ไอเทมกู้ชีพสำหรับ "ผิวขาดน้ำ" จาก 2 แบรนด์ดังอย่าง BIODERMA & INSTITUT ESTHEDERM

61 15
JEBAN GIVEAWAY / ได้รางวัลจากจีบันนี่แหละ!
ปัญหา "ผิวขาดน้ำ" นับว่าเป็นเรื่องที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาของใครหลายต่อหลายคน ซึ่งจากที่เราได้ลองสอบถามหลายๆ คนพบว่า ส่วนใหญ่จะลืมให้ความสำคัญเรื่อง "การเติมน้ำให้ผิว" เพราะเข้าใจว่าประเทศเราเป็นเมืองร้อน ชื้น เหงื่อออกง่าย และมักจะมีปัญหาผิวมันร่วมด้วย ทำให้ข้ามขั้นตอนการเติมน้ำให้ผิวไป

กว่าจะรู้ตัวผิวก็เกิดอาการแห้งกร้าน หรือหนักหน่อยก็เกิดเป็นริ้วรอยขึ้นมาให้เจ็บปวดหัวใจ แต่สำหรับเราด้วยความที่เรามักจะมีสิวอุดตัน สิวเสี้ยนขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เราต้องใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มผลัดเซลล์ผิวอย่าง BHA เพื่อขจัดการปัญหาเหล่านั้น แต่พอใช้ไปนานๆ เข้ากลายเป็นว่าผิวเราดันระคายเคือง และแห้งลอกซะนี่!!

วันนี้เราเลยหยิบไอเท็มกู้ชีพสำหรับ "ผิวขาดน้ำ" ที่ได้มาจากการไปร่วมกิจกรรมจากทา Jeban x NAOS มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันถึง 2 แบรนด์ ได้แก่ BIODERMA และ INSTITUT ESTHEDERM เอาเป็นว่าแต่ละแบรนด์มีอะไรบ้างไปชมรีวิวกันเลยฮะ...


BIODERMA HYDRABIO H2O(500ml/950.-)

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าและเช็ดเครื่องสำอางสูตรน้ำ(Cleansing Water) ชนิดไม่ต้องล้างออก อ่อนโยนและคงความชุ่มชื้น ใส่ใจในผิวที่บอบบาง


Texture / Scent / Packaging

  • Texture : เนื้อผลิตภัณฑ์มาในรูปแบบ Liquid ใส โปร่งแสง แต่ต้องใช้น้องคนนี้ร่วมกับสำลีเพื่อเช็ดทำความสะอาด ซึ่งเรามีทริคนิดนึง คือ แนะนำให้เพื่อนๆ เลือกสำลีที่มีคุณภาพ ไม่บาดผิว แล้วเทผลิตภัณฑ์ให้ชุ่มๆ(ห้ามงกเน้อ!) จากนั้นให้เช็ดอย่างเบามือ เพื่อลดแรงที่กระทำกับผิว และลดการระคายเคืองให้ได้มากที่สุดขอรับ
  • Scent : Makeup Remover ขวดนี้มีส่วนผสมของน้ำหอม(Fragrance Component) ซึ่งกลิ่นก็ทำออกมาได้หอมละมุนๆ กำลังดี ไม่ได้ฉุนจนเกินไป แต่ถ้าใครแพ้น้ำหอม หรือผิวระคายเคืองง่ายอยู่แล้ว เราแนะนำให้ใช้สูตร "Sensibio" แทนขอรับ
  • Packaging : ด้วยเหตุว่าไซส์ที่เราได้มามีปริมาณถึง 500ml. ซึ่งก็ถือว่าขวดใหญ่เบิ้มอยู่พอตัว ถึงแม้ว่าการเปิดฝาแล้วเทผลิตภัณฑ์จะไม่ใช่เรื่องลำบากลำบนอะไร แต่เราก็ยังแอบคิดว่าถ้าเป็นแบบหัวปั๊มน่าจะใช้งานง่ายกว่านี้ไม่น้อยเลยหละฮะ

Key Ingredient

แถมยังมี Sugar Alcohol อย่าง MANNITOL และ XYLITOL ที่มีประโยชน์หลากหลายด้านต่อผิว อาทิ ลดการระคายเคือง ต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี เรียกว่าเป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างลงตัวทีเดียวเชียวหละ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังแอบอยากให้ตัดน้ำหอมออกอยู่ดีแหละครับ


Let's Try...

เราได้ลองเช็ดเมคอัพด้วย BIODERMA HYDRABIO H2O ทีละครึ่งหน้า เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่าง และดูประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเมคอัพ พบว่า...
คราบเมคอัพหลุดออกมาได้ดี แม้จะเช็ดด้วยแรงที่ค่อนข้างเบาก็ตาม โดยเราจะใช้วิธีการแปะสำลีไว้ประมาณ 5-10 แล้วลากออกเบาๆ เพื่อให้ BIODERMA HYDRABIO H2O จับกับคราบเมคอัพและความมันบนผิวได้ดีขึ้น
ซึ่งเมื่อเราลองเทียบผลลัพธ์ระหว่างด้านที่เช็ดคราบเมคอัพด้วย BIODERMA HYDRABIO H2O กับด้านที่ยังมีเมคอัพอยู่ จะเห็นว่าด้านที่เช็ดเมคอัพออกแล้วยังดูชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง (สังเกตุได้จากการสะท้อนแสงบริเวณโหนกแก้ม)

BIODERMA HYDRABIO SÉRUM (40ml./1,390.-)

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ BIODERMA ในไลน์ HYDRABIO ซึ่งมาในรูปแบบเซรั่มที่นอกจากจะช่วยเรื่องผิวขาดน้ำแล้ว ยังช่วยลดอาการหมองคล้ำ(ซึ่งเกิดจากการขาดน้ำ) รวมถึงยังช่วยในเรื่องของริ้วรอยร่องตื้น(Fine Line) ได้อีกด้วย


Texture / Scent / Packaging

  • Texture : เนื้อเซรั่มมีความเข้มข้นพอสมควรเลยทีเดียว อีกทั้งเมื่อเซรั่มซึมเข้าสู่ผิวและเซทตัวดีแล้วไม่ทิ้งความเหนอะ ให้รำคาญผิวเลยแม่แต่น้อย แต่กลับให้ความชุ่มชื้นได้พอดิบพอดี
  • Scent : แอบเสียดายเล็กน้อยเพราะน้องคนนี้มีส่วนผสมของน้ำหอม แต่ยังอภัยให้ได้อยู่เพราะกลิ่นที่ใส่มาไม่รุนแรงมาก ออกไปทางหอมซะด้วยซ้ำ แต่ถ้าเป็นไปได้เราก็แอบหวังใจให้ตัดน้ำหอมออกอยู่เน้อ
  • Packaging : เป็นบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบ Airless Pump ที่เราเลิฟ ไม่ต้องมานั่งระวังว่าจะปนเปื้อน หรือเผลอลืมปิดฝาให้วุ่นวาย #กดไลค์รัวๆ ให้สิ่งนี้

Key Ingredients

Let's Try...

ต้องบอกว่าเซรั่มขวดนี้เป็นซึ่งที่เราใช้อยู่แล้ว และเป็นหนึ่งในเซรั่มที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวในวันที่เราเจอปัญหาผิวแห้งลอกจากการใช้ BHA ได้เป็นอย่างดีเชียวหละ เราขอหยิบภาพ Before-After ที่เราเคยทำไว้ในครั้งที่แล้วมาให้ชมแล้วกันเน้อ...
จะสังเกตุว่าบริเวณข้างแก้มจากที่มีอาการแห้งลอกเป็นขุยเล็กๆ หลังใช้ดูดีขึ้น แถมความมันส่วนเกินบนผิวยังดูลดลงอีกด้วย นอกจากนี้เรายังรู้สึกว่าผิวดูกระจ่างใสขึ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากผลของการที่ผิวได้รับความชุ่มชื้นที่เพียงพอ ร่วมกับส่วนผสมที่เป็น Whitening Agent อย่าง Niacinamide เนี่ยแหละฮะ


INSTITUT ESTHEDERM NTENSIVE HYALURONIC SERUM(30ml./2,800.-)

เซรั่มเติมความชุ่มชื้นที่มีไฮยาลูรอนความเข้มข้นสูงถูกบรรจุไว้ในแคปซูล เพื่อการส่งผ่านและแตกตัวภายในผิวให้ริ้วรอยจากการขาดน้ำถูกเติมเต็ม เพื่อผิวที่ดูอิ่มน้ำเรียบเนียนและเปล่งประกาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยจากการขาดน้ำ

Texture / Scent / Packaging

  • Texture : เนื้อเซรั่มทำออกมาได้กำลังพอดี ไม่เหลวหรือข้นจนเกินไป ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าซึมเข้าสู่ผิวได้ไวกว่า BIODERMA HYDRABIO SÉRUM อีกหละ
  • Scent : เป็นจุดเดียวจริงๆ ที่เราเสียดายเพราะด้วยความที่น้องคนนี้มีส่วนผสมของน้ำหอมและยังมีกลิ่นที่ Intense พอสมควร ถึงแม้เราใช้แล้วจะไม่ก่อให้เกิดการแพ้/ระคายเคือง แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีสูตรที่เป็น Fragrance Free อยู่เหมือนกันฮะ
  • Packaging : เป็นบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบ Airless Pump ที่เราเลิฟ ไม่ต้องมานั่งระวังว่าจะปนเปื้อน หรือเผลอลืมปิดฝาให้วุ่นวาย #กดไลค์รัวๆ ให้สิ่งนี้


Key Ingredients

  • Hyaluronic Acid 3 Forms : ซึ่งประกอบด้วย
    • 0.05% High molecular weight : ทำหน้าที่ในการเคลือบผิว และดึงความชุ่มชื้นจากภายนอกเข้าสู่ผิว
    • 1% intermediate molecular weight : ช่วยในการกระตุ้นให้ผิวผลิต Hyalulonic Acid เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวดูเต่งตึง และฟูขึ้นนั่นเอง
    • 2% micro-encapsulated : ช่วยกระต้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ให้มีปริมาณมากขึ้น
  • DISODIUM ADENOSINE TRIPHOSPHATE : เป็นส่วนสำคัญของการทำงานของ Cell ผิว เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณของ Adenosine ของผิวจะลดต่ำลง ทำให้ผิวเกิดริ้วรอย (aging) และชราลง การให้ Adenosine แก่ผิว เป็นเหมือนพลังงานให้ผิวสามารถซ่อมแซมตัวเองได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ 
  • LAMINARIA DIGITATA EXTRACT : สารสกัดจากสาหร่ายทะเลริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ ซึ่งทางผู้ผลิตเคลมว่ามีความสามารถในการยับยั้งการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย P. Acnes เชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว

Let's Try...

หลังจากที่เราได้ลอง INSTITUT ESTHEDERM NTENSIVE HYALURONIC SERUM มาประมาณเกือบ 10 วัน ผลลัพธ์ที่ได้เป็นดังภาพด้านล่างนี่เลยฮะ...
เราอยากให้เพื่อนๆ ลองสังเกตุริ้วรอยใต้ตา(ที่เราวงกลมสีแดงไว้) จะสังเกตุว่ามีบางส่วนที่ริ้วรอยดูตื้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงอาการบวมและรอยคล้ำใต้ตาก็ดูดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งจุดนี้เป็นอีกจุดที่ตอนเราทำรีวิวเราเพิ่งมาซักเกตุพบเหมือนกัน (นี่ขนาดเรายังไม่ได้ลองใช้ตัว Eye Serum ของเค้าเลยนะ!!)

Conclusion

จากที่เราได้ลองเล่นผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัวของแบรนด์ BIODERMA & INSTITUT ESTHEDERM ที่เราได้รับมาจากงาน Jeban x NAOS เราขอสรุปสั้นๆ เรียงที่ละผลิตภัณฑ์ให้เพื่อนๆ เข้าใจง่ายๆ ดังนี้ :
  • BIODERMA HYDRABIO H2O : 
    • เป็น Cleansing Water ที่สามารถเช็ดเมคอัพได้ดีทีเดียว Based On ที่เราใช้ประจำเป็นหลักก็เช่น Base, Primer, Foundation และแป้งฝุ่น 
    • ในแง่ความชุ่มชื้นหลังเช็ดถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว เช็ดแล้วหน้าไม่แห้งตึง ไม่ระคายเคือง
  • BIODERMA HYDRABIO SÉRUM :
    • ด้วยเนื้อเซรั่มที่ค่อนข้างเข้มข้น น่าจะถูกใจคนที่ผิวขาดน้ำ และแห้งกร้าน เพราะน้องคนนี้ช่วยเติมน้ำให้ผิวได้ค่อนข้างดีทีเดียว ผิวโดยรวมดูฟูขึ้นหลังใช้ประมาณ 1 สัปดาห์
  • INSTITUT ESTHEDERM NTENSIVE HYALURONIC SERUM :
    • ในแง่การลดริ้วรอยที่เกิดจากการขาดน้ำก็อย่างที่เพื่อนๆ เห็นในภาพ Before-After ก็ต้องยอมให้เค้าจริงๆ แหละ เล่นงัดให้ริ้วรอยเล็กๆ ดูตื้นขึ้นได้ในเวลาไม่ถึง 2 วีค #กราบ!!
และนี่ก็ผลิตภัณฑ์หลักที่เราได้จากกิจกรรมในงานวันนั้น ซึ่งนอกจาก 3 ไอเทมนี้เรายังมีผลิตภัณฑ์ที่ได้กลับมาอีก แต่เราขอทำเป็นบทความแยกแล้วกันเน้อ ไม่งั้นคงจะยาวเกินไป(นี่คือยังไงไม่ยาว?) เอาเป็นว่าหากเพื่อนๆ เคยลองไอเทมไหนแล้วก็สามารถคอมเม้นต์มาคุยกันได้นะค๊าบ แล้วไว้พบกันใหม่ในบทความถัดไปค๊าบ บับบาย....


Wanviset

Wanviset

✨ สวัสดีฮะ ชื่อบูม นะครับ ✨
สกินแคร์คือหนึ่งในความสุขเล็กๆ ของเราและด้วยความอยากรู้อยากลอง ชอบแชร์ทำให้เราลองเขียนบล็อกเล็กๆ ขึ้นมาฝากเพื่อนๆ ติดตามผลงานของเราด้วยน้า

FULL PROFILE