[รีวิว] Empty Product ใช้ดีจนต้องบอกต่อ!! เปิดกรุลูกรักประจำโต๊ะแป้ง
Yoke Warangkana
73
12
สวัสดีค่ะทุกคน
ช่วงกักตัวอยู่บ้านที่ผ่านมานั้น ค้นพบว่าตัวเราเองได้ว่างมากๆจนมานั่งสังเกตว่าโต๊ะแป้งของตัวเองนั้น มีของเดิมๆแบบเดิมๆใช้วนอยู่เป็นวงกลมแบบนี้ได้ยังไงนะ หลังจากเหตุการณ์สังเกตโต๊ะแป้งผ่านไป จึงเกิดเป็นกระทู้นี้ขึ้นมา โดยหยกตั้งใจว่าจะมาบอกต่อสิ่งดีๆที่ใช้อยู่ทุกวัน ก่อนอื่นต้องขอบอกไว้ก่อนว่าสภาพผิวของหยกนั้นเป็นคนผิวมัน รูขุมขนกว้าง บวกทั้งรอยแดงต่างๆ บางทีก็มีสิวผดแบบงงๆ มาค่ะ มาเริ่มที่ตัวแรกกัน
1. BIODERMA Sensibio H2O (ซื้อมาในราคา 2 ขวด 1,399 บาท)
คลีนซิ่งวอเตอร์ สูตรสีชมพู ไม่มีแอลกอฮอล์ อ่อนโยนต่อผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารพาราเบน และทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก ตัวนี้จัดว่าเป็นคลีนซิ่งวอเตอร์ในดวงใจมากๆ ใช้แล้วไม่มีอาการแพ้เลย ส่วนตัวแล้วหลังใช้จะตึงๆหน้านิดนึง ซึ่งหยกชอบเพราะมันรู้สึกถึงความสะอาดไม่ทิ้งคราบอะไรไว้บนหน้า(เป็นความรู้สึกส่วนตัวจริงๆ)
2. The History of Whoo Gongjinhyang Essential Moisturizing Balancer (ซื้อมา 1,370 บาทใน King power)
น้องฮูลูกรักกก ขวดนี้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ เนื้อเป็นน้ำใสๆบางเบา ให้ความชุ่มชื้น และความกระจ่างใสให้กับผิว มีกลิ่นหอมจากดอกดาฟเน่ ตัวนี้เป็นขวดที่ 2 แล้ว ขวดนึงใช้ได้นานมาก ยืนหนึ่งเรื่องความคุ้มค่า ใช้หลังล้างหน้า(หยกเป็นคนไม่ใช้ Toner) แป๊ปเดียวซึมลงผิวจัดว่าของดีประจำโต๊ะแป้งเลยค่าาา
3. Smooto Tomato Aloe Snail White & Acne Sleeping Serum (ราคา 39 บาท ซื้อที่ 7-11)
หลังจากเคยใช้ตัวเจลอโลเวล่าของแบรนด์นี้ซึ่งใช้ดี เราก็มาสอดส่องอีกรอบและพบเจอน้องคนนี้ที่ 7-11 ตัวนี้เป็นทั้งสลิปปิ้งมาส์คในสูตรเซรั่ม ดูเป็นนวัตกรรมมากๆ มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ สารสกัดจากมะเขือเทศ เมือกหอยทากและ Tea Tree Oil เค้าเคลมว่าไม่มีแอลกฮอล์ เหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิว ซึ่งทางเรานั้นก็มีสิว ทั้งสิวอักเสบและสิวผด! หลังจากซองแรกหมดไป ซองสอง ซองสามก็ตามมาติดๆ ไม่ต้องสงสัยว่าใช้สิวหายมั้ย สังเกตแค่ว่ามันมีซองที่สอง ซองสาม และซองสี่ ฮิฮิ~
4. La Roche Posay Effaclar Duo (+) SPF30 (ซื้อมาในราคา 990 บาท)
น้องคนนี้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ ช่วยลดปัญหาสิว ลดรอยแดงรอยดำเหมาะสำหรับผิวมัน ผิวเป็นสิวง่าย รวมทั้งมี SPF30 ด้วย (เอาไว้ทาตอนเช้า) ตัวนี้จะดันสิวที่อยู่ใต้ผิวหนังเราออกมา หลังจากนั้นสิวก็จะค่อยๆหายไป ตอนใช้ครั้งแรกตกใจมากสิวมากจากไหนเยอะแยะไปหมด โชคดีที่ได้เพื่อนสนิทชี้เป้าว่า ใช้ไปสักพักสิวจะหายจ๊ะ หลังจากที่ผ่านพ้นสิวไปน้องคนนี้ก็อยู่บนโต๊ะแป้งมาตลอดเลยจ้า (จริงๆมี Effaclar Duo (+) ที่ไม่มี SPF ด้วยนะ ตัวนั้นหยกเอาไว้ทาก่อนนอน)
5. Smooto Aloe-E Snail Bright Gel (ราคา 49 บาท ที่ 7-11)
ต้องบอกก่อนว่าตัวนี้ได้มาหลังจากที่กลับจากทะเล ซึ่งผิวตอนนั้นคือไม่ไหวแล้ว ผิวแดงและแสบไปหมด ไปเจอน้องเค้าที่ 7-11 ไม่ได้คาดหวังอะไรเลยนอกจากให้ผิวหายแสบ ใช้ไปใช้มาอยู่ติดโต๊ะแป้งมาเป็นปีแล้ว ซื้อซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด ตัวนี้เป็นเจลว่านหางจระเข้ที่มาในรูปแบบซอง มีส่วนผสมของวิตามินอีและสารสกัดจากเมือกหอยทาก ผิวไหม้จากแดด จากเลเซอร์ ช่วยได้มาก รวมทั้งรอยสิวก็ช่วยได้ดีสุดๆ ใช้ได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเลย เรื่องราคานี้ไม่ต้องพูดถึงเป็นถูกและดีประจำปีนี้ไปเลยจ้าาา
6. JungSaemMool Essential Skin Nuder Long Wear Cushion SPF50+PA+++ (ซื้อมาประมาณ 1,400 บาท)
เป็นคูชั่นตัวดังแบรนด์ ซื้อเพราะใช้แล้วจะสวยเหมือน ใหม่ ดาวิกา!! ตัวนี้เป็นสูตร Long Wear สำหรับผิวผสมถึงผิวมัน จะให้ลุคแมตต์ ไม่ได้ปกปิดดีมาก ถ้าต้องการให้ปกปิดสุดต้องมีใช้คอนซีลเลอร์ช่วย ใช้แล้วหน้าไม่ดรอประหว่างวันเลย ตอนซื้อมีของแถมพรึบและยังได้รีฟิลแถมมากอีกคุ้มมากแม่ !!!
7. Rimmel Wake Me Up Foundation (ซื้อมาประมาณ 400 บาท)
เป็นรองพื้นที่คุ้มค่ากับราคา 400 กว่าบาท เนื้อรองพื้นมีความหนืดไม่เหลว มีชิมเมอร์ในเนื้อรองพื้น ชอบมากตรงที่หลังใช้ผิวจะดูฉ่ำๆเล็กน้อย สมชื่อ wake me up จริงๆ หน้าไม่ดรอประหว่างวันเลย ยิ่งระหว่างวันจะมีความฉ่ำๆแบบสาวเกาหลี(มีสาวเกาหลีเป็นไอดอล) เรื่องคุมมันนั้นน้อยมากเลย อาจจะต้องซับระหว่างวัน ที่ยังคงต้องซื้อซ้ำเพราะว่าความติดทนอยู่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำของน้อง ไม่ไหลไม่ย้อย เริศจนต้องซื้อซ้ำๆย้ำๆ
8. Laroche Posay ANTHELIOS XL Ultra-Light Fluid SPF 50+ (ราคาประมาณ 1,400 บาท)
กันแดดในดวงใจ ราคารุนแรงจนต้องค่อยๆใช้ ใช้หมดแล้วหมดอีก ใช้จนเงินหมดแล้วเราก็ต้องเก็บเงินมาซื้ออีก ตัวนี้เป็นกันแดดสูตรกันน้ำ ปราศจากน้ำหอม และพาราเบน กันแดดนั้นสำคัญมากกก ก่อนออกจากบ้านหรือไม่ว่าไปไหนต้องโบก เพราะแดดทุกวันนี้แรงขึ้นทุกวัน ถ้าไม่ทากันแดดอนาคตฝ้า กระ จะมาเยือนได้
9. Glossier Birthday Balm Dotcom (ซื้อมาราคาประมาณ 600 กว่าบาท)
เป็นบาร์มอเนกประสงค์ที่ใช้แล้วหิวตลอดเวลา มีกลิ่นขนมเค้กพร้อมทั้งมีกลิตเตอร์เบาๆ ทาก่อนนอนตื่นมาปากนุ่มหรือจะทาก่อนลงลิปก็เริศ จัดได้ว่าเป็นลิปบาร์มที่เลิฟมากกก จริงๆแล้วมีหลายกลิ่นมาก ลองไปหาซื้อกันดูตามร้านพรีออเดอร์ในเน็ตได้เลยค่าาา
10. YSLVolupte Plump-In-Colour (ซื้อมาประมาณ 1,400 บาท)
ลิปน้องใจดำ ตรงหัวใจสีดำตรงกลางคือ pepermint oil ที่ช่วย plump มีกลิ่นหอมเบาๆ ทาแล้วปากดูอวบอิ่มฉ่ำไม่แห้งเกรอะ หลังทาแล้วจะมีความรู้สึกเย็นสบายที่ปาก เหมาะกับวันที่แต่งหน้าเบาๆต้องการลุคธรรมชาติ ทาแล้วทาอีกทาได้ทั้งวัน ทาไปทามาหมดแท่งเลยจ้าา ~
11. A'pieu Juicy Pang Mousse Tint (ราคาประมาณ 200 บาท)
เป็นลิปที่ดีมากๆ ตอนแรกคิดว่าลิปที่เป็นเนื้อเวลเวทจะไม่ติดทน ลิปอันนี้คือดีย์! ลิปเนื้อมูสเนียนนุ่ม เกลี่ยง่าย ไม่ตกร่องและจับตัวเป็นก้อน เนื้อสีชัด กลบสีปากได้สบาย ใช้แล้วปากไม่แห้ง เฉดสีมีให้เลือกเยอะมากๆ ส่วนตัวแล้วชอบสีโทนแดงอมส้ม เน้นไปทางแดงเป็นหลัก
12. 3CE Velvet Lip Tint (ซื้อมาประมาณ 350 บาท)
เป็นอีกแบรนด์ที่ซื้อเพราะนางแบบ มีความมโนเสมอว่าทาแล้วฉันจะสวยเหมือนนางแบบ 3ce แต่ความจริงเป็นอย่างไรก็ว่ากันตามเนื้อผ้าเลยจ๊ะ ความพีคคือสิ่งที่ห่อหุ้มตัวหลอดคือกระดาษ งงว่าเพราะอะไรมันทำให้แพคเกจดูธรรมดา แต่ๆๆๆๆ เราก็ซื้อมาเพราะชอบตัวเนื้อลิปและสีของน้อง เฉดสีมีให้เลือกเยอะ ตอนทารู้สึกว่ามันจะมีกลิ่นแปลกๆ ทาแล้วปากไม่แห้งเกรอะ ติดทนระดับดีเลย ใช้แปรงจุ่มจิกสีแล้วจิกสีอีกจนหมดแบบไม่ได้ตั้งเนื้อตั้งตัวเลย
13. Clinique Happy Perfume Spray (ซื้อมาประมาณ 1,000 บาท)
ตัวนี้เป็นน้ำหอมแนว Citus ให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่น แอบหวานแต่ไม่หวานเลี่ยนจนเวียนหัว ส่วนตัวชอบสุดๆ ฉีดก่อนออกจากบ้านคือดีมากๆ แอบกระซิบว่าฉีดแล้วอยู่ในห้องแอร์ตลอด ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นยังคงมีกลิ่นติดทนอยู่เลย ขวดเล็กหมดไปขวดใหญ่ก็วิ่งตามมาติดๆ ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ยว่าใช้ขวดใหญ่ไปได้สักพักกลิ่นก็เพี้ยนจนรู้สึกไม่ใช่กลิ่นเดิม T_T
หมดแล้วค่าาาา 13 ชิ้นจุกๆที่ซื้อซ้ำแล้วซ้ำอีกจนต้องมาแบ่งปันให้สาวๆรู้ ต้องขอออกตัวแรงๆไว้ก่อนเลยนะว่าใช้เองทุกตัว (ดูได้จากสภาพของผลิตภัณฑ์นะ อิอิ)รวมทั้งซื้อเองทั้งหมด ช่วงนี้สุขภาพสำคัญมากดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงทั้งกายและใจนะคะ ชอบไม่ชอบตัวไหน หรืออยากให้รีวิวตัวไหนมาคอมเม้นท์บอกกันได้เลยนะคะ สำหรับวันนี้ไปแล้ว ขอบคุณค่าาาาา ~