Review Burberry : รองพื้นงานผิว Matte Glow Foundation เบส Fresh Glow และลิปสติกสีนัวสวยมาก

#TheplairReview : Burberry Beauty
เราไปสอยเมคอัพเขามาสักพักแล้ว
ตอนที่เปิดตัวใหม่ๆ เพราะรองพื้น Matte Glow Foundation มันยั่วเยมากเลยซิส
อ้าว จะแมตต์หรือโกลว์อยู่ในรองพื้นอันเดียวกันได้หรอ

คอมเม้นต์จากคนเมื่อพูดว่าฟินิชของรองพื้นมีทั้งแมตต์และโกลว์ในเนื้อเดียวกัน
เปรียบเทียบเหมือนเท็กซ์เจอร์บลัชละกัน
โกลว์ = ชิมเมอร์หรือกลอสใส วาวๆ สะท้อนแสงสุดฤทธิ์
แมตต์ = เนื้อแมตต์พาวเดอร์ ก็แมตต์ๆ ด้านๆ แมตต์
โกลว์ = เนื้อซาตินที่แบบว่าผสมทั้งเนื้อแมตต์และชิมเมอร์ไว้ด้วยกัน ก็จะให้ความเหลือบๆ กลางๆ

ซึ่งเราเป็นสายโกลว์ค่ะ ทำไงคะ ผสมเบสชิมเมอร์ค่ะ (เอ๊ะงงตัวเอง)
และนี่เป็นความรู้สึกจากการทดลองรองพื้นมา 2 เดือน
และแน่นอนว่าไปซื้อรองพื้นอย่างเดียวไม่มีอยู่จริง 555

Burberry Matte Glow Foundation
นางเอกของเราบอกเลยว่านางมีสีให้เลือกถึง 30 เฉด
โดยแบ่งย่อยไปอีกว่าเป็นอันเดอร์โทน cool , neutral, warm
มีความเลือกยากเบาๆ
ขอให้ไปลองที่เคาน์เตอร์แล้วพาเพื่อนไปเดินเล่นก่อนตัดสินใจซื้อ

เขาปกปิดระดับกลางถึงมาก ทำให้ผิวไม่ฉ่ำไม่แมตต์หลังลงเสร็จจะไม่ลงแป้งก็ได้
แต่ถ้าออกอีเว้นต์รับปริญญาอะไรแบบนี้อยากให้เซ็ตเพื่อความมั่นใจ ดูเป็นงานผิว
แต่พิกเม้นต์ไม่มีความโปร่งให้ผิวจริงออกมาได้
(ถ้าอยากได้แบบธรรมชาติผสมมอยส์เจอไรเซอร์ หรือเบส (เดี๋ยวเล่าต่อ)

แต่ที่ประทับใจมากคือนางไม่ดรอประหว่างวันและให้ความรู้สึกที่เบาสบาย
ซึ่งความเบาสบายเป็นสิ่งที่แพรสัมผัสได้จากทุกไอเท็มของแบรนด์เลย
ราคา 2,100 บาท

อันนี้เป็นเนื้อรองพื้นหลังจากลองที่เคาน์เตอร์เลย
พอผสม Fresh Glow แล้วมันโกลว์ดีงามมาก แล้วไม่มันย่องระหว่างวันเลย

Burberry Fresh Glow Luminous Fluid Base
เบสที่ดังมานานมาก เพิ่งมีโอกาสได้ลอง จะมีสองสีก็คือสีในรูป
No.1 Nude Radiance และสีบรอนซ์ๆ หน่อย No.2 Golden Radiance
มันดีมากเป็นการเพิ่มออร่าให้ผิวได้แบบมีระดับ ไม่ทำให้หน้ามัน
ทาแล้วมีแต่คนทักว่าไปทำอะไรมาทำให้ดูเปล่งประกายดีจัง

และยังช่วยทำให้รองพื้นเกลี่ยง่าย ถ้าผสมกับรองพื้น จะทำให้เจือจางความแน่นลง
ให้ฟินิชที่เป็นธรรมชาติ เห็นผิวจริงข้างใต้
ไม่ได้ดูชิมเมอร์ หรือกลอสซี่ผิวเปียกน้ำอะไรขนาดนั้น

เป็นอีกไอเท็มเลยที่ควรมีจริงๆ และประทับใจมากติดหัวใจเลย
1,850 บาท

Burberry Kisses แค่ชื่อน้องก็น่ารักมากเลย ด้วยความเป็นลิปแท่งหมุนแบบนี้
เราคิดว่ามันคงครีมมี่ตามประสาลิปแท่งทั่วไป
แต่น้องเขาบางมาก ไม่ใช่สีบางนะ แต่เนื้อเขาบางมาก
ทาแล้วแทบไม่รู้สึกเลยว่ามีอะไรบนปาก แพรชอบตรงที่ลิปแนบเนียนกับปากมาก
สีอ่อนมีตกร่องเล็กน้อยแต่ไม่น่าเกลียด
แต่สีเข้มอย่าง no.113 และ no.93 คือไม่ตกร่อง

ใครไม่อยากฟาดปากแดงทิ่มตาคนอื่น แต่อยากได้แดงผู้ดีแบบไม่ต้องพยายามแนะนำมาก จะสีซิกเนเจอร์ Red Military ก็ไม่ติดเป็นคลาสสิกเรดที่ไม่เอ๊ะอะ
หรือสี 93 Russet เป็นแดงอมน้ำตาลทาเบาๆ แบบแตะๆ คือสวยมากเลิฟ

Burberry Lip Velvet Crush
อันนี้เห็นปากของบีเอแล้วมันดูสีแน่น แต่มันเเนบเนียนไปกับปากมาก
แล้วบีเอก็ขายอีกว่าหัวแปรงคุชชั่นแบบรนเพื่อ สามารถใช้ทาแก้มได้ด้วย
เราเลยเลือกสี Magenta มา เป็นสีชมพูจี๊ดหน่อย แต่ทาปากแล้วปากดูสดใสมาก
แก้มก็ดีทาแล้วไม่เป็นคราบเลย

แพรชอบพกติดกระเป๋าเวลาไปนอนบ้านเพื่อนแล้วไม่ได้เอากระเป๋าแต่งหน้ามา
ตอบโจทย์มากเลย ปาดๆ แหะๆ คือสวยจบปิ้งเลิฟมาก
แอบชอบมากกว่าลิปสติกแท่งๆ อีก เราจะไปซื้ออีก

ราคาประมาณ 800 บาท (บางครั้งบางสีจะแอบลดราคาด้วย)

และพิเศษที่สุดคือเมื่อช็อปของจากเคาน์เตอร์ Burberry
ก็สามารถห้อยชาร์มตุ้งติ้งเป็นตัวอักษรแล้วแต่เราได้เลย
เหมาะสำหรับเป็นของขวัญให้ตัวเองหรือให้แฟนสาวก็เริ่ดค่า

แล้วเจอกันใหม่น๊า