มีลิปสติกเหล่านี้ เพราะป้า อา พี่ และ Jeban ให้มา

สวัสดีค่ะ พี่นิกกี้ NickyOkawa เอง
กลับมาแล้ว กับโครงการ 11 ชิ้น 11 กระทู้
กระทู้ที่แล้ว พูดถึง 11 ชิ้นเปลี่ยนชีวิตในปี 2019 ไป
วันนี้ พี่นิกกี้จะมาพูดถึงลิปสติกแพงๆ ราคาหลักพัน
ที่ได้รับการอุปการคุณเป็นอย่างสูงจากหลายๆ ท่าน
จะมีแท่งไหน แบรนด์อะไร สีสวยมั้ย ไปดูกันค่า
ใช้เวลาถ่ายรูป 3 วัน วันละ 40-50 ช็อต
แล้วค่อยมาคัดรูปอีกทีนึง
แสงในรูปเลยไม่ค่อยสม่ำเสมอนะคะ

1. YSL Rouge Pur Couture Vernis A Levres

สี 319 Le Fuchsia สีม่วงอมชมพู มีประกายชิมเมอร์
หลายคนอาจจะงงว่าทำไมลิปหลายๆ รุ่นของ YSL
ถึงใช้คำว่า Rouge Pur Couture เหมือนกันไปหมด แยกยังไง
Rouge Pur Couture เฉยๆ จะเป็นลิปสติกเนื้อซาตินค่ะ แท่งสี่เหลี่ยมสีทอง
ส่วนตัวนี้มีคำว่า Vernis A Levres จะเป็นแบบ Glossy Stain
เนื้อลิปคล้ายออยล์ผสมกลอส แต่สีสดจัดชัดเจนและมีความสเตนติดผิว
คือพอทาไปแล้ว พอกินอะไรความเยิ้มจะลดลงและหลุด แต่สียังอยู่นะ
ตอนทาไว้ที่หลังมือเพื่อถ่ายรูปแล้วปล่อยทิ้งไว้จนแห้ง เช็ดไม่ออกเด้อ
ส่วนตัวเหม็นกลิ่นลิป เพราะมันมึนๆ เหมือนกลิ่นไวน์ กลิ่นองุ่นหมัก
แต่ชอบเนื้อลิป เพราะมันทาง่าย แบบไม่ส่องกระจกก็ยังทาสวย
แต่ราคาเต็ม 1,500 บาท ค่อนข้างแพง ตามประสาลิป YSL
ถ้าจะซื้อต่อ คงซื้อเวลาไปดิวตี้ฟรีหรือไปต่างประเทศ
แท่งนี้ คุณอาที่อยู่ต่างประเทศให้มาค่ะ

2. YSL Rouge Volupte

เบอร์ 34 Rose Asarine สีชมพูหวานฉ่ำ
รุ่นนี้โด่งดังมายาวนานหลายสิบปี ตั้งแต่แบรนด์ยังไม่มีขายในไทย
เจ้าของฉายาลิปสายน้ำผึ้ง (จากละครเรื่องสามีตีตรา เผื่อใครเกิดไม่ทัน)
ตัวแท่งเป็นโลหะ มีน้ำหนักพอสมควร ดูแข็งแรงและสวยงาม
เนื้อลิปเป็นเนื้อครีม ทาบางๆ ก็หวาน ทาเข้มๆ ก็ดูเป็นชมพูฟูเชีย
ทาไปสักพัก อาจจะเยิ้มตรงขอบปากได้สำหรับบางคน
กลิ่นลิปแปลกๆ แต่พี่นิกกี้ชอบค่ะ หอมกว่ากลิ่นลิปตัวบน
ราคาประมาณ 1,500 บาท (4 กรัม)
ใช้หมดคงไม่ได้ซื้อต่อเพราะ YSL เขาก็ออกรุ่นใหม่มาเรื่อยๆ
แท่งนี้คุณอาที่อยู่ต่างประเทศให้มาเช่นกันค่ะ

3. YSL Rouge Pur Couture

สี 52 Rouge Rose
แพ็คเก็จนี้เป็น Gold Attraction ซึ่งเป็นลิมิเต็ดหน้าหนาวปีก่อนๆ
แต่สีสันของไลน์นี้คือนีออนมาก อย่างสีนี้ก็ออกส้มอมชมพูสว่างวาบๆ
จนแอบงงว่าใช่สีสำหรับฤดูใบไม้ร่วงฤดูหนาวเหรอเนี่ย
แท่งปกติจะเป็นสีทองอร่าม แต่ตัวนี้เป็นสีดำ ตัว YSL เป็นกลิตเตอร์สีทอง
ชอบเนื้อลิปนะคะ แต่ถ้าซื้อต่อคงลองสีอื่นที่ใช้งานได้ทุกวันมากกว่าสีนี้
ราคาเต็มของลิป YSL จะอยู่ที่ 1,500 ถึง 1,550 บาท
แท่งนี้อยู่ที่ 1,275 บาท ปริมาณ 3.8 กรัม
คุณป้าที่เรียนโยคะด้วยกันซื้อจากดิวตี้ฟรีให้เป็นของขวัญปีใหม่ปีก่อนๆ เพิ่งเปิดใช้ปีนี้ค่ะ

4. YSL Rouge Volupte Shine Oil in Stick

เบอร์ 54 Rose Insolent
กลิ่นลิปและตัวแท่งจะเหมือนรุ่น Rouge Volupte เป๊ะเลย
ต่างกันตรงที่เนื้อลิปค่ะ ตัวนี้ทาง่ายกว่า ชุ่มชื้นแต่ไม่เยิ้ม
เม็ดสีจะเบาบางที่สุดในบรรดาลิปสติก YSL 4 รุ่นที่พี่นิกกี้มี
สีนี้คนริมฝีปากคล้ำน่าจะเจอปัญหากลบความคล้ำไม่มิด
รุ่นใหม่ออกมาจะเป็นรุ่น Plump ที่ตรงกลางเป็นรูปหัวใจ
คิดว่าถ้าหมดแล้ว จะไปลองลิปรุ่นอื่นๆ ของ YSL ค่ะ มีอีกเยอะเลย
แท่งนี้ Jeban ให้มาค่ะ รางวัล User Review ยอดเยี่ยมประจำเดือน

5. Lancome Rouge in Love

เบอร์ 159B ชื่อสี Rouge in Love ค่ะ ไม่ได้พิมพ์ซ้ำเน้อ
หมุนขึ้นมาตอนแรกจะดูแรงๆ สีทึบๆ แต่ทาจริงๆ แล้วเป็นเนื้อเชียร์
อย่างสีนี้ดูแด๊งแดง แต่ทาออกมาแล้วเป็นสีแดงอมชมพู
ทาง่ายกว่าลิปแดงๆ ตัวอื่นค่ะ ใช้จนสภาพเป็นแบบนี้แล้ว
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ลิปรุ่นนี้ รหัสจะแบ่งเป็น 3 โทน
ลงท้ายด้วย M (Jolis Martins) แปลว่าสีที่เหมาะกับทาตอนกลางวัน
ลงท้ายด้วย B (Boudoir Time) เป็นสีที่เหมาะกับทายามค่ำคืน เช่นสีที่เรามี
ลงท้ายด้วย N (Tonight is my Night) แปลว่าไงดี คืนเผด็จศึกหรือเปล่าน้อ
ราคาหาไม่เจอ เหมือนไม่มีขายแล้ว น่าจะประมาณ 1,000 บาทค่ะ
คงสงสัยกันเยอะว่าทำไมเป็นแท่งแบบเทสเตอร์
คุณอาที่อยู่ต่างประเทศทำงานร้านขายเครื่องสำอาง ได้เมคอัพเยอะมาก
นานๆ ครั้งกลับไทยเลยเอามาเป็นของฝากค่ะ

6. Guerlain Gloss D'Enfer Maxi Shine

เบอร์ 402 Browny Clap
ลิปกลอสสีนู้ด ที่เม็ดสีแน่นพอสมควร สีที่ได้คือนู้ดอมน้ำตาล
แต่เซอร์ไพรส์คือ ไม่เหนียว ทาแล้วปากไม่ประกบกันแล้วยืดๆ ยางๆ
และสีนู้ดที่ได้คือสวยมาก มันดูเหมือนสีปากจริงของพี่นิกกี้ซึ่งน่าจะซีด
แต่พอทาเดี่ยวๆ กลับรอดและไม่ป่วย ทาทับสีอื่นก็สวยมาก
Temptalia บิวตี้บล็อกเกอร์ยังให้ A เลยค่ะ
ราคาในช็อป Sephora แท่งละ 1,350 บาท (7.5 ml)
คุณอาคนดีคนเดิมเป็นคนให้มาค่ะ

7. Dior Addict Gloss

เบอร์ 929 Scandalous สีออกน้ำตาลชิมเมอร์
ถ้าต้องการกลิตเตอร์ระดับกากเพชรในเนื้อลิปกลอส
ทาทีเห็นความมลังเมลืองผุดผ่องอำไพ ขอแนะนำ Dior Addict Gloss ค่ะ
สีนี้ค่อนข้างแปลกเกินกว่าจะทาเดี่ยวๆ ควรทาทับลิปสีอื่นๆ จะได้ลุคที่เข้มขึ้น
ราคาประมาณ 1,400 บาท แต่ใช้ได้นานกว่าจะหมดค่ะ เพราะเคยใช้หมดไปแท่งนึง
ถ้าใช้หมดแล้วคงไม่ซื้อต่อค่ะ เพราะราคาแพงเกินไป
รอคุณอาให้มาอีก ตามประสาหลานกตัญญู

8. Burberry Lip Velvet

เบอร์ 437 Oxblood สีแดงอมม่วงอมน้ำตาล
ไม่ค่อยได้ลองเมคอัพของ Burberry เท่าไหร่
(ครั้งแรกที่ได้ลองก็คืออายแชโดว์จากงานมีตติ้งพี่โมเมพาเพลิน)
พอได้ใช้ลิปสติกอย่างจริงจังก็เออ ประทับใจเหมือนกัน
เนื้อลิปเป็นเนื้อครีมกำมะหยี่สมชื่อรุ่น สีสดจัดชัดเจน
ทาแล้วกลบริมฝีปากมิด และไม่ทำให้ปากแห้งระหว่างวันค่ะ
เสียดายที่เนื้อลิปในแท่งจิ๋วมันนิ่มมาก เลยหักง่ายไปหน่อย
แต่ด้วยความเสียดาย พี่นิกกี้จึงควักใส่ตลับแล้วใช้นิ้วทาเอา
ราคาแท่งเต็ม 3.5 กรัม แท่งละ 1,300 บาท
แท่งนี้ ได้ฟรีมาจากที่ช็อป Sephora ค่ะ แต่จำไม่ได้ว่าเนื่องในโอกาสอะไร

9. Shiseido Rouge Rouge

เบอร์ RD503 Bloodstone สีแดงเข้มอมน้ำตาล
เคยเห็นคลิปนึงเมื่อนานมาแล้ว คุณแป้งคิราริก็เคยบอกว่าชอบสีนี้
แพ็คเก็จจิ้งเก๋มากกก สวยหรูดูแพง มีความแม่เหล็กดูดกรึ๊บ
เนื้อเป็นเซมิแมตต์ ส่วนตัวทาแล้วมันดูเนื้อครีม กลบริมฝีปากมิด
ด้วยความเข้มข้นของสี กินอะไรหลุดจริงแต่สีลิปก็ยังอยู่นะ
ราคา 1,150 บาท ได้ลิปตั้ง 4 กรัม ใช้ยังไงให้ทัน
แท่งนี้ได้มาจากงานมีตติ้งพี่โมพาเพลินค่ะ

10. Estee Lauder Pure Color Love

เบอร์ 300 Hot Streak
ชอบทรงของลิปสติก เป็นแบบตัดมุม 45 องศาลงทั้งสองข้าง
เนื้อฝืดที่สุดในบรรดาลิปที่รีวิวในครั้งนี้ สมชื่อ Ultra Matte
วันไหนไม่ทาลิปมัน ทาแล้วเอี๊ยด ถูแทบไม่ไปเลย
ฟีลลิ่งใกล้เคียงลิปแมตต์ของ Illamasqua (ถ้าใครเคยใช้คงนึกออก)
ชอบแพ็คเก็จจิ้งมาก ตัวแท่งวัสดุเหมือนลิปสติกของ Dior Addict
คือเป็นอะคริลิคเนื้อดี ที่ใช้ยังไงก็ไม่เก่าไม่เยิน
ราคาในช็อป Sephora 1,000 บาท (3.1 ml)
คงไม่ซื้อต่อค่ะ พออายุมากขึ้น ปากแห้งขึ้น ทาลิปแมตต์แล้วดูไม่สวย
แท่งนี้คุณอาคนเดิมให้มาเช่นกันค่ะ

11. Clarins Joli Rouge Gradation

เบอร์ 801 Coral Gradation
ลิปทูโทนสาย ฝ. จากแบรนด์สกินแคร์ที่ทำเมคอัพดีไม่แพ้กัน
เนื้อค่อนข้างวาวฉ่ำ แต่สีสดนะคะ กลบร่องลึกและเม็ดสีปากคล้ำได้มิดเลย
ส่วนตัวพี่นิกกี้คิดว่ามันไล่สีไม่เหมือนตัวดังของ Laneige
ที่แบ่งเป็นสีอ่อนครึ่งนึง สีเข้มอีกครึ่งนึง
ตัว Clarins ให้สีเข้มอยู่ด้านบนด้านล่าง ตรงกลางเป็นสีอ่อนค่ะ
ราคา 1,100 บาท (3.5 กรัม) เป็นลิมิเต็ดเอดิชั่นนะคะ ไม่แน่ใจว่ายังหาได้อีกมั้ย
และอยากลอง Lip Oil ของแบรนด์นี้มากกว่า คิดว่าคงสอยแน่นอน
ตัวนี้....Jeban ที่รักให้พี่นิกกี้มาเองค่าาาาา

จบกันไปแล้ว กับลิปสติกทั้ง 11 ตัว
ที่พี่นิกกี้ได้รับจากคนใกล้ตัวและ Jeban
ตั้งใจว่าจะใช้ให้หมดเยอะที่สุดเท่าที่จะได้ค่ะ

ขอปิดท้ายด้วยรูปสวอชรวมๆ
ที่กล้องโฟกัสแท่งลิปมากกว่า (--")
เจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ ^^