ไม่ใช่แฟน..ก็แทนกันได้!!! 10 สกินแคร์ตัวเด็ด ใช้แทนกันได้..ราคาต่างกันกว่าครึ่ง..ของครึ่งงง

50 11

สวัสดีค่า วันนี้กลับมาอัพเดทสกินแคร์ที่ใช้อยู่กันหน่อย มีหลายๆตัวที่เคยใช้ 
และ บางตัวก็ยังใช้อยู่ อ่าว..งงสิ ทำไมมีทั้งใช้และไม่ค่อยใช้ อิอิ 
ก็พอดีว่าหลายๆตัว ก็มีตัวแทน ที่เรียกว่าสามารถใช้แทนกันได้ ใกล้เคียงกัน 
แต่ในราคาน่ารักกว่า เศรษฐกิจแบบนี้ ก็อะไรใช้แทนกันได้ ก็จัดมาเล้ยยย 
ลองมาดูกันว่า สกินแคร์ตัวไหนบ้าง ที่แทนกันได้ ในราคาน่ารักๆ
 มาเริ่มกันเลยยยย







เริ่มจากคู่แรก ที่เรียกว่าคล้ายกันมากกก ในแง่ของการทำความสะอาดผิว ที่อ่อนโยน แต่ไม่แห้งตึง
 เริ่มจากตัวแรกค่ะ Kiehl's Calendula Deep Cleansing Foaming Face Wash ตัวนี้กลั้นใจสอยมา ช่วงที่ผิวมีผดผื่น และอยากให้ผิวสะอาดแบบอ่อนโยน ตัวนี้เค้ามีเป็นสารสกัดจากดอกคาเลนดูลา ซึ่งเค้าเปลี่ยนพวกยาจีนแผนโบราณ ที่มีคุณสมบัติในการขจัดพิษ และ กลีเซอรีน ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
 ตัวนี้เลยเรียกว่า ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยให้ผิวสดชื่น สะอาด ไม่แห้งตึง
 จากนั้นก็มาเจอน้องนี้ค่ะ Oriental Princess skin solution Complex Deep Cleansing Gel 
ของแบรนด์โอเรียนทอล ปริ้นเซส แบรนด์ไทยผู้แสนดี ไลน์นี้เค้าออกมาเกี่ยวกับสิว 
ผดผื่น และผิวแพ้ง่าย ล้างทำความสะอาดผิวหน้า บรรเทาการเกิดสิว และลดสาเหตุของสิวด้วย
ขจัดพวกสิ่งตกค้าง ที่เป็นสาเหตุของสิว มีสารสกัดจากธรรมชาติ
 สูตรเฉพาะของแบรนด์ Skinosome เพิ่มความชุ่มชื่น ให้ผิวแข็งแรง 
และ Forsythia Suspensa Fruit Extract ชาวยลดแบคทีเรีย


เนื้อสัมผัสและความรู้สึก ทั้ง2ตัวคล้ายกันมากๆ ตรงที่เป็นเจลใสๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของคีลส์ 
จะกลิ่นออกเปรี้ยวๆสดชื่น  ส่วนOP กลิ่นเบาๆสะอาดๆ แต่เหมือนกันที่ความรู้สึกและผลลัพธ์ 
คือ หลังล้างเสร็จ จะหลงเหลือความชุ่มชื้นนิดๆ ไม่แห้งตึง
ผิวสะอาด และช่วยเรื่องสิว ได้ดีมากพอๆกัน ในราคาที่ต่างกันที่เกินครึ่ง
 Oriental Princess : 2XX บาท
 Kiekl’s : 1,5xx บาท




คู่ที่ 2 มาถึงน้ำตบ ตัวนี้เริ่ดจริง ส่วนผสมมาคู่คี่กันมาก หลายๆคนก็รีวิวไว้ เพราะแทนกันได้จริงๆ
เริ่มจาก  SKII Facial Tretment Essence ตัวนี้อย่างที่รู้ คือเค้ามีส่วนผสมของ 
Galactomyces Ferment Filtrate ซึ่งเป็นยีสต์สายพันธ์ Galactomyces 
ที่เราเรียกกันจนคุ้นเคยว่า พิเทร่า(Pitera)ค่ะ ซึ่งพิเทร่าตัวนี้ช่วยมีส่วนประกอบข้างใน
ที่เป็นอาหารผิวต่างๆ  เช่นพวกวิตามิน กรดอะมิโน แร่ธาตุต่างๆ 
ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้น กระจ่างใส ปรับสภาพผิวหน้าให้สมดุล แข็งแรง อ่อนเยาว์ค่ะ
 และSKII ใส่ส่วนผสมพิเทร่ามาถึง 90จุกๆ ตัดภาพมาที่น้อง Missha กันบ้าง
 Missha Time Revolution The First Treatment Essence RX 
ตัวนี้เรียกได้ว่า เป็นตัวแทนของSKII เลยก็ได้ค่ะ 
เพราะส่วนผสมหลักของเค้าคือ Yeast Ferment Extract ซึ่งก็เป็นสารสกัดจากการหมักบ่มคล้ายกับของฝั่งSKIIเลยค่ะ คือเป็นยีสต์เหมือนกัน แต่คนละตัวซึ่งวิธีการหมักบ่มแบบเฉพาะของMissha
เลยทำให้ได้ยีสต์ CICA Enzyme Fermentation และด้วยสารสกัดเข้มข้นตัวนี้ 
ก็คือจะเน้นในทางช่วยปกป้องผิว ให้แข็งแรง เรียบเนียน สม่ำเสมอ 
และ ปรับสมดุลให้ผิวชุ่มชื้น ยกกระชับ แถมยังใส่มาถึง 95และยังมีส่วนผสมอื่นๆ
 พวกสารสกัดจากข้าว ที่มีวิตามิน และ สารอาหารเข้มข้น ให้ผิวแข็งแรง 
และสารสกัดจากไข่มุก ช่วยผลัดเซลล์ผิวค่ะ


เนื้อสัมผัสและความรู้สึก ทั้งคู่เป็นน้ำใสๆ ที่มีความหนึดนิดนึง คล้ายๆกันค่ะ ตบๆบนผิวหน้า
แปปเดียวก็จะซึมหายไป เหลือความชุ่มชื้นไว้บนผิวหน้าหน่อยๆ แต่ไม่เหนียวเหนอะ
ต่างกันนิดหน่อยคือ Missha จะรู้สึกสบายผิวกว่า ตัดมาทางคุณป้าSKII จะมีความหนึบๆกว่าหน่อย ส่วนMissha เลิฟมากกว่าคือ นอกจากราคาจะน่ารักกว่า ก็คือกลิ่นน้องนั้น ดีกว่ามากกก 
เพราะทางMissha ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นเลย ส่วนSKII คนที่ใช้อยู่ จะรู้ว่ากลิ่นป้าจะตุๆหน่อยนะ อิอิ
 ไปตัดสินใจกันเองค่ะสาวๆ ว่าชอบแบบไหนกว่า ส่วนตัวดีหมด ดีพอๆกัน แต่อินกับฝั่งMisshaมากกว่าด้วยราคา เนื้อสัมผัส และ กลิ่น มาในส่วนของราคาประกอบการตัดสินใจกันหน่อย
 Missha ประมาณ พันนิดๆ
 SKII ประมาณ 5,xxx-6,xxx บาท





คู่ที่ 3 ตัวแทนของความชุ่มชื้นค่ะ
 เริ่มจากตัวแรกเลย Glossier Super Bounce ตัวนี้แน่นอน ชื่อก็บอกแล้วว่าเด้งดึ๋งดั๋ง เพราะเค้ามีส่วนผสมหลักคือ Hyaluronic acid ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น และเติมน้ำใต้ผิว เพิ่มมาด้วย วิตามินบี5 ที่เพิ่มความชุ่มชื้นไปอีก แถมยังช่วยต่อต้านการอักเสบผิวด้วย
ตัวนี้คือ น่ารักมากก ยังไม่เข้าไทย แต่ก็หาได้ตามร้านหิ้ว ไม่ค่อยกล้าใช้อะ เพราะน่ารักกก
 ตัดมาตัวที่สูสีค่ะ SoS hyaluron x3 concentrate serum ตัวนี้เป็นไฮยาลูรอน จากประเทศญี่ปุ่น
 น้องถึงต้องเรียกว่า เอะสึ โอ เอะสึ ตามสำเนียงเค้า อิอิ ตัวนี้เค้าจัดมาจุกๆด้วย ไฮยาลูรอน 3 โมเลกุล Hyaluron ,Super Hyaluron และ Nano Hyaluron  ซึ่งต่างขนาดกันเพื่อ การซึมซาบลงสู่ผิวที่แตกต่างกันในแต่ละชั้น ก็คือ ทุกชั้นผิวจ่ะ แถมตัวนี้ยังมากมายด้วยประโยชน์
ด้วยความที่เน้นๆเพียวๆ น้องเลยทาได้หมด ตรงที่แห้งๆ ทาปาก ทาใต้ตา ทาหน้าได้หมด
 ช่วยให้ผิว นุ่มเด้ง กระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์

เนื้อสัมผัสและความรู้สึก ก็คล้ายๆกันน๊า คือเป็นเจลใสๆ Glossier จะขุ่นๆ ส่วน SoS จะใสๆเลย
แต่มีความข้น หนึดพอกัน ให้ความชุ่มชื้นใกล้เคียงกัน ไม่มีกลิ่นเหมือนกัน ผิวนุ่มชุ่มชื้น เด้งๆคล้ายกัน
แต่ส่วนตัวรู้สึกชอบความเกลี่ยง่ายของSoS มากกว่า
 แต่ชอบความชุ่มชื้นของGlossierค่ะ คือยังรู้สึกเด้งๆตามชื่อbounceจริงๆ
 Glossier ต้องหาร้านหิ้วน๊า ส่วน SoS เดินไปเซเว่นได้เลยยย  แต่โดยรวมก็คือแทนกันได้เล้ยยย
 Glossier :  1,4xx บาท
 SoS : 199 บาท







หืมมมม ดูแว๊บๆ ก็มีความคล้ายกันนะเนี่ย คู่ที่ 4 ค่ะ วิตซี ต้องมี ต้องมา
 เริ่มจาก Kiehl's Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate ตัวนี้เป็นเซรั่มวิตามินซี 
สูตรเข้มข้น ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ด้วยส่วนผสมของวิตตามินซี และ ไฮยาลูรอน 
ก็คือช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และผิวนุ่มชุ่มชื้น ข้อดีของการที่เซรั่มมีไฮยา 
ก็คือ จะช่วยให้สารบำรุงต่างๆ ซึมสู่ผิวไวขึ้น และล้ำลึกมากขึ้นด้วยค่า
 มาต่อที่ Merci Vitamin C Serum ตัวนี้บล๊อกเกอร์หลายๆคนก็บอกว่าดี 
เราก็ลองซื้อตาม เค้าบอกว่าเป็นเซรั่มวิตามินซี สูตรคุณหมอ
 มีวิตามินซี 3 โมเลกุล เพื่อผิวขาวกระจ่างใสจากภายใน มีแพลงตอน ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว
วิตอี และ วิตบี3 มาครบๆเลย
แน่นอนว่า เน้นผิวขาวกระจ่างใส นุ่มนวลเช่นกัน
  

เนื้อสัมผัสและความรู้สึก ในส่วนของ Kiehl’s เค้าเป็นครีมสีส้มอ่อนๆ ไม่มีกลิ่น
เข้มข้นกลางๆ คือไม่เหนียว ทาแล้วออกจากลื่นๆผิว ซึมไวไม่เหนียว
 ส่วน Merci จะเป็นเซรั่ม ใสๆขาวขุ่นเล็กน้อย กลิ่นส้มสดชื่นนนน ถึงส่วนตัวจะรู้สึกว่าเยอะไปหน่อย
แต่ก็ยังพอรับได้ ผลที่ใช้ กลายเป็นชอบMerciมากกว่านะ เพราะชอบเนื้อน้ำแบบนี้ มันซึมไวดี
องKiehl’s มันลื่นๆเหมือนซึมไปส่วนนึงและเคลือบผิวส่วนนึง ตัดสินที่ราคา ก็ตามนี้เลยจ้า

Kiehl’s : 3,2xx บาท
 Merci : 390 บาท




สุดท้าย ตบด้วยกันแดดจ้า
 ยี่ห้อนี้รู้จักเพราะใครไม่ได้เลยนอกจากพี่ก้อย-รัชวิน ก็เค้าฮิตกันม๊ากก ไม่มีได้ไง Supergoop Everyday Sunscreen เค้าเป็นโลชั่นกันแดดสูตรน้ำ ใช้ได้หมด หน้าตัว กัน UVA UVB ด้วย SPF50  PA++++ 
 ซึมไว ไม่เหนียว เพราะเค้า oil free แต่ยังชุ่มชื้นด้วยส่วนผสมไฮยาลูรอนจ้า
 ตัวที่ขอทาบรัศมีพี่ก้อย ยกให้ตัวนี้ค่ะ Provamed Solaris face SPF50+ PA+++ 
กันแดดจากสำหรับทาหน้า เนื้อบางเบา แต่ไม่ขนาดเนื้อน้ำนะ แต่ก็ถือว่า สบายผิวอยู่
กันน้ำ กันเหงื่อ กันได้ทั้ง UVA UVB ด้วย SPF50+/PA+++ 


เนื้อสัมผัสและความรู้สึก Supergoop เนื้อจะเหลว เป็นเนื้อน้ำเลย เกลี่ยง่าย 
ซึมไว ไม่เหนียวเลย มีความชุ่มชื้นพอดี กลิ่นหอมอ่อนๆ แนวหอมสดชื่น กลิ่นหอมแพง ชอบนะ
มาต่อที่ Provamed เนื้อดีกว่ากันแดดไทยหลายๆตัว ซึมไว
 เหนอะนิ้ดดนึง แต่ก็รับได้ในฐานะครีมกันแดด กลิ่นแบบกันแดดทั่วไปเลย ไม่หอม
คู่นี้ถือว่าสูสี แต่เทใจให้Supergoop
แต่ด้วยราคา และสัมผัสที่ใกล้เคียง ก็ตัดสินใจยากนะ ให้เพื่อนๆเลือกเองละกัน

Supergoop : 790 บาท

Provamed : 3xx บาท






ครบแล้วน๊า กับสกินแคร์ ที่ใช้แทนกันได้ ในเศรษฐกิจแบบนี้
 จะซื้อ จะใช้อะไร ก็เปรียบเทียบกันให้ดีก่อน แทนที่จะซื้อชิ้นนึงแพงๆ
อาจจะได้ทั้งเซท..ในราคาเท่ากัน1ชิ้นก็ได้นะ
 แต่ใครไหว ก็จัดไปเลยค่า สำหรับใครที่อยากได้ราคาเบาๆ หรือ น้องๆนักศึกษา
หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้หลายคนสบายกระเป๋าขึ้นนะคะ


ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ ใครที่มีตัวไหนแนะนำ เม้นบอกหน่อย จะไปตำตาม
 แล้วเจอกันรีวิวหน้านะคะ บายยยย


Sunny ka

Sunny ka

ฮัลโหลววววววว สาวๆจีบันนนนนน

FULL PROFILE