💚 สีเขียวนี้สิที่ถูกจริต 💚

ฮาโลววว....ทุกคน วันนี้เราได้รวบรวมสรรพสิ่งของสีเขียวที่ใช้แล้วถูกจริตมารีวิวให้ทุกคนได้ดู ก่อนอื่นมารู้จักสภาพผิวของเรากันก่อนนะ เราเป็นคนผิวขาดน้ำช่วงแก้มสองข้าง ส่วนช่วงทีโซนจะมัน และก็เป็นคนผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองเก่งมากแม่!!! บางทีเคราะห์ซ้ำกรรมซัดสิวก็ขึ้นไปอีก และลักษณะผมเส้นเล็กชี้ฟูไม่มีน้ำหนัก ทีนี้ไปดูหน้าตาแก๊งค์น้องเขียวกันดีกว่า

หมวดผิวหน้า

ตัวแรกเริ่มด้วยการคลีนหน้ากับ Cream De Latex All In One Detoxifying Deep Cleansing Water Gel เป็นเจลล้างหน้าที่สะดวกสบายสุดๆ เพราะเป็นโฟมล้างหน้าที่ช่วยล้างเครื่องสำอางค์ออกได้ด้วย  วันไหนที่ขี้เกียจคือตัวนี้ตัวเดียวจบ แต่ถ้าใครที่แต่งหน้าแบบหนัก บล็อคตาแบบหนักจัดเต็มอาจจะต้องมีตัวช่วยนิดนึง แต่ส่วนตัวแต่งหน้าน้อยเลยรอด!! นอกจากความสะดวกรวดเร็วแล้ว ยังมีความอ่อนโยนต่อผิว เมื่อใช้แล้วไม่แสบ และไม่ทำให้ผิวแห้งผิวเอี๊ยด แฮปปี้ค่ะ
ราคา 369 บาท

ตัวที่สองเป็นแบรนด์เกาหลีที่ดังเรื่องผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องสิวๆ นั้นก็คือ COSRX One Step Green Hero Calming Pad ตัวนี้เป็นโทนเนอร์แบบแผ่นสำหรับเช็ดหน้า มีสารสกัดของ green tea water 75%, PHA 0.25% ผสานเข้ากับ Green-Rx complex และประกอบด้วย dandelion leaf, centella asiatica, witch hazel, tea tree leaf, และ mugwort extract  ตัวนี้จึงช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดอ่อนๆ ทำความสะอาดพร้อมช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง ลดการอักเสบแดงของผิว อ่อนโยนสำหรับผิวบอบบาง หลังใช้ตัวนี้แล้วรู้สึกสะอาด และชอบกว่า cosrx one step original clear pad สีแดง เพราะรู้สึกอ่อนโยนกว่า ใช้แล้วผิวไม่แดงและแสบเหมือนกับกระปุกแดง
ราคา 790 บาท

ตัวที่สามตัวนี้บอกไปใครๆก็รู้จัก เพราะนางดังมากกก ดังจนทางเราเองทนกระแสไม่ไหวจนต้องจัดมาลองนั้นก็คือ  ORIGINS  Mega-Mushroom Relief & Resilience Soothing Treatment Lotion หรือที่ร้จักกันในชื่อ น้ำตบเห็ด  หลังใช้แล้วบอกเลยว่าเข้าใจแล้วทำไมคนพูดถึงกันเยอะ เพราะรู้สึกว่ามันช่วยผิวที่ระคายเคือง ที่เราเป็นอยู่ไม่ว่าจะเป็นผื่น ความแดงของผิว รู้สึกถึงผิวที่แข็งแรงขึ้น ตัวนี้คือไอเท็มที่รักมากขาดไม่ได้ แต่ตัวนี้มีน้ำหอมผสมอยู่ด้วยตอนแรกนึกว่าจะแพ้แต่ไม่เลยค่ะ แถมกลิ่นยังทำให้รู้สึกสดชื่นด้วย
ราคา 890 บาท (ราคาหิ้วจากสนามบินค่ะ) / ราคาเคาเตอร์ 1,800 บาท

ตัวที่สี่ มากันเป็นแก๊งค์ ตัวนี้สอยมาจาก eveandboy เห็นคำว่า CICA  แล้วอดซื้อไม่ได้ นั้นก็คือ DR JART+ Powerful Cica Set  ซึ่งประกอบไปด้วย
                1.Cicapair Calming Gel Cream 80 ml. (ขนาดจริง) เจลครีมที่ผสานส่วนผสมธรรมชาติช่วยปลอบประโลมผิวบอบบางแพ้ง่าย และผิวที่มีปัญหาสิวให้แข็งแรง สุขภาพดียิ่งขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ เนื้อบางเบาไม่ทำให้ผิวมันระหว่างวัน
                2.Cicapair Toner 60 ml. โทนเนอร์ สำหรับผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย ระคายเคือง หรืออักเสบ ช่วยบำรุง ปลอบประโลมและซ่อมแซมผิว เพื่อพร้อมในการบำรุงในขั้นถัดไป
                3.Cicapair Cream 15 ml. ครีมบำรุงผิวที่เข้าฟื้นฟูผิวแห้งและระคายเคือง อุดมคุณค่าจากแร่ธาตุและสารบำรุงจากธรรมชาติที่ช่วยเก็บกักความชุ่มชื่นไว้ใต้ผิว พร้อมช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
                หลังจากลองใช้ ทั้งสามตัวแล้วซึ่งที่ชอบคือเมื่อทาแล้วรู้สึกเย็นสบายผิว นอกจากนี้ชอบกลิ่นแบบสะอาดๆ โดยรวมคือชอบ เวลาผื่นขึ้น หน้าแพ้ จะนึกถึงเซ็ตนี้ก่อนเลยค่ะ
ราคา 1,450 บาท
            

ตัวที่ห้าเป็นตัวสุดท้ายนั่นก็คือ Clinique ID : Dramatically Different Moisturizing Hydrating Jelly + Delicate Skin ต้องบอกก่อนว่าตัวนี้เคยได้มาจากการไปร่วมงานกับทางจีบัน ใช้แล้วชอบพอหมดก็เลยซื้อมาใช้ต่อ เพราะส่วนตัวชอบเนื้อสัมผัสที่ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะ แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความชุ่มชื่นได้ดี ส่วนตัวที่ยังคงเลือกบูสเตอร์สีเขียวอยู่นั้น เพราะรู้สึกว่าผิวเรายังไม่ได้แข็งแรงเท่าที่ควร ซึ่งเราก็รู้ว่าการทำให้ผิวแข็งแรงไม่แพ้นั้นต้องใช้เวลา ประกอบกับช่วงนี้เรื่องมลภาวะอย่าง PM 2.5 นั้น ก็ยังมีผลกับผิวอยู่แม้ว่าผิวจะไม่ได้มีผื่นขึ้นแบบช่วงแรกที่ PM 2.5 มาก็ตาม แต่เราก็ยังคงต้องดูแลผิวกันต่อไปค่ะ แถมเจ้าตัวนี้มีให้เราได้เลือกครีมตามแบบฉบับของเราด้วยนะใครสนใจลองไปอ่านกระทู้เดิมของเราได้นะ (https://www.jeban.com/topic/282139) 
ราคา 1,900 บาท

หมวดเส้นผม

หมวดนี้ขอเทใจให้แบรนด์นี้ แบรนด์เดียว นั้นก็คือ  Yves Rocher ที่เน้นการผลิตจากธรรมชาติ ต้องบอกก่อนว่าเมื่อก่อนใช้แชมพูกับครีมนวดแบบมั่วมาก อะไรยี่ห้อไหนก็ใช้ได้ ไม่ได้ใส่ใจเรื่องผมเลย บางทีครีมนวดยังไม่ใช้เลย พอโตมาก็รู้จักเลือกมาขึ้น ก็ลองหลายแบรนด์ แต่แบรนด์ที่ตุนยาสระผม กับครีมนวดตอนนี้ ขอยกให้กับ Yves Rocher เลยค่ะ วันนี้เอามาให้ดูสามอันที่ชอบตามนี้เลยค่ะ
1. BHC Anti Pollution Shampoo Detox Micellar Shampoo ( ราคา 199 บาท )ตัวนี้เป็นสูตรไมเซลล่าที่จะช่วยทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน ปราศจากสิ่งรบกวนจากมลภาวะ เหมาะกับสภาวะปัจจุบันสุดๆ ตัวนี้มีสารสกัดจาก Moringa seed extract ที่มีการสกัดแบบธรรรมชาติ 100% ปราศจาก ซิลิโคน,สีสังเคราะห์ และ พาราเบน หลังใช้แล้วรู้สึกผมเบาสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ผมมันช้าลง และกลิ่นก็สะอาดสดชื่นด้วยค่ะ
2. BHC Nutri-Repair Treatment Shampoo ( ราคา 199 บาท ) ตัวนี้เป็นแชมพูที่ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผมที่แห้งเสียให้กลับมานุ่ม ชุ่มชื้น และเงางามอีกครั้ง โดยมีสารสกัดหลักจากออร์แกนิคโจโจ้บา ออยล์ และสวีท อัลมอนด์ ออยล์ ฟื้นฟูผมที่แห้งเสีย แตกปลาย ตัวนี้ตอบโจทย์ช่วงที่ผมแห้งจากการทำสีมาก ฟื้นฟูผมที่แข็งแบบไม้กวาดได้ดี ชอบมากค่ะ
3. BHC Nutri-Repair Treament Conditioner ( ราคา 199 บาท ) ตัวนี้เป็นครีมนวดผมสูตรปราศจากสารซิลิโคน มีส่วนประกอบจากธรรมชาติอย่างโจโจบา ตัวนี้ใช้แล้วผมนุ่ม และมีน้ำหนัก เวลาหวีผมนั้นผมไม่ค่อยพันกัน แถมผมก็มีกลิ่นหอมอ่อนๆแบบหวานๆ

หมวดช่องปาก

ยาสีฟันที่ใช้แล้วชอบ คือ Dentiste’ Plus White ที่ช่วยลดกลิ่นปาก น้ำลายบูดได้ ด้วยส่วนผสมของ Natural Extract กว่า 10 ชนิด พร้อม Xylitol และ Vitamin C ที่สามารถยับยั้งการเติบโต ของแบคทีเรีย จริงๆแล้วสิ่งที่ชอบคือกลิ่นยาสีฟันตอนแปรงเสร็จรู้สึกปากสะอาดไม่เหม็น และให้ความรู้สึกที่สดชื่น ตัวนี้ใช้หมดไปหลายหลอดมากกกก

วันนี้ขอตัวลาไปก่อนนะคะ หวังว่าคงจะชอบกระทู้นี้กันนะคะ 

บาย บาย บาย