รีวิว Royal Beauty เครื่องสำอางมาใหม่ สวยครบจบในแท่งเดียว

สวัสดีค่ะทุกคน ถ้าพูดถึงเครื่องสำอางแบบซองจะว่าไปก็มีมาค่อนข้างนานแล้วนะคะ ซึ่งเอมก็เป็นคนนึงเลยล่ะที่ชอบเครื่องสำอางแบบซองมากๆ เพราะมันหาซื้อง่าย ติดทน ราคาก็ไม่แพง แถมพกไปไหนมาไหนได้สบายไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะด้วย วันนี้เอมก็มีเครื่องสำอางแบบซองมารีวิวให้ทุกคนได้ชมกันอีกหนึ่งแบรนด์ค่ะ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เรารู้จักกันดีนั่นล่ะ แต่ว่าเค้าออกแบบมาในรูปแบบซองค่ะ แต่เครื่องสำอางมาแบบเป็นแท่งเลยจ้า

Royal Beauty

นั่นคือแบรนด์เครื่องสำอางแบบซองที่เอมจะนำมารีวิวในวันนี้ค่ะ จริงๆแล้ว Royal Beauty เป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างดังในเรื่องสกินแคร์หลายตัวเลยนะคะ เอมก็เป็นแฟนคลับของแบรนด์นี้อยู่ เพราะหาซื้อง่าย สินค้าคุณภาพดีแล้วก็ราคาไม่แพง เดินไปหน้าปากซอยก็เจอร้าน 7-11 แล้ว โดยในวันนี้เค้าออกเครื่องสำอางแบบซองมาให้เราตื่นเต้น วี้ดว้าย กระตู้วู้ กันอีกครั้ง โดยจะเป็นเครื่องสำอางแบบแท่งจิ๋วขนาดปุ๊กปิ๊กน่ารักมาในบรรจุภัณฑ์รูปแบบซองค่ะ

ตัวแรกที่เอมขอเสนอเลยก็คือ Royal Beauty Magic Matte Lips  สี 01 Orange Soulmate ตัวนี้เป็นลิปสติกเนื้อแมท นุ่มลื่น เกลี่ยง่าย เม็ดสีแน่นติดทนนาน ไม่แห้ง ไม่ตกร่อง ไม่เป็นคราบ บำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่มชุ่มชื่นด้วย คอลลาเจน, ไบซาโบลอลและวิตามิน E ไม่ทำให้ปากคล้ำ สามารถใช้ทาได้ทั้ง ตา แก้ม ปาก มีแปรงมาให้ในตัว เกลี่ยสีได้ง่าย เก็บขอบปากได้ดีค่ะ ปริมาณ 2.3 กรัม

ขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป พกพาได้ง่าย ไม่เปลืองเนื้อที่ในกระเป๋าค่ะ สี Orange Soulmate นี้จะเป็นโทนส้มแดงค่ะ ซึ่งเอมมองว่าเป็นสีที่เข้ากันได้กับทุกเฉดสีผิวเลยนะคะ สีนี้สามารถครีเอทให้ลุคการแต่งหน้าดูซอฟท์ ละมุนแบบสาวเกาหลีก็สามารถทำได้ หรือว่าจะให้ลุคดูแซ่บๆแบบสาว ฝ. ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ

เอมลองเอามาทดสอบการกันน้ำดูค่ะ ว่าจะกันน้ำได้ดีแค่ไหน ซึ่งรูปนี้ก็พอจะตอบแทนเอมได้ดี ว่าลิปตัวนี้กันน้ำได้หรือไม่ (จริงๆเราเปิดน้ำไหลผ่านลิปไว้ตั้งนานแล้วนะ ดูจนแน่ใจแล้วถึงจะถ่ายรูปนี้มาอ่ะ) เลิศมาก

ไหนๆทางแบรนด์เค้าเคลมมาว่าสามารถทาได้ทั้งตา แก้ม ปากแล้ว เอมก็จะลองทาแล้วก็แต่งหน้าสักลุคนึงให้ได้ชมกันนะคะ ก่อนอื่นเอมใช้ลิปสติกมาทาตาเพิ่มสีสันก่อนค่ะ โดยใช้เพียงเล็กน้อยก่อนนะคะ จากนั้นค่อยเบลนสีจนได้สีที่เราพอใจค่ะ

จากนั้นก็ใช้ลิปตัวเดิมมาทาแก้มเพิ่มสีสัน จริงๆเอมเสี่ยงมากเลยนะที่ทาแก้มหลังทาแป้งอ่ะ ส่วนหนึ่งก็อยากจะลองให้ดูว่าเนื้อลิปเค้าเกลี่ยง่ายจริงๆ ขนาดเอมทาแป้งฝุ่นแล้วทาลิปซ้ำ เกลี่ยไปมา ยังไม่เป็นคราบเลย ดีงามมมมม

สุดท้ายก็มาแต่งแต้มริมฝีปากกันค่ะ เอมลองทาให้ดูทั้งแบบออมเบรและแบบเต็มปากนะคะ บอกก่อนนะว่าเอมเป็นคนที่มีขอบปากค่อนข้างคล้ำ สังเกตได้จากรูปที่เอมทาแบบออมเบรนะคะ ก็จะได้สีประมาณนึง แต่พอเอมทาแบบเต็มปาก ลิปตัวนี้ก็สามารถกลบสีปากและความคล้ำได้มิดเลย แล้วก็เอมรู้สึกเบาสบายปากมากๆ ไม่ค่อยแห้งแล้วก็ไม่ตกร่องด้วย สีลิปค่อนข้างติดทนค่ะ ทานน้ำก็ไม่มีค่อยมีคราบลิปสติกขอบแก้วด้วย ตรงนี้เอมชอบมาก เป็นไอเท็มที่ควรมี ไม่มีไม่ได้....

ต่อมาถึงคิวของน้องกลิตเตอร์ระยิบระยับกันบ้างนะคะ Royal Beauty Magic Glitter Eyes สี 03 Candy Star เป็นกลิตเตอร์ อายแชโดว์ เนื้อลิควิดแบบแห้งเร็ว เกลี่ยง่าย ติดทน เม็ดสีแน่น ไม่หลุดลอกง่าย ไม่หลุดร่อนหรือลบเลือนระหว่างวัน มีแปรงในตัว เกลี่ยง่าย ขนาด 2.3 กรัม  มีเบอร์เดียวนะคะ แต่สามารถแมทกับสีตาได้ทุกเฉดเลย

โทนสีจะออกชมพูหวานๆหน่อยค่ะ ความแวววาวของกลิตเตอร์สวยงามมากๆ สีสวยดูแพง วิบวับๆ เอมเป็นคนชอบทากลิตเตอร์อยู่แล้วพอเห็นไอเท็มนี้ก็เลยจะค่อนข้างกรี๊ดเป็นพิเศษ อีกอย่างราคาไม่แพงด้วยไง ดีต่อใจเข้าไปอีกอ่ะ

เห็นบอกว่าเป็นลิควิดที่แห้งเร็ว ติดทน เอมก็เลยลองทดสอบความติดทนดูค่ะ ด้วยการเปิดน้ำให้ไหลผ่านแบบแรงมากๆ ผลที่ได้คือ

กลิตเตอร์ยังคงติดแน่นอยู่ที่มือเอมเหมือนเดิมค่ะ ไม่มีอะไรไหลไปกับน้ำเลยสักนิด ถึงแม้ว่าจะติดทนแบบนี้แต่ก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายด้วยคลีนซิ่งนะคะ ไม่ต้องกังวลว่าติดทนขนาดนี้จะต้องขยี้ตาแรงๆรึเปล่า ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ แค่ใช้คลีนซิ่งแปะไว้แปบนึง เช็ดเบาๆก็ออกแล้วค่ะ สวยแต่อ่อนโยน ใช้ได้แม้ผิวแพ้ง่ายจ้า

เอมใช้กลิตเตอร์แท็บไปบริเวณกลางตาที่ลงสีแล้ว จากนั้นเกลี่ยให้กลิตเตอร์กระจายตัวแล้วก็ทาทับซ้ำไปอีกรอบนึง แค่นี้เองค่ะ ก็จะได้สีตาสวยๆมีประกายวิบวับแล้ว ไม่ว่ากลางวัน กลางคืนสามารถใช้ได้เลยค่ะ สวยแน่นอนจ้า

ลุคที่ได้ในวันนี้ก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ เอมตั้งใจครีเอทให้ลุคนี้ดูฝ.หน่อยๆ เพราะคนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเครื่องสำอางแบบซองจะครีเอทได้แค่ลุคหวานๆสายเกาเท่านั้น ไม่จริงเลยค่ะ จะลุคไหน แบบไหน เรากำหนดเองได้ทั้งหมดเลยจ้า เอาที่เราสบายใจเท่านั้นก็พอ

สำหรับใครที่สนใจเครื่องสำอาง Royal Beauty ทั้งสองตัวนี้นะคะ เอมสอยมาจากร้าน 7-11 หน้าปากซอยบ้านโน้นเลย ราคาประมาณแท่งละ 69 บาทนะคะ (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ใครชอบเหมือนกับเอมก็ลองไปส่องแถวๆชั้นเครื่องสำอางในร้านเซเว่นดูนะจ๊ะ

วันนี้ก็มารีวิวให้ได้ชมกันเพียงเท่านี้นะคะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามรับชม

***สวัสดีค่ะ***