Fashion Trend ของสหายสาวเกาหลีเหนือ
candy 54 8กระแสความนิยมอันร้อนแรงของ Crash landing On You ได้ปลุกความสนใจเกี่ยวกับประเทศอันลึกลับเข้าถึงยากที่เพียงแม้แต่เอ่ยชื่อก็อาจสร้างความครั่นคร้ามให้หลายคน วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องแฟชั่นอันเป็นที่นิยมในหมู่สตรีแห่งแดนโสมแดงกันค่ะ และต้องบอกว่า หากคุ้นเคยกับภาพสุดชิคของยุนเซรีในซีรีส์ดังแล้วคงต้องคิดใหม่ เพราะมันเป็นภาพที่สร้างมาจาก fiction ไม่ได้ตรงกับข้อเท็จจริงในสังคมเกาหลีเหนือไปซะหมด ลองมาติดตามสิคะ
ทรงผม
เมื่อนางเอกตกลงใจเลือกทำผม "ทรงบอกลา" บางคนอาจจะขำก๊ากเมื่อเห็นภาพ after ของเธอ เพราะเป็นทรงที่ม้วนไปด้านหลัง เป็นการหันหลังบอกลานั่นเอง แหม นี่เธอยังไม่ใจเด็ดพอจะทำทรง "นกนางนวล" หรือทรง "เนินเขามันซูแด" นะเนี่ย
คุณคะ การเลือกทรงผมในชื่อต่างๆมีอยู่จริง มีรายงานหลายอันตรงกันว่า ทรงผมที่มีให้เลือกเพียงน้อยนิดนั้นมาจากกฎระเบียบที่รัฐบาลใช้ควบคุมประชาชนเพื่อความเรียบร้อย แต่ก็มีนักวิชาการอเมริกันเชื้อสายเกาหลีออกมาแย้งว่า แม้ตามร้านเสริมสวยจะใช้คำว่า "ถูกกฎ"ที่ท่านผู้นำกำหนด แต่ก็อาจจะเป็นเพียงวิธีการสร้างรายได้จากเจ้าของกิจการ อย่างไรก็ตาม เราไม่คิดว่ากฎเหล่านี้จะไร้ตัวตน เพราะพวกเราคงนึกภาพของคนเกาหลีเหนือตอนนั่งทำสีผมเป็นสีทองหรือสีแดงกันไม่ออก แม้กระทั่งผู้หญิงที่ปล่อยผมยาวก็ยังถูกมองไม่ดี จนทำให้พวกเธอต้องรวบผมให้เรียบร้อย
คังนารา สาวเกาหลีเหนือที่ได้ลี้ภัยมาอาศัยในเกาหลีใต้และสร้างชื่อเสียงด้วยอาชีพนักแสดง reality show และ Youtuber ได้ให้ข้อมูลคนวงในที่ช่อง CLAB 걸즈 ว่า การที่ผู้หญิงปล่อยผมยาวสยายนั้น จะถูกด่าว่าเป็นพวกเพี้ยนหลุดโลกด้วยการจิกเรียกว่า saseukke และถือเป็นสัญลักษณ์แห่งทุนนิยม ต้องรวบให้เรียบร้อยไว้
กลุ่มเชียร์ลีดเดอร์จากเกาหลีเหนือในการแข่งขันโอลิมปิคฤดูหนาวที่ต่างก็มีผมดำขลับและไม่ยาวมากนัก
ทรงผมของ ฮยอน ซองวอล นักร้องสาวทรงอิทธิพลผู้ตกเป็นข่าวลือยาวนานว่าเป็นเพื่อนสาวคนรู้ใจของคิม จองอึน
ร่ม ปราการสำคัญที่คอยป้องกันรักษาความงาม
แม้ผู้คนเกาหลีเหนือจำนวนมากต้องผจญกับความแร้นแค้น แค่เอาตัวรอดจากกภาวะอดอยากก็ยากเกินพอ คงไม่มีกะจิตกะใจคิดเรื่องความสวยความงาม แต่อีกด้านของสังคมของผู้มีอันจะกินในเมืองพยองยาง สาวๆต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องผิวพรรณ การกางร่มออกจากบ้านเพื่อไม่ให้แดดทำร้ายให้ผิวคล้ำจึงเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป
และดูเหมือนว่า ร่วมจะไม่ใช่ปราการป้องกันแสดงแดดเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนกับเครื่องประดับให้กับพวกเธอด้วย ลองดูลวดลายบนร่มสิคะ แตกต่างจากร่ม UV ที่เราไว้จนหยากไย่ขึ้นอย่างสิ้นเชิง
ขอเดาว่า ถ้าเป็นเสื้อผ้าหน้าผมก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้แต่งกันได้ตามใจ พอเป็นร่มก็จะดูฟรุ้งฟริ้งขึ้นมาอีก level ไปจัดเต็มกันอุปกรณืกันแดดกันฝนแทน
แม้รองเท้าบู๊ทยางจะเป็นเทรนด์หลัก แต่ในพยองยางต้องคัทชูสิจ๊ะ
เราพบข้อมูงจากคนที่ได้มีโอกาสเข้าไปในเกาหลีเหนือว่า แม้ประชาชนมากมายในประเทศยังต้องเผชิญกับความอดอยากจนไม่สามารถคิดถึงเรื่องอื่นนอกจากเรื่องปากท้อง แต่ในพยองยาง ผูู้หญิงที่รักในแฟชั่นเมินรองเท้าบู๊ทยางแบบสมบุกสมบันแล้วหันมาใส่รองเท้าส้นสูงที่ดูทันสมัย อย่างไรก็ตาม เทรนด์รองเท้าของพวกเค้าก็อาจทำให้หลายคนคิดถึงแฟชั่นย้อนยุค แน่นอนว่ามีผู้คนกลุ่มเล็กๆเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ internet มันจึงยากที่จะคอยอัพเดทกระแสแฟชั่นจากทั่วโลก ถึงขนาดผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือบางคนสามารถแยกแยะได้ทันทีว่า ใครคือผู้ลี้ภัยที่เพ่งเข้ามาในเกาหลีใต้ เนื่องจากเซนส์ทางแฟชั่นที่แตกต่างกันสุดๆ ส่วน trendsetter ก็จะเป็นชนชั้น elite ของเกาหลีเหนือนั่นเองค่ะ เหล่าลูกท่านหลานเธอนั่นเอง คนรวยๆเค้าแต่งตัวกันยังไงก็แต่งตามกันด้วยไอเท็มราคาย่อมเยากว่า
รองเท้าส้นสูงเป็นที่นิยมในช่วงสิบปีนี้เองค่ะ พนักงานในห้างสรรพสินค้าเมืองพยองยางได้ให้สัมภาษณ์กับนักเขียน wwd.com ว่า
"ที่เกาหลีเหนือ ผู้หญิงให้ความสนใจในแฟชั่นนะคะ พวกเค้าแคร์เรื่องสไตล์ พวกเค้ามีความมั่นใจค่ะ แต่แทนที่จะคอยวิ่งตามเทรนด์จากแบรนด์อินเตอร์ พวกเธอสร้างสไตล์ของตัวเองขึ้นมา เป็นสิ่งที่เข้ากับบุคลิกของพวกเธอ"
รองเท้าส้นสูง (ที่ไม่สูงนัก) sandal และwedge ในรูปแบบต่างๆได้รับความนิยมมากในเมืองหลวง แต่ก็ยังให้ความรู้สึกแบบวินเทจ ในขณะที generation หนุ่มสาวจะดูโมเดิร์นมากขึ้น เช่น รองเท้าส้นสูงหัวแหลมที่ทำให้ขาดูเพรียวไม่เทอะทะ
คังนารา สาวเกาหลีเหนือที่ผันตัวมาเป็น vlogger ได้อธิบายว่า การใส่รองเท้าบู๊ทโดยไม่หาอะไรคลุมไว้ เป็นเรื่องทีผิดกฎในเกาหลีเหนือค่ะ รองเท้าพวกนี้เรียกว่า walenkki หากจะใส่ก็ต้องใส่กางเกงหรือชุดทับไว้ให้ดูเหมือนรองเท้าทั้มสุ้นทั่วไป หากใส่โชว์เหมือนซอดันก็จะถูกเจ้าหน้าที่เรียกทันที
แต่ดูเหมือนว่า ถ้าใส่บู๊ทแบบเปิดให้เห็นด้านบนจะเป็นสิ่งที่อนุโลมกันได้ หากไม่ได้ใส่ในประเทศค่ะ ดังเช่นกลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ที่เดินทางมายังเกาหลีใต้ พวกเธอใส่บู๊ทหุ้มข้อโดยไม่ใส่กางเกงทับปิดเอาไว้ทุกคน
หรือจะเป็นฮยอน ซองวอล ( ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าเป็นรักแรกบและมือขวาของคิม จองอึน) ตอนที่เธอมายังเกาหลีใต้ก็ใส่บู๊ทส้นแหลม ซึ่งคุณจะไม่พบรองเท้าส้นแหลมมากนักใสเกาหลีเหนือ
หรือจะเป็นในพยองยาง คุณก็จะเริ่มพบเห็นรองเท้าส้นแหลมดูปราดเปรียวเช่นกัน รองเท้าส้นสูงพวกนี้มีหลากหลายราคา ตั้งแต่พันวอนขึ้นไป แต่ลุคที่ดูโมเดิร์นมากๆ ก็มีแต่พวกที่มีฐานะดีสรรหามาใส่กัน และสาวเกาหลีเหนือจำนวนมากหลงไหลรองเท้าส้นสูง เพราะพวกเธอเชื่อว่ามันแสดงถึงความสวยงามของผู้หญิง
สาวๆแต่งตัวจัดเต็มไปดูคอนเสิร์ตเมื่อสองปีก่อน ดูเหมือนเดินจากยุค 80s เช่นกัน ขาดแต่ทรงผมvolume อลังการ
แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบก็บยังใส่ส้นสูงกันพร้อมหน้าพร้อมตา
แม้จะ modern ขึ้นมาจากสมัยการปกครองของคิม จองอิล แต่แฟชั่นก็ต้องอยู่ในกรอบข้อบังคับของระบบสังคมนิยมเกาหลีเหนือและแนวคิดอนุรักษ์นิยม
แม้จะปิดประเทศมายาวนาน เทรนด์การแต่งกายก็ยังหมุนเวียนไปไม่ต่างจากในต่างประเทศทั่วโลก แต่เพราะมีกฎระเบียบมากมายจากการใช้อำนาจของรัฐบาลระบอบสังคมนิยมทำให้มีข้อจำกัดที่ปิดกันประชาชนไม่ให้แสดงออกถึงความเป็น "ทุนนิยม" มากเกินไป นอกจากสีผม สีเล็บที่ต้องปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ ห้ามใช้เคมีเปลี่ยนแปลงหรือห้ามใส่วิก แต่ยังมีเรื่องปลีกกย่อยต่างๆ ที่ประชาชนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แม้ว่าคิม จองอึนจะผ่อนปรนความเข้มงวดในเรื่องการแต่งกายลงบ้าง แต่สำหรับสายตาคนนอกอย่างเรา มันอาจจะเป็นเรื่องยากเย็นเกินความเข้าใจ
NBC news ได้รายงานว่า แม้เรื่องการban ผ้ายีนส์เดนิม จะไม่ถูกกกำหนดเป็นข้อห้ามอย่างเป็นทางการ คุณก็จะไม่สามารถพบผู้คนเกาหลีเหนือใส่กางเกงยีนส์เหมือนกับผู้คนมากมายทั่วโลก นั่นเป็นเพราะว่ามันคือสัญลักษณ์แห่งความเป็นอเมริกันและทุนนิยมของประเทศคู่อริ แต่ทุกวันนี้สถานการณ์อาจมีความเปลี่ยนแปลงบ้างก็เป็นได้ เพราะคิมจองอึนแสดงทีท่าประนีประนอมกับผู้นำสหรัฐอเมริกาจนทั่วโลกฮือฮาไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้ใส่ชุดที่รัดรูปโชว์ส่วนสัด แม้จะเปลี่ยนกฎให้ผู้หญิงใส่กางเกงเ้ข้าเมืองได้ ก็ต้องเป็นทรงหลวม สาวเกาหลีเหนือคนหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์ว่า หากเข้าตัวเมือง เธอต้องใส่กระโปรงหรือเดรสที่ดูมิดชิดไม่เปิดเผยเนื้อหนัง ดังนั้น การใส่กางเกงยีนส์ที่รัดรูปก็น่าจะตกไปจากเทรนด์การแต่งกายสไตล์เกาหลีเหนือ เพราะในดินแดนโสมแดง ผู้ที่ทำหน้าที่ fashion police ไม่ได้แค่เป็นการเปรียบเทียบเรื่องรสนิยม แต่เป็นเจ้าหน้าที่ที่นำตัวผู้ฝ่าฝืนมาลงโทษได้ แล้วใครอยากจะเสี่ยง ?
แฟชั่นโชว์ที่รัฐบาลจัดขึ้นทุกปีแทบไม่มีความเปลี่ยนแปลง นอกจากจะมีโชว์ชุดประจำชาติแล้ว ก็จะเป็นชุดสูทกระโปรง หรือเดรสดีไซน์เรียบๆที่เน้นสีสันสว่าง ส่วนนิทรรศการชุดก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายเป็นภาษาอังกฤษให้ชาวต่างชาติได้เข้าใจอีกด้วย
แม้จะดูเหมือนว่าที่เกาหลีเหนือจะหยุดเวลาในโลกของแฟชั่นมาข้ามทศวรรษ แต่ยังมีสาวๆที่รักในแฟชั่นหลายคนก็พยายามจะแสดงออกถึงความเปรี้ยวล้ำมากที่สุดภายในกรอบของกฎเกณฑ์
ลายเสือก็ยังมี
ผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือเล่าว่า เมื่อหลายปีก่อน ผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้ใส่กางเกงและปั่นจักรยาน แม้จะเป็นผู้ใช้แรงงานในชนบทห่างไกลก็อาจจะถูกลงโทษจากสายตรวจ แต่ก็อาจจะมีการอนุโลมให้ใส่กางเกงเพื่อความสะดวกในการใช้แรงงาน แต่ผู้ที่เดินทางในเมืองหลวงจะต้องใส่กระโปรงที่ไม่สั้นไปกว่าระดับเข่า มิเช่นนั้นจะถูกลงโทษ แต่ปัจจุบันก็ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ผู้หญิงสามารถใส่กางเกงและปั่นจักรยานไปไหนมาไหนได้แล้ว ภาพของสาวใส่กางเกงและรองเท้าสั้นสูงปั่นจักรยานจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป (สามารถจริงๆ)