รีวิวเครื่องฟองอากาศ SHARP VS XIAOMI

สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคนกลับมาเจอกันอีกครั้งกับกระทู้รีวิว

วันนี้ทีนจะมาพูดถึง Home Gadget ที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ

และอากาศนี้ช่วงมากๆ นั่นก็คือเครื่องฟอกอากาศนั่นเอง

ก่อนจะเข้ารีวิวทีนขอพูดให้ฟังก่อนว่าทำไมเครื่องฟอกอากาศ

จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกบ้านควรมี

1. PM 2.5 มามาไปไปเป็นระยะระยะลองมองไปบนฟ้าสังเกตไหมว่า...สีท้องฟ้าไม่ได้ใส เหมือนเมื่อก่อนแล้ว (ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ)
   

2. การขยายตัวของสังคมเมือง ฝุ่นละอองจากการปลูกสร้างต่างๆ มากขึ้นอย่างเช่นฝุ่นการขุดเจาะถนนเพื่อสร้างรถไฟฟ้า เป็นต้น

3. มลภาวะบนท้องถนนท่อไอเสีย ใครที่มีบ้านติดถนนใหญ่น่าจะได้รับผลกระทบตรงนี้

4. พื้นที่สีเขียวของโลกน้อยลงทำให้อากาศบริสุทธิ์น้อยลงตามไปด้วย

เห็นไหมครับว่าเครื่องฟอกอากาศเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกบ้านควรมี

อย่างน้อยในขณะที่นอนหลับ 8 ชั่วโมง เราควรได้รับอากาศบริสุทธิ์ 

เพื่อสุขภาพของตัวเอง และคนในบ้านนะครับ

มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ตอนนี้ทีนมีเครื่องฟอกอากาศอยู่ 2 ตัว 

คือ SHARP และ XIAOMI ซึ่งเป็นยี่ห้อดังทั้งคู่ วันนี้ทีนจะเปรียบเทียบ

ให้เพื่อนๆเห็นภาพว่าตัวไหนดีกว่ากัน มีอะไรน่าสนใจ คุ้มค่ากับเงินที่เสียไหม

ไปดูกันครับ

เครื่องฟอกอากาศ SHARP รุ่น KC-D40TA-B  ราคาประมาณ 17,990

*ทีนซื้อเครื่องนี้มาเมื่อปี 2016

เครื่องฟอกอากาศตัวนี้จะดูดอากาศภายในห้องเข้าไปในเครื่องฟอก

โดยอากาศจะผ่านแผ่นกรองในชั้นแรกซึ่งเป็นแผ่นกรองกลิ่น

จากนั้นจะผ่านเข้าไปที่แผ่นกรอง HEAP ภายในตัวเครื่องและสุดท้าย

จะปล่อยอากาศออกทางช่องลม 

Note : แผ่น HEAP สามารถกำจัดฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กสุด 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.99%และช่วยกำจัดเชื้อไวรัสได้

+4

โหมดการทำงาน 

1.โหมด Clean air : ระบบฟอกอากาศปกติ

2.โหมด Clean ion shower : ระบบฟอกอากาศ พร้อมปล่อยพลาสม่าคลัสเตอร์

3.โหมด Fan speed : เลือกระดับความแรงลมให้เมาะสม

(ลมอัตโนมัติ/ Advance/ ลมตรวจจับละอองเกสร/ลมเบา/ลมกลาง/ลมแรงสูง)

4.โหมด ควบคุมแสง 

5.โหมด ตั้งเวลาเปิดปิด

Option

มีระบบปล่อยความชื่น และปล่อยพลาสม่าคลัสเตอร์

Note : ทางแบรนด์บอกว่าระบบพลาสม่าคลัสเตอร์สามารถฟอกอากาศ

ในลักษณะเดียวกับการฟอกอากาศโดยธรรมชาติ 

ด้วยการปล่อยอนุภาคไฟฟ้าบวกและลบออกมาในระดับที่สมดุลกัน

​

สรุปคุณสมบัติเด่น

1.ดักจับฝุ่นละอองได้เล็กถึง 0.3 ไมครอน

2.เพิ่มความชื้นภายในห้อง

3.กรองเชื้อไวรัส

4.กรองกลิ่น

5.มีระบบพลาสม่าคลัสเตอร์

เครื่องฟอกอากาศ XIAOMI รุ่น Air purifier 2S ราคาประมาณ 3,290

เครื่องฟอกอากาศตัวนี้จะดูดอากาศภายในห้องเข้าไปในเครื่องฟอก

โดยอากาศจะผ่านไส้กรองและปล่อยอากาศออกทางช่องลมด้านบน

โดยใส้กรองจะมีให้เลือกตามความเหมาะสมของการใช้งาน

- Filter สีฟ้า ตัวนี้ตอนซื้อจะมาพร้อมเครื่อง มีคุณสมบัติดักจับฝุ่นละอองทั่วไป

- Filter สีเขียว Formaldehyde ตัวนี้ต้องซื้อมาเปลี่ยนเอง 

มีคุณสมบัติช่วยกรองสารระเหยต่างๆ จาก Wallpaper หรือ

เฟอร์นิเจอร์ต่างๆภายในบ้านเหมาะสำหรับบ้านใหม่

ซึ่งส่วนตัวทีนก็ใช้แบบนี้อยู่

- Filter สีม่วง Antibacterial ต้องซื้อเปลี่ยนเองเช่นกัน มีคุณสมบัติช่วย antibactirial 

เหมาะกับบ้านที่มีการเลี้ยงสัตว์ และบ้านที่มีคนป่วย

+3

โหมดการทำงาน

1.โหมดหัวใจ : โหมดสำหรับเร่งฟอกอากาศแบบด่วน

2.โหมด A : ปรับความแรง-เบา แบบอัตโนมัติ (ถ้าฝุ่นเยอะจะปรับแรงขึ้นเอง)

3.โหมดพระจันทร์ : โหมดที่ใช้ขณะหลับ

Option

มีควบคุมการปิดเปิด /โหมดการทำงานผ่าน / แจ้งเตือนให้เปลี่ยนไส้กรองผ่าน Application

สรุปคุณสมบัติเด่น

1.ดักจับฝุ่นละอองได้เล็กถึง 0.3 ไมครอน

2.มีหน้าจอแสดงค่า PM 2.5

สรุปความชอบตามความคิดเห็นส่วนตัว

ทีนคิดว่าเครื่องฟอกอากาศทั้งสองตัวสามารถกรองฝุ่นละอองต่างๆ 

ได้ดีทั้งคู่ และแต่ละตัวก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน 

ส่วนเรื่องเสียงถ้าเทียบกันในโหมดเบาที่สุด ทั้ง 2 ตัวทำงานได้เงียบๆ

เหมือนกันครับ

สิ่งที่ SHARP เหนือกว่า 

1.ใช้งานได้หลากหลายมากกว่า

2.สร้างความชื้นในห้องให้เหมาะสมได้

3.มีระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ ซึ่งมีเฉพาะใน Sharp

4.กรองกลิ่นได้ดีมาก 

สิ่งที่ XIAOMI เหนือกว่า

1.กรองฝุ่นเร็วกว่า

2.มีหน้าจอแสดงค่า PM 2.5 ในตัว

3.มี Application สำหรับการเปิดปิด เผื่อบางทีเรา ออกจากบ้านแล้วลืมปิด ส่วนตัวได้ใช้ประโยชน์จากตรงนี้บ่อยมาก

จะเห็นได้ว่าเครื่องฟอกอากาศของ SHARP มีโหมดการใช้งานที่หลากหลาย

มากกว่าเยอะ เอาเป็นว่าใครมีงบเยอะไป SHARP ได้เลย

ส่วนใครงบไม่เยอะมากอยากได้ความคุ้มค่า เน้นกรองฝุ่น PM 2.5 

XIAOMI น่าจะตอบโจทย์ครับ

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็น เพียงความคิดเห็นของทีนเท่านั้นครับ 

คนอื่นใช้แล้วอาจจะมีความรู้สึกชอบไม่ชอบต่างจากทีนก็ได้ 

ดังนั้นลองหารีวิวของคนอื่นๆประกอบด้วยก่อนการตัดสินใจซื้อนะครับ