11 ไอเท็ม //: รับมือสู้แดดในหน้าร้อน
Junjaowkha review
60
16
WITH <strong>FYNE</strong> / ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ในเนื้อหาบางส่วน ;)
คำว่า “แดด” ☀️ พูดเบาๆ ก็ร้อน............
เพราะแสงแดดในบ้านเราเนี่ย รู้ๆกันอยู่นะคะว่าเค้า ไม่ได้มาเล่นๆ!!!
แดดหน้าฝนก็ร้อน
หน้าหนาวก็ร้อน หน้าร้อนก็ร๊อนนนน ร้อน.... เข้าไปกันใหญ่
แสงแดดเหล่านี้แหละค่ะเป็นตัวการสำคัญที่ทำเกิดอนุมูลอิสระ และเจ้าอนุมูลอิสระนี่เองเป็นปัจจัยที่ทำให้ ผิวเกิดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ หน้าโทรม ผิวพัง และคล้ำเสีย เราก็เป็นคนนึงที่เคยตกอยู่ในสภาพผิวพังเพราะแสงแดดมาแล้ว
ย้อนไปเมื่อปี 2561 ลากยาวถึงต้นปี 2562 ผิวพังหนักมาก หลังจากนั้นจึงเริ่มลองนั่นลองนี่ลองผิดลองถูกไปเรื่อยจนในที่สุดก็ค้นพบวิธีดูแลผิวให้รอด เรียกได้ว่า
"เปลี่ยนผิวพังให้กลายเป็นผิวปัง"
กันไปเลย
และช่วง พ.ย. 62 – มี.ค. 63 ที่ผ่านมานี้ก็เป็นบทพิสูจน์แล้วว่าถึงแม้เราจะมีกิจกรรมกลางแจ้งตากแดดจัดแบบถี่ยิบแต่ผิวไม่พัง ไม่แห้งเสียแม้จะดูคล้ำลงบ้างแต่ก็เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสบำรุงผิวให้ดูแทน & โกลวไปเลยค่ะ
เพราะฉะนั้นหน้าร้อนนี้ผิวต้องรอดอย่างแน่นอน
มาทำความรู้จักกับไอเท็มรับมือสู้แดดในหน้าร้อนกันเลย
1. ครีมกันแดด
เราควรทาครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า ผิวกาย และริมฝีปากเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะในวันที่มีกิจกรรมกลางแจ้ง และควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF มากกว่า 30 และ PA 3 บวกขึ้นไป โดยทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 30 นาที จึงจะปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีที่สุดค่ะ
Note !!!
การเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA สูงอาจจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยน๊า
FYNE Hybrid Light Hydrating Sunscreen Broadspectrum SPF 50 PA+++
ครีมกันแดดลูกรักที่ใช้เป็นขวดที่ 2 แล้วค่ะ อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่ายและออกแบบมาเพื่อคนเป็นสิวโดยเฉพาะ เค้าเป็นครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจาก UVA UVB Blue Light IR PM 2.5 มาพร้อมกับนวัตกรรม Hybrid Sunscreen ปกป้องผิวจากแสงแดดโดยการสะท้อนและดูดซับรังสีไม่ให้ทำร้ายผิว ประกอบด้วยสารสกัดธรรมชาติอย่าง Moringa Seed Extract (มะรุม) ป้องกันมลภาวะจากสิ่งแวดล้อมที่ช่วยลดการเกาะติดฝุ่นและมลภาวะ จึงลดอัตราการแทรกซึมของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 (Particulate Matter) ในอากาศเข้าสู่ผิว และช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซม Skin Barrier เพื่อให้ผิวแข็งแรง Rosmarinus Officinalis Leaf Extract (โรสแมรี่) ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ Helianthus Annuus Seed (ทานตะวัน) ปกป้อง และซ่อมแซมเซลล์ผิวลึกถึง DNA เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย จากการทำลายของรังสี UVA UVB Blue Light IR นอกจากนี้ยังประกอบด้วยส่วนผสมและสารกันแดดที่อ่อนโยน ได้แก่ Tocopheryl Acetate (วิตามินอีเสถียร) ที่เสริมการทำงานของสารกันแดดให้ดียิ่งขึ้น และป้องกันการเกิดสารอนุมูลอิสระ Sodium Hyaluronate ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความสดชื่นให้ผิวดูสุขภาพดี ลดโอกาสการอุดตัน ลดโอกาสการระคายเคือง ด้วยความที่เค้าเป็นกันแดดกลุ่ม Hybrid และ Chemical จึงทำให้ผิวไม่วอก ไม่ลอย ไม่มีคราบขาว อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เกิดความเสียหายจากปัจจัยต่างๆ ช่วยปกป้อง ฟื้นฟู และบำรุงผิวให้มีสุขภาพแข็งแรง ให้ความชุ่มชื้นพร้อมกับปกป้องผิวให้พร้อมสู้แดดได้ตลอดทั้งวัน
ปราศจาก : ซิลิโคน แอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน มิเนรัลออย รวมถึงสีสังเคาะห์
สเปรย์กันแดด
เป็นอีกไอเท็มที่ขาดไม่ได้ค่ะ
ในระหว่างวันที่ต้องออกไปเผชิญแดด เราจะใช้สเปรย์กันแดดอยู่เสมอ เจ้าสองตัวนี้เป็นสเปรย์กันแดดที่เหมาะกับสายเมคอัพมาก เพราะเค้าไม่กวนเมคอัพเลย ละอองสเปรย์ละเอียด ฟุ้งกระจายดี ใช้เวลาไม่นานก็ซึมเข้าสู่ผิวโดยไม่ทิ้งความเหนอะหนะ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากแสงแดดสูงมากด้วย สเปรย์ได้ทั้งหน้า ตัว และผมเลยค่ะ ... เริ่ด
ปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดกันแล้วก็มาปกป้องผิวกายกันบ้างนะคะ อย่าปล่อยให้หน้าขาวตัวดำเชียวน๊า เชื่อว่าหลายๆ คนถูกใจในสิ่งนี้ เพราะเค้ามีประสิทธิภาพในการป้องกันผิวจากแสงแดดได้ดีมาก มาพร้อมกับ SPF 50 PA 3 ถึง 4 บวกกันไปเลย ทั้งสามตัวมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เบาสบายผิว ไม่เหนอะหนะ สามารถทาซ้ำได้ในระหว่างวัน
ริมฝีปากคือส่วนที่บอบบางและไม่มีเม็ดสีเมลานินที่ช่วยกันรังสียูวี
ดังนั้นในตอนเช้าควรทาลิปบาล์มที่มี
ค่า SPF อย่างน้อย 15 ไปจนถึง SPF 30
Carmex Moisturising Lip Balm SPF15
ลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากกลิ่นเชอร์รี่ บำรุงให้ริมฝีปากที่แห้ง แตก ให้กลับมาเนียนนุ่มสุขภาพดี กักเก็บความชุ่มชื่นได้อย่างยาวนาน ลดความหมองคล้ำ ป้องกันแสงแดดด้วยค่า SPF15 มีส่วนผสมของการบูรและเมนทอลจึงให้ความรู้สึกเย็นๆ ที่ริมฝีปากทุกครั้งที่ทา..ไม่ต้องตกใจนะคะ
Note !!!
ลิปสติกเฉดสีเข้มๆ จะช่วยลดการดูดรังสี UV สู่ริมฝีปากเราด้วยนะ และควรหลีกเลี่ยงลิปกลอสที่มีสีสันสดใส
2. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวและสภาพอากาศ
การเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้เหมาะสมกับสภาพผิวทั้งผิวหน้าและผิวกาย และสภาพอากาศเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะคะ
ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวผสม และผิวแห้ง รู้หรือไม่คะว่าการเติมมอยสเจอร์ไรเซอร์เข้าไปเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากเลยน๊า ก็เพราะความชุ่มชื่นนี่แหละเป็นพื้นฐานของผิวที่ดี ความชุ่มชื่นที่เพียงพอจะทำให้คนที่มีสภาพผิวมัน หน้ามันน้อยลงเพราะต่อมไขมันไม่ต้องผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงเพื่อให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวมากเกินความจำเป็น ช่วยให้คนที่มีผิวแห้ง มีผิวหน้าอิ่มฟู ริ้วรอยลดเลือนลง นอกจากนี้ความชุ่มชื่นยังทำให้โครงสร้างของผิวแข็งแรง จึงทำให้ผิวอักเสบหรือระคายเคืองน้อยลง สิวลดลง การอุดตันลดลง รูขุมขนกระชับมากขึ้น และลดความหมองคล้ำ
มอยสเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ช่วยเติมน้ำและกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดีมาก ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของ ครีม เจล โลชั่น หรือขี้ผึ้ง เพื่อนๆ เลือกใช้ได้ตามความชอบ ความสนใจ และที่สำคัญคือต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น Luxury หรือ Drugstore ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ดีต่อใจและให้ผลลัพธ์ดีงามทั้งนั้นค่ะ
ดูแลผิวหน้ากันไปแล้วก็มาดูแลผิวกายให้เนียนนุ่มชุ่มชื่นกันต่อ
หลังอาบน้ำเสร็จ
ในตอนเย็น เราจะใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น / เจลว่านห่างจรเข้ นวดผิวให้ทั่วทั้งตัว และอาจต่อด้วยโลชั่นค่ะ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ เป็นหลัก
ในตอนเช้า เราจะใช้เบบี้ออยล์ / เจลว่านหางจรเข้นวดผิวให้ทั่วทั้งตัว และต่อด้วยโลชั่นหรือครีมกันแดด ขึ้นอยู่กับกิจกรรมในวันนั้นๆ เป็นหลัก
3. สครับ
ทำไมการสครับผิวหน้าร้อนในจึงสำคัญ ???
มันจะไม่ทำให้ผิวบางและระคายเคืองมากขึ้นกว่าเดิมเหรอ???
เป็นคำถามที่เราเคยถามกับตัวเองเหมือนกันค่ะ
แต่พอศึกษาข้อมูลแล้ว การสครับผิวเป็นสิ่งที่จำเป็นนะเพราะในหน้าร้อนทำให้เรามีเหงื่อมากขึ้น และเหงื่อพวกนี้แหละทำให้เกิดไขมันสะสมบนผิวหนัง สาเหตุของสิวอุดตัน และผิวหมองคล้ำ นอกจากการสครับผิวจะช่วยกำจัดสิ่งสปรกบนผิวแล้ว ยังทำให้ผิวของเราเนียนนุ่ม เปล่งปลัง พร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่
แต่ การสครับผิวไม่ควรทำหลังจากออกแดดจัดในทันทีนะคะ ควรเว้นระยะไว้ 2-3 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคาย แสบ แดง ผิวลอก ที่อาจจะเกิดขึ้น ระหว่างนี้ก็บำรุงผิวด้วยน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เบบี้ออยล์ ว่านหางจรเข้ หรือโลชั่นไปก่อนค่า
เพื่อนๆ อาจจะสงสัยอีกว่าทำไมมีแต่ของ St.Ives ทั้งน้าน ..... ขอตอบเลยว่าก็เพราะในตอนนี้เราชอบสครับของ St.Ives ที่สุดไงคะ อิอิ
4. สเปรย์น้ำแร่
สเปรย์น้ำแร่เป็นตัวช่วยที่ช่วยปลอบประโลมผิวจากอากาศร้อน ปรับสภาพผิวให้เย็นลง ช่วยลดการระคายเคือง และเติมความชุ่มชื่นระหว่างวันให้ผิว จะสเปรย์ในตอนไหนก็ได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นหลังล้างหน้า ก่อนหรือหลังแต่งหน้า ก่อนออกแดด หลังออกแดด เรียกได้ว่านึกออกเมื่อไหร่ก็สเปรย์เข้าไปได้เลย
5. มาส์ก
การมาส์กหน้าไม่ว่าจะเป็น Sheet mask , Overnight mask หรือ Sleeping mask ก็เป็นทางเลือกของการบำรุงผิวที่ดีอย่างหนึ่งนะคะ นอกจากจะทำให้ผิวสดชื่นขึ้นแล้ว ก็ยังเพิ่มความนุ่มชุ่มชื้น และฟื้นฟูผิวที่ระคายเคืองจากแสงแดดอย่างเร่งด่วนได้อีกด้วย โดยเราสามารถมาส์กหน้าได้บ่อย ๆ เท่าที่ต้องการ ทั้งนี้ทั้งนั้นควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
6. หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
หลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. เพราะช่วงเวลานี้คลื่นรังสี UV จะมีค่าสูงที่สุด ผิวไหม้จากแสงแดดได้ง่ายที่สุด แต่หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ควรหาตัวช่วย ได้แก่ การกางร่ม สวมหมวก สวมเสื้อผ้ามิดชิดแต่มีการระบายอากาศดี และใช้ผ้าคลุม เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดสัมผัสผิวได้โดยตรง
7. แว่นตากันแดด
การเลือกแว่นกันแดดที่มีคุณภาพและปกป้องดวงตาจากแสงแดดก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันนะคะ ควรเลือกแว่นกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UV A ได้ 95% และ ป้องกันรังสี UV B ได้ 99%
ชนิดของเลนส์กันแดด
เลนส์ย้อมสี : เนื้อเลนส์จะมีสีเข้มสามารถกันแสงจ้าได้ดีเหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งทั่วไป
เลนส์ Polarized : เป็นเลนส์ที่ช่วยป้องกันแสงสะท้อน มีคุณสมบัติพิเศษช่วยตัดแสงได้ดี ทำให้ตาไม่พร่ามัวเมื่อเจอแสงจ้า เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งและการขับรถ
การสวมแว่นกันแดดจะช่วยลดการหยี่ตาหรือหรี่ตา ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดริ้วรอยรอบดวงตา
8. น้ำดื่ม
น้ำ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อร่างกายของเรามากที่สุด การดื่มน้ำนอกจากจะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นแล้ว ยังช่วยป้องกันการขาดน้ำและช่วยล้างสารพิษในร่างกายได้อีกด้วยนะคะ ผลลัพธ์ที่เกิดต่อผิวของเราโดยตรงก็คือช่วยทำให้ผิวเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ไม่หยาบกร้าน การดื่มน้ำให้เกิดประโยชน์กับร่างกายควรใช้วิธีการจิบทุก ๆ 30 นาที หรือจิบตลอดทั้งวัน และไม่ควรดื่มมากเกิน 500 ซีซี ในครั้งเดียว เพราะอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะเกลือโซเดียมเสียสมดุล ผลที่ตามมากก็คือสมองบวม รู้สึกเบลอๆ และหายใจไม่สะดวก ปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวันคือประมาณ 2.7 ลิตร ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวและกิจกรรมในวันนั้นๆ ของเราด้วยน๊า
Note !!!
น้ำในที่นี่ควรเป็นน้ำเปล่า และควรลดเครื่องดื่มที่มีรสหวานเพราะน้ำตาลในเครื่องดื่มเหล่านี้นอกจากจะทำให้น้ำหนักขึ้นแล้ว ยังกระตุ้นการเกิดสิว ผิวอักเสบ ผิวเหี่ยว และแก่ก่อนวัยอีกด้วยค่ะ
9. เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
หน้าร้อนแบบนี้ควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่หนา รัดแน่นจนเกินไป เนื่องจากเวลาเหงื่อออกมาจะทำให้เกิดความอับชื้นที่มาพร้อมกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ เกิดสิวและผดผื่น
10. เวลา
เวลาในที่นี้ คือ การมีเวลาให้ตัวเองได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในขณะนอนหลับ หากพักผ่อนน้อยเซลล์ของร่างกายจะไม่มีเวลาซ่อมแซมตัวเอง ฮอร์โมนทำงานผิดปกติส่งผลให้เกิดสิว ผิวแห้งเหี่ยว หมองคล้ำ ไม่สดใส รูขุมขนเบ่งบาน ดังนั้นเราควรเข้านอนให้เร็วมากขึ้นและตื่นแต่เช้าแทนการนอนดึกตื่นสาย โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการซ่อมแซ่มร่างกายของเราคือ เวลา 22.00 – 01.00 น.
อยากบอกทุกคนว่าการเข้านอนเร็ว คือก่อน 22.00 น. และตื่นเช้า 05.00 – 07.00 น. คุณภาพชีวิตดีว่า เข้านอนหลัง 23.00 น. และตื่นสาย เป็นสิ่งที่จริงแท้และแน่นอนค่ะ
11. อาหาร
เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นเป็นผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ บี1 บี2 บี3 ซี อี และแร่ธาตุต่าง ๆ รวมถึง นม ไข่แดง โยเกิร์ต และธัญพืช ซึ่งมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซ่อมแซมผิวให้เปล่งปลั่งอยู่เสมอ ใครใคร่รับประทานวิตามินเสริมเข้าไปก็เพิ่มได้ตามสะดวก โดยหลักๆ จะเน้นที่วิตามินซีและเมล็ดองุ่น
ทริคเล็กๆน้อยๆ สำหรับต่อสู้กับแสงแดดในหน้าร้อนนี้เกิดจากประสบการณ์ตรงของเราที่นำมาใช้แล้วให้ผลลัพธ์ที่ดีเลยทีเดียวค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ น๊า
ขอให้ทุกคนมีสุขภาพผิว สุขภาพกาย และสุขภาพใจที่แข็งแรงค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม
แล้วพบกันใหม่
บ๊ายบายคร้า