6 วิธีฟอกสีฟันง่ายๆได้เองที่บ้าน
TigerGarden 43 10ส่วนใหญ่แล้ว คนเรามักจะเสียเงินเป็นแสนๆไปกับการฟอกสีฟัน หรือการดูแลฟัน มีหลายอย่างมากที่สามารถช่วยให้เราฟอกสีฟันเองได้ที่บ้านที่เราจะมาเสนอแนะในวันนี้
แต่ส่วนใหญ่เมื่อไปคลินิกเพื่อทำการฟอกสีฟัน เหล่าทันตแพทย์ทั้งหลายมักจะใช้สารเคมีในการฟอกสีฟัน อย่างเช่น Hydrogen Peroxide. สารตัวนี้สามารถฟอกสีฟันได้จริงแต่ว่าเป็นสารที่อาจทำลายเนื้อฟันหรือทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้
ถ้าอยากฟอกสีฟันโดยที่ไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือเสี่ยงต่ออาการเสียวฟัน เรามาดูกันเลยว่าสามารถนำอะไรมาใช้ได้บ้างในการฟอกสีฟัน
อะไรเป็นสาตุการทำให้ฟันเหลือง?
แล้วอะไรบ้างหละที่เป็นสาเหตุของการที่สีฟันจะเหลือง หรือหมองคล้ำ ซึ่งจริงๆแล้วเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่เรากิน เครื่องดื่มที่เราดื่ม หรือว่าเราแปรงฟันวันละกี่ครั้งแล้วแปรงสะอาดแค่ไหน เพราะอาหารบางชนิดเมื่อทานเข้าไปแล้วอาจทำให้ฟันเหลืองโดยปกติ และการดูแลฟันอย่างไม่ครบถ้วนจะทำให้เกิดคราบเหลืองติดบนฟัน หรือหินปูนระหว่างซอกฟันของเราส่วนใหญ่แล้วปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้โดยวิธีการฟอกสีฟันให้ขาวแบบธรรมชาติที่เราจะมาแนะนำในวันนี้
1. การฟอกสีฟันโดยวิธี “Oil Pulling”
วิธี “Oil Pulling” เป็นวิธีฟอกสีฟันและทำความสะอาดช่องปากแบบโบราณที่ชาวอินเดียนำมาประยุกต์ใช้มาเป็นพันๆ ปี วิธีฟอกสีฟันโดยใช้วิธี “Oil Pulling” คือการบ้วนปากด้วยน้ำมัน โดยวิธีนี้จะสามารถล้างแบคทีเรียในช่องปากเราที่อาจเกิดเป็นหินปูนในอนาคตได้
ในสมัยก่อนชาวอินเดียมักจะได้น้ำมันทานตะวันหรือน้ำมันงาเพื่อทำการ Oil Pulling แต่ว่าในสมัยนี้ ส่วนมากมักจะนิยมใช้เป็นน้ำมันมะพร้าวแทน เพราะว่าน้ำมันมะพร้าวจะมีรสชาติที่กลมกล่อมกว่าและมีคุณประโยชน์อย่างสูง
ในน้ำมันมะพร้าวจะมีกรดลอริคเป็นจำนวนมากซึ่งจะสามารถช่วยรักษาแผลอักเสบในช่องปากได้และยังสามารถฆ่าแบคทีเรียได้อีกด้วย
ขั้นตอนในการทำ Oil Pulling เพียงง่ายนิดเดียว
เตรียมน้ำมันมะพร้าว ปริมาณ 1 ช้อน สำหรับการ Oil Pulling
เมื่อนำน้ำมันเข้าไปในช่องปาก ให้พยายามเคลือบน้ำมันให้ผัวผิวฟัน รวมทั้งระหว่างช่องปากให้น้ำมันทะลุเข้าไปด้วย
ทำซ้ำๆ เป็นเวลา 15-20 วินาที แล้วบ้วนปากด้วย้ำสะอาด
เพียงแค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆแบบนี้ก็สามารถฟอกสีฟันได้ง่ายๆที่บ้าน โดยวิธี Oil Pulling วิธีนี้สามารถทำได้ทุกวันแบบไม่อันตราย เพราะเป็นการฟอกโดนยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ซึ่งไม่ได้เข้าไปทำลายเนื้อฟันของเรา
2. การฟอกสีฟันโดยใช้เบกกิ้งโซดา
ในยาสีฟันทั่วไปที่เคลมว่าสามารถฟอกสีฟันให้ขาวได้ มักจะมีส่วนผสมของเบกกิ้งโซดารวมแล้วด้วย โดยปกติเบกิ้งโซดาจะมีความเป็นเบสซื่งจะช่วยยับยั้งการก่อตัวของแบคทีเรียในช่องปาก
เมื่อได้มีการเปรียบเทียบแล้ว ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของเบกกิ้งโซดาและยาสีฟันที่ไม่ได้มีส่วนผสมของเบกกิ้งโซดา ยาสีฟันทีมีส่วนผสมของเบกิ้งโซดาจะมีผลของการฟอกสีฟันให้ขาวขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัดกว่า
ขั้นตอนในการทำการฟอกสีฟันโดยใช้เบกกิ้งโซดา
- ให้ผสมเบกิ้งโซดา 1 ช้อนชา กับน้ำเปล่า 2 ช้อนชา แล้วคนให้เข้ากัน
- เมื่อคนจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วให้นำมาแปรงฟันแบบที่แปรงปกติ จากนั้นปากบ้วนด้วยน้ำสะอาด
3. การฟอกสีฟันโดยใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์
ในอดีต คนโบราณได้ใช้น้ำไซเดอร์จากแอปเปิ้ลเพื่อเป็นการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อโรคเป็นร้อยๆปี รวมทั้งการทำความสะอาดช่องปากและการฟอกสีฟันกรดน้ำส้มซึ่งเป็นสารหลักที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคในแอปเปิ้ลไซเดอร์ สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดหินปูนได้ แต่ว่าถ้าหากใช้วิธีนี้บ่อยๆในการฟอกสีฟัน สามารถทำให้สภาพฟันเราเสื่อมได้ เลยแนะนำให้ใช้วิธีฟอกสีฟันนี้เป็นครั้งคราวเท่านั้น
วิธีใช้น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์มาเพื่อทำการฟอกสีฟันนั้น ทำได้โดยนำน้ำส้มสายชูมาผสมกับน้ำสะอาดแล้วเอามาบ้วนมาก ทั้งนี้ เราขอแนะนำให้บ้วนไม่นานเกินไป เพราะกรดในน้ำสมสาชูอาจแรงจนทำลายช่องปากเราได้ และเนื้อฟันของเราได้
4. การฟอกสีฟันโดยการทานผักและผลไม้
การทานผักและผลไม้เป็นสิ่งที่ควรทำและดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่ามีผักผลไม้หลายชนิดที่พอทานแล้วจะช่วยชะลอการก่อตัวของแบคทีเรียหรือช่วยในการฟอกสีฟัน
ถึงแม้ว่าการทานผักและผลไม้อาจไม่ได้ส่งผลชัดเจนในการฟอกสีฟันเทียบเท่ากับการแปรงฟันหรือวิธีอื่นๆ แต่การทานผักผลไม้เป็นวิธีที่ธรรมชาติมากที่สุดโดยที่ไม่อันตรายต่อช่องปากหรือว่าผิวฟันแม้แต่นิดเดียว
ผลไม้สองชนิดที่ขึ้นชื่อว่าสามารถทำให้ฟันขาวขึ้นนั้นก็คือ สตอเบอรี่ และสัปปะรด นั่นเอง
สตอเบอรี่
รู้หรือไม่ว่าในเหล่าดาราฮอลลี่วูดนั้นนิยมผสมสตอเบอรรี่กับเบกิ้งโซดาเพื่อทำการฟอกฟันขาวกัน นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่ากรดมอลลิคที่อยู่ในสตอเบอรรี่นั้นสามารถช่วยในการฟอกสีฟันได้ แต่ว่าถึงแม้ว่าอาจทำให้สีฟันของเราดูขาวขึ้นได้ แต่แรงกรดของกรดมอลลิคนั้นไม่ได้มากพอที่จะสามารถละลายหินปูนได้ เพราะฉะนั้นการทานสตอเบอรรี่เป็นเพียงการฟอกฟันขาวแบบเบสิคเท่านั้น
นอกจากการทานแล้ว วิธีการแปรงฟันด้วยเบกกิ้งโซดาข้างบน สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับสตอเบอรรี่ได้ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เห็นได้ชัดขึ้น โดยมีวิธีแปรง ดังนี้
บดสตอเบอรี่ 1 ลูกแล้วนำมาผสมกับเบกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
คนจนกว่าเป็นครีม
นำส่วมผสมของสตอเบอรรี่และเบกิ้งโซดามาแปรงฟันได้เลย
สัปปะรด
สัปปะรดมีส่วนของสาร Bromelain สาร Bromelain นี้เป็นส่วนผสมที่จะอยู่ในยาสีฟันที่สามารถช่วยฟอกสีฟันได้หลายยี่ห้อ ซึ่งพอได้เอายาสีฟันยี่ห้อนั้นๆมาเปรียบเทียบแล้ว ยี่ห้อที่มีส่วนผสมของสาร Bromelain จะมีผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันได้อย่างเห็นได้ชัดกว่าเป็นอย่างยิ่ง
5. การใช้แผ่นแปะฟันขาวในการฟอกสีฟัน
เราขอแนะนำสินค้าแผ่นแปะฟันขาว สำหรับใครที่ต้องการมีฟันที่ขาวด้วยวิธีที่ทันวมัย เนื่องจากว่าสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดและเร็วกว่าวิธีอื่นๆ แถมยังไม่มีข้อเสียเรื่องกรดหรือการทำลายช่องปากอีกด้วย
ขอแนะนำแบรนด์ Divyne London นะคะ เป็นแบรนด์แผ่นแปะฟันขาวจากอังกฤษซึ่งสามารถเห็นผลแปะฟันขาวได้ภายใน 30 นาที แถมยังไม่มีสาร Peroxides ต่างๆที่คลินิกส่วนใหญ่เค้าใช้กันในการฟอกฟันขาว เพราะฉะนั้นจะไม่มีอาการเสียวฟันเป็นอันขาดหลังใช้งาน
วิธีใช้เพียงแค่นำเอาแผ่นแปะฟันขาวมาแปะไว้เป็นเวลา 30-45 นาที ทำเป็นประจำทุกวันจนครบสองสัปดาห์ เมื่อจบคอร์สก็สามารถฟันขาวได้เลยค่ะ ทางแบรนด์เค้าเคยแนะนำมาว่าเค้าอยากให้ใช้ให้ครบคอร์สไปเลยทีเดียวซึ่งหมายถึงใช้งานร่วมกับผงแปรงฟันขาวที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อการใช้งานร่วมกับแผ่นแปะฟันโดยเฉพาะ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับแยกกันใช้
6. หมั่นแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันบ่อยๆ
ส่วนใหญ่แล้วการเปลี่ยนสีฟันของคนเรามักจะเป็นเรื่องปกติเมื่ออายุมากขึ้น ล้วนมาจากการก่อตัวของหินปูนและไม่ได้ดูแลรักษาอย่างเคร่งครัด
การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเป็นวิธีฟอกสีฟันและดูแลรักษาสีฟันให้สม่ำเสมอที่ดีอยู่แล้ว และยังแนะนำให้เพื่อนๆนำไปใช้เป็นอย่างยิ่ง
การใช้ยาสีฟันในการแปรงฟันจะช่วยลดและชะลอการก่อตัวของแบคทีเรียทั้งหลาย และการใช้ไหมขัดฟันนั้นสามารถเข้าไปทำความสะอาดในช่องระหว่างฟันที่ขนแปรงสีฟันนั้นอาจไม่สามารถเข้าไปถึงได้
ที่จริงแล้ววิธีการฟอกสีฟันนั้นมีอีกหลายวิธีที่ได้ผลแต่ว่า 6 วิธีข้างต้นนี้เป็นวิธีหลักๆที่สามารถทำเองที่บ้านได้แบบง่ายๆโดยไม่ต้องไปเสียค่าทันตแพทย์แพงๆ
ทั้งนี้ ควรที่จะหลีกเลี่ยงการดื่นเครื่องดื่มและอาหารที่ทำให้ฟันเหลือง อย่างเช่นการดื่มชา กาแฟ หรือไวน์แดงประจำ หรือการรับประทานอาหารมันๆ มีน้ำตาลสูง หรือสีเข้มๆ ซึ่งของพวกนี้อาจทำให้เกิดฟันเหลืองได้ แต่ว่าถ้าหากเราทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงก็สามารถทำให้เนื้อฟันแข็งแรงและป้องกันต่อก่ารก่อตัวของแบคทีเรียและเชื้อโรคในช่องปากและเนื้อฟันได้