาซื้อซ้ำอีกจนได้

เนื้อเจลใส และกลิ่นหอมเป็นมิตรแบบแป้งเด็ก พร้อมสารสกัดอันเต็มเปี่ยมไปด้วย Nano-CoQ10 เป็นตัวรักษาสมดุลผิว พร้อม L-Gluta และ Collagen

เราซื้อครั้งแรกสมัยนานมาแล้ว ที่ Beautrium แล้วก็ซื้อซ้ำชนิดเติมเรื่อยมาตาม Gourmet Market จนตอนนี้ Beautrium ไม่มีขายแล้ว ต้องซื้อแบบขวดเต็มที่ Karmart แต่ก็พบว่าปัจจุบันนี้เค้าไปวางขายอยู่ในเซเว่นแล้วฮ้าบ ดีใจมาก

7.) ตาข่ายติดตาสองชั้น จาก Hello Eyelids Tape

ปริมาณ:  60 คู่ (120 ชิ้น) ในราคาไม่เกิน 200 บาทเท่านั้น

ชิ้นนี้นับว่าเป็นไอเทมที่ใช้ดีไม่มีเอาท์แน่นอน แบรนด์ Hello เค้าเก่งเรื่องออกแบบเทปติดขนตาจริงนะ ขนาดเราไม่ใช่คนตาชั้นเดียวยังสนใจลองใช้แล้วชอบ ด้วยความที่เค้าออกแบบสินค้ามาหลายแบบให้ตอบโจทย์ปัญหาตาของทุกคน

เพราะมีเพื่อนสาวที่ชั้นตาสองข้างไม่เท่ากัน นางใช้ไซส์ M ติดตาข้างเดียวทุกวันแล้วเวิร์คมาก ก็เลยแนะนำมา ทำให้เราเพิ่งรู้ว่าการที่ชั้นตาไม่ใหญ่ แต่งตาแล้วเห็นไม่ชัด พอใช้สิ่งนี้แล้วมันทำให้ชั้นตาเป็นเส้นชัด มีพื้นที่มากขึ้น แถมกลมโตขึ้นได้แบบเวอร์วังม๊ากกกก แล้วรุ่น Mesh Tap คือเนียนและติดง่ายจริง บอกเลยว่าไม่เคยติดตาสองชั้นมาก่อนก็ทำเองได้สบาย ตามวิธีหลังกล่องเลย

ข้อดีอีกอย่างคือความที่ออกแบบมาเป็นตาข่าย ติดแล้วเนียนกว่าแบบสติกเกอร์มาก ๆ ไม่หลุดไม่โป๊ะ ติดทน ชิ้นที่เห็นคือไซส์ L สำหรับสาว ๆ ตาสองชั้นที่ต้องการให้ชั้นตาชัดและทรงกลมโตมากขึ้น

แบรนด์ Hello เค้ายังมีไอเทมอื่นอีกเพียบสำหรับแก้ปัญหาหนังตาตก และตาสองชั้นหลบใน และอื่น ๆ ซึ่งมีทั้งแบบ Fiber และ Nano Fiber อีกด้วย แบรนด์นี้มีเว็บเป็นของตัวเอง และยังวางจำหน่ายใน Watsons และเว็บช้อปออนไลน์อีกหลายที่เลยนะ ทางเราได้มาจาก Koriico หละ

8.) เครื่องล้างหน้าระบบสั่น ‘Sonic Egg’ จาก CBG

ราคา: 490~1290.-

เห็นราคาแล้วอาจจะรู้สึกว่าหลายร้อย แต่ถ้าใครติดตามบิวตี้เทรนด์ตลอดจะรู้ว่าปีนี้เป็นปีแห่ง Device ในการช่วยล้างหน้าจริง ๆ เพราะมีคนซื้อของดีในราคาหลักหลายพันกันมาแล้ว แต่เราจะแนะนำตัวนี้ในราคาที่เอื้อมถึงง่ายกว่าหน่อย และคุณภาพการใช้งานก็ไม่ได้ด้อยไปนะ เรียกว่าฝีมือการช่วยล้างหน้าให้สะอาดของนางก็ทำได้ดี สบายกระเป๋า เอาอยู่!

ถึงราคาจะถูกกว่าแบรนด์ดังไปมากแต่คุณภาพก็โอเคนะ มีช่องใส่ถ่านปิดมิดชิดและไม่กินไฟ ใช้ได้หลายเดือน ความนุ่มของสิลิโคนก็โอเค ไม่ทำร้ายหน้า และมีขนาดปุ่มให้เลือกใช้กับผิวตั้ง 3 แบบ การสั่นถือว่าแรงกำลังดี (อัตราการสั่น 8,000 ครั้ง/นาที) ส่วนตัวคิดว่ามันช่วยเรื่องการสปา ถ้ารูดถูกทิศก็นวดหน้าให้กระชับได้ และลดการเสียดสีแรง ๆ กับผิวเมื่อเทียบกับเอามือล้างหน้าโดยตรง

ใครอยากตำก็ลองมองหาที่ Beautrium หรือจะสั่งออนไลน์ก็มีขายแล้วเกือบทุกที่เลยนะเราเจอทั้งเว็บ Konvy Malty Koriico แอพ Shopee Lazada แล้วก็ JD Central เลยฮับ

9.) แผ่นเจลติดเล็บเกาหลี ‘Glossy Blossom’

ราคา: ชิ้นละ 129-159 บาท

ความน่าสนใจของเค้าอยู่ที่ลวดลายที่ออกแบบมาดีมาก คือถ้าไปเจอวางขายอยู่ก็เลือกไม่ถูก เพราะมันสวยหลายลาย แบบว่าคนไม่ทำเล็บและไม่เคยคิดจะทำเล็บอย่างเราเห็นแล้วยังอยากได้มาครอบครอง ถ้านึกถึงวันที่จะแต่งตัวแล้วประดับเล็บให้เป็นแฟชั่นเข้ากับชุดที่จะใส่ แล้วหยิบมาแปะ ๆ แบบเร็ว ๆ คือสิ่งนี้ตอบโจทย์มาก และนางทำได้ดีจริง

การจะติดสิ่งนี้ก็ทำเองได้ง่ายด้วย เราเคยติดแต่ตอนนี้เอาออกไปแล้วและอยู่ในช่วงรอเล็บยาว ก็เลยไม่ได้ติดให้ดู ไว้จะมารีวิวเต็ม ๆ ให้อีกทีเด้อ ราคาเท่านี้แต่ได้ลายสวย ๆ แบบแฟชั่นเกาหลีสำหรับเราถือว่าคุ้ม ซื้อมาเก็บไว้เล่น ๆ ขำ ๆ ได้สบาย อ้อ! แล้วเค้าก็แถมตะไบเล็บมาให้ด้วย น่ารักใช้ดี

แหล่งขาย สิ่งนี้อยู่ใน G-market ในราคา 12,900 วอน และเท่าที่สำรวจตอนนี้มีร้านที่ซื้อได้แบบไม่ต้องข้ามประเทศคือ Koriico จ้า

10.) บอดี้สเปรย์สูตรเย็นจาก ตรางู

ขนาด: 50 ml. ในราคา 120~150 บาท

เอาจริง ๆ แบรนด์นี้เป็นของที่อยู่คู่บ้านเรามายาวนานและคุ้นตามาก แต่หลายคนอาจมองข้ามนะ ช่วงหน้าร้อนก็คิดหาวิธีคลายร้อนกันจนคุ้มคลั่งแต่หลายคนไม่ค่อยรู้ว่าสิ่งนี้แหละ เปลี่ยนฟีลทะเลทรายให้กลายเป็นลานสกีได้แม้จะอยู่ในเดือนเมษาเลยจ้า อย่างเราที่ต้องนั่งรถเมล์ร้อนทุกเช้า ตอนเดือนเมษาไม่ไหว แดดออกแรงแต่เช้า กว่าจะถึงที่ทำงานก็อยากอาบน้ำมาก แต่พอสิ่งนี้ออกมาขายก็ใช้แก้ปัญหาไปได้เลย

ที่จริงสินค้าตรางูใช้แล้วเย็นทุกตัวแหละ แต่เราเลือกสเปรย์กระป๋องเพราะความสะดวกตรงที่ฉีดผ่านเสื้อผ้าได้ ความเย็นที่ได้มามันคุ้มดี แล้วพี่เค้าเย็นจริง จนฉีดเยอะเกินก็แทบจะสั่น ต้องหัดฉีดแค่บางจุดไม่ให้หนาวเกินไปซะอี๊กก แต่ได้ผลดีมาก เหงื่อไม่ออกเลย แรก ๆ ก็เซ็งเรื่องกลิ่นนะ กลิ่นคือบับ!! เหมือนตอนเด็ก ๆ ที่เจอพ่อตอนอาบน้ำเสร็จ 5555 แต่ก็ยอมใช้เพราะหน้าร้อนมันแย่เกิน ทั้งนี้ในปี 2019 สเปรย์ตรางูกลิ่นลาเวนเดอร์ออกมาวางจำหน่ายแล้วจ้า สดชื่นและดูเป็นวัยรุ่นกว่าเยอะ เดินไปถามเพื่อนว่ากลิ่นแรงมั้ยเพื่อนก็บอกว่าไม่ได้กลิ่นนะ ก็ไปเลือกใช้ตามกลิ่นที่ชอบกันเลยค่า

แหล่งขายที่เจอจะอยู่ที่ Watson แล้วก็แอพออนไลน์อย่าง Shopee Lazada อ้อ! แล้วที่ Big C ก็มีด้วยนะฮ้าบบบ

ครบ 10 อย่างแล้ว ใครถูกใจชิ้นไหนกันบ้าง เม้นบอกได้ถามกันเพิ่มได้น้า ไว้คราวหน้าจะมารวมของในหมวดอื่นให้ดูกันอีกค่า บั๊บบายจุ๊บ ๆ