[Review] บลัชม่วง Cheek Pop ที่ควรมีประดับบารมีเป็นชิ้นแรก
King of Eugenie 54 15ฮายยยยย ซิสสสสสส
คืนนี้คิสมากับไอเท็มที่คิสเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปตอนมันมาใหม่ๆ หน้าดอกเดซี่ยังอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ นี่ใช้ไปสักพักลายมันเลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
อันนี้คิสจำได้เลยเปิดใช้งานครั้งแรกคืองานที่ไปร่วม Workshop Clinique MD ร่วมกับทางบ้านจีบันที่สยามพารากอน วันนั้นคือเปิดใช้งานครั้งแรกเลยค่ะ เพราะเห็นว่าไหนๆ theme งานคือม่วงละ ก็เปิดใช้เลยละกัน
แต่คิสมีปัดแก้มสีม่วงเยอะมากนะคะ 55 อันนี้ไม่ใช่อันแรก มีเพียบเลย แต่...อันนี้น่าจะขึ้นเป็น top of mind ของคิสได้เลยค่ะ เพราะเป็นบลัชที่ละมุนมากๆ
ที่คิสจั่วหัวเอาไว้ว่า "ควรเป็นบลัชชิ้นแรก" อันนี้ไม่ได้เกินจริงนะ
คือคิสเห็น Clinique cheek pop ติดในโพล magazine ของญี่ปุ่นมาตลอดเลย คิสซื้อเกือบทุกเดือนที่คิโน๊ะ แต่คือไม่ได้อ่านออกเลย ดูแต่รูป เพราะสาวๆที่นั่นเรื่องรายละเอียด การจัดภาพเค้าสวยมาก ดูแค่รูป ดูผ่านๆ ดู composition คุ้มเกินคุ้ม
หลายๆเล่มคือมี freebie หรือของแถมประจำเล่มให้ด้วย คิสมักจะซื้อ SWEET เพราะ Freebie นี่ละ และนางแบบประจำของ SWEET คือคิสจะชอบสไตล์นี้หมด คือกึ่งๆลูกครึ่ง ถ้าเป็นนิฮงจินก็เป็นแนวที่หน้าตาเก๋มาก จดจำได้ในครั้งเดียว และไม่ใช่แนวเก๋แบบ weird หรือ alien แนวสายนางแบบรันเวย์นะคะ เก๋ในที่นี่คือเก๋แบบทั้งสวยและน่ารักในคนๆเดียว ปรับเปลี่ยนลุคได้ง่ายเหมือนมีเวทมนตร์ คิสชอบมากกก
เอาละ ไปเรื่องอื่นอีกละ 55
((คิสมีไปเก็บรูปภาพที่สาขาเอ็มโพเรี่ยมมานะคะ เพราะอยากให้ดูสีอื่นๆกันด้วย แต่แสงเพี้ยนมากๆ เหมือนรูปคิสไปคว้ามาจากสวนส้มเลยค่ะ เพี้ยนจริง เอาว่าดูเพลินๆไปละกัน ขออนุญาตพนักงานแล้วก่อนถ่าย ได้รับความร่วมมืออย่างดีค่ะ))
สำหรับสีของบลัชรุ่นนี้คิสว่าควรไปเลือกสวอชเองจะดีที่สุด
แต่ถ้าจะซื้อ online แล้ววัดดวง คิสว่าก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น เพราะเนื้อบลัชรุ่นนี้เป็นบลัชที่ให้พิคเมนท์ละมุนมากๆ ปัดใช้งานง่าย ไม่ต้องมองกระจกก็ปัดๆได้ คือไม่เป็นก้อนๆ หรือดูประหลาดอะไรเลย คือใช้ง่ายมากกกก
เทียบเคียงนะ คิสว่าคล้ายๆของ benefit ต่างกันคือฟินิช ตัว clinique อันนี้มีฟินิชคล้ายกันหมด คือ sheen เป็นบลัชที่ปัดเดี่ยวๆได้เลย ไม่ต้องลงไฮไลท์แล้ว หน้ามีมิติ แต่คือไม่ใช่ไฮไลท์ ไม่ได้วาวขนาดนั้น ไม่ได้วิ๊ง ไม่มีกลิตเตอร์ แค่ปัดแล้วหน้าไม่แบน
ต่างอีกข้อคือแพคเกจ ของ clinique ต้องพกแปรงด้วย เนื้อเป็นแบบ bake ไม่ใช่แบบแป้งๆที่ปัดแล้วผงตีเข้าหน้า อันนี้จะ bake แบบอัดแน่น แต่ไม่ได้แปลว่าเป็น industrial grade blusher รับแรงกระแทกได้ทุกสถานการณ์นะคะ คิสว่าทำหล่นก็แตกเหมือนบลัชทุกยี่ห้อค่ะ
เป้าหมายที่คิสไปส่องคือก็ไปดูสีมาฝากสาวๆจีบันนี่ละ แต่ให้ซื้อเองนี่คิดก่อน เพราะบลัชเยอะมากจริงๆ
หลายคนคงเห็นตัว holiday พาเลทกันแล้ว ตอนคิสไปดูล่าสุด อีกอันคือหมดแล้วนะคะ จะมีเป็นพาเลทตัวนี้เท่านั้น มี 3 สีตามรูปค่ะ พาเลทของจริงสวยมากๆ ได้ไซส์จริงเลยด้วย แต่ราคา 2000 อันนี้ราคาเต็มนะ แต่ก็ on top ก็ตามลำบาก
เหมาะกับให้เป็นของขวัญ หรือไม่ก็สาวๆคนไหนที่อยากมีบลัชพาเลทดีๆไว้ใช้อันนึง แนะนำว่าเหมาะกับนักศึกษาค่ะ ไม่ใช่ว่าติดไม่ทน แต่คิสว่ามันเหมาะกับสาวๆยังไงไม่รู้สิ มันน่ารัก มันมุ๊งมิ๊ง
ตัวแบบ single แพคเกจจะเป็นอะคริลิค ก็ดู sturdy พอสมควร แต่คิสก็ไม่ชอบพก และไม่ใช่คน touch up คิสก็ไม่อยากพกนะ คืออะคริลิคมันแตกได้นะคะถ้ากระแทก
ส่วนแบบพาเลท อันนี้น่าจะเป็นพลาสติก แบบไม่มีข้อต่อพับ อันนี้คือเหมาะกับการพกพามากกว่าและน่าจะแข็งแรงกว่ารุ่น single ด้วย(ความเห็นส่วนตัว) แต่ดันไม่มีกระจกมาให้ งงใจ ทำไมไม่ใส่มาให้สักหน่อยหนออออ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
คิสแอบเสียดายที่ซื้อไม่ทันโปรแถมกระจกคล้ายๆดอกเดซี่ มันน่ารักมากก เห็นจากกระทู้เชอรี่(aka Cherryqoo) แล้ววอแวสุดๆ อยากได้มากกก แต่...มันไม่มีแล้ว!!