สวัสดีค่า

เข้าหน้าร้อนเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับเมืองไทยของเรา เชื่อว่าสาวผิวมันหลายๆ คนคงจะเจอปัญหามากมายเลยเกี่ยวกับรองพื้น บางครั้งทาแล้วเป็นคราบ ไม่ติดทน หน้าไหลเยิ้ม ต่างๆ นานา 

วันนี้ก็เลยอยากจะมาแนะนำรองพื้นดีๆ 

จาก YSL ALL HOURS FOUNDATION 

ให้ทุกคนได้ชมกันค่ะ ขอบอกว่าน้องกลายเป็นลูกรักไปล้าววววว

YSL ALL HOURS FOUNDATION 

ENCRE DE PEAU 

BD35

  รองพื้นสูตรน้ำ ที่ให้ผิวแมตต์ ปกปิดสูง ติดทนนานกว่า 24 ชั่วโมง 

  มีสารกันแดด SPF20 PA+++ พร้อมกับบำรุงผิวหน้าให้ดูเนียนสวย 

ส่วนผสมสำคัญของรองพื้นตัวนี้ก็คือ พอลิเมอร์ เพอร์ไลต์ จากหินภูเขาไฟ ที่ช่วยดูดซับเหงื่อ และนีโอสกินพาวเดอร์ ให้ผิวแมตต์ ควบคุมความมันส่วนเกิน ทำให้รองพื้น YSL ตัวนี้ติดทนนานตลอดวัน

รองพื้นของ YSL ตัวนี้ เคลมไว้ว่าเป็นรองพื้นที่ดีที่สุดในการปกปิดเลยล่ะค่ะ เค้าช่วยปกปิดริ้วรอยต่างๆ รวมถึงความหมองคล้ำ และปัญหาผิวบนใบหน้าได้อย่างดี เช่น รูขมขน สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ให้ผิวดูเนียนสวยเป็นธรรมชาติสุดๆ ที่สำคัญสีเค้าไม่ดรอประหว่างวัน ทนความชื้นของอากาศในบ้านเราได้เป็นอย่างดีด้วย

มาว่ากันที่เรื่องของคุณสมบัติในการกันแดดกันค่ะ ตัวนี้มี UV PROTECTION SPF 20 PA+++ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด มีส่วนประกอบของ BLACK TEA ANIT-OXIDANT ช่วยบำรุงผิว ลดรอยคล้ำ แถมปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ด้วย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ ANTI-DULLNESS COMPLEX ที่ทำให้สีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอตลอดวัน

YSL ALL HOURS FOUNDATION ตัวนี้จริงๆ แล้วเหมาะกับทุกสภาพผิวเลยค่ะ สำหรับใครที่ชอบลุคแมตต์ๆ ก็จะหลงรักมาก ยิ่งเราผิวมันอยู่แล้วด้วย ชอบมากๆ ตัวนี้เค้าบอกว่าเป็นรองพื้น NIGHT-PROOF สูตรแรกของ YSL ด้วยนะ เค้าติดทนนาน คุมมัน เนื้อเนียน ไม่เยิ้ม ไม่หลุดระหว่างวัน 

หลังจากที่อ่านคำเคลมใดๆ ไปแล้ว ก็มาดูรีวิวกันค่ะ ว่าจะเริ่ดเหมือนคำเคลมมั้ย :))

*แพคเกจ

สำหรับไซส์ทดลอง 5ml นี้ มาในรูปแบบของหลอดค่ะ เป็นหลอดสีดำ กล่องสีทองหรูหราทีเดียว เวลาบีบออกมาแต่ละครั้งก็ให้ปริมาณที่โอเคเลย แต่ด้วยความเป็นหลอด อาจจะเลอะเทอะนิดหน่อย ก่อนจะปิดฝาก็เช็ดให้เรียบร้อยก่อนนะคะ เวลาเปิดใช้ครั้งหน้าจะได้ไม่เลอะเทอะ

 ไซส์นี้เหมาะกับการพกพามากเลย 5555 เวลาพกไปแต่งหน้าบนรถคือดี 

*ปริมาณ

25ml ในราคา 2,500 บาท มีเฉดสีให้เลือกมากถึง 32 เฉดสี มีให้เลือกตั้งแต่โทนผิวโทนชมพู โทนเหลือง โทนกลางซึ่งเหมาะกับสาวไทยแน่นอน

*เนื้อสัมผัส

เนื้อรองพื้นค่อนข้างเหลว เม็ดสีชัดเจน เกลี่ยง่ายมากๆ ไม่แห้งเร็วจนเกินไป หลังจากทาแล้วสบายผิวดี ไม่หนักหน้าแม้รองพื้นจะให้ความปกปิดปานกลางถึงปกปิดมากก็ตาม ฟินนิชที่ได้คือผิวมีความกำมะหยี่ สวยตลอดวันจริงๆ ค่ะ 

สำหรับใครที่ผิวมันมากๆ อาจจะลงแป้งเพิ่มนิดหน่อย เพิ่มความคุมมัน แต่สำหรับเราที่หน้ามันไม่มากลงรองพื้นแล้วใช้ชีวิตต่อได้เลย ไม่ต้องเซ็ตด้วยแป้ง ระหว่างวันแม้จะมีความมันบ้าง แต่ผิวจะดู glow มากกว่ามันเมือกค่ะ 

ด้วยความปกปิดขั้นสุด สำหรับใครที่ชอบงานผิวๆ หน่อย ก็สามารถลงน้อยๆ ได้ เน้นเฉพาะบริเวณที่มีปัญหา เช่น รอยดำใต้ตา รอยสิว แต่ถ้าใครอยากจัดเต็มขอบอกว่าตัวนี้กริบจริงๆ ค่ะ 

กลิ่นของเค้ามีความหอมอ่อนๆ หรูหรา สมกับเป็น YSL เลย ><

*ความรู้สึกหลังใช้ 

คอนเฟิร์มค่ะว่าใช้แล้วผิวดูสวยขึ้นจริงๆ ดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติมากๆ ช่วยปรับให้ผิวของเราดูสดใสขึ้น ไม่ดรอประหว่างวัน แถมไม่ทำให้รูขุมขนโผล่ด้วย เบลอได้ค่อนข้างดี หลงรักเลย >< 

มีนลองใช้ทั้ง 2 แบบเลยค่ะ คือแบบทาเฉพาะจุดที่มีปัญหาและทาแบบจัดเต็ม ชอบทั้ง 2 แบบนะคะ 

     ทาเฉพาะจุด      

ให้ความปกปิดที่ดี อาจจะไม่ได้แน่นมากมายขนาด concealer แต่ถือว่าปกปิดได้โอเค ให้ผิวที่สม่ำเสมอขึ้น ทาแบบนี้อาจจะต้องเซ็ตด้วยแป้งฝุ่นนิดนึง เพื่อให้ผิวสม่ำเสมอมากขึ้น 

     ทาแบบจัดเต็ม     

ปกปิดมาก แต่คือเค้า buildable นะ ถ้ารู้สึกว่ายังปกปิดไม่พอก็ทาเพิ่มได้ แต่แนะนำว่าให้ทาเพิ่มแบบบางๆ หน่อย อย่าโบกหนาตั้งแต่แรก เพราะอาจทำให้เป็นคราบได้ หลังจากทาแล้วมีนลองไม่เซ็ตด้วยแป้ง ก็ไม่เลวนะคะ คือเค้าก็อยู่ทนดีเลย แต่ถ้าใครที่หน้ามันมากๆ จริงๆ เซ็ตแป้งสักหน่อยผิวก็จะยิ่งสวยค่ะ 

ด้วยความที่เค้าเป็นรองพื้นควบคุมความมัน ฉะนั้นจำเป็นต้องบำรุงหน้าให้ชุ่มชื้นด้วยนะคะ เพราะว่าถ้าผิวแห้งมากๆ เป็นคราบได้ค่ะ เพราะมีนมีรอยสิวนิดนึง ที่ผิวลอกๆ นิดหน่อย พอทาแล้วก็จะเห็นว่าเค้าไปเน้นรอยลอกเล็กน้อย 

เอาล่ะค่ะ หวังว่ารีวิว YSL ALL HOURS FOUNDATION ในวันนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหารองพื้นคุมมันดีๆ สักตัว มีนว่าตัวเหมาะเลยนะ แม้ว่าราคาจะแรงไปนิด แต่ด้วยฟินนิชที่ดี คุมมัน ให้ผิวสวย แถมเนื้อก็เข้มข้นดีงาม ถือว่าใช้ได้นานทีเดียวค่ะ

วันนี้ไปแล้วนะคะ

รักษาสุขภาพกันด้วยค่ะทุกคน

บัยสสสสสส์