เมื่อรอยแดงไม่ยอมจางหาย เลยต้องจัด BIO-TACHES Serum มาสยบ!!

ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 1 เดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง PM2.5 สภาพอากาศที่ย่ำแย่ รวมถึงไวรัส COVID-19 ที่ทำให้เราต้องใส่หน้ากากอนามัยตอนออกจากบ้านเป็นประจำ ตลอดเวลา ฟังดูเหมือนเราก็ทำถูกต้องแล้วใช่ไหมหละครับ แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ กลายเป็นว่าสิวเราบุกต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้ง และได้ทิ้งรอยแดงไว้ให้เราเจ็บปวดหัวใจเล่นๆ

เราเลยทำการหาข้อมูลตั้งแต่สาเหตุ ต้นตอ และวิธีการแก้ปัญหา รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่พอจะสามารถบรรเทาหรือรักษารอยแดงเหล่านี้ได้ และมาลงตัวที่ BIO-TACHES Serum และได้ลองใช้ต่อเนื่องมาเกือบ 1 เดือนจนพอที่จะนำมาสรุปให้เพื่อนๆ ฟังได้ วันนี้เลยขอหยิบมาทำ Full-Review ให้ชม หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะครับ

สาเหตุของรอยแดง/รอยดำ ที่เกิดจากสิว

รอยแดง

เมื่อเราเกิดสิวบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นสิวหัวขาวหรือสิวหัวดำ และไม่ได้รับการรักษาจะก่อให้เกิดการอักเสบ และอาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียจนสิวกลายเป็นตุ่มแดง(สิวอักเสบ) และตุ่มหนอง รอยแดงจากสิวที่เกิดขึ้นขณะเป็นสิวอักเสบแล้วยุบ เกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดบริเวณที่เกิดการอักเสบ ภาวะการอักเสบของสิวหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีอาจทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวกลายเป็นรอยแดงอยู่นานหรืออาจเป็นรอยแดงที่ถาวรได้

รอยดำ

ภาวะการอักเสบของตุ่มสิวยังอาจก่อให้เกิดปัญหารอยดำหรือรอยคล้ำหลังจากที่รอยแดงจางหายไปแล้ว รอยดำพวกนี้เกิดการที่เซลล์สร้างเม็ดสี(melanocyte) ถูกกระตุ้นให้เกิดการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนขึ้นหรือถูกกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีมากขึ้น

BIO-TACHES Serum (30ml./ราคาจากร้าน Pre-Order ประมาณ 1,3xx - 1,4xx)

เซรั่มเข้มข้นที่ช่วยลดสีผิวที่ผิดเพี้ยนไม่ว่าจะเป็นรอยดำ หรือรอยแดง ด้วยการผสมผสานระหว่าง Niacinamide หรือ วิตามิน B3 เข้ากับ Sodium Ascorbyl Phosphate(SAP) อนุพันธ์วิตามินซีที่ทรงประสิทธิภาพ มีความสถียรค่อนข้างสูงและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแม้ผิวที่เป็นสิว

เนื้อสัมผัส / กลิ่น / บรรจุภัณฑ์

• เนื้อสัมผัส : เนื้อเซรั่มอยู่ในรูปแบบ Liquid-Gel สีขาวอมเหลืองเล็กน้อย เนื้อสัมผัสถือว่าทำออกมาได้เบาสบายผิว ซึมเข้าสู่ผิวได้ค่อนข้างดี เมื่อซึมเข้าสู่ผิวแล้วไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว
• กลิ่น : เซรั่มขวดนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ช่วยลดโอกาสแพ้ระคายเคืองไปได้อีกเยอะเลยทีเดียวหละครับ
• บรรจุภัณฑ์ : น้องคนนี้มาในบรรจุภัณฑ์แบบ Airless Pump แบบที่เราชอบ ไม่ต้องมานั่งหมุนเปิดฝา บีบดรอปเปอร์ให้วุ่นวาย เลิฟฟฟ!!

ส่วนผสมที่น่าสนใจ

• Niacinamide : วิตามินครอบจักรวาลที่ช่วยลดริ้วรอย ลดรอยแดง/ดำ(hyperpigment) เพิ่มความชุ่มชื้นด้วยการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน และเซราไมด์ (ceramide) และยังทำให้ผิวแข็งแรง ต่อสู้กับการระคายเคือง (irritants) ต่างๆได้ดีขึ้น รวมถึงสามารถลดความมันบนใบหน้า (sebum excretion) ได้เป็นอย่างดี
• Sodium Ascorbyl Phosphate : อนุพันธ์วิตามินซีที่มีความเสถียรสูง ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องการเสื่อมประสิทธิภาพเมื่อถูกแสงและอากาศ และแน่นอนว่าคาดหวังผลได้ในเรื่อง Anti-Oxidant, Anti-Aging, และ Whitening ได้เป็นอย่างดีเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
• Undecylenoyl Phenylalanine : สารที่มีชื่อทางการค้าว่า MSH White™  ซึ่งทางผู้ผลิตเคลมว่าสามารถปรับสีผิวให้กระจ่างใส ด้วยกระบวนการลด Alpha-MSH ซึ่งเป็น ส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการสร้างเม็ดสี เมลานิน Undecylenoyl phenylalanine มีจุดเด่นที่สามารถลด age-spot หรือจุดด่างดำแห่งวัย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญอีกตัวที่มีชื่อทางการค้าว่า Biowhite™ จากข้อมูลการเคลมสารของทางผู้ผลิตพบว่า มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสที่ทดลองในหลอดทดลอง (In-vitro) และจากการทดลองในสิ่งมีชีวิต (In-vivo) พบว่า สารนี้มีความเป็นพิษน้อยกว่าสารที่ทำให้ผิวขาวอย่างไฮโดรควิโนน 200 เท่า ซึ่งสารชนิดนี้ประกอบด้วย

• Saxifraga Sarmentosa Extract : เป็นพืชตระกูลสตอว์เบอร์รี่ โดยมีคุณสมบัติในการรักษาโรคเกี่ยวกับผิวหนัง หรือใช้รักษาผิวหนังที่มีอาการแสบร้อน และมีคุณสมบัติต้านการติดเชื้อ
• Vitis Vinifera (Grape) Fruit Extract : เป็นสารสกัดที่ประกอบไปด้วยน้ำตาลหลากหลายชนิด ซึ่งมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น และมีปริมาณของกรด AHAs ที่สามารถผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวขาวได้ และยังมีสารอื่นๆอีกที่สามารถต้านการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส
• Morus bombycis Root Extract : มีคุณสมบัติที่ทำให้หลอดเลือดมีการหดตัว (Vasoconstrictor) และใช้ในการบรรเทาอาการปวดพวกโรคหอบหืด หรือมีอาการติดเชื้อที่ระบบหายใจ จึงมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ และสารอื่นๆสามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส
• Scutellaria Baicalensis Root Extract : มีคุณสมบัติต้านการอักเสบติดเชื้อโดยคุณสมบัติของสารไบโอฟลาโวนอยด์ที่มีในสารสกัด และสารอื่นๆสามารถต้านการทำงานเอนไซม์ไทโรซิเนสได้

Ingredients : Aqua, Niacinamide, Squalane, Glycerin, Sodium Ascorbyl Phosphate, Ceteareth-20, Glyceryl Stearate, Undecylenoyl Phenylalanine, Hydrogenated Starch Hydrolysate, Tromethamine, Carbomer, Vitis Vinifera Fruit Extract, Phenoxyethanol, Tocopheryl Acetate, Butylene Glycol, Saxifraga Sarmentosa Extract, Xanthan Gum, Glycine Soja Oil, Disodium Edta, Pentylene Glycol, Sodium Metabisulfite, Sodium Sulfite, Biosaccharide Gum-1, Diazolidinyl Urea, Scutellaria Baicalensis Extract, Retinol, Morus Bombycis Root Extract, Acacia Senegal Gum, Tocopherol, Propylene Glycol Alginate.

ผลลัพธ์หลังใช้

เป็นเวลา 1 เดือนที่เราพยายามจัดการกับรอยแดง และสิวอักเสบด้วยโดยพยายามไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นยารักษาสิว เพื่อที่จะทดลองทางเลือกใหม่ๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่สามารถใช้ยารักษาสิวหรือทนกับ Side Effect จากยารักษาสิวไม่ไหว และแล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นดังนี้...

จะสังเกตุว่า...ไม่ว่าจะเป็นสิว รวมถึงรอยแดงจากสิวดูเหมือนจะจางลงไปค่อนข้างเยอะทีเดียว แน่นอนว่าอาจจะยังคงมีรอยแดงจางๆ ให้เห็นบ้างประปราย แต่ก็ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ส่วนในแง่ของกระ หรือฝ้า ส่วนตัวแล้วเรายังไม่เห็นความแตกต่างมากเท่าไหร่นัก ดังนั้นจากการใช้ BIO-TACHES Serum มาตลอด 1 เดือนจึงสรุปผลดังนี้ :

• รอยแดง : จางลงได้จริง แต่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเนื่องจากไม่ใช่การทำทรีทเม้นท์ เลเซอร์ หรือยา จึงมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะ ค่อยเป็นค่อยไป แต่โดยรวมถือว่าเราค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ทีเดียวหละฮะ
• กระ ฝ้า : ในเวลา 1 เดือนที่เราทดลองใช้ เรายังไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ไม่เห็นว่ากระ ฝ้า จางลงแต่อย่างใด คาดว่าถ้าประยุกต์ใช้ร่วมกับ AHA, หรือกลุ่มที่เป็น Spot Treatment น่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่านี้ (ไว้มีโอกาสจะมาทดสอบให้ดูครับ)
• อาการอักเสบของสิว : ถึงแม้ว่าเซรั่มขวดนี้จะไม่ได้วางตัวเป็น Acne care แต่จากส่วนผสมและผลลัพธ์ที่ได้ เรามองว่าเค้าสามารถลดการอักเสบของสิวได้ แต่แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ไอเท็มรักษาสิวโดยเฉพาะ ดังนั้นใครที่มีปัญหาสิวที่ค่อนข้างรุนแรง เราก็ยังแนะนำให้พบแพทย์ หรือใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มรักษาสิวร่วมด้วยอยู่ดีครับ

Note : ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ Based-on สภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเอง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันในแต่ละบุคคลเสมอ ส่วนคำถามที่ว่าใช่แล้วจะอุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือไม่นั้น เราไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากแต่ละคนมีสภาพผิว และปัจจัยการแพ้ระคายเคืองที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนที่จะลองใช้ผลิตภัณฑ์ใด ควรทดสอบอาการแพ้ด้วยการทาผลิตภัณฑ์ที่ท้องแขน/ลำคอ ทิ้งไว้ซัก 1 คืนเพื่อทดสอบอาการแพ้-ระคายเคืองทุกครั้งขอรับ