เคล็ดลับดูแลผิวให้ขาวใส ไกลสิว ช่วงฝุ่นหนา!
bookdk24 38 8สวัสดีค่ะเพื่อนๆ:)
ช่วงนี้อย่างที่พวกเราทุกคนรู้กันใช่มั้ยค่ะว่า
ปัญหาเรื่องฝุ่นมันเยอะขึ้นทุกวันเลยค่ะ! และผิวเราต้องเจอมลภาวะแบบนี้ทุกวัน มันทำให้เกิดทั้งสิว ผด ผื่น ต่างๆ! วันนี้บุ๊คเลยจะมาแนะนำเคล็ดลับง่ายๆในการดูแลผิวให้เพื่อนๆกันค่ะ!
ผลิตภัณฑ์ที่บุ๊คใช้จะมีตามนี้เลยค่ะ ^__^!
ขั้นตอนแรก!
บุ๊คจะเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดจดโดยไม่หวงสำลีด้วย Etude House Monster Oil in Cleansing Water ตัวนี้เราขอบอกเลยว่าไม่ใช่แค่น่ารักอย่างเดียวนะคะ ตัวนี้เค้าเช็ดทำความสะอาดได้ดีมากๆเลยค่ะ แถมผิวยังคงความชุ่มชื่นด้วย เราผิวแพ้ง่ายใช้ได้สบายจัดว่าโอเคเลย เราซื้อที่เกาหลีมาเค้าชอบจัดโปรบ่อยๆ ดีมากๆเลยค่ะ
ขั้นตอนที่สอง!
หลังจากเช็ดเครื่องสำอางหมดจดแล้ว บุ๊คจะใช้โฟมล้างหน้าของ BIONIC FACIAL FOAM OIL CON- TROL GREEN TEA โฟมตัวนี้เป็นสูตรชาเขียว ช่วยลดความมัน และช่วยให้ผิวกระจ่างสดใส ป้องกันสิวเรื้อรังค่ะ เนื้อโฟมของเค้ามีความละมุนผิวดีมากค่ะ ยิ่งตีโฟมกับถุงตะข่ายจะขึ้นโฟมนุ่มนิ่มใช้แล้วละมุนมากค่ะ กลิ่นโฟมหอมมาก และเมื่อล้างหน้าเสร็จเราจะรู้สึกได้ถึงความสะอาดสุดๆ แต่ผิวไม่ตึงเอี๊ยดนะคะ ผิวจะดูผ่องขึ้นด้วย ใช้ต่อเนื่องรูขุมขนกระชับ สิวไม่มีมากวนใจเลยค่ะ ราคาไม่แพงหนูๆน้องๆก็ใช้ได้ค่ะ!
หลังจากเช็ดเครื่องสำอางหมดจดแล้ว บุ๊คจะใช้โฟมล้างหน้าของ BIONIC FACIAL FOAM OIL CON- TROL GREEN TEA โฟมตัวนี้เป็นสูตรชาเขียว ช่วยลดความมัน และช่วยให้ผิวกระจ่างสดใส ป้องกันสิวเรื้อรังค่ะ เนื้อโฟมของเค้ามีความละมุนผิวดีมากค่ะ ยิ่งตีโฟมกับถุงตะข่ายจะขึ้นโฟมนุ่มนิ่มใช้แล้วละมุนมากค่ะ กลิ่นโฟมหอมมาก และเมื่อล้างหน้าเสร็จเราจะรู้สึกได้ถึงความสะอาดสุดๆ แต่ผิวไม่ตึงเอี๊ยดนะคะ ผิวจะดูผ่องขึ้นด้วย ใช้ต่อเนื่องรูขุมขนกระชับ สิวไม่มีมากวนใจเลยค่ะ ราคาไม่แพงหนูๆน้องๆก็ใช้ได้ค่ะ!
ขั้นตอนที่สาม!
เมื่อผิวเราสะอาด ก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมผิวเพื่อให้ผิวพร้อมรับสกินแคร์ค่ะ โดยบุ๊คจะเช็ดโทนเนอร์ของ Etude House Soon Jung pH 5.5 Relief Toner โทนเนอร์ตัวนี้เค้าออกแบบมาเพื่อคนผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ ซึ่งเราเป็นสายชอบอะไรอ่อนโยนอยู่แล้ว ถือว่าชอบมากๆเลยค่ะ แต่บางวันที่ฝุ่นหนักมากๆเราก็จะ สลับใช้กลับตัว Clinique Clarifying Moisture Lotion (2) ค่ะ เพราะตัวนี้จะทำความสะอาดผิวได้ล้ำลึกกว่าค่ะ!
เมื่อผิวเราสะอาด ก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมผิวเพื่อให้ผิวพร้อมรับสกินแคร์ค่ะ โดยบุ๊คจะเช็ดโทนเนอร์ของ Etude House Soon Jung pH 5.5 Relief Toner โทนเนอร์ตัวนี้เค้าออกแบบมาเพื่อคนผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ ซึ่งเราเป็นสายชอบอะไรอ่อนโยนอยู่แล้ว ถือว่าชอบมากๆเลยค่ะ แต่บางวันที่ฝุ่นหนักมากๆเราก็จะ สลับใช้กลับตัว Clinique Clarifying Moisture Lotion (2) ค่ะ เพราะตัวนี้จะทำความสะอาดผิวได้ล้ำลึกกว่าค่ะ!
ขั้นตอนที่สี่!
จากนั้นบุ๊คจะใช้ MUJI Sensitive Skin Light Toning Water เป็นน้ำตบเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวค่ะ เพราะถ้าผิวเราแห้งริ้วรอยก็จะเกิดขึ้นตามมาด้วยนะคะ
จากนั้นบุ๊คจะใช้ MUJI Sensitive Skin Light Toning Water เป็นน้ำตบเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวค่ะ เพราะถ้าผิวเราแห้งริ้วรอยก็จะเกิดขึ้นตามมาด้วยนะคะ
ซึ่งเจ้าขวดนี้ใช้ดีมาก
ไม่มีน้ำหอม ไม่ทำให้แพ้ ทำให้ผิวชุ่มชื่น ราคาไม่แพงด้วย ซื้อทีเดียวใช้ยาวๆค่ะ!
ขั้นตอนที่ห้า!
เมื่อผิวเราชุ่มชื่นดีแล้วเราจะใช้เซรั่ม Estee Lauder Advance Night Repair เพื่อเป็นการบำรุงผิวอย่าง ล้ำลึกค่ะ เซรั่มตัวนี้ดีสมคำล่ำลือที่ทุกคนต่างพูดกันค่ะ เพราะบำรุงได้ลึกมากๆ วันไหนเจอมลภาวะมาหนักๆ ทำงานหนักจนหมองนอนน้อย ทาปุ๊ปตื่นมาหน้าเฟรชดูสดใสขึ้นเลยค่ะ แต่เนื่องจากราคาแรง เราจึง
ซื้อแบบทดลองมาใช้ก่อน เพราะกลัวแพ้ แต่พอใช้และไม่แพ้ก็เตรียมเงินรอเลยค่ะ ฮือโดนตกจนได้!
เมื่อผิวเราชุ่มชื่นดีแล้วเราจะใช้เซรั่ม Estee Lauder Advance Night Repair เพื่อเป็นการบำรุงผิวอย่าง ล้ำลึกค่ะ เซรั่มตัวนี้ดีสมคำล่ำลือที่ทุกคนต่างพูดกันค่ะ เพราะบำรุงได้ลึกมากๆ วันไหนเจอมลภาวะมาหนักๆ ทำงานหนักจนหมองนอนน้อย ทาปุ๊ปตื่นมาหน้าเฟรชดูสดใสขึ้นเลยค่ะ แต่เนื่องจากราคาแรง เราจึง
ซื้อแบบทดลองมาใช้ก่อน เพราะกลัวแพ้ แต่พอใช้และไม่แพ้ก็เตรียมเงินรอเลยค่ะ ฮือโดนตกจนได้!
ขั้นตอนที่หก!
หลังลงเซรั่มเราก็ห้ามลืมเด็ดขาดที่จะทาใต้ตาเราค่ะ เพราะใต้ตาเป็นผิวที่บอบบาง ต้องควรได้รับการบำรุง เพื่อป้องกันริ้วรอก่อนวัยค่ะ โดยบุ๊คใช้ AHC ultimate real eye cream for face เป็นแบรนด์จากเกาหลี ราคาไม่แพง แถมใช้ดีอีกต่างหาก แต่ว่าเค้ามีน้ำหอมนะคะ ซึ่งเราใช้ได้ไม่แพ้แต่สำหรับคนที่แพ้ง่ายมากๆอาจจะต้องลองดูก่อนค่ะ!
ขั้นตอนที่เจ็ด!
และแล้วเราก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายกันแล้วค่ะ นั่นก็คือการลงครีม ซึ่งเราใช้ Dr.Jart+ Ceramidin Cream เจ้าตัวนี้เป็นลูกรักเรามากๆเลยค่ะ เพราะมันช่วยให้ผิวเราแข็งแรงขึ้นจากภายในจริงๆ วันไหนผิวมีแดงๆหรือ แพ้อะไรมา เราแค่ทาบางๆตรงบริเวณนั้น ซักพักรอยแดงรอยแพ้หายไปเลยค่ะ แถมให้ความชุ่มชื่นแบบคน ผิวแห้งจะรักมาก ผิวแพ้ง่ายใช้ได้สบาย ถึงราคาจะแอบแพงไปนิดแต่ก็คุ้มค่าเพราะมาในปริมาณเยอะมากค่ะ ตัวนี้เป็นเหมือนของประจำบ้านไม่มีไม่ได้เลยค่ะ ดีมากจริงๆ!
และแล้วเราก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายกันแล้วค่ะ นั่นก็คือการลงครีม ซึ่งเราใช้ Dr.Jart+ Ceramidin Cream เจ้าตัวนี้เป็นลูกรักเรามากๆเลยค่ะ เพราะมันช่วยให้ผิวเราแข็งแรงขึ้นจากภายในจริงๆ วันไหนผิวมีแดงๆหรือ แพ้อะไรมา เราแค่ทาบางๆตรงบริเวณนั้น ซักพักรอยแดงรอยแพ้หายไปเลยค่ะ แถมให้ความชุ่มชื่นแบบคน ผิวแห้งจะรักมาก ผิวแพ้ง่ายใช้ได้สบาย ถึงราคาจะแอบแพงไปนิดแต่ก็คุ้มค่าเพราะมาในปริมาณเยอะมากค่ะ ตัวนี้เป็นเหมือนของประจำบ้านไม่มีไม่ได้เลยค่ะ ดีมากจริงๆ!
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเคล็ดลับง่ายๆ ในการดูแลผิวสู้กับมลภาวะช่วงนี้ค่ะ! ทั้งนี้ไม่ว่าจะช่วงไหน การดูแลผิวให้สะอาดหมดจด และทำให้ผิวชุ่มชื่นเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เสมอนะคะ!
บุ๊คเองก็จะแตะเลข3ปีนี้แล้วหละค่ะ แหะๆ ก็ยังใฝ่ฝันว่าอยากโชว์หน้าสดแบบมั่นใจได้ค่ะ! ดังนั้นเรื่องการดูแลผิวนี่ขาดไม่ได้เลยจริงๆ ห้ามขี้เกียจเป็นอัน ขาดนะคะ เหนื่อยแค่ไหนกลับมาต้องรีบล้างหน้า เช็ดเครืองสำอาง อาบน้ำบำรุงผิวนะคะ เพื่อนๆคนไหนมีเคล็ดลับดีๆมาแชร์กันได้นะคะ! ! วันนี้บุ๊คขอตัวลาไปก่อนไว้โอกาสหน้าบุ๊คมีอะไรดีๆจะมาแนะนำเพื่อนๆกันใหม่นะคะ!
บ๊ายบาย^___^)/!
บ๊ายบาย^___^)/!