"ผิวกระจ่างใส" อาจจะเป็นคำตอบสำหรับหลายๆคนที่ต้องการที่จะมี เพราะฉะนั้นนอกจากครีมกันแดดที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดก็ต้องใช้สกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถช่วยเรื่องผิวกระจ่างใสได้อย่างผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ วิตามินซี

.

รู้หรือไม่ โดยปกติแล้ววิตามินซีเป็นสิ่งที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ จะพบมากในผักผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้รสเปรี้ยว ผักผลไม้สดเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดีที่สุด วิตามินซีนั้นยังมีคุณสมบัติที่สามารถละลายน้ำทำให้ถูกขับออกจากร่างกายได้ง่าย ทำให้ร่างกายต้องการวิตามินซีในทุกๆวัน ที่สำคัญที่สุดสำหรับผิวคือช่วยดูแลในด้านผิวพรรณ โดยสามารถช่วยต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องอันตรายจากแสงยูวี ทั้ง UVA ที่ทำลายคอลลาเจน และโครงสร้างของผิว ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย และ UVB ที่ทำให้ผิวไหม้จากแดด เกิดมะเร็งผิวหนัง และยังช่วยเสริมความสามารถในการป้องกันแดดเพิ่มขึ้นจากการใช้ครีมกันแดดเท่ากับว่าวิตามินซีนั้นตอบโจทย์ ในเรื่องการทำให้เรามีผิวอย่างที่ต้องการ

.

แจนลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีมามากกว่า 8 วัน

จาก Gravich Laboratory 

อย่าง Vitamin C Activator Serum

ที่ถูกคิดค้นโดยผู้เชี่ยวชาญจาก LAB ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์กลุ่มเวชสำอาง ที่อ่อนโยนต่อผิวใช้ได้แม้ผิวแพ้ง่าย  เซรั่มตัวนี้มีส่วนผสมของวิตามินซี เข้มข้นกว่าปกติ 60 เท่า เป็นวิตามินซีชนิด Ethyl Ascorbic Acid (3-O-ethyl ascorbic acid) ที่ให้คุณสมบัติเหมือน Vitamin C ธรรมชาติ (L-Ascorbic Acid) แต่มีความเสถียรสูง สามารถทนอุณหภูมิสูงได้ดี ในการทดลองพบว่า Ethyl Ascorbic Acid (3-O-ethyl ascorbic acid) ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสด้วยกระบวนการลดการเกิดเม็ดสี เมลานิน ที่มีอยู่และกำลังจะเกิดขึ้นใหม่ได้ด้วย  ส่งผลให้ลด aging spot (จุดด่างดำแห่งวัย) ในเซรั่มนี้ยังมีส่วนประกอบของ Witch Hazel ที่ช่วยกระตุ้นผิวให้สร้างอิลาสติน(Elastin) และ คอลลาเจน(Collagen)ใต้ผิว ทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น ไม่แห้งกร้าน มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ลดการเกิดสิว ซ่อมแซมผิว ลดรอยคล้ำจากฝ้า กระ และจุดด่างดำ ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นได้ดี และส่วนประกอบสำคัญอีกชนิดที่อยากแนะนำคือ Niacinamide หรือเรียกอีกอย่างว่าวิตามิน บี3 ช่วยในการลดเลือนริ้วรอย ทั้งรอยสิวและรอยแผลเป็น กระชับรูขุมขน ปรับสมดุลการสร้างน้ำมันในผิวกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ (ceramide) ที่ช่วยให้ผิวกระชับและชุ่มชื้น

แจนได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของ Gravich อีกตัวที่สามารถใช้ควบคู่กันได้เพื่อทำให้เห็นผลลัพธ์ดียิ่งขึ้นอย่าง

Alpha
Arbutin Whitening Sesum 

ซึ่งเป็นเซรั่มที่มีสารสำคัญคือ Alpha Arbutin ที่เป็นสารที่สกัดได้จาก Bearberry  เป็นสุดยอด Super Whitening ที่บำรุงผิวให้กระจ่างใส เห็นผลไว โดยคำนึงถึงผลข้างเคียง ปลอดภัยต่อผิวและร่างกายในระยะยาวโดยมีส่วนผสมของ Alpha Arbutin เข้มข้นสูงสุดถึง 2% มากที่สุดตามมาตรฐานเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป ซึ่งจะช่วยลดเลือนจุด ริ้วรอย ด่างดำ บนใบหน้า ลดความหมองคล้ำจากการที่ผิวได้รับรังสี UV จากการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน ทำให้ผิวหน้ามีสุขภาพดี ผุดผ่องกระจ่างใสขึ้น ไม่ทำให้ผิวบางลง เพราะไม่ได้ทำการผลัดผิวใหม่ออก แต่ไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีในระดับเซลล์ 

** ทั้ง 2 สูตรนี้สามารถใช้ด้วยกันได้ดีและและสามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวไปพร้อมกับผลิตภัณฑ์ความงามอื่นๆได้ค่ะ **

วิธีการใช้

แพ็คเกจจิ้งมาในลักษณะ ดรอปเปอร์ สามารถควบคุมปริมาณตามความเหมาะสมได้ จะใช้ทาบริเวณใบหน้าโดยหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา ทาทีละผลิตภัณฑ์ โดยใช้เป็นลำดับต่อมาหลังจากใช้โทนเนอร์ค่ะ

เนื้อสัมผัสและกลิ่น 

เนื้อสัมผัสของทั้งสองผลิตภัณฑ์เหมือนกันคือเป็นน้ำสีใส ไม่มีกลิ่น เมื่อทาเซรั่มลงผิว เนื้อเซรั่มจะใช้เวลาในการซึบซาบไม่นาน เมื่อเนื้อผลิตภัณฑ์ซึบเข้าผิวตัว Alpha Arbutin Whitening Sesum จะไม่ทิ้งความเหนอะบนผิว จะซึมซาบหายไป  แต่สำหรับตัว Vitamin C Activator Serum จะทิ้งความชุ่มชื้นบนผิวแต่ไม่ทำให้เหนอะผิวค่ะ

​ความรู้สึกและผลลัพธ์หลังใช้ 

แจนมีผิวผสมค่อนไปทางแห้ง พอใช้แล้วผิวไม่แพ้ ไม่แสบ ไม่ระคายเคือง เซรั่มไม่มีกลิ่นไม่รบกวนการทาผลิตภัณฑ์ชิ้นอื่นๆที่มีกลิ่น เนื้อเซรั่มบางเบา แต่จะใช้เวลาในการซึมซาบไม่นาน ใช้แล้วรู้สึกว่สผิวละเอียด เรื่องความกระจ่างใสนั้นรู้สึกว่ารอยสิวดูเลือนลงตามกลไกของผิวและสกินแคร์ที่เลือกใช้ทั้ง 2 ชิ้น แต่ต้องบอกว่าช่วงนี้แจนใส่มาสก์เพื่อป้องกันเชื้อโรคและมลภาวะทุกวันทำให้เกิดสิวขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณขอบมาสก์ แม้จะป้องกันมากแค่ไหนก็เป็น T^T เพราะฉะนั้นจะมีสิวเม็ดใหม่ๆขึ้นมาสลับกัน ทำให้รอยสิวและสีผิวไม่สม่ำเสมอ

Vitamin C Activator Serum
ขนาด 30 ml
ราคา 590 บาท
.
Alpha Arbutin Whitening Sesum
ขนาด 30 ml
ราคา 590 บาท
.
สามารถหาซื้อใน Shopee / Lazada
หรือข้อมูลเพิ่มเติม Facebook : Gravich